รีวิวซีรีส์ไทย

[รีวิว-เรื่องย่อ] ไขคดีเป็น เห็นคดีตาย | Dare You to Death (2025)

  • ซีรีส์พยายามผสมผสานระหว่างคดีฆาตกรรมกับความโรแมนซ์ของสองนักสืบ แต่ล้มเหลวในการสร้างเคมีที่เชื่อได้ระหว่างตัวละครหลัก
  • การแสดงของนักแสดงดูเหมือนกำลังซ้อมบทมากกว่าการแสดงจริง พร้อมด้วยบทสนทนาที่ขาดความเป็นธรรมชาติและมีช่วงหยุดที่อึดอัด
  • การผลิตเป็นแบบทีวีทั่วไป ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ในการกำกับภาพหรือการตัดต่อที่น่าประทับใจ
  • คดีฆาตกรรมที่ควรจะเป็นแกนหลักกลับกลายเป็นเรื่องรองที่ไม่ค่อยน่าสนใจ และขาดความซับซ้อนที่ดึงดูดผู้ชม

เคยเจอซีรีส์ที่เริ่มต้นด้วยฉากชายหล่อขับรถขวางทางตำรวจหนุ่ม แล้วพอเจอหน้ากันครั้งแรกก็เกิดความรักสายฟ้าแลบไหม? Dare You to Death (2025) คือซีรีส์สืบสวนสอบสวนที่พยายามสานเรื่องราวความรักระหว่างสองนักสืบเข้ากับคดีฆาตกรรมลึกลับ แต่สิ่งที่ได้กลับกลายเป็นผลงานที่มีปัญหาในหลายด้าน ตั้งแต่การแสดงที่ขาดความเป็นธรรมชาติ ไปจนถึงบทสนทนาที่ฟังดูเหมือนกำลังอ่านบทมากกว่าสนทนากัน

ซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องของ คามิน แสดงโดย ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ นักสืบหนุ่มที่เพิ่งกลับจากต่างประเทศ กับ เจด แสดงโดย อาเชน ไอย์ดึน ตำรวจท้องถิ่นที่ต้องมาทำงานร่วมกัน แต่แทนที่จะได้เห็นเคมีที่ลงตัว กลับได้รับบทสนทนาที่เต็มไปด้วยช่วงหยุดที่อึดอัดและการแสดงที่ดูเหมือนกำลังซ้อมบท มาดูกันว่าซีรีส์เรื่องนี้มีปัญหาอะไรบ้าง และมันคุ้มค่าที่จะลงเวลาดูจริงหรือไม่

Dare You to Death (2025) #1

ตอนแรกของ Dare You to Death มีความยาวถึง 47 นาที แต่รู้สึกเหมือนส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการแนะนำตัวคามินด้วยการถ่ายสโลว์โมชั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราได้เห็นเขานั่งอยู่ในรถ ขวางทางไม่ให้เจดแซงผ่าน และเมื่อเจดซึ่งเป็นตำรวจรู้สึกหงุดหงิด ก็สัญญาณให้คามินจอดรถข้างทางเพื่อสอนบทเรียน

แต่แล้วเมื่อเจดมองเห็นหน้าคามิน สายฟ้าก็แลบ เกิดความรักทันทีทันใด และเนื่องจากเจดเป็นตำรวจ เขาจึงจีบคามินด้วยน้ำเสียงเข้มงวดแบบผู้ตรวจการ ถามว่าไม่รู้จักขับรถหรืออย่างไร ก่อนที่จะส่งใบสั่งให้ แต่คามินไม่ได้กลัวเครื่องแบบสักนิด ตลอดฉากเขายังคงสงบเสมอ แน่นอนว่าแบบนี้ เขาคงไม่ใช่คนธรรมดา

แล้วเขาเป็นใครล่ะ? ถ้าเรากำลังถามคำถามนี้ แสดงว่ายังไม่ได้ดูตอนแรกแน่ๆ เพราะคำตอบนั้นชัดเจนเจ็บตาจนทำให้อดกลอกตาไม่ได้ เมื่อคามินกลายเป็นนักสืบใหม่ที่ เรียนจบจากต่างประเทศ สิ่งที่น่าสนใจคือเจดไม่ได้รู้สึกตกใจกับข้อมูลนี้สักเท่าไร ถ้าคามินสงบเสมอในการพบกันครั้งแรก เจดก็ใช้สีหน้าเฉยเมยแบบเดียวกันในการเผชิญหน้ากันครั้งนี้

“การเผชิญหน้า” น่าจะเป็นคำที่เหมาะสมสำหรับปฏิสัมพันธ์ระหว่างเจดและคามิน พวกเขาไม่ได้สนทนากัน แต่เหมือนกำลังต่อสู้กันด้วยวาจาผ่านการแซวแซ่และความเสียดสี เหมือนคู่รักที่กำลังล้อเล่นกันในเกมยั่วยวนที่ยืดเยื้อ อยากให้การแลกเปลี่ยนที่จี้จุดนี้ให้ผลลัพธ์ที่เร่าร้อน แต่แทนที่จะได้เห็นอย่างนั้น ด้วย การแสดงที่ไม่เป็นธรรมชาติ และช่วงหยุดที่อึดอัด Dare You to Death กลับกลายเป็นผลงานที่ดูเหมือนนักแสดงกำลังซ้อมบทแบบอัตโนมัติ

