[รีวิว-เรื่องย่อ] คำสั่งลาสุดท้าย: ดร.เจน กูดอลล์ | Famous Last Words: Dr. Jane Goodall (2025)

• Famous Last Words เป็นรายการสัมภาษณ์ไอคอนก่อนตาย เพื่อให้พูดเปิดใจเต็มที่โดยไม่กลัวผลกระทบ
• รายการเน้นความหวังต่อโลก แม้จะวิจารณ์ผู้นำโลกอย่างอีลอน มัสก์และโดนัลด์ ทรัมป์
• คอนเซปต์จากเดนมาร์ก ทำให้การสนทนาลึกซึ้งและน่าขนลุก โดยไม่มีเสียงรบกวนใดๆ

เคยคิดไหมว่าถ้าได้ยินคำพูดสุดท้ายจากคนที่ชื่นชอบ ก่อนที่พวกเขาจะจากไปจริงๆ มันจะรู้สึกยังไง? เหมือนได้กอดลาแบบส่วนตัว แต่สำหรับคนทั้งโลก รายการ Famous Last Words บน Netflix พาไปสัมผัสโมเมนต์นั้น ผ่านการสัมภาษณ์ดร.เจน กูดอลล์ นักสัตว์วิทยาในตำนานที่เพิ่งจากไปเมื่อสัปดาห์ก่อนวัย 91 ปี เธอนั่งจิบวิสกี้อย่างสงบ พูดถึงชีวิตตั้งแต่เด็กจนถึงความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย คอนเซปต์นี้ไม่ใช่เรื่องหลอน แต่กลับอบอุ่น เหมือนได้ฟังเรื่องราวจากปู่ย่าที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ

รายการนี้เริ่มจากไอเดียเรียบง่ายแต่ฮิตมาก สัมภาษณ์คนดังโดยออกอากาศหลังจากพวกเขาเสียชีวิตเท่านั้น ทำให้เปิดใจได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลดราม่า ดร.กูดอลล์ถ่ายทำเมื่อมีนาคมปีนี้ ประมาณ 7 เดือนก่อนจากไป ฟุตเทจเก็บไว้ลับสุดยอด จนกว่าจะถึงวันนั้น Netflix ปล่อยตอนแรกนี้ทันทีหลังข่าวเศร้า ใครที่ชอบเรื่องจริงจากไอคอนโลก ต้องไม่พลาด เพราะมันไม่ใช่แค่สัมภาษณ์ แต่เป็นมรดกคำพูดที่ทิ้งไว้ให้รุ่นหลัง

บทความนี้จะพาไปเจาะลึกทุกมุมของ Famous Last Words: Dr. Jane Goodall ตั้งแต่คอนเซปต์ที่ชาญฉลาด การสนทนาที่น่าประทับใจ ไปจนถึงข้อคิดที่ทำให้คิดถึงชีวิตตัวเอง มาดูกันว่ารายการนี้จะจุดประกายความหวังในโลกที่วุ่นวายได้ยังไง

Famous Last Words มาจากซีรีส์เดนมาร์กชื่อ The Last Word ที่ออนแอร์ไปแล้ว 7 ตอน แต่เวอร์ชัน Netflix นี้ปรับให้เข้ากับสไตล์อเมริกัน โดยพิธีกรอย่างแบรด ฟัลชุก (Brad Falchuk) ผู้อยู่เบื้องหลังโปรเจกต์ดังๆ อย่าง Glee นั่งคุยกับไอคอนคนสำคัญ คอนเซปต์หลักคือถ่ายทำล่วงหน้า แล้วเก็บไว้จนกว่าจะเสียชีวิตจริงๆ ทำให้การพูดคุยไหลลื่น ไม่มีแรงกดดันจากโลกภายนอก รายการยาวไม่เกิน 60 นาที เพื่อโฟกัสแต่เนื้อหาสำคัญ ไม่มีเสียงเพลงประกอบหรือคนดูรบกวน แค่บทสนทนาสองคนที่ดังชัดเจนจนขนลุก

