![[รีวิว-เรื่องย่อ] ลิตเติ้ลฟอเรสต์ | Little Forest (2018) หนังชิลๆ ชีวิตชนบท](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-Little-Forest-2018.webp)
- Little Forest เป็นหนังที่สร้างจากมังงะญี่ปุ่น เล่าเรื่องหนึ่งปีในชีวิตหญิงสาวที่หนีเมืองใหญ่กลับชนบท
- การแสดงของคิมแทรี ในบทฮเยวอนเด่นมาก แสดงความเหงาและการเติบโตได้อย่างอบอุ่น
- หนังสำรวจธีมการทำอาหารเป็นสัญลักษณ์ของการเยียวยาตัวเองและความสัมพันธ์กับแม่
- ผู้กำกับอิมซุนเร ทำให้เรื่องราวไหลลื่น ชิลๆ ไม่มีดราม่าหนัก แต่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจชีวิต
เราเคยรู้สึกเบื่อเมืองใหญ่ไหม ที่อาหารจืดชืด ความฝันลอยหาย และความสัมพันธ์พังพินาศ? ลองนึกภาพถ้าเราโยนทุกอย่างทิ้งแล้วหนีกลับบ้านนอก ปลูกผัก ทำอาหารกินเอง แล้วค่อยๆ ค้นพบตัวเองใหม่ หนัง Little Forest (2018) ของผู้กำกับ อิมซุนเร (Yim Soon-rye) พาเราไปสัมผัสชีวิตชิลๆ แบบนั้นผ่านตัวละครฮเยวอน (คิมแทรี) หญิงสาวที่เบื่อโซล เลยกลับมาบ้านเกิดในชนบทเกาหลี หวังเจอแม่ แต่แม่ไม่อยู่ เธอเลย reconnect กับเพื่อนเก่า และใช้เวลาทำอาหารตามฤดูกาล เพื่อเยียวยาหัวใจ
เรื่องราวแบ่งเป็นสี่ฤดู เหมือนชีวิตจริงที่หมุนไปตามธรรมชาติ แต่ละฤดูมีเมนูเด็ดที่ฮเยวอนทำเองจากวัตถุดิบรอบบ้าน มันไม่ใช่แค่หนังทำอาหารนะ แต่เป็นเหมือนไดอารี่ส่วนตัวที่ถามเราว่า “ทำไมเราถึงวิ่งหนีปัญหาแทนที่จะเผชิญ?” Little Forest สร้างจากมังงะของไดสุเกะ อิการาชิ (Daisuke Igarashi) ทำให้เรารู้สึกอยากลองชีวิตสโลว์ไลฟ์ ปลูกผัก ทำขนม แม้ในชีวิตจริงเราจะยุ่งแค่ไหนก็ตาม
ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกทุกมุมของหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่การแสดงที่อบอุ่น ไปจนถึงข้อความลึกซึ้งเกี่ยวกับการเติบโตส่วนตัวและความสัมพันธ์ครอบครัว มาดูกันว่า Little Forest จะทำให้เราอยากเปลี่ยนชีวิตยังไงบ้าง เหมือนฮเยวอนที่ค่อยๆ ยอมรับปัญหาและหาทางแก้ด้วยมือตัวเอง

รีวิวและเรื่องย่อ Little Forest (ลิตเติ้ลฟอเรสต์)
Little Forest เล่าเรื่องฮเยวอน หญิงสาวที่หนีจากโซลหลังจากความรักพัง ความฝันไม่เป็นจริง และอาหารเมืองใหญ่จืดชืด เธอกลับมาบ้านนอกหวังเจอแม่ แต่แม่หายตัวไปนานแล้ว เหลือแค่บ้านเก่าและสวนผัก เธอเลย reconnect กับเพื่อนสมัยเด็กสองคน จุนกิ (รยูจุนยอล) และอึนซุก (จินกีจู) ที่ยังอยู่ชนบท ชีวิตเธอหมุนรอบการทำอาหารจากวัตถุดิบตามฤดู อย่างในฤดูใบไม้ผลิ เธอทำขนมจากดอกไม้ป่า หรือช่วงหน้าร้อนที่เก็บผลไม้ไปทำแยม มันก็เหมือนอุปมาในชีวิตที่เราต้องปรับตัวตามสถานการณ์ ไม่ใช่แค่กินอย่างเดียว แต่ต้องคิดถึงที่มาของอาหารด้วย
แต่ละฤดูในหนังสะท้อนปัญหาของฮเยวอน เช่น ฤดูหนาวที่หนาวเหน็บทำให้เธอนึกถึงแม่ที่ทิ้งไป เธอพยายามพิสูจน์ว่าอยู่คนเดียวได้ แต่ยิ่งทำยิ่งเห็นความล้มเหลว เธอไม่รีบแก้ปัญหา เหมือนเราหลายคนที่ชอบเลี่ยง แต่หนังค่อยๆ พาเธอเติบโตผ่านการทำอาหาร มันถามเราว่า “ถ้าเราไม่เผชิญปัญหา เราจะเติบโตได้ยังไง?” การเล่าเรื่องช้าๆ ไม่มีดราม่าหนัก ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย เหมือนดูเพื่อนเล่าเรื่องชีวิตตัวเอง
