เปรียบเทียบ 5 แอปฟังเพลง เจ้าไหนคุ้มสุด!

ในปัจจุบันมีช่องทางในการฟังเพลงจากหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นของทั้ง Android และ iOS เรารวบรวมข้อมูลของผู้ให้บริการในไทยเพื่อ เปรียบเทียบ แอปฟังเพลง (Music Streaming) เจ้าไหนคุ้มสุด มาให้ดูว่ามีแพ็กเกจไหนให้เลือกใช้งานบ้าง

บริการสตรีมมิ่งเพลง คือ

เป็นบริการเช่าเพลงรูปแบบหนึ่ง คุณสามารถฟังเพลงนับล้านที่อยู่บนโลกอินเตอร์เน็ตนี้ได้อย่างไม่จำกัด (บางเจ้าอาจจะไม่มีบ้างเพลง) ไม่ว่าจะเพลงใหม่ หรือเพลงเก่าสามารถหาฟังได้ โดยปัจจุบันมิวสิคสตรีมมิ่งนอกจากจะให้บริการในรูปแบบของเว็บไซต์แล้ว ยังให้บริการในรูปแบบแอปพลิเคชันอีกด้วย ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้บนสมาร์ทโฟน นักเรียน-นักศึกษาสามารถใช้ได้ในราคาไม่แรงมาก

บริการแอปฟังเพลงมีอะไรบ้าง

เปรียบเทียบแอปฟังเพลง

YouTube Music

Music Streaming ใหม่พร้อมใช้งานแล้ว ลองใช้บนเว็บและบนแอปในอุปกรณ์เคลื่อนที่ฟรีได้เลย อัลบั้ม วิดีโอ และอื่น ๆ ทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว แอปใหม่ล่าสุดบนมือถือ รับชมหรือฟัง เว็บเพลเยอร์ใหม่ล่าสุด

• YouTube Premium เปิดตัวในไทยแล้ว พร้อมเปิดตัว YouTube Music

รายละเอียดแพ็คเกจ

แบบฟรี

• ฟังเพลงฟรี
• โฆษณาแทรก

แบบพรีเมี่ยม

• ไม่มีโฆษณาแทรก
• ฟังเพลงแบบ Background ล็อคหน้าจอได้
• โหลดฟังเพลงออฟไลน์ได้
• ค่าบริการ Android-Website 129 บาท/เดือน iOS 169 บาท/เดือน
• ค่าบริการแบบครอบครัว Android-Website 199 บาท/เดือน (ตกคนละ 34 บาท/เดือน) iOS 239 บาท/เดือน (ตกคนละ 40 บาท/เดือน)
• ค่าบริการแบบนักเรียน Android-Website 65 บาท/เดือน

คุณภาพเสียง

• ​คุณภาพต่ำ: 48Kbps AAC
• คุณภาพปกติ: 128Kbps AAC
• คุณภาพสูง: 256Kbps AAC

รองรับการใช้งานบนไหนได้บ้าง

• Mac หรือ PC
• สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, เดสก์ท็อป ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
• Google Home หรือ Chromecast Audio

โปรโมชันแรกเข้า

• ผู้ใช้จะสามารถลองใช้ YouTube Premium ได้ฟรี 2 เดือนสำหรับ Android ส่วน iOS ได้ฟรี 1 เดือน

การชำระเงิน

• บัตรเครดิตและบัตรเดบิต

Spotify

สปอทิฟาย (Spotify) เป็นบริการสตรีมเพลง พอตแคสต์ และวิดีโอที่เปิดบริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 2008 สปอทิฟายพัฒนาโดยบริษัทสตาร์ตอัปชื่อ สปอทิฟายเอบี ในสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน สปอทิฟายจัดหาเนื้อหาที่มีการจัดการสิทธิดิจิทัลจากค่ายเพลงและบริษัทสื่อต่าง ๆ สปอทิฟายเป็นบริการฟรีเมียม หมายความว่า คุณลักษณะหลักของบริการไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่มีโฆษณาสนับสนุน ขณะที่คุณลักษณะเพิ่มเติมมีค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่าย คุณลักษณะดังกล่าวรวมถึงคุณภาพสตรีมมิงที่ดีกว่า และการดาวน์โหลดเพลงโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

Spotify ได้เปิดให้บริการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 2017

