วันนี้ในอดีต

9 ตุลาคม เช เกบารา นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่แห่งละตินอเมริกา เสียชีวิต

9 ตุลาคม 2510 เช เกวารา (Che Guevara หรือชื่อจริง Ernesto Rafael Guevara de la Serna) นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่แห่งละตินอเมริกา เสียชีวิต

เช เกบารา

เอร์เนสโต เกบารา (Ernesto Guevara) ค.ศ. 1928 – 9 ตุลาคม ค.ศ. 1967 เป็นนักปฏิวัติลัทธิมากซ์ นายแพทย์ นักเขียน ผู้นำนักรบกองโจร นักการทูต และนักทฤษฎีการทหารชาวอาร์เจนตินา ในฐานะที่เป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งจากการปฏิวัติคิวบา ภาพใบหน้าของเขากลายเป็นสัญลักษณ์ที่พบทั่วไปของวัฒนธรรมต่อต้านและการกบฏ และเป็นตราต้นแบบที่รู้จักกันเป็นสากลภายในวัฒนธรรมสมัยนิยม

ครั้งยังเป็นนักศึกษาแพทย์หนุ่ม เกบาราเดินทางไปทั่วทวีปอเมริกาใต้และรู้สึกสะเทือนใจกับความยากจนข้นแค้น ความหิวโหย และโรคภัยที่เขาพบระหว่างทาง ความปรารถนาทำลายล้างสิ่งที่เขามองว่าเป็นการขูดรีดของทุนนิยมในลาตินอเมริกาผลักดันให้เขาเข้ามีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิรูปสังคมกัวเตมาลาภายใต้รัฐบาลฮาโกโบ กุซมัน แต่สุดท้ายประธานาธิบดีผู้นี้ก็พ้นจากตำแหน่งหลังถูกรัฐประหารซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากซีไอเอ ตามคำร้องขอของบริษัทยูไนเต็ดฟรูต นั่นทำให้อุดมการณ์ทางการเมืองของเกบาราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ต่อมา ขณะอาศัยอยู่ในกรุงเม็กซิโกซิตี เขาพบกับราอุลและฟีเดล กัสโตร เข้าร่วมขบวนการ 26 กรกฎาคม และออกเดินทางสู่คิวบาโดยใช้เรือยนต์ขนาดเล็กชื่อ กรันมา ด้วยจุดประสงค์ขับไล่ผู้เผด็จการฟุลเคนเซียว บาติสตาซึ่งสหรัฐอเมริกาหนุนหลังอยู่ ไม่ช้าเกบาราก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญในกองกำลังกบฏดังกล่าว ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองผู้บัญชาการ และมีบทบาทสำคัญยิ่งในการทัพกองโจรซึ่งสามารถล้มระบอบบาติสตาได้สำเร็จภายในเวลาสองปี

หลังการปฏิวัติคิวบา เกบารามีบทบาทสำคัญหลายอย่างในรัฐบาลใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมพิจารณาคดีในศาลปฏิวัติ และพิพากษาให้ผู้ต้องโทษอาชญากรสงครามถูกยิงเป้าโดยชุดยิง ริเริ่มการปฏิรูปที่ดินการเกษตรในฐานะรัฐมนตรีอุตสาหกรรม เป็นหัวหอกการรณรงค์เพื่อการรู้หนังสือทั่วประเทศซึ่งประสบผลสำเร็จ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติและผู้อำนวยการฝึกสอนให้แก่กองทัพคิวบา และเดินทางไปทั่วโลกในฐานะผู้แทนทางทูตจากสังคมนิยมคิวบา ตำแหน่งต่าง ๆ ดังกล่าวยังทำให้เขามีหน้าที่หลักในการฝึกสอนกองกำลังอาสาสมัครซึ่งสามารถขับไล่ผู้บุกครองอ่าวหมูออกไปได้ และชักนำให้สหภาพโซเวียตเข้ามาติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ในคิวบาซึ่งกระตุ้นให้เกิดวิกฤตการณ์ขีปนาวุธใน ค.ศ. 1962 นอกจากนี้ เขายังเป็นนักจดบันทึกและนักเขียนที่ผลิตผลงานออกมาจำนวนมาก โดยเขียนคู่มือปฏิบัติการรบแบบกองโจรซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อเหตุการณ์ภายหน้า ร่วมกับบันทึกความทรงจำเกี่ยวกับการเดินทางไปทั่วทวีปด้วยจักรยานยนต์ในวัยหนุ่มของเขา ประสบการณ์ชีวิตและความรู้เกี่ยวกับลัทธิมากซ์-เลนินนำพาให้เขาสรุปว่าความด้อยพัฒนาและการตกอยู่ในภาวะพึ่งพาของโลกที่สามเป็นผลที่แท้จริงจากจักรวรรดินิยม ลัทธิอาณานิคมแนวใหม่ และทุนนิยมผูกขาด ทางเยียวยามีเพียงทางเดียวคือการใช้แนวคิดสากลนิยมของชั้นชนกรรมาชีพและการปฏิวัติโลก เกบาราออกจากคิวบาใน ค.ศ. 1965 เพื่อก่อการปฏิวัติคอมมิวนิสต์ในประเทศอื่น ครั้งแรกในคองโก-กินชาซาแต่ไม่ประสบความสำเร็จ และครั้งต่อมาในโบลิเวีย ที่นี่เขาถูกกองทัพโบลิเวียซึ่งมีซีไอเอสนับสนุนอยู่จับ และถูกประหารชีวิตโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม

เกบาราเป็นบุคคลทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับทั้งเสียงยกย่องและเสียงประณาม มุมมองต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวเขาได้รับการรวบรวมไว้ในจินตนาการร่วมในรูปของสื่อจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นหนังสือชีวประวัติ บันทึกความทรงจำ ความเรียง สารคดี เพลง หรือภาพยนตร์ เนื่องจากการยอมสละชีพเพื่อความเชื่อของเขา การปลุกเร้าด้วยบทกวีเพื่อให้เกิดการต่อสู้ระหว่างชนชั้น และความปรารถนาที่จะสร้างความสำนึกของการเป็น “คนใหม่” ซึ่งขับเคลื่อนด้วยจริยธรรมแทนที่จะเป็นสิ่งจูงใจทางวัตถุ เกบาราจึงกลายมาเป็นบุคคลสัญลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบของขบวนการทางการเมืองต่าง ๆ ที่นิยมฝ่ายซ้าย เขาได้รับเลือกจากนิตยสารไทม์ให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ส่วนภาพถ่ายของเขาที่มีชื่อว่า นักรบกองโจรผู้เป็นวีรบุรุษ (Guerrillero Heroico) และถ่ายโดยอัลเบร์โต กอร์ดา ก็ได้รับการยกย่องจากสถาบันวิทยาลัยศิลปะแมริแลนด์ว่าเป็น “ภาพถ่ายที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก”

อ่านต่อ

Alinda C.

ฉันเชื่อว่าประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจความเป็นมาของสังคมและโลก ประวัติศาสตร์ทำให้เราตระหนักถึงคุณค่าของเสรีภาพและความเท่าเทียมกัน ทำให้เราเรียนรู้จากข้อผิดพลาดในอดีต เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเดิม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button