หนังเน้นธีมอาหารเป็นสัญลักษณ์ของความทรงจำและการเยียวยา ฮเยวอนทำอาหารสูตรแม่ทุกครั้งที่นึกถึงแม่ มันทำให้เธอเข้าใจว่าความสัมพันธ์ไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่เราสามารถสร้างใหม่ได้จากสิ่งเล็กๆ รอบตัว หนังทำให้เราอยากลองทำอาหารง่ายๆ ตาม อย่างทอดดอกไม้หรือทำไวน์ผลไม้ แม้เราจะไม่ใช่เชฟก็ตาม
คิมแทรี (Kim Tae-ri) ในบทฮเยวอนเด่นสุดๆ เธอถ่ายทอดความเหงา ความสับสน และการเติบโตได้อย่างธรรมชาติ เหมือนเพื่อนสาวที่เรารู้จักจริงๆ ฉากที่เธอทำอาหารคนเดียวในครัวเก่าๆ แสดงให้เห็นความแข็งแกร่งแบบเงียบๆ ไม่ต้องมีดราม่าร้องไห้ แต่เรารู้สึกได้ถึงอารมณ์ลึกๆ การแสดงของเธอทำให้หนังชิลแต่ไม่น่าเบื่อ เหมือน analogy ของชีวิตจริงที่บางทีแค่กินข้าวอร่อยๆ ก็แก้ปัญหาได้ครึ่งทาง
เพื่อนๆ ของฮเยวอนก็ช่วยเติมสีสัน จุนกิ (รยูจุนยอล) เป็นหนุ่มชนบทที่จริงใจ ช่วยเธอทำงานฟาร์มและกินเหล้ากันตอนกลางคืน ส่วนอึนซุก (จินกีจู) เป็นเพื่อนสาวที่เข้าใจปัญหาผู้หญิง พวกเขาทำให้หนังไม่เหงาเกินไป แต่ละตัวละครมี backstory เล็กๆ ที่เชื่อมโยงกับฮเยวอน ทำให้เราถามตัวเองว่า “เพื่อนเก่าของเรายังช่วยเราได้ขนาดไหน?” การแสดงรวมกันทำให้หนังรู้สึกเหมือนชีวิตจริง ไม่เวอร์เกิน
หนังไม่มีตัวร้าย แต่ความขัดแย้งมาจากภายในตัวฮเยวอนเอง เธอต้องยอมรับว่าการหนีไม่ใช่คำตอบ การแสดงของทุกคนช่วยขับธีมนี้ให้ชัด โดยเฉพาะฉากกินอาหารด้วยกันที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและการสนทนาง่ายๆ มันทำให้เราอยากโทรหาเพื่อนเก่าแล้วชวนไปทำอาหารกินด้วยกันเลย

หนังสำรวจธีมการกลับสู่ธรรมชาติและการเยียวยาตัวเองผ่านอาหาร ตั้งคำถามเชิงวาทศิลป์ว่า “ถ้าเราหลีกหนีเมืองใหญ่ เราจะพบความสุขจริงหรือไม่?” ฮเยวอนได้เรียนรู้ว่าปัญหาไม่ได้หายไปเพียงแค่เปลี่ยนสถานที่ แต่ต้องแก้จากข้างใน ธีมนี้ผสมผสานกับภาพฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง ทำให้หนังงดงามและน่าติดตาม แม้เรื่องราวจะดำเนินไปอย่างช้า แต่ก็ไม่น่าเบื่อ
การถ่ายทำของ อิมซุนเร ยอดเยี่ยม ภาพชนบทเกาหลีงดงามราวกับโปสการ์ด แต่ไม่รู้สึกหลอกตา เราสัมผัสได้ถึงความเหนื่อยล้าของการเพาะปลูก ความหนาวเหน็บของฤดูหิมะ จนทำให้เราอยากลองใช้ชีวิตแบบนั้นจริงๆ เสียงประกอบแผ่วเบาช่วยเสริมบรรยากาศชิลๆ คล้ายการฟังเพลงโลฟายระหว่างทำอาหาร
หนังยังพูดถึงความสัมพันธ์แม่ลูกอย่างแยบยล ฮเยวอนรำลึกถึงแม่ผ่านสูตรอาหาร ทำให้เรานึกถึงคนสำคัญในชีวิต ธีมนี้ทำให้หนังไม่ใช่แค่หนังอาหาร แต่เป็นหนังการเติบโตที่ทุกคนเข้าถึงได้
