รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่น

[รีวิว-เรื่องย่อ] บ้านนี้เราเลือกเอง | Chosen Home (2025)

  • Chosen Home เป็นซีรีส์ที่สร้างจากมังงะญี่ปุ่น เกี่ยวกับการรวมตัวของครอบครัวชั่วคราวที่เต็มไปด้วยความเข้าใจผิดและเสียงหัวเราะ
  • การแสดงของยูอิ คิชิดะ ในบทฮาตาโนะ เจเน็ตชิ แสดงความขี้อายและความพยายามอย่างน่ารัก แต่บางฉากดูเกินจริง
  • ซีรีส์เจาะลึกธีมความรัก ช่องว่างวัย และการสร้างครอบครัวในสังคมสมัยใหม่
  • ผู้กำกับนำเสนอเรื่องราวที่ช้าแต่มีศักยภาพ หากตอนต่อๆ ไปเร่งจังหวะได้ดีกว่านี้

เคยลองนึกภาพไหมว่าชีวิตจะเป็นยังไงถ้าต้องรวมตัวกับคนแปลกหน้าที่อายุต่างกันตั้ง 12 ปี แล้วยังมีเด็กสาววัย 15 มาขอให้เป็นพ่อชั่วคราวอีก? Chosen Home (2025) ซีรีส์ญี่ปุ่นจาก Netflix พาไปดูเรื่องราวอบอุ่นแต่ชวนงงของ ฮาตาโนะ เจเน็ตชิ ชายหนุ่มขี้อายที่เป็นเกย์ อยากหาคู่ครองและบ้านหลังใหม่ แต่การเดตแต่ละครั้งกลับไม่จุดประกายอะไรสักคน ชีวิตพลิกผันเมื่อเขาเจอ ซาคุตะ ซาคุ ครูมัธยมที่ดูสงบและไม่สนใจเรื่องความรักในวัยลองผิดลองถูกแบบนี้

เรื่องราวเริ่มจากฮาตาโนะที่พยายามชวนซาคุตะมาอยู่ด้วยกัน โดยเสนอไอเดียซื้อบ้านหลังใหม่เพราะซาคุตะยังไม่มีที่อยู่ถาวร แต่เจ้าตัวกลับโกรธจัดและปฏิเสธอย่างแรง ราวกับถูกดูถูกความรู้สึกตัวเอง แล้วยังมี คุซุโนกิ โฮตารุ เด็กสาววัย 15 ที่ขาดครอบครัวแท้ๆ มาขอร้องให้ฮาตาโนะแกล้งเป็นพ่อและผู้ปกครองชั่วคราว สิ่งที่ฮาแตกคือซาคุตะดันเป็นครูของโฮตารุซะด้วย พอถึงเวลาตรวจบ้านนักเรียน ก็กลายเป็นการพบกันแบบงงๆ ชวนขำขัน

ซีรีส์เรื่องนี้มีเสน่ห์ตรงไอเดียครอบครัวที่เกิดจากความบังเอิญ เหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นแปลกๆ มาประกบกันโดยไม่คาดคิด แต่จะว่าไป มันยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ บทความนี้จะพาเจาะลึกทุกมุมของ Chosen Home ตั้งแต่ตัวละครหลัก การเล่าเรื่องที่ชวนง่วง ไปจนถึงข้อความที่ซ่อนอยู่ มาดูกันว่าเรื่องนี้จะพาไปหัวเราะรึน้ำตาซึมได้แค่ไหนในสังคมญี่ปุ่นที่เน้นความสัมพันธ์แบบไม่คาดฝัน

Chosen Home (บ้านนี้เราเลือกเอง)

รีวิวและเรื่องย่อ Chosen Home (บ้านนี้เราเลือกเอง)

Chosen Home เล่าเรื่องการรวมตัวของสมาชิกครอบครัวที่ไม่น่าเป็นไปได้บนพื้นฐานของความเหงาและความปรารถนาในชีวิตที่ดีกว่า ตัวเอกหลักคือ ฮาตาโนะ เจเน็ตชิ ชายหนุ่มวัยกลางคนที่ขี้อายและเป็นเกย์ เขาใฝ่ฝันอยากมีคู่ชีวิตและบ้านหลังเป็นของตัวเอง แต่การพบปะกับคนที่อาจเป็นคู่เดตแต่ละครั้งกลับจืดชืด ไม่มีประกายไฟอะไรเลย ชีวิตของเขาดูเหมือนจะวนเวียนอยู่กับความผิดหวัง จนกระทั่งโอกาสบังเอิญพาเขาไปเจอกับ ซาคุตะ ซาคุ ครูสอนมัธยมที่อายุน้อยกว่า 12 ปี ซาคุตะมีบุคลิกสงบเสงี่ยม ไม่ชอบรีบร้อนเรื่องความรัก เพราะเชื่อว่าวัยนี้คือช่วงทดลองผิดลองถูก เรียนรู้จากความล้มเหลว

