[รีวิว-เรื่องย่อ] พ่อฉัน ฆาตกรบีทีเค | My Father, the BTK Killer (2025)

• My Father, the BTK Killer เป็นสารคดีที่โฟกัสชีวิตคู่ขนานของเดนนิส เรเดอร์ ผู้เป็นทั้งพ่อบ้านและฆาตกร BTK ที่สังหาร 10 รายในวิชิต้า รัฐแคนซัส ระหว่างปี 1974-1991
• เคอร์รี รอว์สัน ลูกสาววัย 26 ตอนพ่อถูกจับในปี 2005 แบ่งปันเรื่องราวการเยียวยาจิตใจและผลกระทบต่อครอบครัว โดยไม่ปกปิดความเจ็บปวด
• หนังนำเสนอการสืบสวนของตำรวจที่นำไปสู่การจับกุม ผสมผสานภาพเก่าและสัมภาษณ์เพื่อแสดงด้านมืดของมนุษย์ที่ซ่อนเร้น
• ผู้กำกับสกาย บอร์กแมน สร้างสรรค์ให้เป็นเรื่องจริงที่ทำให้คิดถึงการใช้ชีวิตสองหน้าและการฟื้นฟูหลังความจริงเปิดเผย

เคยคิดไหมว่าชีวิตครอบครัวที่ดูปกติสุขจะซ่อนความลับดำมืดขนาดไหน? ลองนึกภาพพ่อที่เป็นประธานโบสถ์ ผู้นำลูกเสือ และสามีพ่อบ้านที่ดี กลับกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ทารุณเหยื่อด้วยวิธี บีไนด์ ทอร์เจอร์ คิล (Bind, Torture, Kill) หรือที่รู้จักในชื่อ BTK หนังสารคดี My Father, the BTK Killer (My Father, the BTK Killer, 2025) จากผู้กำกับ สกาย บอร์กแมน (Skye Borgman) พาไปสำรวจมุมมองของเคอร์รี รอว์สัน ลูกสาวของเดนนิส เรเดอร์ ผู้ต้องเผชิญความจริงเมื่อพ่อถูกจับในปี 2005 หลังก่อคดีสังหาร 10 รายในวิชิต้า รัฐแคนซัส ตั้งแต่ปี 1974 จนถึง 1991 เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เล่าคดี แต่เจาะลึกถึงความช็อกและการเยียวยาของครอบครัวที่ถูกทำลาย

เรื่องราวเริ่มจากชีวิตประจำวันธรรมดาที่ซ่อนปีศาจร้าย เดนนิส เรเดอร์ ดูเป็นคนดีในสายตาชุมชน แต่เบื้องหลังคือการวางแผนฆ่าแบบละเอียดอ่อน เขาใช้ชีวิตสองหน้าได้อย่างแนบเนียน จนลูกสาวอย่างเคอร์รีไม่เคยสงสัย จนกระทั่งตำรวจเคาะประตูบ้านในวันธรรมดาวันหนึ่ง หนังนำเสนอผ่านสายตาของเคอร์รีที่ตอนนี้กลายเป็นนักกิจกรรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เธอเล่าถึงการค้นพบไดอารี่ของพ่อที่เต็มไปด้วยรายละเอียดน่าขนลุก และการเผชิญหน้ากับพ่อครั้งแรกในคุกหลัง 18 ปี ซึ่งเผยให้เห็นด้าน BTK ที่แท้จริง

สารคดีนี้ดึงดูดเพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องฆาตกร แต่เป็นเรื่องของการสูญเสียตัวตนและการสร้างใหม่ เคอร์รีเคยเขียนหนังสือ A Serial Killer’s Daughter ในปี 2019 เพื่อระบายความรู้สึก และหนังเรื่องนี้ขยายจากตรงนั้น ผสมภาพเก่า สัมภาษณ์นักสืบ และฟุตเทจสอบสวน ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังนั่งฟังเรื่องจริงจากปากคนในครอบครัว มันชวนคิดว่าถ้าความจริงแบบนี้เกิดขึ้นกับใครสักคน จะรับมือยังไง?

