![[รีวิว-เรื่องย่อ] โลกที่ขวางระหว่างเรา | Maxton Hall – The World Between Us ซีซั่น 2](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Maxton-Hall-Season-2.webp)
- Maxton Hall ซีซั่น 2 กลับมาพร้อมดราม่าที่หนักหน่วงกว่าเดิม เมื่อ Ruby และ James ต้องเผชิญกับความขัดแย้งภายหลังการสูญเสียของแม่ James และการทรยศที่ทำลายความไว้วางใจ
- ซีซั่นนี้ดัดแปลงจากนวนิยาย Save You เล่มที่สองของ Mona Kasten โดยเน้นไปที่การเยียวยาบาดแผลทางใจและการต่อสู้กับอำนาจของครอบครัว Beaufort
- เคมีระหว่าง Harriet Herbig-Matten และ Damian Hardung ยังคงเป็นจุดเด่นที่ทำให้แฟนๆ หลงใหล แม้เรื่องราวจะเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน
- ซีซั่น 3 ได้รับการอนุมัติแล้ว ก่อนที่ ซีซั่น 2 จะออกอากาศ ซึ่งจะเป็นตอนจบของไตรภาคจากนวนิยาย Save Us
เคยคิดไหมว่าความรักที่ดูสมบูรณ์แบบจะพังทลายลงได้เพียงแค่คืนเดียว? Maxton Hall ซีซั่น 2 กลับมาพร้อมกับคำตอบที่จะทำให้หัวใจของเราแหลกสลาย ซีรีส์รักวัยรุ่นจาก Prime Video ที่สร้างสถิติยอดดูสูงสุดสำหรับซีรีส์ต่างชาติของแพลตฟอร์มกลับมาแล้วในซีซั่นที่สอง ซึ่งสัญญาว่าจะทำให้เราต้องเตรียมทิชชูไว้ให้พร้อม
หลังจากที่ Ruby Bell และ James Beaufort ได้มีคืนที่แสนโรแมนติกที่ Oxford และทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปได้ดี ความโศกนาฏกรรมก็เข้ามาทำลายทุกสิ่ง การเสียชีวิตอย่างกะทันหันของแม่ของ James ทำให้เขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง และสิ่งที่เขาทำต่อไปกลายเป็นการทรยศที่ Ruby ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น เมื่อ James จูบ Elaine ต่อหน้า Ruby ในงานปาร์ตี้ที่เขาเมาและเสพยา ความสัมพันธ์ที่เพิ่งเริ่มต้นของทั้งคู่ก็พังทลายลงในพริบตา
ซีซั่นที่สองนี้ดัดแปลงมาจากนวนิยาย Save You เล่มที่สองของ Mona Kasten ผู้แต่งชาวเยอรมันที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลก เรื่องราวจะพาเราไปเจาะลึกความมืดมนในจิตใจของ James ที่กำลังพยายามรับมือกับความสูญเสีย และความเจ็บปวดของ Ruby ที่ถูกทำร้ายจากคนที่เธอให้ความรักไปทั้งหมด คำถามคือ ความรักของพวกเขาจะแข็งแรงพอที่จะผ่านพ้นความทุกข์ทรมานนี้ไปได้หรือไม่? มาดูกันว่า Maxton Hall ซีซั่น 2 จะทำให้เราหัวใจสลายแค่ไหน

รีวิวและเรื่องย่อ Maxton Hall – The World Between Us ซีซั่น 2
Maxton Hall ซีซั่น 2 เริ่มต้นจากจุดที่ ซีซั่น 1 จบลง หลังจากที่ Ruby สอบสัมภาษณ์ที่ Oxford ผ่านและได้มีคืนที่แสนพิเศษกับ James ความสุขของเธอกลับต้องแตกสลายเมื่อรับรู้ข่าวการเสียชีวิตของแม่ของ James ซึ่งเป็น Cordelia Beaufort โศกนาฏกรรมครั้งนี้ไม่เพียงทำลาย James แต่ยังทำลายทุกสิ่งที่เขาและ Ruby สร้างขึ้นมา ภายใต้ความเศร้าโศกและการกดดันจากพ่อ Mortimer Beaufort ที่เกลียดชัง Ruby อย่างสุดซึ้ง James เริ่มหลุดออกจากเส้นทางที่ถูกต้อง
ในช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุด James กลับไปงานปาร์ตี้และดื่มเหล้าจนเมา เขายังเสพยาและจูบ Elaine Ellington ที่ชอบเขามาตลอด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อหน้า Ruby ซึ่งเข้ามาที่งานเพื่อหาเขา ภาพที่เธอเห็นทำให้หัวใจของเธอแหลกสลาย เธอไม่เข้าใจว่าทำไมชายที่เธอรักถึงทำแบบนี้กับเธอได้ ความเจ็บปวดครั้งนี้ทำให้ Ruby ตัดสินใจปฏิเสธ James และพยายามกลับไปใช้ชีวิตเดิมของเธอ ก่อนที่จะรู้จักกับเขา