ทั้งสองคนต่างกันสุดขั้ว ฮาตาโนะดูงุ่มง่าม ขี้อาย และตื่นเต้นง่าย เหมือนเด็กที่เพิ่งค้นพบโลกใหม่ ในขณะที่ซาคุตะกลับเยือกเย็นและเงียบขรึม ไม่เห็นความจำเป็นต้องเร่งรีบเข้าสู่ความสัมพันธ์ใดๆ แทนที่จะยอมแพ้ ฮาตาโนะกลับคิดแผนแหวกแนว โดยชวนซาคุตะมาซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน เพราะรู้ว่าซาคุตะยังไม่มีที่อยู่อาศัยถาวร แนวคิดนี้ฟังดูน่ารักในแบบของเขา แต่สำหรับซาคุตะ มันกลับจุดชนวนความโกรธและความรังเกียจอย่างรุนแรง ราวกับถูกมองว่าเป็นแค่ทางเลือกชั่วคราว ไม่ใช่คนที่สมควรได้รับความรักจริงจัง

แล้วโฮตารุก็เข้ามาเติมสีสัน คุซุโนกิ โฮตารุ เด็กสาววัย 15 ปีที่ขาดครอบครัวที่อบอุ่นมาตลอด เธอใฝ่ฝันอยากมีพ่อแม่ที่ดูแลเอาใจใส่ และบังเอิญเจอฮาตาโนะเข้า เธอจึงเกลี้ยกล่อมให้เขาแกล้งเป็นพ่อและผู้ปกครองชั่วคราว สิ่งที่ทำให้เรื่องราวซับซ้อนขึ้นคือซาคุตะคือครูประจำชั้นของโฮตารุ พอถึงเวลาตรวจบ้านนักเรียนตามปกติ การพบกันของทั้งสามคนก็กลายเป็นสถานการณ์ชวนอึดอัดและฮาแตก ราวกับละครคอมเมดี้ที่ตัวละครหลุดมาจากโลกต่างมิติ

เรื่องย่อของซีรีส์นี้เต็มไปด้วยโมเมนต์น่ารักและตลก แต่การนำเสนอยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ จังหวะเรื่องช้ามาก แม้ตอนแรกจะเพิ่งออกมาแค่ตอนเดียว แต่ก็ยังไม่สร้างความประทับใจได้เท่าที่หวัง เนื้อเรื่องมีศักยภาพในการสำรวจความสัมพันธ์ที่ไม่สมมาตร แต่กลับไม่ขุดลึกพอ บทสนทนาดูจืดชืด ไม่ค่อยมีพลัง ดูไปสักพักอาจรู้สึกเบื่อ โดยเฉพาะตัวละครฮาตาโนะที่ได้เวลาหน้าจอเยอะเกิน จนเริ่มน่ารำคาญ เหมือนดูคนงุ่มง่ามวนซ้ำๆ ไม่มีอะไรใหม่

Chosen Home (บ้านนี้เราเลือกเอง)

ตัวละครแต่ละตัวใน Chosen Home ถูกสร้างสรรค์ให้สะท้อนปัญหาสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ เริ่มจาก ฮาตาโนะ เจเน็ตชิ ที่รับบทโดย ยูอิ คิชิดะ ชายหนุ่มที่ดูขี้อายและพยายามหาความรักในแบบของตัวเอง การแสดงของคิชิดะน่ารักในบางฉาก โดยเฉพาะตอนที่เขาพยายามชวนซาคุตะ แต่บางทีก็ดูเกินจริง ราวกับกำลังเล่นละครเวทีมากกว่าซีรีส์ชีวิตจริง เขาใช้เวลาหน้าจอเยอะเพื่อแสดงความกังวลภายใน แต่กลับทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าตัวละครนี้น่าเบื่อ ไม่ค่อยมีพัฒนาการที่น่าติดตาม

