How To

6 วิธีกําจัดแมลงหวี่ด้วยสมุนไพร!

แมลงหวี่เป็นแมลงที่มีอยู่ทั่ว ๆ ไปในบ้านชอบอยู่ตามที่สกปรก ชอบกินหนองตามบาดแผล ตามดวงตา หากแมลงหวี่ตอมดวงตาก็จะติดโรคตาแดงชนิดตาอักเสบ หรือริดสีดวงตาได้ง่าย เรามีเทคนิค วิธีกําจัดแมลงหวี่ด้วยสมุนไพร มาฝากกัน

แมลงหวี่

แมลงหวี่

แมลงหวี่ มีลำตัวมีสีดำ ขนาดเล็ก มีขนอยู่ด้านหลังมาก มี 6 ขา มีสีเหลือง ขนาดของหัวโต ตาโต ส่วนท้องโต และส่วนอกเล็กกว่า มีปีก 2 คู่ บนด้านหลัง

แมลงหวี่มีอายุประมาณ 1-2 เดือน และมีการเจริญเติบโต 4 ระยะ

  • ระยะไข่ ตัวเมียจะวางไข่ในที่สกปรก หรือที่ดินร่วน และไข่จะฟักเป็นตัวอ่อน หรือตัวหนอนภายในเวลาประมาณ 3 วัน และออกไข่ตัวละประมาณ 30-40 ฟอง
  • ระยะตัวอ่อน เป็นลักษณะตัวหนอนมีสีดำ บางชนิดมีสีขาว ส่วนหัวจะมีปากเป็นตะขอ ใช้เกาะยึด และกินอาหาร กาเคลื่อนไหว ระยะตัวหนอนนี้จะมีอายุประมาณ 5-10 วัน ก็จะกลายเป็นดักแด้
  • ระยะดักแด้ ลำตัวจะแบนและสั้นลงสีค่อนข้างเหลือง และไม่เคลื่อนไหว พอมีอายุประมาณ 6 วัน ก็จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและเป็นแมลงหวี่ต่อไป
  • ระยะตัวแมลงหวี่ ระยะนี้ตัวแมลงหวี่จะบินออกไปหาอาหารได้ เมื่อได้อายุประมาณ 6 วัน ก็พร้อมจะผสมพันธุ์ต่อไป

แมลงหวี่ขนเกิดจาก แมลงท่อ หรือแมลงห้องน้ำ เป็นแมลงขนาดเล็กลักษณะดูคล้ายกับผีเสื้อ ขนาดประมาณ 2 มิลลิเมตร ลำตัวสีน้ำตาล มีขนปกคลุมตลอดทั้งตัว ด้านหลังมี 2 ปีก ปลายปีกเป็นมุมแหลม และเมื่อเกาะอยู่กับที่จะหุบปีกเข้าเป็นรูปหลังคา มักอาศัยและวางไข่ตามที่ชื้น ใกล้แหล่งน้ำ ที่พักน้ำเสีย หรือในห้องน้ำ เช่น ท่อระบายน้ำเสีย เพราะตัวอ่อนของแมลงชนิดนี้กินกากตะกอนจากของที่เน่าเปื่อยหรือวัตถุที่ตายแล้วเป็นอาหาร

วิธีกําจัดแมลงหวี่ด้วยสมุนไพร

วิธีกําจัดแมลงหวี่ด้วยสมุนไพร
แมลงหวี่อันตรายไหม ตาแดง

แมลงหวี่อันตรายไหม

แมลงหวี่สามารถนำโรคต่าง ๆ มาสู่คนได้ซึ่งโรคต่าง ๆ ที่มากับแมลงหวี่นั้นอาจจะเป็น โรคท้องร่วง หรือท้องเสีย รวมไปถึงโรคตาแดง เนื่องจากแมลงหวี่นั้นจะชอบอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีความสกปรก หรือเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค เป็นอย่างมาก และที่สำคัญเลยแมลงหวี่ชอบกินสิ่งสกปรกเป็นอาหาร ทำให้เวลาที่คนเรามีขี้ตา เกิดขึ้นนั้นแมลงหวี่จะเข้ามาตอม เมื่อแมลงหวี่ตอมแล้วนั้นบริเวณขาของแมลงหวี่นั้นจะมีเชื้อโรคติดอยู่

เมื่อเวลาที่แมลงหวี่เกิดมาตอมยังดวงตาของเราจะทำให้คนที่โดนแมลงหวี่ตอมนั้นติดโรคตาแดงได้ง่าย ซึ่งโรคตาแดงนี้เองเป็นโรคที่สามารถระบาดและติดต่อกันได้ค่อนข้างง่าย และรวดเร็ว ทำให้ไม่มีการป้องกันที่เกิดขึ้นได้ แต่เราสามารถป้องกันได้โดยการที่สัมผัสดวงตาด้วยมือที่สะอาด หรืออาจจะพบแพทย์เพื่อการรักษาก็ได้เช่นกัน โรคตาแดงถึงแม้จะไม่ร้ายแรง แต่ถ้าหากทิ้งไว้ไม่มีการรักษาที่ดี หรือไม่ไปพบแพทย์ ก็อาจจะทำให้เกิดสภาวะแทรกซ้อนขึ้นมาได้ ฉะนั้นทางที่ดีเมื่อเป็นโรคตาแดงแล้วควรพบแพทย์จะดีที่สุด เพื่อจะได้ทำการรักษาต่อไป

อ่านต่อ

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button