มันเจ็บปวดเกือบจะดูไม่ไหวเมื่อคามินและเจดพยายามจีบกัน แต่แทนที่จะได้รับเคมีที่ลงตัว กลับมีแต่ความเงียบที่อึดอัดระหว่างพวกเขา หลังจากสักพัก เราอาจเริ่มสงสัยว่าเราจะหาของที่นักศึกษาในเรื่องดื่มเพื่อทำให้หมดสติได้ที่ไหน ปัญหานี้ขยายไปสู่ซีรีส์ทั้งเรื่องด้วย

Dare You to Death เป็นซีรีส์ที่ทำมาสำหรับทีวี ดังนั้นเตรียมพบกับสัญญาณเสียงที่บอกว่าฉากนี้เป็นดราม่าหรือตลก กล้องแค่บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และนักแสดงก็พูดทวนสิ่งที่บทเขียนไว้ บางทีแทนที่จะมองหาฆาตกร เจดและคามิน—และทีมนักแสดงทั้งหมด—ควรจะพยายามค้นหานักแสดงที่อยู่ภายในตัวเองก่อน หรือที่ดีกว่านั้นคือ ควรหาผู้กำกับที่มีความสามารถจริงๆ

การกำกับภาพและการตัดต่อก็เป็นอีกจุดที่น่าผิดหวัง ฉากต่างๆ ดูเหมือนถูกต่อเข้าด้วยกันแบบไม่มีความคิดสร้างสรรค์ และไม่มีมุมมองที่น่าสนใจ การใช้แสงและสีสันก็เป็นแบบมาตรฐานของซีรีส์ทีวีทั่วไป ไม่มีอะไรที่โดดเด่นหรือสร้างอารมณ์ได้จริงๆ

หนึ่งในปัญหาใหญ่ของซีรีส์เรื่องนี้คือบทสนทนาที่ฟังดูไม่เป็นธรรมชาติ คามินและเจดพูดคุยกันเหมือนกำลังอ่านบทออกเสียง ไม่มีความรู้สึกที่แท้จริงหรือความลื่นไหลในการสนทนา ทุกคำพูดดูเหมือนถูกวางแผนมาล่วงหน้า และไม่มีความเป็นธรรมชาติของการสนทนาจริง บทพยายามสร้างความตลกขบขันผ่านการแซวแซ่ แต่กลับไม่ตลกเพราะการจังหวะเวลาและการแสดงออกไม่ลงตัว

การเขียนตัวละครก็มีปัญหาเช่นกัน คามินถูกนำเสนอเป็นนักสืบที่เจ๋งและเก่งกาจ แต่เราไม่เห็นอะไรที่พิสูจน์ความสามารถของเขาจริงๆ เจดก็เป็นตำรวจที่ดูเหมือนจะตกหลุมรักคามินทันที แต่เราไม่รู้ว่าทำไมหรือมีอะไรที่ดึงดูดเขาจริงๆ นอกจากความหล่อ

Dare You to Death (2025) #2

สำหรับซีรีส์สืบสวนสอบสวน คดีฆาตกรรมควรจะเป็นแกนหลักที่ดึงดูดผู้ชม แต่ใน Dare You to Death คดีกลับกลายเป็นเรื่องรองที่ดูเหมือนถูกใส่เข้ามาเพื่อให้มีเหตุผลให้คามินและเจดต้องอยู่ด้วยกัน เรื่องราวไม่มีความซับซ้อนหรือความลึกลับที่ทำให้อยากติดตามจริงๆ การค้นหาเบาะแสและการสืบสวนก็ทำแบบผิวเผิน ไม่มีรายละเอียดหรือความน่าเชื่อถือ

ตัวละครรองที่เกี่ยวข้องกับคดี ไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องสงสัยหรือพยาน ก็ไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเพียงพอ พวกเขาปรากฏตัวเพื่อให้ข้อมูล แล้วก็หายไป ไม่มีความลึกหรือมิติที่ทำให้น่าสนใจ การเปิดเผยความจริงในตอนจบก็ไม่ได้น่าตื่นเต้นหรือน่าประหลาใจ รู้สึกเหมือนแค่กำลังจบเรื่องเพื่อให้จบ

Dare You to Death (2025) พยายามจะเป็นซีรีส์สืบสวนสอบสวนที่ผสมผสานกับโรแมนซ์ แต่กลับล้มเหลวในทั้งสองด้าน การแสดงที่ขาดความเป็นธรรมชาติ บทสนทนาที่ฟังดูเหมือนกำลังอ่านบท และคดีฆาตกรรมที่ไม่น่าสนใจ ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นผลงานที่ดูเพื่อฆ่าเวลามากกว่าดูเพื่อความบันเทิงจริงๆ ถ้ากำลังหาซีรีส์สืบสวนที่มีคุณภาพ อาจจะต้องข้ามเรื่องนี้ไป แต่ถ้าแค่อยากมีอะไรเปิดไว้เป็นเพื่อนในเวลาว่าง ก็พอดูได้

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะดูหรือไม่ ลองดูตอนแรกก่อนแล้วตัดสินใจเอาเองว่ารูปแบบการแสดงและการเล่าเรื่องเหมาะกับความชอบส่วนตัวหรือเปล่า อย่าลืมแชร์ความคิดเห็นในคอมเมนต์ว่ารู้สึกอย่างไรกับซีรีส์เรื่องนี้ หรือมีซีรีส์สืบสวนเรื่องอื่นที่อยากแนะนำไหม!

  • ชื่อเรื่อง: Dare You to Death (ไขคดีเป็น เห็นคดีตาย)
  • ประเภท: สืบสวนสอบสวน, ดราม่า, โรแมนซ์
  • วันที่ออกฉาย: 2025
  • นักแสดงนำ: ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ (คามิน), อาเชน ไอย์ดึน (เจด)
  • ความยาว: 10 ตอน
  • ช่องทางการดู: Netflix

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button