ส่วน ซาคุตะ ซาคุ ที่ เคนทาโร่ ซาคาโมโตะ แสดงไว้อย่างนิ่งๆ สงบเสงี่ยม เหมาะกับบุคลิกครูหนุ่มที่ไม่รีบร้อนเรื่องความรัก เขาเชื่อว่าช่วงวัยนี้คือเวลาทดลอง เรียนรู้จากความผิดพลาด การแสดงของซาคาโมโตะช่วยให้ตัวละครดูน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะฉากที่เขาปฏิเสธข้อเสนอซื้อบ้านของฮาตาโนะ ดูโกรธและรังเกียจอย่างจริงใจ แต่ก็ยังขาดความลึกซึ้งที่จะทำให้ผู้ชมเอาใจช่วยมากกว่านี้ ราวกับตัวละครยังไม่สมบูรณ์ เหมือนกำลังรอตอนต่อไปให้พัฒนา

โฮตารุ วัย 15 ปี รับบทโดยนักแสดงเด็กที่สดใส เธอเป็นตัวเชื่อมโยงทั้งเรื่อง ด้วยความปรารถนาอยากมีครอบครัว การแสดงของเธอเต็มไปด้วยความไร้เดียงสาและความมุ่งมั่น ชวนให้นึกถึงเด็กสาวที่กำลังหาที่ยึดเหนี่ยวในโลกที่เย็นชา สถานการณ์ที่เธอขอให้ฮาตาโนะเป็นพ่อชั่วคราว แล้วดันเจอครูตัวเองในบ้านนั้น ก็กลายเป็นจุดฮาที่ทำให้เรื่องไม่น่าเบื่อสนิท แต่โดยรวม การแสดงทั้งสามคนยังดูโอเวอร์ในบางจุด เหมือนผู้สร้างพยายามยัดเยียดอารมณ์มากเกินไป

การแสดงสมทบอื่นๆ อย่างเพื่อนหรือญาติของตัวละครหลัก ช่วยเติมสีสันให้เรื่องไม่ว่างเปล่า แต่ซีรีส์ยังขาดเคมีระหว่างนักแสดงนำ ทำให้ความสัมพันธ์ดูไม่เป็นธรรมชาติ ราวกับทุกคนกำลังเล่นบทแยกกัน ไม่เชื่อมโยง ถ้าตอนต่อๆ ไปปรับจังหวะได้ ตัวละครเหล่านี้อาจกลายเป็นไฮไลต์ที่ทำให้ติดงอมแงม

Chosen Home (บ้านนี้เราเลือกเอง)

Chosen Home เจาะลึกธีม ครอบครัวที่เลือกเอง ในสังคมที่โครงสร้างแบบดั้งเดิมกำลังสั่นคลอน เรื่องราวสะท้อนว่าความรักและความสัมพันธ์ไม่จำเป็นต้องมาจากเลือดเนื้อ แต่เกิดจากความเข้าใจและการยอมรับซึ่งกันและกัน ฮาตาโนะที่เป็นเกย์ในวัยกลางคน ต้องเผชิญช่องว่างวัยกับซาคุตะ และความรับผิดชอบต่อโฮตารุที่ขาดครอบครัว มันชวนคิดว่าบ้านที่แท้จริงคือที่ที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย ไม่ใช่แค่กำแพงและหลังคา

ซีรีส์ยังสำรวจความขัดแย้งภายใน เช่น ซาคุตะที่ปฏิเสธความรักเพราะกลัวความล้มเหลวในวัยทดลอง หรือฮาตาโนะที่พยายามชดเชยความเหงาด้วยแผนแปลกๆ ข้อความเหล่านี้เหมือนกระจกสะท้อนสังคมญี่ปุ่น ที่คนหนุ่มสาวหลายคนรู้สึกโดดเดี่ยวท่ามกลางแรงกดดันจากงานและความคาดหวัง แต่การนำเสนอยังช้าเกินไป ทำให้ธีมไม่ค่อยโดนใจ ราวกับกำลังเล่าเรื่องช้าๆ โดยไม่เร่งจังหวะให้ตื่นเต้น

นอกจากนี้ เรื่องยังแตะประเด็น LGBTQ+ ผ่านตัวฮาตาโนะ อย่างละมุนละม่อม ไม่ดราม่าหนัก แต่ก็ไม่ลึกพอที่จะสร้าง impact ใหญ่ มันชวนถามว่าความรักระหว่างคนต่างวัยจะยั่งยืนได้ไหมในโลกที่เต็มไปด้วยอคติ หากผู้สร้างขุดลึกกว่านี้ ซีรีส์อาจกลายเป็นกระแสได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้ มันยังดูเหมือนเรื่องเบาสมองที่ขาดพลังขับเคลื่อน

