รีวิวซีรีส์ฝรั่ง

[รีวิว-เรื่องย่อ] กลบความจริง | Cover-Up (2025)

  • Cover-Up เป็นหนังสารคดีเกี่ยวกับ Seymour Hersh นักข่าวสืบสวนระดับตำนานวัย 88 ปี ผู้เปิดโปงเรื่องฉาวของรัฐบาลอเมริกามากว่า 50 ปี
  • สารคดีเล่าถึงการรายงานข่าวสำคัญ ตั้งแต่เหตุการณ์สังหารหมู่ที่ หมู่บ้านหมีลาย การทิ้งระเบิดลับที่กัมพูชา Watergate ไปจนถึงการทรมานนักโทษที่ Abu Ghraib
  • กำกับโดย Laura Poitras ผู้กำกับสารคดี CITIZENFOUR รางวัลออสการ์ ร่วมกับ Mark Obenhaus
  • หนังได้รับคะแนน Rotten Tomatoes สูงถึง 100% และ Metacritic 85 คะแนน

เคยสงสัยไหมว่าข่าวใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์อเมริกาถูกเปิดโปงได้ยังไง? ตั้งแต่เรื่องฉาวในสงครามเวียดนามไปจนถึงการทรมานนักโทษในอิรัก ข่าวเหล่านี้ไม่ได้มาจากแถลงการณ์ของรัฐบาล แต่มาจากนักข่าวสืบสวนผู้ไม่ยอมจำนนต่ออำนาจ Cover-Up (2025) หนังสารคดีจาก Netflix พาเราเจาะลึกเข้าไปในชีวิตของ Seymour Hersh นักข่าวรางวัลพูลิตเซอร์ผู้ทำให้ประธานาธิบดีหลายคนปวดหัว และยังคงทำงานอย่างแข็งขันแม้อายุจะล่วงเข้า 88 ปีแล้ว สารคดีเรื่องนี้กำกับโดย Laura Poitras ผู้กำกับ CITIZENFOUR รางวัลออสการ์ ร่วมกับ Mark Obenhaus ที่จะพาเราย้อนดูการต่อสู้เพื่อความจริงตลอด 5 ทศวรรษของนักข่าวตำนานคนนี้

Cover-Up เปิดเรื่องด้วยการให้เราได้เห็น Seymour Hersh ในปัจจุบัน นั่งคุยโทรศัพท์กับแหล่งข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ในกาซา แม้จะอายุปาเข้าไปเกือบ 90 แล้ว แต่จิตวิญญาณของนักข่าวสืบสวนยังคงลุกโชนอยู่ น้ำเสียงของเขามีความหนักแน่นและมั่นใจ เป็นน้ำเสียงที่พัฒนามาจากการทำงานกับข่าวที่ต้องการความสนใจอย่างเร่งด่วนมาหลายสิบปี ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับตัวเขาตอนหนุ่ม ที่เคยตกใจมากเมื่อได้ยินแฟนสาวบอกว่าพ่อของเธอเรียกประธานาธิบดีว่า “ไอ้เลว” เพราะตอนนั้นเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนเราพูดถึงประธานาธิบดีแบบนั้นได้

Hersh รู้มาตลอดว่าตัวเองเขียนหนังสือเก่ง แต่เขาถูก “ค้นพบ” อย่างจริงจังตอนเรียนในวิทยาลัยชุมชน เมื่อเขาเขียนงานเปรียบเทียบนิยายอังกฤษกับนิยายอเมริกัน อาจารย์ประทับใจมากจนส่งเขาไปเรียนต่อที่ University of Chicago โลกทัศน์ของเขาเปิดกว้างขึ้นอย่างมาก หนังสือสอนให้เขาคิด และหลังจากทำงานเป็นเด็กส่งเอกสารที่ City News Bureau of Chicago ไม่นาน เขาก็ถูกเลื่อนตำแหน่งเป็นนักข่าวอาชญากรรม เมื่อ Hersh เล่าถึงจุดเริ่มต้นของอาชีพ มันให้ความรู้สึกเหมือนว่าเขาถูกกำหนดมาให้ทำอาชีพนี้ตั้งแต่แรก บางคนมีพรสวรรค์มากจนสิ่งต่างๆ ดูเหมือนจะจัดวางตัวเองให้พวกเขาไปถึงเป้าหมาย

เมื่อถูกถามว่าทำไมพ่อถึงเลือกให้เขามาดูแลร้านแทนที่จะส่งไปเรียนต่ออย่างพี่ชาย Hersh ตอบว่าเขาถูกมองว่าเหมาะกับงานนี้เพราะมี pizzazz หรือความสามารถในการพูดคุยกับคน ความสามารถนี้แหละที่ช่วยให้เขาได้รับความไว้วางใจจากแหล่งข่าวระดับสูง บวกกับความเป็นนักข่าวที่กดดันให้ความจริงต้องถูกเปิดเผย ไม่แปลกที่บางคนยกย่องเขาในขณะที่บางคนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก Hersh เองก็ไม่มีปัญหาที่จะยอมรับข้อบกพร่องและจุดอ่อนของตัวเอง เขาตระหนักรู้ถึงขีดจำกัดของตัวเองดี