Little Forest (2018) เป็นหนังที่ทำให้เราหยุดมองย้อนชีวิตตัวเอง เหมือนกับฮเยวอนที่ค่อยๆ ยอมรับปัญหา และหาทางแก้ด้วยการทำอาหารพร้อมกับเชื่อมโยงกลับไปหาผู้คนรอบข้าง หนังเล่าให้เห็นว่าความสุขไม่ได้มาจากการหนี แต่มาจากการยอมรับและใช้ชีวิตให้กลมกลืนกับธรรมชาติ มันคือการเตือนใจว่า แม้ชีวิตจะวุ่นวาย แต่เรายังหาความสงบจากสิ่งเล็กๆ ได้เสมอ
ถ้าเคยรู้สึกหมดไฟจากเมืองใหญ่ หนังเรื่องนี้จะทำให้เราอยากลองใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ปลูกผัก ทำอาหารง่ายๆ แล้วค้นหาตัวเองใหม่ Little Forest เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจที่อบอุ่น ไม่มีดราม่าหนักแต่ลึกซึ้ง ทำให้เราอยากกลับมาดูซ้ำทุกฤดู
สำหรับคนที่ชอบ หนังชิลๆ เกี่ยวกับชีวิตและอาหาร นี่คือตัวเลือกที่เพอร์เฟกต์ หนังเรื่องนี้จะทำให้เราตั้งคำถามถึงความหมายของการกิน การใช้ชีวิต และการเติบโต แล้วคุณล่ะ เมนูไหนในหนังที่อยากลองทำที่สุด? หรือหนังเรื่องนี้ทำให้คุณอยากกลับไปบ้านนอกไหม? อย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่กำลังหาหนัง feel good เอาไว้นั่งดูชิลๆ กันนะ
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ลิตเติ้ลฟอเรสต์
- ประเภท: ดราม่า, ชีวิต, อาหาร
- วันที่ออกฉาย: 28 กุมภาพันธ์ 2561
- นักแสดงนำ: คิมแทรี (Kim Tae-ri), รยูจุนยอล (Ryu Jun-yeol), จินกีจู (Jin Ki-joo)
- ผู้กำกับ: อิมซุนเร (Yim Soon-rye)
- ความยาว: 1 ชั่วโมง 43 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 7.2/10
![[รีวิว-เรื่องย่อ] อสูรนรกกลายพันธุ์ | The Host (2006)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/10/Review-The-Host-2006.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] โรงเรียนสยดสัญญาณสยอง | The Silenced (2015)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/10/Review-The-Silenced-2015.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ชนชั้นปรสิต | Parasite (2019)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Parasite-2019.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ฆาตกรรมรักหลังเขา | Decision to Leave (2022)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-Decision-to-Leave-2022.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ตู้ซ่อนผี | A Tale of Two Sisters (2003)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-A-Tale-of-Two-Sisters-2003.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ฆาตกรรมอำปีศาจ | The Wailing (2016)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-The-Wailing-2016.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ปริศนาหมอกมรณะ | Sea Fog (2014)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-Sea-Fog-2014.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] อุโมงค์มรณะ | Tunnel (2016)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-Tunnel-2016.webp)