วันนี้ในอดีต

8 มีนาคม ปฏิวัติประเทศรัสเซีย ล้มล้างพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2

8 มีนาคม 2457 เกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่ในประเทศรัสเซียเพื่อล้มล้างพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 กษัตริย์องค์สุดท้ายของรัสเซีย และการปกครองแบบราชาธิปไตย

พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2

จักรพรรดินีโคไลที่ 2 (Николай II, Николай Александрович Романов) (tr. Nikolai II, Nikolai Alexandrovich Romanov) หรือ นิโคลัสที่ 2 (Nicholas II) 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1868 – 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1918 เป็นจักรพรรดิแห่งรัสเซีย, แกรนด์ดยุคฟินแลนด์และกษัตริย์แห่งโปแลนด์โดยสิทธิ์พระองค์สุดท้าย เช่นเดียวกับจักรพรรดิรัสเซียองค์อื่น ๆ พระองค์เป็นที่รู้จักด้วยพระอิสริยยศ ซาร์ บรรดาศักดิ์โดยย่ออย่างเป็นทางการของพระองค์ คือ นิโคลัสที่ 2 จักรพรรดิและอัตตาธิปัตย์แห่งปวงรัสเซีย ศาสนจักรออโธด็อกซ์รัสเซียออกพระนามพระองค์ว่า นักบุญนิโคลัสผู้แบกมหาทรมาน (Passion-Bearer) และถูกเรียกว่า นักบุญนิโคลัสมรณสักขี

จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 ทรงปกครองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1894 จนถูกบีบให้สละราชสมบัติเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1917 ในรัชกาลของพระองค์ จักรวรรดิรัสเซียจากที่เคยเป็นมหาอำนาจชั้นนำชาติหนึ่งของโลกกลายเป็นล่มสลายทางเศรษฐกิจและทหาร ศัตรูการเมืองให้สมญาพระองค์ว่า นิโคลัสผู้กระหายเลือด เพราะโศกนาฏกรรมโฮดึนคา โพกรมต่อต้านยิวที่ถูกกล่าวหา วันอาทิตย์นองเลือด ซึ่งเป็นการปราบปรามการปฏิวัติรัสเซีย ค.ศ. 1905 อย่างรุนแรง การประหารชีวิตและเนรเทศศัตรูทางการเมืองจำนวนมากของพระองค์ และการติดตามการทัพในขนาดที่ไม่เคยมีมาก่อน

ภายใต้การปกครองของพระองค์ รัสเซียปราชัยอย่างน่าขายหน้าในสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ซึ่งกองเรือบอลติกรัสเซียเกือบถูกทำลายสิ้นที่ยุทธนาวีช่องแคบสึชิมะ ความตกลงอังกฤษ-รัสเซียซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโต้ความพยายามของเยอรมนีเพื่อเพิ่มอิทธิพลในตะวันออกกลาง ยุติเกมใหญ่ระหว่างรัสเซียกับสหราชอาณาจักร ในฐานะประมุขแห่งรัฐ จักรพรรดินิโคลัสทรงอนุมัติการระดมพลรัสเซียในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1914 อันเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ามามีส่วนของรัสเซียในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง อันเป็นสงครามซึ่งทำให้มีชาวรัสเซียเสียชีวิต 3.3 ล้านคน

จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 สละราชสมบัติให้หลังการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1917 ซึ่งระหว่างนั้น พระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ถูกจำคุกทีแรกที่พระราชวังอเล็กซานเดอร์ที่จักรพรรดิสคอยเซโล แล้วต่อมาในจวนผู้ว่าราชการในโตบอลสค์ และท้ายสุดที่บ้านอีปาตีฟในเยคาเตรินบุร์ก ในฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 1918 นิโคลัสถูกส่งตัวให้สภาโซเวียตอูราลท้องถิ่นโดยผู้ตรวจการ วาซิลี ยาคอฟเลฟ ซึ่งต่อมาได้รับใบเสร็จลายลักษณ์เมื่อมีการส่งมอบตัวนิโคลัสเหมือนพัสดุ นิโคลัส พระชายา อะเลคซันดรา ฟอโดรอฟนา พระราชโอรส อะเลคเซย์ นีโคลาเยวิช พระราชธิดาสี่พระองค์ โอลกา นีคะลายีฟนา, ตะตยานา นีคะลายีฟนา, มารีเยีย นีคะลายีฟนา, อะนัสตาซียา นีคะลายีฟนา แห่งรัสเซีย และแพทย์ประจำพระองค์ เอฟเกนี บอตคิน มหาดเล็ก อเล็กเซย์ ตรุปป์ นางสนองพระโอษฐ์ในจักรพรรดินี อันนา เดมีโดวา และพ่อครัวประจำพระองค์ อีวาน ฮารีโตนอฟ ถูกบอลเชวิคประหารชีวิตในห้องเดียวกันในคืนวันที่ 16/17 กรกฎาคม ค.ศ. 1918

Alinda C.

ฉันเชื่อว่าประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจความเป็นมาของสังคมและโลก ประวัติศาสตร์ทำให้เราตระหนักถึงคุณค่าของเสรีภาพและความเท่าเทียมกัน ทำให้เราเรียนรู้จากข้อผิดพลาดในอดีต เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเดิม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button