วันนี้ในอดีต

18 พฤษภาคม ภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ เกิดระเบิดอย่างรุนแรง

18 พฤษภาคม 2523 ภูเขาไฟ เซนต์ เฮเลนส์ (Mount St. Helens) ที่รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เกิดระเบิดอย่างรุนแรง ภูเขาไฟแห่งนี้เป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่อายุกว่า 40,000 ปี รู้จักกันในอีกชื่อว่า “ฟูจิแห่งอเมริกา”

ภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์

ภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ หรือ เมานต์เซนต์เฮเลนส์ (Mount St. Helens) เป็นภูเขาไฟมีพลังประเภทกรวยสลับชั้น ตั้งอยู่ในสกามาเนียเคาน์ตี รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกาในฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของแปซิฟิก ห่างจากเมืองซีแอตเทิลไปทางใต้ 154 กิโลเมตร และห่างจากเมืองพอร์ตแลนด์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 80 กิโลเมตร ภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ได้ชื่อจากนักการทูตชาวอังกฤษ ลอร์ดเซนต์เฮเลนส์ คู่หูของนักสำรวจ จอร์จ แวนคูเวอร์ ที่สำรวจพื้นที่ในบริเวณนั้นตั้งแต่ปลายคริสต์วรรษที่ 18 ภูเขาไฟลูกนี้ตั้งอยู่ในเทือกเขาคาสเคด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวภูเขาไฟคาสเคด ส่วนหนึ่งของวงแหวนแห่งไฟ ซึ่งมีภูเขาไฟมีพลังตั้งอยู่กว่า 160 ลูก ภูเขาไฟลูกนี้เป็นที่รู้จักกันดีจากการระเบิดและการพ่นเถ้าถ่านออกมา

ภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์โด่งดังมากที่สุดจากการระเบิดครั้งรุนแรง ในวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) เมื่อเวลา 08:32 น. ตามเวลาท้องถิ่น (เขตเวลาแปซิฟิก) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ภัยพิบัติทางภูเขาไฟที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด และก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิตในครั้งนั้น 57 ราย บ้านเรือน 250 หลัง สะพาน 47 แห่ง ทางรถไฟยาว 24 กิโลเมตร และทางหลวงยาว 298 กิโลเมตรถูกทำลาย การระเบิดทำให้เกิดแผ่นดินถล่มขนาดใหญ่ ลดความสูงของยอดเขาจาก 2,950 เมตร เหลือ 2,550 เมตร และปล่องภูเขาไฟเปลี่ยนรูปกลายเป็นรูปคล้ายเกือกม้า แผ่นดินที่ถล่มลงมามีปริมาตรมากกว่า 2.9 ลูกบาศก์กิโลเมตร หลังจากนั้นได้มีการก่อตั้งอนุสาวรีย์แห่งชาติภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ ขึ้นมา เพื่อปกป้อง อนุรักษ์ภูเขาไฟ และให้เป็นที่ศึกษาทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับภูเขาไฟ

เช่นเดียวกันภูเขาไฟส่วนใหญ่ในเทือกเขาคาสเคด ภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์มีลักษณะเป็นกรวยปะทุ ประกอบด้วยหินลาวา แบ่งชั้นด้วยเถ้า หินพัมมิซ และหินตะกอนอื่น ๆ ภูเขาประกอบด้วยชั้นของหินบะซอลต์ และหินแอนดีไซท์ ผ่านโดมลาวาที่เป็นหินเดไซท์โป่งออกมา โดยโดมหินเดไซท์ที่ใหญ่ที่สุดก่อตัวใกล้กับยอดเขา และโดมขนาดเล็กกว่าคือ โดมโกทร็อกส์ ตั้งอยู่ข้างภูเขาไฟทางตอนเหนือ ซึ่งโดมทั้งสองแห่งนี้ถูกทำลายไปจากการระเบิดเมื่อ ค.ศ. 1980

อ่านต่อ

Alinda C.

ฉันเชื่อว่าประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจความเป็นมาของสังคมและโลก ประวัติศาสตร์ทำให้เราตระหนักถึงคุณค่าของเสรีภาพและความเท่าเทียมกัน ทำให้เราเรียนรู้จากข้อผิดพลาดในอดีต เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเดิม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button