My Father, the BTK Killer เล่าเรื่องเดนนิส เรเดอร์ ชายที่เกิดปี 1945 ในวิชิต้า รัฐแคนซัส ชีวิตวัยเด็กดูปกติ แต่พอโตขึ้นเขากลายเป็นคนที่หลงใหลในความรุนแรง คดีแรกคือการสังหารครอบครัวโอเทโรทั้งสี่คนในปี 1974 โดยบุกเข้าไปมัด ทรมาน แล้วฆ่าแบบโหดร้าย เขาเริ่มส่งจดหมายเย้ยหยันตำรวจและสื่อ โดยใช้ชื่อ BTK เพื่ออธิบายวิธีการของตัวเอง ซึ่งทำให้ชาววิชิต้าตกอยู่ในความหวาดกลัวนานนับทศวรรษ ระหว่างนั้น เรเดอร์ทำงานปกติ เป็นสามีพ่อลูกที่ดี และเป็นผู้นำชุมชนโบสถ์ลูเธอรัน จนไม่มีใครจินตนาการได้ว่าเขาคือฆาตกร

เคอร์รี รอว์สัน วัย 26 ปีตอนพ่อถูกจับ กลายเป็นจุดศูนย์กลางของสารคดี เธอจำได้ว่าพ่อเคยสร้างบ้านต้นไม้ สอนตกปลา และให้รถสเตชั่นแวนคันเก่าที่เธอขับตอนมัธยม แต่ต่อมาเธอรู้ว่ารถคันนั้นเคยถูกใช้ขนศพของโดโลเรส เดวิส เหยื่อรายสุดท้ายในปี 1991 ที่ถูกมัดแล้วบีบคอ หนังนำเสนอผ่านมุมมองของเธอที่ค่อยๆ เปิดเผยความทรงจำน่าขนลุก เช่น การที่พ่อหายตัวไปบ่อยๆ โดยไม่มีคำอธิบาย หรือไดอารี่ที่เต็มไปด้วยแผนการฆ่า มันเหมือนกับการเปิดกล่องปริศนาที่ซ่อนความจริงมานานกว่า 30 ปี ทำให้ครอบครัวทั้งหมดพังทลายลงในพริบตา

นอกจากนี้ หนังยังเจาะลึกคดีอื่นๆ ของ BTK เช่น การฆ่าคาธารีน ไบรท์ในปี 1974 ที่เธอต่อสู้ดิ้นรนจนรอดมาได้แต่พี่ชายถูกฆ่า หรือเหยื่อรายอื่นๆ ที่ถูกเลือกเพราะอยู่บ้านคนเดียว เรเดอร์ชอบขโมยของส่วนตัวอย่างกางเกงในหรือบัตรขับขี่เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก สารคดีใช้ภาพร่างและจดหมายจริงของเขาเพื่อแสดงให้เห็นถึงจิตใจที่บิดเบี้ยว แต่สิ่งที่โดดเด่นคือการไม่โฟกัสแค่ฆาตกร แต่เน้นผลกระทบต่อลูกสาวที่ต้องเรียนรู้ที่จะเรียกพ่อว่า “สัตว์ร้าย”

เคอร์รี รอว์สัน คือดาวเด่นของสารคดีนี้ เธอเล่าเรื่องด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงแต่เต็มไปด้วยอารมณ์ ไม่มีฉากที่ดูเว่อร์หรือเล่นบทเหยื่อ แต่เป็นการแบ่งปันจริงใจจากคนที่เคยเขียนหนังสือเล่าเรื่องตัวเองเพื่อเยียวยา การสัมภาษณ์เธอในเรือนจำกับพ่อปี 2023 เป็นไฮไลต์ที่ชวนขนลุก เพราะนั่นคือครั้งแรกที่เธอเห็นด้าน BTK ชัดๆ หลังจากหลีกเลี่ยงการพบหน้ามานาน มันเหมือนกับการเผชิญหน้ากับเงามืดในใจตัวเอง ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความขัดแย้งภายในที่ซับซ้อน

ส่วนเดนนิส เรเดอร์ ปรากฏผ่านฟุตเทจเก่าและภาพสอบสวน เขายอมรับผิดทั้ง 10 คดีในปี 2005 และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต 10 กระทบในเรือนจำเอลโดราโด รัฐแคนซัส สารคดีไม่ทำให้เขาเป็นฮีโร่ แต่ใช้ภาพเขาในชีวิตปกติ เช่น เวลาเป็นผู้นำลูกเสือ เพื่อตัดกันกับความโหดร้าย นักสืบที่สัมภาษณ์เล่าว่าการจับกุมเกิดจากจานดิสก์ที่เขาส่งให้สื่อในปี 2004 ซึ่งมีร่องรอยนำไปสู่โบสถ์ที่เขาทำงาน และ DNA จากตัวเคอร์รีที่ตำรวจได้มาจากการตรวจสุขภาพของเธอโดยบังเอิญ

การเล่าเรื่องโดยผู้กำกับสกาย บอร์กแมน ไหลลื่นและไม่ยืดเยื้อ ความยาวแค่ 1 ชั่วโมง 33 นาที แต่ครบทุกมุม ไม่มีฉากที่น่าเบื่อหรือข้ามได้ หนังผสมภาพเก่า จดหมาย และการวาดภาพของเรเดอร์ เพื่อสร้างบรรยากาศตึงเครียด เหมือนกำลังดูเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่สคริปต์แต่ง มันชวนให้คิดถึงคดีดังอย่างในซีรีส์ Mindhunter ที่เคยเอ่ยถึง BTK แต่ที่นี่ลึกซึ้งกว่าด้วยมุมครอบครัว

