วันนี้ในอดีต

30 มกราคม มหาตมา คานธี ถูกยิงเสียชีวิต

30 มกราคม 2491 (ค.ศ. 1948) นาถูราม โคทเส ยิง มหาตมา คานธี (Mahatma Gandhi) ผู้นำทางการเมือง และ จิตวิญญาณของชาว อินเดีย เสียชีวิต ในเมืองเดลี

มหาตมา คานธี

โมหันทาส กรรมจันทร์ คานธี หรือที่รู้จักกันในนามมหาตมะ คานธี เป็นผู้นำคนสำคัญของอินเดียในการเรียกร้องให้อังกฤษปลดปล่อยตนออกจากการเป็นอาณานิคม คานธี เกิดที่จังหวัดโพรบันดาร์ รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดีย ในวรรณะแพศย์ (พ่อค้า) พ่อเป็นข้าราชการ มารดาเป็นแม่บ้านที่เคร่งศาสนา คานธีแต่งงานตั้งแต่อายุ 13 ปี ตามธรรมเนียมของชาวฮินดูในสมัยนั้น

คานธีเรียนจบทางด้านกฎหมายมาจากประเทศอังกฤษ และได้เริ่มกิจกรรมการเรียกร้องสิทธิพลเมืองอย่างสันติเป็นครั้งแรกของชาวอินเดียในประเทศอาฟริกาใต้ และส่งเสริมให้ชาวนาผู้ยากจนและแรงงานเรียกร้องค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรมจากการหักภาษีและการเลือกปฏิบัติ เขาเริ่มเล่นการเมืองหลังจากเดินทางกลับประเทศ ได้เป็นผู้นำของพรรคคองเกรส และได้ดำเนินนโยบายเพื่อแก้ปัญหาความยากจน การปลดปล่อยเพศหญิงจากการถูกกดขี่ การสร้างความปรองดองในความหลากหลายของศาสนาและชาติพันธุ์ การดำรงชีวิตแบบพอเพียงและต้องการหยุดการเอาเปรียบทางชนชั้นวรรณะของประเทศอินเดีย

ค.ศ.1930 คานธีเป็นผู้นำชาวอินเดียเดินขบวนต่อต้านการเก็บภาษีเกลือของเจ้าอาณานิคมอังกฤษบนระยะทาง 400 กิโลเมตร และในอีก 12 ปีต่อมาเขาก็ได้เป็นผู้นำชาวอินเดียต่อสู้เพื่อเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษด้วยวิธีอหิงสา-การต่อสู้เรียกร้องโดยไม่ใช้กำลัง กระทั่งประสบความสำเร็จใน ค.ศ.1947

ค.ศ. 1948 นาถูราม โคทเส ยิงคานธี ที่หน้าอกสามนัด ในระยะเผาขนด้วยปืนพกกึ่งอัตโนมัติ คานธีเสียชีวิตเกือบจะในทันที หลังจากยิงไปแล้ว โคทเสมิได้พยายามหลบหนีหรือขู่คนอื่นอีก เขาถูกโจมตีและตรึงติดกับพื้นโดยฝูงชนรอบตัวเขา ศาลสูงรัฐปัญจาบพิพากษาประหารชีวิต โคทเส ด้วยการแขวนคอที่เรือนจำ อัมบาลา เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1949 ร่วมกับผู้สมคบคิดอีกคนหนึ่ง

คานธี กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในหลายๆ แง่มุม ยกตัวอย่าง เช่น Martin Luther King นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนของชาวผิวดำในสหรัฐอเมริกา ที่ได้นำเอาวิธีต่อต้านอย่างสันติของท่านมหาตมะ คานธีมาปรับใช้ และคำแนะนำเกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจของท่านมหาตมะ คานธีก็ได้กล่าวถึงการพึ่งพาระบบทุนนิยมที่มากเกินไป เพราะสุดท้ายแล้ว ความเรียบง่าย ความมีอารมณ์ขัน ความเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ และความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะอุปสรรคทั้งปวงนั้นสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทำงานรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี

การต่อสู้ของคานธีเป็นตัวอย่างถึงการรียกร้องความเป็นธรรมอย่างสันติวิธีที่เป็นแบบอย่างไปทั่วโลก-หากคานธีมีชีวิตอยู่จนขณะนี้ เขาจะมีอายุครบ 149 ปี

อ่านต่อ

Alinda C.

ฉันเชื่อว่าประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจความเป็นมาของสังคมและโลก ประวัติศาสตร์ทำให้เราตระหนักถึงคุณค่าของเสรีภาพและความเท่าเทียมกัน ทำให้เราเรียนรู้จากข้อผิดพลาดในอดีต เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเดิม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button