รายละเอียดแพ็คเกจ

แบบฟรี

• ฟังเพลงฟรี
• สามารถกดข้ามเพลงได้ 6 ครั้ง/ชั่วโมง เฉพาะในกรณีเล่นเพลงในอัลบั้ม หากเป็นเพลลิสต์ที่ Spotify จัดให้สามารถกดข้ามได้ตลอด
• ไม่สามารถกดเลือกฟังเพลงที่ต้องการได้ บังคับใช้ระบบ Shuffle Play เฉพาะในกรณีเล่นเพลงในอัลบั้ม หากเป็นเพลลิสต์ที่ Spotify จัดให้สามารถกดเลือกเพลงเองได้ตลอด

แบบพรีเมี่ยม

• ค่าบริการ 139 บาท/เดือน
• ค่าบริการแบบ Duo 189 บาท/เดือน 2 บัญชี
• สามารถอัพเกรดเป็นพรีเมี่ยมแบบครอบครัวได้ ราคา 219 บาท/เดือน ใช้ได้ 6 คน (รวมตนเองด้วย) จริง ๆ สามารถแชร์ร่วมกับใครก็ได้ ตกคนละ 33 บาทเท่านั้น
• สามารถดาวน์โหลดเพลงเพื่อฟังแบบออฟไลน์ได้ สูงสุด 3,333 เพลง
• ไม่มีโฆษณาแทรก
• ฟังได้ทุกเพลง และสามารถกดข้ามเพลงได้ไม่จำกัด
• สามารถเลือกคุณภาพเสียงระดับ Very high ได้
• กรณีเป็นนักศึกษาจะได้รับส่วนลด 50% นาน 12 เดือน

คุณภาพเสียง

• Normal 96 kbps
• High 160 kbps
• Very high 320kbps (แบบพรีเมี่ยม)

รองรับการใช้งานบนไหนได้บ้าง

• Mac หรือ PC
• สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, เดสก์ท็อป ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
• สมาร์ททีวี
• คอนโซลเกม (PS4 หรือ PS3)

โปรโมชันแรกเข้า

• สามารถใช้บริการแบบพรีเมี่ยมฟรี 30 วัน

การชำระเงิน

• บัตรเครดิตและบัตรเดบิต
• ชำระผ่านโทรศัพท์มือถือ เครือข่าย dtac และ AIS โปรโมชันแรกเข้า ใช้ 2 เดือน จ่าย 1 เดือน ครั้งถัดไปคิดเดือนละ 139 บาท หรือสมัครแบบพรีเมี่ยมรายวันก็ได้ เริ่มต้น 13 บาท/วัน

JOOX

จูกซ์ (JOOX) เป็นบริการสตรีมเพลง โดยบริษัทเทนเซ็นต์ เปิดบริการในเดือนมกราคม 2558 และเปิดบริการในแอฟริกาใต้ในเดือนมิถุนายน 2560 โดย JOOX เป็นบริการสตรีมเพลงที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ไทย และ ประเทศแอฟริกาใต้ ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการประมาณ 22 ล้านคน สำหรับประเทศไทย JOOX เปิดตัวครั้งแรกในปี 2559 ด้วยความร่วมมือระหว่างบริษัท เทนเซนต์ และเว็บไซต์ Sanook.com

รายละเอียดแพ็คเกจ

แบบฟรี

• ไม่สามารถฟังเพลงใหม่ ๆ ได้ทันที โดยเฉพาะเพลงอินเตอร์
• มีโฆษณาแทรกระหว่างฟังเพลง
• คุณภาพเสียงระดับต่ำ

แบบ JOOX VIP

• ราคา 59 บาท/สัปดาห์, ราคา 149 บาท/เดือน, ราคา 399 บาท/3เดือน, ราคา 699 บาท/6เดือน, ราคา 1250 บาท/12เดือน
• แบบครอบครับ ค่าบริการ 179 บาท/เดือน แชร์ร่วมกันได้ถึง 6 คน เพียงคนละ 30 บาทต่อเดือน
• สามารถฟังเพลงใหม่ ๆ ได้ทันที
• ไม่โฆษณาแทรกระหว่างฟังเพลง
• คุณภาพเสียงระดับ HI-FI
• สามารถดาวน์โหลดเพื่อฟังเพลงขณะออฟไลน์ได้

คุณภาพเสียง

• Low คุณภาพเสียงขนาดไฟล์ 0.5-1MB
• Std คุณภาพเสียงขนาดไฟล์ 1-2MB
• Med คุณภาพเสียงขนาดไฟล์ 3-4MB
• HQ คุณภาพเสียงขนาดไฟล์ 6-10MB (เฉพาะ VIP)
• Hi-Fi คุณภาพเสียงขนาดไฟล์ 20-30MB (เฉพาะ VIP)

รองรับการใช้งานบนไหนได้บ้าง

• Mac หรือ PC
• สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, เดสก์ท็อป ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
• สมาร์ททีวี
• เว็บไซต์ music.sanook.com

โปรโมชันแรกเข้า

• ทดลองฟังเพลงฟรีแบบ VIP 3 เดือนแรก

การชำระเงิน

• บัตรเครดิตและบัตรเดบิต
• TRUEMONEY WECARD
• Mobile Payment

Apple Music

สตรีมเพลง 50 ล้านเพลงบนอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณด้วย Apple Music.