สารคดีนี้สำรวจธีมชีวิตสองหน้าของมนุษย์ที่ดูปกติแต่ซ่อนความมืดเอาไว้ เดนนิส เรเดอร์ เป็นตัวอย่างของคนที่ใช้บทบาทสังคมปกปิดปีศาจภายใน เขาเคยหยุดฆ่าตั้งแต่ปี 1979 จนกลับมาอีกในปี 2004 ด้วยจดหมายใหม่ที่จุดประกายการสืบสวนอีกครั้ง หนังชี้ให้เห็นว่าความหวาดกลัวในวิชิต้าครอบคลุมนานแค่ไหน และยังมีคดีเย็นที่อาจเชื่อมโยงกับ BTK ในรัฐโอคลาโฮมาและมิสซูรี ที่ตำรวจกำลังตรวจสอบจากภาพวาดโรงนาในสมุดของเขา

สำหรับเคอร์รี การค้นพบทำให้เธอต้องต่อสู้กับบาดแผลทางใจ เธอเล่าว่าต้องตัดขาดพ่อ แต่ยังคงส่งจดหมายเพื่อเข้าใจจิตใจเขา สารคดีแสดงให้เห็นการเยียวยาของเธอผ่านการช่วยเหลือเหยื่ออื่นๆ และการพูดในที่สาธารณะ มันเหมือนกับการเดินทางจากความมืดสู่แสงสว่าง ที่ทำให้ผู้ชมตั้งคำถามว่าครอบครัวของฆาตกรต้องเจ็บปวดแค่ไหน และสังคมควรรับฟังมุมมองพวกเขายังไง

นอกจากนี้ หนังยังพูดถึงผลกระทบต่อชุมชนและเหยื่อ เช่น ครอบครัวโอเทโรที่ถูกฆ่าทั้งหมด หรือโดโลเรส เดวิสที่ศพถูกทิ้งใต้สะพาน 13 วัน มันไม่ใช่แค่เล่าคดี แต่สะท้อนว่าความยุติธรรมมาช้าแค่ไหน และ DNA ช่วยจับกุมได้ยังไงในยุคนั้น สิ่งเหล่านี้ทำให้สารคดีมีมิติลึก เหมาะสำหรับคนที่ชอบเรื่องจริงแนวอาชญากรรมที่ทำให้คิด

My Father, the BTK Killer เป็นสารคดีที่ทรงพลังเพราะมันไม่ตัดสิน แต่เปิดให้เห็นความจริงดิบๆ จากมุมลูกสาวที่เคยรักพ่อ มันแสดงให้เห็นว่าความชั่วร้ายสามารถซ่อนในคนใกล้ตัวได้ และการเยียวยาหลังความจริงเปิดเผยต้องใช้เวลานานแค่ไหน เดนนิส เรเดอร์ ยังถูกขังตลอดชีวิต แต่เรื่องราวของเคอร์รีคือเครื่องเตือนใจว่าครอบครัวเหยื่อก็ต้องการความเข้าใจไม่แพ้กัน

ใครที่ชอบสารคดีแนวทรูไครม์อย่าง Making a Murderer หรือ The Keepers เรื่องนี้ตอบโจทย์แน่นอน เพราะมันผสมความตื่นเต้นจากการสืบสวนกับดราม่าครอบครัวได้ลงตัว ลองดูแล้วมาคิดทบทวนว่าชีวิตสองหน้าของคนรอบตัวมีจริงไหม? แชร์ความเห็นในคอมเมนต์ว่าสารคดีนี้ทำให้รู้สึกยังไง และอย่าลืมแชร์ให้เพื่อนที่สนใจเรื่องฆาตกรต่อเนื่อง อาจช่วยจุดประกายการสนทนาที่มีสาระ

สุดท้าย สารคดีนี้ย้ำว่าความยุติธรรมอาจมาช้า แต่ DNA และความกล้าหาญของคนอย่างเคอร์รีช่วยปิดคดีได้ มันชวนให้หวังว่าคดีเย็นอื่นๆ จะได้รับการแก้ไข ดูจบแล้วคงนอนไม่หลับ คิดถึงความลับที่อาจซ่อนอยู่ในบ้านตัวเอง

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: My Father, the BTK Killer
• ประเภท: สารคดี, ทรูไครม์, ดราม่าครอบครัว
• วันที่ออกฉาย: 10 ตุลาคม 2568
• ผู้บรรยายหลัก: เคอร์รี รอว์สัน (Kerri Rawson)
• ผู้กำกับ: สกาย บอร์กแมน (Skye Borgman)
• ความยาว: 1 ชั่วโมง 34 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 6.3/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix