รีวิวซีรีส์ฝรั่ง

[รีวิว-เรื่องย่อ] อัมสเตอร์ดัม เอ็มไพร์ | Amsterdam Empire (2025)

  • Amsterdam Empire เป็นซีรีส์ที่สร้างจากไอเดียดั้งเดิมเกี่ยวกับการหย่าและการแย่งชิงธุรกิจกัญชาในอัมสเตอร์ดัมสมัยใหม่
  • การแสดงของ Famke Janssen ในบท Betty โดดเด่นด้วยความแค้นที่สมจริงและฉากแก้แค้นที่ตึงเครียด
  • ซีรีส์เจาะลึกธีมความทรยศในครอบครัวและโลกใต้ดินของยาเสพติดที่ถูกกฎหมาย
  • ผู้สร้าง Nico Moolenaar และทีมนำเสนอเรื่องราวที่ผสมดราม่าครอบครัวกับความตึงเครียดแบบอาชญากรรม

เคยคิดไหมว่าชีวิตที่ดูสมบูรณ์แบบในเมืองแสงสีอย่างอัมสเตอร์ดัม จะพังทลายลงเพราะเรื่องความรักนอกใจแค่นั้น? ซีรีส์ Amsterdam Empire (2025) จาก Netflix พาไปดื่มด่ำกับดราม่าครอบครัวที่รุนแรงสุดขีด เมื่อเจ้าพ่อธุรกิจร้านกาแฟกัญชา The Jackal ต้องเผชิญหน้ากับภรรยาที่พร้อมทำลายทุกอย่างที่เขาสร้างมา เรื่องราวเกิดขึ้นในอัมสเตอร์ดัมที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ แต่ซ่อนความมืดมิดของโลกยาเสพติดที่ถูกกฎหมายไว้เบื้องหลัง

ตัวเอกอย่าง Jack van Doorn เจ้าของอาณาจักร ร้านกาแฟกัญชา ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ชีวิตพลิกผันเมื่อความสัมพันธ์ลับกับนักข่าวสาว Marjolein ถูกเปิดเผย Betty ภรรยาที่เคยเป็นนักร้องป๊อปสตาร์ เปลี่ยนจากสาวสังคมสุดหรูให้กลายเป็นปีศาจแก้แค้น เธอรู้ทุกความลับของสามี และพร้อมใช้มันเพื่อแย่งชิงทุกอย่าง รวมถึงธุรกิจที่ Jack รักยิ่งกว่าชีวิต ซีรีส์นี้ไม่ใช่แค่เรื่องหย่า แต่เป็นสงครามที่โหดร้าย ผสมผสานความสนุกแบบวัยรุ่นชาวเน็ตที่ชอบดราม่าจัดเต็ม

บทความนี้จะพาเจาะลึกทุกมุมของ Amsterdam Empire ตั้งแต่พล็อตที่ชวนลุ้น ตัวละครที่ซับซ้อน ไปจนถึงธีมที่สะท้อนสังคมอัมสเตอร์ดัมจริงๆ มาดูกันว่าเรื่องนี้จะทำให้ใจเต้นรัวได้แค่ไหน และทำไมถึงเป็น must-watch สำหรับแฟนซีรีส์ดราม่าครอบครัวที่ต้องการอะดรีนาลีนแบบนี้

Amsterdam Empire (2025) #1

รีวิวและเรื่องย่อ Amsterdam Empire (จักรวรรดิอัมสเตอร์ดัม)

Amsterdam Empire เล่าเรื่องราวของ Jack van Doorn ชายที่สร้างอาณาจักร The Jackal ร้านกาแฟกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในอัมสเตอร์ดัม จากคนธรรมดาให้กลายเป็นมหาเศรษฐีชื่อดัง ชีวิตดูเพอร์เฟกต์ จนกระทั่งเรื่องนอกใจกับ Marjolein Hofman นักข่าวชื่อดังถูกเปิดโปง Betty Jonkers ภรรยาที่เคยทิ้งอาชีพนักร้องเพื่อตามสามี กลับกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจ เธอไม่ยอมแพ้เรื่องหย่าแบบเงียบๆ แต่เลือกทางเดินแก้แค้นที่ดุเดือด ใช้ความรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายของ Jack มาทำลายเขาให้สิ้นซาก

ซีรีส์เริ่มต้นด้วยฉากยิงกันสุดช็อกที่ทำให้ Jack ล้มลงเลือดอาบ ก่อนย้อนเวลากลับไปหนึ่งเดือนเพื่อเล่าความจริงเบื้องหลัง Betty โกรธแค้นสุดขีดเมื่อรู้ว่าสามีมีลูกกับชู้รัก เธอเริ่มแผนโดยบุกไปเผชิญหน้าที่เรือนกระจกปลูกกัญชาลับของ Guido เพื่อนสนิท Jack จากนั้นสั่งลูกสาว Katja ไปเก็บของผิดกฎหมายที่ซ่อนไว้ทั่วเมือง สถานการณ์ยิ่งร้อนแรงเมื่อ Betty ขู่ว่าจะแย่ง The Jackal ทั้งหมด ถ้า Jack ไม่ยอมเซ็นหย่าแบบที่เธอต้องการ เรื่องราวเต็มไปด้วยการหักหลังที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังดูเกมหมากรุกที่แต่ละฝ่ายเดินหน้าแบบไม่ยั้ง

ไม่ใช่แค่ดราม่าสามีภรรยา แต่ซีรีส์ยังแทรกเรื่องครอบครัวที่ซับซ้อนเข้าไป Katja ลูกสาวของ Jack ที่ชื่นชอบพ่อมาก เริ่มลังเลเมื่อ Betty ชักจูงให้เธอทรยศเพื่อควบคุมธุรกิจ มันเหมือนกับการต่อสู้ระหว่างความรักในครอบครัวกับความทะเยอทะยานที่พุ่งพล่าน ซีรีส์แสดงให้เห็นว่าอัมสเตอร์ดัมไม่ได้มีแค่คลองสวยๆ กับจักรยาน แต่ยังมีด้านมืดของอุตสาหกรรมกัญชาที่เต็มไปด้วยคู่แข่งและตำรวจที่คอยจับตา ทำให้ทุกการตัดสินใจของตัวละครเสี่ยงอันตรายยิ่งขึ้น

Famke Janssen ในบท Betty Jonkers คือดาวเด่นที่ขโมยซีนทุกตอน เธอเปลี่ยนจากภรรยาที่ดูสงบสุขให้กลายเป็นนักแก้แค้นที่ชาญฉลาดและโหดเหี้ยม ฉากที่เธอใช้เทคโนโลยีบุกบ้านชู้รักผ่านลำโพงและทีวี ทำให้รู้สึกขนลุก เหมือนดูตัวร้ายในหนังสติลเลอร์ที่แต่ละแผนการแสบสันแบบวัยรุ่นชอบแชร์ในโซเชียล Janssen ยังเป็นโปรดิวเซอร์บริหาร ทำให้ตัวละครมีมิติลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่ผู้หญิงโกรธ แต่เป็นคนที่เจ็บปวดจากความทรยศจริงๆ การแสดงของเธอผสมความตลกเข้ากับความน่ากลัวได้อย่างลงตัว

Jacob Derwig รับบท Jack van Doorn ได้สมจริงในฐานะเจ้าพ่อที่เข้มแข็งแต่มีจุดอ่อน เขาสร้าง The Jackal มาจากศูนย์ ด้วยความมุ่งมั่นและไหวพริบ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับ Betty ที่รู้จุดอ่อนทุกอย่าง Jack ต้องต่อสู้เพื่อปกป้องมรดกที่เขารัก ฉากที่เขาต้องแข่งกัน “เกาะติด” คู่แข่งอย่าง Victor Löw เพื่อชิงพันธมิตร แสดงให้เห็นด้านเจ้าเล่ห์ของเขาได้ดี มันทำให้ผู้ชมรู้สึกเห็นใจแม้เขาจะเป็นฝ่ายผิด แต่ Derwig ถ่ายทอดความเป็นผู้นำที่ทำให้ธุรกิจกัญชาดูเท่และน่าหลงใหล

Elise Schaap ในบท Marjolein Hofman นักข่าวสาวที่กลายเป็นตัวจุดชนวนดราม่า เธอไม่ใช่แค่ชู้รักธรรมดา แต่เป็นคนที่กล้าท้าทายระบบ ด้วยการสัมภาษณ์ที่แสบสันและการตั้งครรภ์ที่ทำให้ Betty ยิ่งเดือด ตัวละครนี้เพิ่มความซับซ้อนให้เรื่อง เพราะเธอไม่ใช่เหยื่อ แต่เป็นส่วนหนึ่งของเกมการเมืองในวงการสื่อ Jade Olieberg ในบท Katja ลูกสาวที่ต้องเลือกระหว่างพ่อกับอำนาจ ก็แสดงได้น่าปวดใจ โดยเฉพาะฉากที่เธอลังเลจะทรยศเพื่อควบคุมธุรกิจ ทำให้เห็นว่าความสัมพันธ์พ่อลูกในโลกนี้เปราะบางแค่ไหน

Amsterdam Empire (2025) #2

Amsterdam Empire เจาะลึกธีมการแก้แค้นที่มาจากความรักที่พังทลาย เหมือนคำกล่าวเก่าๆ ที่ว่า “นรกไม่มีไฟร้อนเท่าผู้หญิงที่ถูกทรยศ” ซีรีส์แสดงให้เห็นว่าธุรกิจกัญชาในอัมสเตอร์ดัมที่ดูสนุกสนาน แต่จริงๆ แล้วเต็มไปด้วยความเสี่ยง จากการปลูกผิดกฎหมายไปจนถึงคู่แข่งที่พร้อมหักหลัง มันสะท้อนสังคมจริงที่การขายกัญชาถูกกฎหมาย แต่การผลิตจำนวนมากยังเป็นเรื่องต้องหลบๆ ซ่อนๆ ทำให้เรื่องราวมีความสมจริงและชวนคิด

ด้านเทคนิค การถ่ายทำในอัมสเตอร์ดัมจริงๆ ทำให้ซีรีส์ดูมีชีวิตชีวา ฉากในร้านกาแฟ The Jackal ที่ตั้งใกล้ย่านโคมแดง สร้างบรรยากาศที่ผสมความหรูหรากับความมืดมิดได้ดี เสียงประกอบที่ตึงเครียดช่วยเพิ่มความลุ้น โดยเฉพาะฉากในห้องพิจารณาคดีที่ตัวละครเมา LSD หรือฉากแอ็คชั่นในกระท่อมที่ชวนใจเต้น บทเขียนของ Nico Moolenaar ผสมดราม่าครอบครัวกับอาชญากรรมได้กลมกล่อม แม้บางตอนจะขาดความเข้มข้น แต่โดยรวมแล้วมันคือการศึกษาความโหดร้ายของมนุษย์ที่สนุกแบบไม่ต้องลงทุนอารมณ์มาก

ซีรีส์ยังมีจุดเด่นที่การแสดงด้านมืดของตัวละครทุกคน ไม่มีใครดีหรือเลวสนิท ทำให้ผู้ชมไม่รู้จะเชียร์ใคร มันเหมือนเกมที่ทุกคนมีจุดอ่อน และการทรยศสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ธีมนี้ชวนให้คิดถึงชีวิตจริงที่ความทะเยอทะยานในธุรกิจมักทำลายความสัมพันธ์ ถ้าซีซั่นสองมา จะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดได้ดีกว่านี้แน่ เพราะ The Jackal ยังคงล่าเหยื่อต่อไป

Amsterdam Empire (2025) #3

Amsterdam Empire คือซีรีส์ที่ทำให้เห็นว่าอาณาจักรที่สร้างมาด้วยเลือดเนื้อ จะพังลงได้ง่ายแค่ไหนจากเรื่องส่วนตัวแค่นั้น มันไม่ใช่แค่ดราม่าหย่า แต่เป็นภาพสะท้อนของอัมสเตอร์ดัมที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และอันตราย ตัวละครอย่าง Betty ที่แก้แค้นอย่างชาญฉลาด และ Jack ที่ต้องปกป้องมรดก สร้างเรื่องราวที่ชวนลุ้นและน่าคิด ท้ายที่สุด ซีรีส์เตือนว่าความโกรธแค้นอาจนำไปสู่จุดจบที่ไม่มีใครชนะ

เรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบซีรีส์แนวอาชญากรรมผสมดราม่าครอบครัวแบบไม่ต้องคิดเยอะ แต่ได้อะดรีนาลีนจัดเต็ม การแสดงของ Famke Janssen ยกระดับให้เรื่องดูมีพลัง และธีมธุรกิจกัญชาทำให้รู้สึกสดใหม่ ถ้าชอบ Weeds หรือ Revenge ต้องลองดู ลองนั่งดูทั้ง 7 ตอน แล้วมาคิดดูว่าถ้าเป็นตัวเอง จะจัดการกับการทรยศยังไง

อย่าพลาดที่จะดู Amsterdam Empire บน Netflix แล้วมาแชร์ในคอมเมนต์ว่าชอบฉากไหนที่สุด หรือคิดว่า Betty ทำถูกไหม แชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ติดซีรีส์ดราม่าแสบๆ กันเถอะ แล้วรอซีซั่นสองที่อาจจะยิ่งเดือดกว่านี้!

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: จักรวรรดิอัมสเตอร์ดัม
  • ประเภท: ดราม่า, อาชญากรรม, ระทึกขวัญ
  • วันที่ออกฉาย: 30 ตุลาคม 2568
  • นักแสดงนำ: Famke Janssen, Jacob Derwig, Elise Schaap, Jade Olieberg, Yannick van de Velde
  • ผู้สร้าง: Nico Moolenaar, Bart Uytdenhouwen, Piet Matthys
  • ความยาว: 7 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 6.2/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button