วันนี้ในอดีต

1 กันยายน พระเจ้าหลุยส์ ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส เสด็จสวรรคต

1 กันยายน 2258 พระเจ้าหลุยส์ ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส (Louis XIV หรือ Louis-Dieudonné) เสด็จสวรรคต หลังจากครองราชนานถึง 72 ปี

พระเจ้าหลุยส์ ที่ 14

พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 (Louis XIV de France) หลุยส์กาโตร์ซเดอฟร็องส์ 5 กันยายน ค.ศ. 1638 – 1 กันยายน ค.ศ. 1715 หรือเรียกว่า หลุยส์มหาราช (Louis le Grand) หลุยส์ เลอ กร็อง หรือ สุริยกษัตริยาธิราช (le Roi Soleil) เป็นพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสและนาวาร์ ทรงครองราชย์เมื่อมีพระชนมายุได้เพียง 5 ชันษา เป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์บูร์บง เสวยราชสมบัติเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1643 และทรงครองราชย์นานถึง 72 ปี นับเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในยุโรป และในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ฝรั่งเศสของพระเจ้าหลุยส์เป็นช่วงที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นผู้นำทางด้านศูนย์กลางการรวมอำนาจของแผ่นดิน

พระเจ้าหลุยส์เริ่มบริหารประเทศด้วยตัวของพระองค์เองเมื่อปี ค.ศ. 1661 หลังจากการเสียชีวิตของหัวหน้าคณะรัฐมนตรีของพระองค์นั่นก็คือ พระคาดินัลมาซาแร็ง ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกแนวคิดเทวสิทธิราชย์ ถึงต้นกำเนิดกษัตริย์ผู้มีสิทธิ์ขาดในการบริหารประเทศต่อพระเจ้าหลุยส์มาอย่างต่อเนื่อง การทำงานของพระองค์ได้สร้าง อำนาจรัฐ ภายใต้การควบคุมของเมืองหลวง พระองค์ทรงพยายามที่จะขจัดเศษของระบบศักดินา ที่คงอยู่ในฝรั่งเศสและเต็มไปด้วยสมาชิกของชนชั้นสูง ที่อาศัยอยู่อย่างฟุ่มเฟือยภายในพระราชวังแวร์ซายของพระองค์ (เดิมเป็นกระท่อมล่าสัตว์ของพระราชบิดาของพระเจ้าหลุยส์) และทรงประสบความสำเร็จในการปราบปรามเหล่าขุนนางจำนวนมากที่มีส่วนร่วมในกบฎฟรอนด์ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่พระองค์ยังทรงพระเยาว์ โดยวิธีการดังกล่าวทรงได้กลายเป็นพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดและเป็นวางรากฐานระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในฝรั่งเศส ซึ่งจะดำรงอยู่จนถึงสมัยการปฏิวัติฝรั่งเศส

พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 สวรรคตก่อนที่จะถึงวันครบรอบพระราชสมภพครบ 77 พรรษา และพระราชปนัดดาของพระองค์ก็ครองราชย์สืบต่อเป็นพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 โดยในรัชสมัยอันยาวยาวนานของพระองค์ ทรงมีรัชทายาทต่อราชบัลลังก์มาแล้วกว่า 3 พระองค์ ได้แก่ พระราชโอรสของพระองค์ หลุยส์ โดแฟ็งใหญ่แห่งฝรั่งเศส, พระโอรสในของโดแฟ็งใหญ่ ได้แก่ หลุยส์ โดแฟ็งน้อย, และพระโอรสองค์โตในโดแฟ็งน้อย ได้แก่ เจ้าชายหลุยส์ ดยุกแห่งเบรอตาญ

อ่านต่อ

Alinda C.

ฉันเชื่อว่าประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจความเป็นมาของสังคมและโลก ประวัติศาสตร์ทำให้เราตระหนักถึงคุณค่าของเสรีภาพและความเท่าเทียมกัน ทำให้เราเรียนรู้จากข้อผิดพลาดในอดีต เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเดิม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button