[รีวิว] หลานม่า (2024) ดราม่าซึ้งใจ ความสัมพันธ์ครอบครัว

ในยุคที่หนังไทยเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น “หลานม่า” ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นและน่าจับตามอง โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงเรื่องราวของครอบครัวที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและอารมณ์ที่หลากหลาย หนังเรื่องนี้ไม่เพียงแต่สร้างความบันเทิง แต่ยังนำเสนอประเด็นทางสังคมและความสัมพันธ์ในครอบครัวที่มีความลึกซึ้ง

หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของเอ็ม (รับบทโดย บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล) หนุ่มนักศึกษาที่ลาออกจากมหาวิทยาลัยและกลับมาดูแลอาม่าของเขา อาม่า (รับบทโดย อุษา เสมคำ) หลังจากที่เขาล้มเหลวในการเป็นสตรีมเมอร์เกม แม้ว่าเอ็มจะมีเจตนาที่ดีในการดูแลอาม่า แต่เขายังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ ที่หวังจะได้มรดกจากอาม่า

การเดินทางของเอ็มไม่ใช่เพียงแค่การดูแลอาม่า แต่ยังเป็นการค้นหาตัวตนและการเติบโตทางอารมณ์ของเขา หนังได้ถ่ายทอดความรู้สึกและประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงอย่างละเอียดอ่อน โดยมีฉากต่าง ๆ ที่สร้างบรรยากาศให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว ซึ่งทำให้หนังกลายเป็นผลงานที่มีคุณค่าทางศิลปะและสามารถเข้าถึงผู้ชมได้อย่างกว้างขวาง

เนื้อเรื่อง หลานม่า

“หลานม่า” เกิดขึ้นในย่านไชน่าทาวน์ของกรุงเทพฯ โดยเนื้อเรื่องเริ่มต้นเมื่ออาม่าได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง ทุกคนในครอบครัวทราบเกี่ยวกับโรคของเธอก่อนที่จะบอกให้เธอรู้ ทำให้เอ็มพยายามที่จะเข้าใกล้อาม่ามากขึ้นเพื่อแสดงความห่วงใย แต่อาม่ามีท่าทีที่ไม่ไว้วางใจและยากที่จะเปิดใจให้กับสมาชิกในครอบครัว

เอ็มเริ่มต้นบทบาทใหม่ในชีวิตของเขา โดยการดูแลอาม่าอย่างจริงจัง แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีประสบการณ์มากนัก แต่เขาก็พยายามที่จะเข้าใจและช่วยเหลืออาม่าอย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกัน สมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัว เช่น แม่ของเอ็ม (รับบทโดย สฤญรัตน์ โทมัส) และกู๋เคี้ยง (รับบทโดย สัญญา คุณากร) ก็พยายามที่จะดูแลอาม่าเช่นกัน แต่เอ็มกลับกลายเป็นคนที่เข้าไปอยู่ในชีวิตของอาม่าอย่างลึกซึ้งที่สุด

การเดินทางของเอ็มไม่ได้มีเพียงแค่การดูแลอาม่า แต่ยังเป็นการเติบโตทางอารมณ์และการเรียนรู้เกี่ยวกับความรักในครอบครัว เขาเริ่มเห็นโลกในมุมมองใหม่ และเรียนรู้ว่าความรักนั้นไม่ได้หมายถึงการได้รับสิ่งตอบแทนเสมอไป การดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เอ็มก็พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้อาม่ารู้สึกถึงความรักและการสนับสนุนจากสมาชิกในครอบครัว

สรุป

“หลานม่า” เป็นหนังที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึก โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ แม้ว่าเนื้อเรื่องจะเต็มไปด้วยความขัดแย้งและแรงผลักดันทางอารมณ์ แต่ก็ยังมีช่วงเวลาที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกอบอุ่นใจ และเห็นถึงความสำคัญของการอยู่เคียงข้างกันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

หนังนี้ไม่เพียงแต่สร้างความบันเทิง แต่ยังส่งเสริมให้ผู้ชมคิดถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว และกระตุ้นให้เราเห็นคุณค่าในตัวคนที่เรารัก แม้ว่าเราจะมีข้อบกพร่องหรือปัญหาใด ๆ ก็ตาม ความรักและการสนับสนุนกันนั้นคือสิ่งที่จะช่วยให้เราผ่านพ้นทุกช่วงเวลาที่ท้าทายไปได้

ท้ายที่สุดแล้ว “หลานม่า” ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนังเกี่ยวกับการหาเงินหรือมรดก แต่มันคือเรื่องราวเกี่ยวกับการเรียนรู้ที่จะรักและยอมรับกันในทุกสถานการณ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา

• ประเภท: ดราม่า, ครอบครัว
• วันที่ออกอากาศ: 4 เมษายน 2567
• นักแสดงนำ: บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล, อุษา เสมคำ
• ผู้กำกับ: พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์
• ความยาว: 2 ชั่วโมง 5 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 8.3/10
• ช่องทางการดู: Netflix