รายละเอียดแพ็คเกจ

• แบบนักศึกษา ค่าบริการ 79 บาท/เดือน ต้องกำลังศึกษาอยู่ในปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาที่สูงกว่านี้ และต้องลงทะเบียน UNiDAYS รับสิทธิ์ได้สูงสุด 4 ปี
• แบบบุคคล ค่าบริการ 139 บาท/เดือน
• แบบครอบครับ ค่าบริการ 219 บาท/เดือน แชร์ได้สูงสุด 6 คน (รวมตัวเราเอง) เฉลี่ยคนละ 36.5 บาทเท่านั้น Family Sharing

คุณภาพเสียง

• ไฟล์เสียง 256 kbps
• Lossless สำหรับความละเอียดสูงสุด 24 บิต / 48 kHz
• Hi-Res Lossless สำหรับความละเอียดสูงสุดที่ 24 บิต / 192 kHz

รองรับการใช้งานบนไหนได้บ้าง

• iPhone, iPad, iPod touch และ Apple Watch Series 3 ขึ้นไป
• Mac หรือ PC
• Android

โปรโมชันแรกเข้า

• ฟังฟรี 3 เดือนแรก

การชำระเงิน

• บัตรเครดิตและบัตรเดบิต
• TrueMoney
• ใบเรียกชำระเงินค่าโทรศัพท์มือถือ (ผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ที่รองรับ)

TIDAL

TIDAL เป็นบริการ Music Streaming ของบริษัท Aspiro ประเทศสวีเดน เปิดตัวในปี 2014 ก่อนที่จะถูกซื้อในช่วงต้นปี 2015 โดยบริษัท Project Panther Bidco ของ Jay Z ศิลปินชื่อดังชาวอเมริกัน

รายละเอียดแพ็คเกจ

แบบพรีเมี่ยม

• คุณภาพเสียงธรรมดา 139 บาท/เดือน

แบบพรีเมี่ยม HiFi

• คุณภาพเสียง Masters 258 บาท/เดือน
• แบบครอบครับ ค่าบริการ 387 บาท/เดือน แชร์ได้สูงสุด 5 คน (รวมตัวเราเอง)

คุณภาพเสียง

• Normal : เข้ารหัสสัญญาณเสียงแบบ AAC+ (ชื่อตามมาตรฐาน HE-AAC) ที่ bit rate 96 kbps
• High : เข้ารหัสสัญญาณเสียงแบบ AAC ที่ bit rate 320 kbps
• HiFi : เข้ารหัสสัญญาณเสียงแบบ FLAC (Android/Windows), ALAC (iOS/macOS), MQA (desktop app) ที่ bit rate 1411 kbps (แบบพรีเมี่ยม HiFi)
• Master (MQA) : คุณภาพเสียงเทียบต้นฉบับ

รองรับการใช้งานบนไหนได้บ้าง

• Microsoft Windows
• OS X
• iOS
• Android (Amazon devices)
• Network Audio Player
• เว็บไซต์ TIDAL

โปรโมชันแรกเข้า

• ฟังฟรี 1 เดือนแรก

การชำระเงิน

• บัตรเครดิตและบัตรเดบิต

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ทิ้งท้าย

โดยสรุปแล้ว การเลือกแอปฟังเพลงขึ้นอยู่กับความชอบและลำดับความสำคัญส่วนตัวของคุณ YouTube Music และ Spotify ต่างก็เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยมีคลังเพลงที่กว้างขวางและระบบแนะนำที่ยอดเยี่ยม JOOX รองรับตลาดเอเชียและนำเสนอเนื้อหาที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นที่หลากหลาย Tidal ดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงด้วยเสียงที่มีความเที่ยงตรงสูง สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น การเลือกเพลง คุณภาพเสียง การแนะนำเพลง และความพร้อมให้บริการในภูมิภาค เมื่อเลือกแอปฟังเพลงที่เหมาะกับคุณ