กฎยิบย่อยของรายการนี่แหละที่ทำให้พิเศษ เช่น การถ่ายทำเก็บเป็นความลับสุดยอด กล้องทั้งหมดควบคุมรีโมทจากภายนอก ไม่มีทีมงานในห้อง เพื่อให้แขกรู้สึกปลอดภัยที่จะพูดทุกอย่าง และช่วง 5 นาทีสุดท้าย พิธีกรจะออกจากห้อง ให้คนถูกสัมภาษณ์พูดคนเดียว เหมือนเมสเซจส่วนตัวถึงโลกทั้งใบ Netflix มีเทปสำรองอีกอย่างน้อย 3 ตอน แต่ไม่บอกว่าเป็นใคร ต้องรอให้เจ้าตัวจากไปก่อน ไอเดียนี้เหมือนกล่องสมบัติที่เปิดได้ตอนเหมาะสม ทำให้ทุกคำพูดมีน้ำหนัก

สำหรับตอนดร.กูดอลล์ มันยิ่งทรงพลังเพราะเธอรู้ดีว่านี่คือช่วงท้ายชีวิต การสนทนาเลยเต็มไปด้วยความจริงใจ ไม่มีฟิลเตอร์ เหมือนนั่งฟังป้าเล่าเรื่องเก่าๆ แต่ลึกซึ้งกว่ามาก รายการนี้ไม่ใช่แค่บันเทิง แต่เป็นเครื่องมือสะท้อนชีวิต เหมาะกับยุคที่ทุกคนรีบร้อนและลืมคิดถึงมรดกตัวเอง

ดร.เจน กูดอลล์ เกิดปี 1934 ในลอนดอน ชีวิตเธอเหมือนนิทานที่กลายเป็นจริง จากเด็กสาวที่หลงรักสัตว์ จนกลายเป็นนักสัตว์วิทยาที่เปลี่ยนโลกด้วยการศึกษาชิมแปนซีในแทนซาเนีย เธอค้นพบว่าลิงพวกนี้มีอารมณ์ คิด และใช้เครื่องมือได้เหมือนมนุษย์ ซึ่งพลิกโฉมวิทยาศาสตร์สมัยนั้น ในรายการ เธอเล่าว่าความฝันเริ่มจากแม่ที่ไม่เคยห้ามเล่นกับหนอนหรือหายตัวไปดูสัตว์เป็นชั่วโมง แม่คนนี้คือกุญแจสำคัญที่ทำให้เธอเชื่อว่าความสนใจของตัวเองมีค่า

ความถ่อมตัวของดร.กูดอลล์น่าประทับใจมาก เธอแปลกใจที่ตัวเองกลายเป็นไอคอนโลก แต่ก็ไม่ลังเลที่จะพูดตรงๆ เกี่ยวกับคนที่เธอไม่ชอบ เช่น อีลอน มัสก์ โดนัลด์ ทรัมป์ วลาดิเมียร์ ปูติน และเบนจามิน เนทันยาฮู เธอหัวเราะบอกว่าอยากให้พวกนี้ขึ้นจรวด SpaceX ไปดาวอื่นซะ เหมือนลิงหัวหน้าฝูงที่ก้าวร้าวเพื่อแย่งชิงอำนาจ ซึ่งเชื่อมโยงกับงานวิจัยของเธอเอง แม้จะไม่ลงลึกเรื่องการเมือง แต่ความรักต่อการอนุรักษ์และวิทยาศาสตร์ชัดเจนมาก มันทำให้เห็นว่าคนที่ผ่านสงครามโลกครั้งที่สองและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังคงมองโลกในแง่ดี

นอกจากนี้ เธอยังแชร์เรื่องลึกลับที่ทำให้รายการมีเสน่ห์ เช่น ความสามารถสื่อสารกับธรรมชาติ เธอเคยขอฝนหยุด แล้วมันหยุดจริงๆ หรือเห็นวิญญาณสามีที่จากไปมาเยี่ยมหลังเสียชีวิต ซึ่งยืนยันความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย เรื่องพวกนี้เหมือนเวทมนตร์ที่ห่อหุ้มชีวิตเธอ ทำให้การสัมภาษณ์ไม่ใช่แค่เล่าเรื่อง แต่เป็นการเดินทางทางจิตวิญญาณที่อบอุ่น

แบรด ฟัลชุก ทำหน้าที่พิธีกรได้ดี แม้จะดูเรียบๆ แต่เขาเคารพดร.กูดอลล์จริงใจ นำบทสนทนาไหลไปเรื่องส่วนตัวอย่างเป็นธรรมชาติ เช่น การแต่งงานสองครั้งที่เธอคิดว่ามันน่าประหลาดใจ และการเป็นแม่ที่ท้าทาย แต่เธอปฏิเสธที่จะบอกชื่อชายที่เคยรักคนหนึ่ง ซึ่งเพิ่มความลึกลับ ห้องบันทึกเรียบง่าย แค่เก้าอี้สองตัวบนเวทีเล็กๆ ไม่มีผู้ชมหรือทีมงาน เพื่อให้เธอสบายใจพูดทุกอย่างโดยไม่ถูกตัดสิน