สารคดีพาเราย้อนดูผลงานชิ้นสำคัญของ Hersh ตั้งแต่การเปิดโปงเหตุการณ์ สังหารหมู่ที่หมู่บ้านหมีลาย (My Lai Massacre) ในสงครามเวียดนาม การทิ้งระเบิดลับที่กัมพูชา โครงการสอดแนมภายในประเทศของ CIA ไปจนถึงเรื่องอื้อฉาว Watergate และการทรมานนักโทษที่ Abu Ghraib ในช่วงสงครามต่อต้านการก่อการร้ายของอเมริกา แต่ละเรื่องล้วนเป็นข่าวที่รัฐบาลพยายามปกปิด และ Hersh ต้องต่อสู้กับกำแพงขวางกั้นมากมายเพื่อนำความจริงมาเปิดเผย หนังมีคลิปเสียงของ ประธานาธิบดี Nixon บ่นกับ Henry Kissinger ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติว่า Hersh เป็น “ไอ้ลูกหมา” แต่ก็ยอมรับว่าเขามักจะถูกต้องเสมอ

Laura Poitras และ Mark Obenhaus ทำหน้าที่ได้ดีในการนำเสนอภาพรวมที่ครบถ้วนของตัว Hersh ทั้งด้านดีและด้านที่มีข้อโต้แย้ง แต่ถ้าจะมีข้อติชม ก็คงเป็นเรื่องของสไตล์การทำหนังที่ค่อนข้างธรรมดาและเซฟเกินไป ส่วนใหญ่หนังเหมือนนำภาพจากคลังมาต่อกันแล้วใส่เสียงบรรยายของ Hersh ที่อัดในสตูดิโอเป็นแบ็กกราวนด์ วิธีการนี้ทำให้พลังของสารคดีลดลง ทำให้โปรเจกต์ทั้งหมดดูปลอดภัย เชื่อง และย่อยง่ายเกินไป น้ำเสียงที่ Poitras และ Obenhaus ใช้เล่าเรื่องนี้ไม่ค่อยเข้ากับน้ำเสียงของตัว Hersh เอง ผลลัพธ์คือ Cover-Up เป็นหนังที่ “ใช้ได้” แต่ทำให้เรารู้สึกอยากได้สารคดีที่มีความเป็นต้นฉบับ กล้าเสี่ยง และเต็มไปด้วยแพสชันเหมือนนักข่าวที่การเสี่ยงเป็นธรรมชาติที่สองของเขา

แม้สไตล์การเล่าจะธรรมดาไปหน่อย แต่เนื้อหาของ Cover-Up ยังคงมีพลังและสำคัญมากในยุคที่ เสรีภาพสื่อ กำลังถูกคุกคาม หนังทำให้เราตั้งคำถามว่านักข่าวสืบสวนแบบ Hersh ยังมีอยู่อีกไหมในวงการสื่อปัจจุบัน ในยุคที่สื่อกระแสหลักมักจะใกล้ชิดกับอำนาจมากเกินไป และการรายงานข่าวเจาะลึกแบบที่ต้องใช้เวลาและความอดทนมหาศาลกำลังหายไป Hersh วัย 88 ปียังคงเขียนรายงานข่าวบน Substack อยู่ และสารคดีเรื่องนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าการรายงานข่าวที่กล้าหาญและไม่ย่อท้อต่ออำนาจนั้นสำคัญเพียงใดต่อสังคมประชาธิปไตย

Cover-Up (2025) เป็นหนังสารคดีที่น่าสนใจสำหรับใครที่อยากรู้จักกับ Seymour Hersh นักข่าวสืบสวนตำนานผู้เปิดโปงความลับของรัฐบาลอเมริกามากว่าครึ่งศตวรรษ แม้สไตล์การเล่าจะค่อนข้างธรรมดาไปหน่อย แต่เนื้อหาก็ยังคงทรงพลังและมีความสำคัญในยุคที่เสรีภาพสื่อกำลังถูกท้าทาย ใครที่ชื่นชอบ หนังสารคดีแนวการเมืองและประวัติศาสตร์ หรือ หนัง Netflix Original ที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง ห้ามพลาดเรื่องนี้เลย มาแชร์ความคิดเห็นกันในคอมเมนต์ว่าหนังเรื่องนี้ทำให้รู้สึกยังไงเกี่ยวกับบทบาทของสื่อในสังคม และอย่าลืมแชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ ที่สนใจเรื่องการเมืองและประวัติศาสตร์อเมริกาด้วยนะ!

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: กลบความจริง
  • ประเภท: สารคดี, ประวัติศาสตร์
  • วันที่ออกฉาย: 26 ธันวาคม 2568 (Netflix)
  • ผู้กำกับ: ลอร่า พอยทราส (Laura Poitras), มาร์ก โอเบนเฮาส์ (Mark Obenhaus)
  • ผู้ผลิต: Praxis Films, Plan B
  • ความยาว: 1 ชั่วโมง 57 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 7.5/10
  • Rotten Tomatoes: 100%
  • Metacritic: 85/100
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button