รีวิวซีรีส์ฝรั่ง

[รีวิว] House of the Dragon | ตระกูลแห่งมังกร ซีซั่น 2

House of the Dragon ซีซั่น 2 เปรียบเสมือนดาบคมกริบที่ยังไม่ได้ชักออกจากฝัก ซีรีส์นี้มีทุกอย่างพร้อมที่จะสร้างความยิ่งใหญ่ ทั้งนักแสดงฝีมือเยี่ยม เครื่องแต่งกายอลังการ และฉากที่สมจริงน่าทึ่ง แต่กลับเลือกที่จะเดินวนอยู่กับที่ตลอดทั้งฤดูกาล

Advertisement

บทสนทนาในซีซั่นนี้ถูกเขียนขึ้นอย่างประณีต แต่กลับนำไปสู่การลังเลและขาดการตัดสินใจที่ชัดเจน เรื่องราวดำเนินไปอย่างเชื่องช้า จนบางครั้งรู้สึกว่าทั้งตอนเต็มไปด้วยการพูดคุยที่อาจสรุปได้ด้วยจดหมายสั้น ๆ เพียงฉบับเดียว แม้จะสนุกในขณะรับชม แต่เมื่อมองภาพรวมแล้ว กลับรู้สึกถึงการขาดพลังในการขับเคลื่อนเรื่องราวให้ก้าวไปข้างหน้า

ราชินี Rhaenyra (Emma D’Arcy) ใช้เวลาทั้งฤดูกาลเพื่อยอมรับความจำเป็นในการทำสงคราม แม้แต่ในตอนสุดท้าย เธอยังคงพูดถึงการหลีกเลี่ยงการต่อสู้ ในขณะที่ Daemon (Matt Smith) ใช้เวลาทั้งฤดูกาลในการเศร้าโศกที่ Harrenhal ก่อนที่จะเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย

ฝั่งตรงข้าม เจ้าชาย Aemond (Ewan Mitchell) กลายเป็นตัวร้ายที่น่ากลัวยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหลังจากสังหาร Rhaenys (Eve Best) และมังกรของเธอ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดของซีซั่นนี้ ในขณะที่ราชินีม่าย Alicent (Olivia Cooke) ดูเหมือนจะยอมรับความล้มเหลวในการวางแผนของเธอ และพยายามปกป้องลูก ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

แม้ว่า House of the Dragon จะไม่ถึงกับน่าเบื่อ ด้วยฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยมและฉากที่สวยงาม แต่เมื่อนึกย้อนกลับไป กลับยากที่จะจดจำว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในแต่ละตอน เพราะแทบจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

Advertisement

อย่างไรก็ตาม การแสดงของ Matt Smith, Eve Best และ Simon Russell Beale ในซีซั่นนี้ยังคงน่าประทับใจ นักแสดงอย่าง Olivia Cooke และ Abubakar Salim แสดงออกถึงเสน่ห์อันน่าหลงใหล แม้แต่ตัวร้ายอย่าง Aemond และ Ser Criston Cole (Fabian Frankel) ก็ยังได้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของตัวละคร

ความน่าผิดหวังของตอนจบฤดูกาลนี้ยากที่จะมองข้าม แม้ว่าจะมีการเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้น แต่กลับจบลงอย่างไม่สมบูรณ์ ไม่มีการปะทะหรือการต่อสู้ของมังกรที่แฟน ๆ รอคอย ทำให้รู้สึกว่าขาดฉากที่จะทำให้ผู้ชมตื่นเต้นและกระตือรือร้นที่จะติดตามต่อ

สรุป

House of the Dragon ซีซั่น 2 เป็นซีรีส์ที่มีศักยภาพสูง แต่ยังไม่สามารถดึงออกมาได้อย่างเต็มที่ ด้วยการเล่าเรื่องที่เชื่องช้าและขาดแรงขับเคลื่อน ทำให้ผู้ชมรู้สึกหงุดหงิดและอยากเห็นการพัฒนาของเรื่องราวมากกว่านี้ แม้จะมีจุดเด่นในด้านการแสดงและภาพที่สวยงาม แต่การขาดการเคลื่อนไหวของเนื้อเรื่องทำให้ซีซั่นนี้ยังไม่สามารถบินทะยานได้อย่างที่ควรจะเป็น หวังว่าในซีซั่นต่อไป เราจะได้เห็นการต่อสู้และความขัดแย้งที่รอคอยมานาน เพื่อปลดปล่อยศักยภาพที่แท้จริงของซีรีส์นี้

Advertisement

อ่านต่อ
Advertisement

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button