วันนี้ในอดีต

12 พฤษภาคม วันเกิด จิฑฑุ กฤษณะมูรติ นักปราชญ์ชาวอินเดีย

12 พฤษภาคม 2438 วันเกิด จิฑฑุ กฤษณะมูรติ (Jiddu Krishnamurti) นักปราชญ์ชาวอินเดีย เกิดในตระกูลพราหมณ์ที่เมืองมาดนะปาเล (Madanapalle) ทางตอนใต้ของอินเดีย ตอนเด็ก ๆ

จิฑฑุ กฤษณะมูรติ

ชิททู กฤษณมูรติ เกิดวันที่ 12 พฤษภาคม 2438 เกิดที่ เมืองมทนปัลลี เมืองเล็ก ๆ ในรัฐอานธรประเทศ ทางตอนใต้ของอินเดีย เป็นบุตรคนที่ 8 ใน 11 คน เมื่ออายุได้ 10 ปี มารดาของเขาเสียชีวิตลง ครอบครัวจึงย้ายไปตั้งถิ่นฐานใหม่ที่เมืองมัทราส เพราะบิดาของเขาต้องการจะทำงานให้กับสมาคมเทวปรัชญาหลังจากที่เกษียณอายุราชการ

เมื่ออายุได้ 14 ปี กฤษณมูรติถูกเลือกให้เป็นผู้ที่จะมาเป็นพาหนะแห่งครูโลกโดย บุคคลสำคัญคนหนึ่งในเทวปรัชญา ต่อจากพระเยซูและพระโคตมพุทธเจ้า กฤษณมูรติจึงถูกนำมาเลี้ยงดูอย่างระมัดระวังและเอาใจใส่โดยผู้นำของสมาคม เพื่อเตรียมพร้อมให้เขารับบทบาทอันพิเศษนี้ เพื่อรองรับการกลับมาของครูโลก ได้มีการก่อตั้งสมาคม “ดวงดาวแห่งตะวันออก” ซึ่งเป็นองค์กรใหญ่ มีสมาชิกและทรัพย์สินมากมาย

แต่ในปี 2472 ด้วยความประหลาดใจและงุนงงอย่างยิ่งของเหล่าสมาชิกสมาคม กฤษณมูรติประกาศสละทิ้งทุกบทบาทที่ตั้งขึ้นเพื่อเขา และแยกทางจากสมาคมเทวปรัชญา และกลับประกาศไม่เห็นด้วยกับอำนาจของผู้รู้ผู้มีอิทธิพลเหนือจิตวิญญาณ ปฏิเสธบทบาทพระศรีอริยเมตไตรย และลัทธิความเชื่อต่าง ๆ ทั้งหมด เขาประกาศชัดเจนว่าไม่ต้องการก่อตั้งศาสนาใหม่ แต่สิ่งที่เขาสนใจเพียงประการเดียว คือ “ปลดปล่อยมนุษย์” ให้เป็นอิสระ โดยปราศจากเงื่อนไขใด ๆ

มูลนิธิกฤษณมูรติทุกแห่งตั้งขึ้นเพื่อจัดหมายกำหนดการโปรแกรมการเดินทางไปพูด และจัดพิมพ์งานที่มีมากมายของกฤษรมูรติจากการพูด การสนทนา การเสวนา ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ความใส่ใจเป็นห่วงเป็นใยที่กฤษณมูรติมีต่อเยาวชนในฐานะอนาคตของมวลมนุษย์ ทำให้เขาก่อตั้งโรงเรียนขึ้นในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และ อินเดีย มีนักคิด นักเขียน กวี ศิลปิน นักวิทยาศาสตร์ บุคคลสำคัญเหล่านั้นหลายคน รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการที่มีอำนาจทางการเมือง คือ มิตรที่คุ้นเคยกับกฤษณมูรติเป็นการส่วนตัว และเป็นกลุ่มที่มาร่วมเสวนาค้นหาเข้าสู่ปัญหาที่อยู่คู่กับมนุษย์มาเป็นเวลาช้านาน

เป็นที่ทราบกันดีว่า หนึ่งในผู้สอนของโลกในประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติที่กฤษณมูรติเคารพเป็นพิเศษ คือ พระพุทธเจ้า การที่ประเทศส่วนใหญ่ในโลกตะวันออกได้รับผลกระทบอย่างลึกซึ้งจากคำสอนอันนุ่มนวลของพระพุทธเจ้า จึงคาดคะเนได้ว่าผู้คนในภูมิภาคนี้เป็นเสมือนผืนดินที่เปิดรับกฤษณมูรติและคำสอนของเขา แต่กระนั้น ข้อสังเกตที่น่าสนใจ คือ แม้ว่ากฤษณมูรติจะเดินทางเพื่อพูดคุยและเสวนาเป็นเวลายาวนานถึง 70 ปี ท่านก็ยังไม่เคยไปเยือนซีกโลกตะวันออก

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาให้ละเอียดขึ้น จะพบว่ากฤษณมูรติและคำสอนของเขา ได้เข้าไปอยู่ในใจของชาวซีกโลกตะวันออก คำสอนของกฤษณมูรติห่างไกลจากเหตุการณ์ในโลก และไม่ถูกขัดขวางโดยกลียุคทางสังคม-การเมือง และอุปสรรคด้านภาษา จึงทำให้คำสอนของท่านค่อย ๆ ซึมผ่านอย่างแท้จริงและค่อยเป็นค่อยไปเข้าสู่ใจคน และมีผู้สนับสนุนและเห็นด้วยในประเทศในตะวันออกไกล และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เป็นเวลาล่วงกว่า 70 ปีที่กฤษณมูรติได้เดินทางเพื่อพบปะสนทนากับผู้ที่สนใจในด้านจิตวิญญาณ เพื่อทำความเข้าใจปัญหาเป็นปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นอิทธิพลหล่อหลอมและกำหนดชีวิตเราอยู่ทั้งภายในจิตใจและภายนอก เพราะที่สุดแล้วเราคือโลก สังคมโลกก็คือสภาพที่เราแต่ละคนร่วมกันสร้างขึ้น ฉะนั้น จากความเข้าใจในตนเองอย่างลึกซึ้ง อาจจะนำไปสู่สังคมที่มีความรัก ความเมตตา มีมนุษยธรรมและความรู้สึกรับผิดชอบ

กฤษณมูรติถึงแก่กรรมเมื่อ 2529 อายุได้ 91 ปีด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน

อ่านต่อ

Alinda C.

ฉันเชื่อว่าประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจความเป็นมาของสังคมและโลก ประวัติศาสตร์ทำให้เราตระหนักถึงคุณค่าของเสรีภาพและความเท่าเทียมกัน ทำให้เราเรียนรู้จากข้อผิดพลาดในอดีต เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเดิม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button