บรรยากาศรายการเงียบสงบแต่ทรงพลัง เหมือนนั่งฟังเรื่องเล่าตอนดึก ไม่มีเสียงรบกวน ทำให้ทุกคำพูดดังก้อง ช่วงที่เธอเล่าเรื่องดูด้วงดินสองตัวทะเลาะกัน มันสนุกเหมือน gossip บนโซเชียล แต่ลึกซึ้งเพราะเชื่อมโยงกับความรักธรรมชาติของเธอ การไหลจากหัวข้อหนึ่งไปอีกหัวข้อ เช่น จากแม่สู่สัตว์สู่ผู้นำโลก แสดงให้เห็นชีวิตที่เต็มไปด้วยบทเรียน ฟัลชุกไม่ใช่ดาราใหญ่ แต่การที่เขาเป็นคนเบื้องหลังทำให้รายการโฟกัสที่แขก ไม่ใช่พิธีกร

โดยรวม การผลิตทำให้รู้สึกใกล้ชิด เหมือนได้นั่งฟังดร.กูดอลล์เล่าเอง กล้องรีโมทจับทุกมุมโดยไม่รบกวน และการตัดต่อหลังเสียชีวิตใน 48 ชั่วโมง ทำให้สดใหม่ รายการนี้พิสูจน์ว่าความเรียบง่ายสามารถสร้าง impact ได้มาก โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงมรดกชีวิต

รายการนี้ไม่ใช่แค่บันเทิง แต่สะท้อนสัจธรรมชีวิตที่ว่า ทุกคนมีเวลาจำกัด และคำพูดสุดท้ายควรมีค่า ดร.กูดอลล์พูดถึงความหวังต่อโลก แม้จะเห็นความเสียหายจาก climate change แต่เธอยัง optimistic และ progressive เหมือนคนที่ก้าวนำยุคสมัย เธอเชื่อมรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ ผ่านเรื่องราวจากสงครามไปจนถึงสิทธิสตรีในวิทยาศาสตร์ ทำให้เห็นว่าความเมตตาและความอยากรู้อยากเห็นคือกุญแจสู่การเปลี่ยนแปลง

ในช่วง 5 นาทีสุดท้ายที่เธอพูดคนเดียว มัน cinematic สุดๆ เหมือนฉากจบหนังที่ทิ้งความรู้สึกอบอุ่นแต่เศร้า คำพูดของเธอเป็นเมสเซจแห่งความหวัง ให้รุ่นถัดไปดูแลโลกและสัตว์อย่างมีเมตตา มันทำให้คิดถึงชีวิตตัวเอง ว่าถ้าวันหนึ่งมีโอกาสพูดลา จะเลือกบอกอะไร รายการนี้เหมือนกระจกสะท้อนธรรมชาติมนุษย์ ที่แม้จะมีด้านมืดอย่างการก้าวร้าว แต่ก็มีแสงสว่างจากความรักและความเข้าใจ

Famous Last Words: Dr. Jane Goodall คือรายการที่ทำให้หยุดคิดถึงมรดกตัวเอง แม้จะเศร้าที่ดร.กูดอลล์จากไป แต่คำพูดของเธอจะอยู่ตลอดไป ใครที่ชอบเนื้อหาลึกซึ้งเกี่ยวกับชีวิตและธรรมชาติ ต้องดูตอนนี้บน Netflix มันไม่ใช่แค่ดู แต่เป็นการได้เรียนรู้จากไอคอนตัวจริง มาแชร์ในคอมเมนต์ว่าคำพูดไหนที่โดนใจที่สุด และแชร์ให้เพื่อนๆ ที่อยากได้แรงบันดาลใจ โลกต้องการเมสเซจแบบนี้มากขึ้นทุกวัน!

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: คำสั่งลาสุดท้าย: ดร.เจน กูดอลล์
• ประเภท: สัมภาษณ์, ชีวประวัติ, สารคดี
• วันที่ออกฉาย: 3 ตุลาคม 2568
• พิธีกร: แบรด ฟัลชุก (Brad Falchuk)
• แขกหลัก: ดร.เจน กูดอลล์ (Dr. Jane Goodall)
• ความยาว: 55 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 8.2/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix