รีวิว Road House คนเดือดบวกเมืองเถื่อน (2024)

ใครคิดถึงบรรยากาศบาร์โหด คนเถื่อน พร้อมพระเอกนักบู๊มาแจกหมัดแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม… Road House (2024) กลับมาแล้วในรูปแบบรีบูทสุดระห่ำ นำแสดงโดย เจค จิลเลินฮาล ที่รับหน้าที่ถ่ายทอดเสน่ห์แบบดิบเถื่อนในตำนานของตัวละครสุดคลาสสิคของ แพทริค สเวซี แฟนพันธุ์แท้หนังแอ็คชั่นยุค 80s ห้ามพลาด พร้อมลุ้นว่ารีเมคครั้งนี้จะเคารพต้นฉบับแค่ไหน หรือกล้าแหวกขนบเดิมๆ

หลายคนตั้งคำถามว่าจำเป็นไหมที่ต้องรีบูทหนังแอ็คชั่นสุดคัลท์เรื่องนี้? คำตอบนั้นอยู่ในตัวหนังเอง Road House 2024 คือการผสมผสานของงานคารวะต้นฉบับ เข้ากับการปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัย ทั้งฉากแอ็คชั่นที่โหดสะใจกว่าเดิม และการเล่าเรื่องที่กระชับเข้มข้น ชนิดที่เรียกได้ว่าอัดแน่นไปด้วยความมันส์แบบที่หนังต้นฉบับเคยทำเอาไว้!

เนื้อเรื่องย่อ Road House คนเดือดบวกเมืองเถื่อน

แก่นหลักของ Road House ยังคงถอดแบบมาจากต้นฉบับ จิลเลินฮาล รับบทเป็นอดีตนักสู้ MMA ที่ถูกว่าจ้างให้มาเป็น คูลเลอร์ (มือปราบประจำบาร์) ในบาร์สุดเถื่อนกลางเมืองเล็กๆ เมื่อเขาพบว่าความโหดร้ายไม่ได้มีแค่บนพื้นที่สังเวียน แต่ยังมีอิทธิพลมืดที่กัดกินเมืองอยู่อย่างลับๆ งานนี้นอกจากหมัดที่หนักหน่วงแล้ว เขาอาจจะต้องใช้มันสมอง และไหวพริบเพื่อจัดการเหล่าร้ายให้เด็ดขาด

ถึงจะคล้าย แต่ Road House รีบูทเพิ่มความดิบ ความรุนแรงได้แบบถึงใจ แฟนหนังแอ็คชั่นอาจคุ้นเคยกับฉากการเคลียร์บาร์แบบเดือดๆ แต่นี่คือเวอร์ชั่นที่กระดูกหัก เนื้อฉีก กันได้อย่างสะใจคอบู๊ และเนื้อหายังเพิ่มความซับซ้อน มีปมปัญหาที่ใหญ่กว่าแค่ความเก๋าภายในบาร์อีกด้วย

การแสดง

เจค จิลเลินฮาล (Jake Gyllenhaal) พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่าเขาสามารถแปลงร่างได้ในทุกบทบาท บทนักสู้ของเขาเต็มไปด้วยเสน่ห์และความโหดดิบได้อย่างสมดุล ส่วนนักแสดงเสริมรอบข้างก็ทำหน้าที่ของตนได้อย่างน่าพอใจ แม้บทอาจไม่ได้มีมิติมากนัก แต่ทุกคนก็ช่วยกันเสริมให้หนังมีบรรยากาศที่เข้มข้นและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

แต่หากต้องมีจุดติง คงเป็นที่ตัวละครฝ่ายหญิงที่ยังคงมีคาแรกเตอร์ที่เหมือนไม้ประดับ ยังไม่สามารถฉีกออกมาจากกรอบเดิมๆ ได้ แม้จะมีความพยายามใส่ความเข้มแข็งให้กับตัวละครนี้เพิ่มขึ้นมา แต่ก็ยังถือว่าน่าเสียดายที่บทบาทผู้หญิงยังไม่โดดเด่นเท่าที่ควร

โปรดักชัน

นี่คืออีกจุดแข็งสำคัญของ Road House ฉากแอ็คชั่นนั้นถูกออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยม ลื่นไหล ดุดัน โดยเฉพาะฉากต่อสู้ในพื้นที่จำกัดภายในบาร์ ที่ทั้งดิบและมีลูกเล่นชวนตื่นตา งานด้านโปรดักชั่นยังรวมถึงการสร้างบรรยากาศของบาร์และเมืองเล็กๆ ได้อย่างสมจริง ช่วยเติมเต็มอารมณ์หนังนักเลงที่เต็มไปด้วยสีสันเฉพาะตัว

ดนตรีประกอบก็มีส่วนช่วยอย่างมาก องค์ประกอบดนตรีร็อกแอนด์โรลล์เข้ากับบรรยากาศหนังได้ดียิ่ง และมีการใช้เพลงช่วงยุค 80 – 90 มาปลุกความคลาสสิก ช่วยให้แฟนๆ ของหนังต้นฉบับรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านเก่าอีกครั้ง

สรุป

Road House (2024) คือหนังรีบูทที่เข้าใจหัวใจของหนังแอ็คชั่นยุคเก่า ผสมผสานกลิ่นอายความเก๋า และยกระดับความมันส์ได้อย่างสะใจ เป็นการคารวะต้นฉบับไปพร้อมๆ กับการกล้าใส่อะไรใหม่ๆ เข้าไป หากคุณชื่นชอบหนังอย่าง John Wick แต่ใส่บรรยากาศนักเลงคาวบอยแบบหนังเก่าลงไป รับรองว่าคุณจะต้องถูกใจสิ่งนี้