วันนี้ในอดีต

16 มิถุนายน เลโอนิด เบรจเนฟ ประธานาธิบดีแห่งสหภาพโซเวียต

16 มิถุนายน 2520 เลโอนิด เบรจเนฟ (Leonid Brezhnev) ค.ศ. 1906-1982 เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหภาพโซเวียต

เลโอนิด เบรจเนฟ

เลโอนิด อิลยิช เบรจเนฟ เกิดเมื่อวันที่ 19 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2449 ที่เมืองคาเมนสโกยี ในรัฐยูเครน เป็นลูกคนที่ 2ในจำนวน 2 คน ของกรรมกรถลุงหล็ก ในวัยเยาว์แม้จะมีฐานะยากจน แต่เขาก็เป็นนักเรียนที่ขยันขันแข็ง เป็น 1 ใน 5 ของลูกกรรมกรที่มีโอกาสได้เรียนในหมู่เด็กในหมู่เด็กที่มีฐานะดีกว่า

ในช่วงนั้น สหภาพโซเวียตต้องประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ พวกกรรมกรคนงานต่างขอค่าแรงเพิ่ม และขอลดเวลาทำงานลงเหลือ 8 ชั่วโมง เลโอนิดได้เรียนรู้ถึงการต่อสู้ระหว่างชนชั้นนายทุนและกรรมาชีพในคราวนี้เอง

ในปี พ.ศ. 2464 จบการศึกษาและออกมาทำงานเป็นกรรมกรท่าเรือ พร้อมกับสมัครเข้าเรียนในวิทยาลัยช่างรังวัดและสำรวจไปด้วย และสมัครเป็นสมาชิกยุวชนพรรคคอมมิวนิสต์ ในปี พ.ศ. 2466ขณะมีอายุได้ 17 ปี และเป็นสมาชิกคอมมิวนิสต์เต็มตัวในปี พ.ศ. 2474หลังจากเขามีลูกแล้ว 1 คน

พ.ศ. 2480 เขาได้รับเลือกเป็นรองประธานกรรมการบริหาร และเป็นกรรมการท้องถิ่นของพรรคในปี พ.ศ. 2481 และพอถึงปี พ.ศ. 2484 กองทัพเยอรมันภายใต้การนำของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ก็บุกโจมตีเมืองต่างๆ ของรัสเซียและเกิดการปะทะกันขึ้น เบรสเนฟได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการของกองทหาร และได้ออกรบในแนวหน้าในเดือนกรกฎาคมปีนั้นเอง

พ.ศ. 2486 เมื่อกองทัพโซเวียตได้รับชัยชนะ พรรคคอมมิวนิสต์จึงเริ่มเรียกเจ้าหน้าที่ของพรรคกลับจากสมรภูมิ เบรสเนฟก็ถูกเรียกกลับมารับหน้าที่เดิมคือเลขาธิการพรรคประจำท้องถิ่น เมื่อมีการสวนสนามฉลองชัยชนะที่จัตุรัสแดงในมอสโก เบรสเนฟก็ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการของกองทัพที่ 4

พ.ศ. 2493 เบรสเนฟได้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์มอลโดวา สาธารณรัฐที่รวมอยู่ในสหภาพโซเวียต ในปีเดียวกันนี้ เขาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประจำเขตเลนินในดเนปรอปีตอฟสก์ และได้เป็นสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียต เมื่อปี พ.ศ. 2495 ขณะมีอายุได้ 46 ปี

เมื่อโจเซฟ สตาลิน เลขาธิการใหญ่ของพรรคถึงแก่อสัญกรรมลง ในปี พ.ศ. 2496 และนิกิตา ครุสชอฟ ได้รับดำรงตำแหน่งแทน เบรสเนฟในฐานะเป็นผู้ที่ครุสชอฟเคยเชื่อถือในความสามารถก็ได้รับการสนับสนุนจากครุสชอฟให้ได้เป็นสมาชิกในคณะเปรสิเดียมซึ่งเป็นคณะผู้นำสูงสุดในปี พ.ศ. 2500 ต่อมาในปี พ.ศ. 2503 ก็ได้ดำรงตำแหน่งประธานสภาสูงสุดของโซเวียตอันเป็นตำแหน่งเทียบเท่าประมุขของประเทศ

ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งประธานสภา เบรสเนฟได้มีผลงานเด่นๆ หลายเรื่องเกี่ยวกับการทบทวนกฎหมายต่างๆ ที่รัฐบาลเสนอเพื่อจะพัฒนาอุตสาหกรรมและก่อสร้าง การยกเลิกภาษีเงินเดือนคนงานอุตสาหกรรมและการเพิ่มค่าแรงงานให้กับการทำงานบริการสาธารณะ เช่น การศึกษา และสาธารณสุข เป็นต้น

และในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2507 ที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ก็ได้เลือกเลโอนิด เบรสเนฟเป็นเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์แทนนิกิตา ครุสชอฟ ที่ถูกปลดออกเนื่องจากดำเนินนโยบายผิดพลาดหลายประการ ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยเฉพาะกับสหรัฐอเมริกานั้น เบรสเนฟได้เคยเดินทางไปเยือนอเมริกาในปี พ.ศ. 2516 โดยมีประธานาธิบดีเจอรัลด์ ฟอร์ด ให้การต้อนรับทั้งคู่ได้มีการลงนามในเอกสารหลายฉบับ รวมทั้งสัญญาการป้องกันสงครามนิวเคลียร์ด้วย คือ

เลโอนิด เบรสเนฟ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต หรืออีกนัยหนึ่งประธานาธิบดี ตลอดมาจนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2525 สิริอายุได้ 75 ปี

อ่านต่อ

Alinda C.

ฉันเชื่อว่าประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจความเป็นมาของสังคมและโลก ประวัติศาสตร์ทำให้เราตระหนักถึงคุณค่าของเสรีภาพและความเท่าเทียมกัน ทำให้เราเรียนรู้จากข้อผิดพลาดในอดีต เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเดิม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button