โดยรวม ธีมเหล่านี้มีศักยภาพสูง ถ้าตอนต่อๆ ไปเพิ่มความเข้มข้น เรื่องราวอาจกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนดูคิดทบทวนชีวิตตัวเอง ว่าครอบครัวที่แท้คืออะไรกันแน่

Chosen Home (บ้านนี้เราเลือกเอง)

จุดเด่นของ Chosen Home อยู่ที่ไอเดียเรื่องครอบครัวชั่วคราวที่ชวนยิ้มและสะท้อนชีวิตจริง ฉากพบกันครั้งแรกของทั้งสามคนดูฮาและน่ารัก โดยเฉพาะปฏิกิริยาของซาคุตะที่โกรธจัดตอนถูกชวนซื้อบ้าน มันเหมือนคอมเมดี้เบาๆ ที่ผสมดราม่าครอบครัว การถ่ายทำในญี่ปุ่นยังสวยงาม เน้นบรรยากาศบ้านหลังเล็กๆ ที่อบอุ่น ชวนให้นึกถึงชีวิตประจำวันแบบเรียบง่าย

แต่จุดด้อยชัดเจนคือจังหวะเรื่องที่ช้ามาก ตอนแรกไม่ค่อยสร้างความประทับใจ เนื้อเรื่องดูงงๆ โดยเฉพาะพัฒนาการของฮาตาโนะที่วนลูปซ้ำๆ จนเบื่อ บทสนทนาขาดความคมคาย ไม่ค่อยมีตอนที่ตลกจนหัวเราะลั่น การแสดงบางครั้งดูโอเวอร์เกิน เหมือนกำลังบังคับอารมณ์ให้ผู้ชมรู้สึกตาม ถ้าดูเพลินๆ อาจหลุดสมาธิได้ง่าย

สำหรับคำแนะนำ ถ้าชอบซีรีส์แนวอบอุ่นแบบญี่ปุ่น ลองรอตอนต่อๆ ไปดูว่ามันจะดีขึ้นไหม แต่ถ้าอยากเรื่องสนุกกว่า แนะนำดูอย่างอื่นที่จังหวะเร็วและมีเนื้อหาเข้มข้นกว่านี้ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะกับคนที่ชอบเรื่องช้าๆ สไตล์ฮีลลิ่ง แต่สำหรับวัยรุ่นเน็ตที่ชอบอะไรตื่นเต้น อาจไม่ใช่ตัวเลือกแรก

Chosen Home (2025) เป็นซีรีส์ที่เริ่มต้นด้วยแนวคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสร้างครอบครัวจากคนแปลกหน้า แต่การเล่าเรื่องยังช้าและไม่ค่อยน่าติดตาม ทำให้ตอนแรกดูจืดชืดไปหน่อย ตัวละครอย่างฮาตาโนะ ซาคุตะ และโฮตารุ มีเสน่ห์ในความแตกต่าง แต่ต้องการพัฒนาการที่ลึกซึ้งกว่านี้เพื่อให้ผู้ชมเอาใจช่วยจริงๆ ถ้าผู้สร้างปรับจังหวะและบทสนทนาให้คมขึ้น เรื่องนี้มีโอกาสกลายเป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ใน Netflix ได้สบาย

สุดท้าย ใครที่กำลังมองหาเรื่องราวอบอุ่นหัวใจ ลองให้โอกาส Chosen Home สักตั้ง ถ้าชอบแล้ว มาคุยกันในคอมเมนต์ว่าชอบตัวละครไหนที่สุด หรือแชร์ให้เพื่อนๆ ที่หลงรักซีรีส์ญี่ปุ่นบ้างนะ อย่าลืมติดตามตอนใหม่ๆ ด้วย เผื่อมันจะพลิกเกมได้!

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: บ้านนี้เราเลือกเอง
  • ประเภท: ดราม่า, คอมเมดี้, ครอบครัว
  • วันที่ออกฉาย: 12 ตุลาคม 2568
  • นักแสดงนำ: ยูอิ คิชิดะ (Yui Kishida) ในบทฮาตาโนะ เจเน็ตชิ, เคนทาโร่ ซาคาโมโตะ (Kentarō Sakamoto) ในบทซาคุตะ ซาคุ, นักแสดงเด็กในบทโฮตารุ
  • ความยาว: 10 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb:
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

กดเพื่ออ่านต่อ

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button