Ruby รู้สึกเจ็บปวดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธอไม่เคยมีความรู้สึกที่แรงกล้าขนาดนี้กับใครเหมือนที่เธอมีต่อ James และเธอก็ไม่เคยถูกทำร้ายจากใครมากขนาดนี้เช่นกัน เธอต้องการชีวิตเก่าของเธอคืนมา ชีวิตที่ไม่มีใครรู้จักเธอที่ Maxton Hall และไม่ต้องเป็นส่วนหนึ่งของโลกชนชั้นสูงของเหล่านักเรียนที่นั่น แต่เธอก็ลืม James ไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อกลับมาหาเธอ
ซีซั่นนี้ยังคงมีบทบาทสำคัญของ Mortimer Beaufort ที่แสดงโดย Fedja van Huêt พ่อของ James ที่มีอำนาจมหาศาลและเกลียด Ruby เพราะคิดว่าเธอเป็นแค่สาวขุดทอง เขาใช้อิทธิพลของตัวเองเพื่อทำให้ชีวิตของ Ruby ลำบากขึ้น รวมถึงการขัดขวางโอกาสทางการศึกษาของเธอ ความขัดแย้งระหว่างความรักและอำนาจของครอบครัวกลายเป็นแกนหลักของซีซั่นนี้ที่ทำให้เรื่องราวตึงเครียดและเต็มไปด้วยอารมณ์
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Maxton Hall โดดเด่นคือ เคมีระหว่างตัวละครหลัก ที่ยังคงแรงกล้าแม้ว่าจะมีความขัดแย้งมากมาย Harriet Herbig-Matten ในบท Ruby แสดงได้อย่างสมจริงและเต็มไปด้วยอารมณ์ เธอถ่ายทอดความเจ็บปวดของสาวที่ถูกทำร้ายจากคนที่รักได้อย่างน่าเชื่อถือ การแสดงของเธอทำให้เราเห็นว่า Ruby ไม่ใช่แค่ตัวละครที่อ่อนแอ แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งและมีเป้าหมายชัดเจนในชีวิต แม้จะถูกทำลายทางอารมณ์ เธอก็ยังพยายามสานต่อความฝันของตัวเอง
Damian Hardung ในบท James Beaufort แสดงได้โดดเด่นไม่แพ้กัน Hardung ให้สัมภาษณ์ว่า ซีซั่น 2 จะ “มืดมนมาก” สำหรับ James เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในนวนิยาย Save You การแสดงของเขาทำให้เราเห็นว่า James ไม่ใช่แค่เด็กรวยที่เย่อหยิ่ง แต่เป็นคนที่กำลังพยายามรับมือกับความสูญเสียและความกดดันจากครอบครัว เขาทำผิดพลาดอย่างหนัก แต่เขาก็พยายามแก้ไขและกลับมาหา Ruby ด้วยความจริงใจ ความละเอียดอ่อนในการแสดงทำให้เราเห็นใจเขาแม้ว่าจะทำผิด
นอกจากนี้ ซีซั่นนี้ยังมีการพัฒนาตัวละครรอง ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ Lydia Beaufort น้องฝาแฝดของ James ที่แสดงโดย Sonja Weißer ซึ่งกำลังเผชิญกับปัญหาของตัวเอง รวมถึง Lin Wang เพื่อนสนิทของ Ruby ที่แสดงโดย Andrea Guo ซึ่งคอยให้กำลังใจและคำแนะนำแก่ Ruby ในยามที่เธอเจ็บปวดที่สุด ตัวละครเหล่านี้เพิ่มมิติให้กับเรื่องราวและทำให้โลกของ Maxton Hall รู้สึกสมจริงมากขึ้น
แม้ว่า Maxton Hall ซีซั่น 2 จะมีจุดเด่นหลายอย่าง แต่ก็มีข้อเสียที่เห็นได้ชัดเจน ประเด็นแรกคือดราม่าที่ดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นเพื่อกระตุ้นอารมณ์ มากกว่าการพัฒนาเรื่องราวอย่างมีเหตุผล ตัวละครบางตัวทำสิ่งที่ดูโง่เขลาและไร้สาระ เพียงเพื่อสร้างความขัดแย้ง ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกหงุดหงิดมากกว่าเห็นอกเห็นใจ โดยเฉพาะการตัดสินใจของ James ที่จูบ Elaine ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่เครื่องมือในการสร้างดราม่า
Mortimer Beaufort ยังคงเป็นตัวร้ายที่คาดเดาได้ง่ายเกินไป เขาเป็นพ่อที่เกลียดแฟนของลูกชายโดยไม่มีเหตุผลที่สมเหตุสมผลมากนัก แม้ว่าซีรีส์จะพยายามให้เราเห็นด้านมนุษย์ของเขา แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาเป็นตัวละครที่มีมิติ เขายังคงเป็นเพียง “อุปสรรค” ที่คอยขัดขวางความรักของคนหนุ่มสาว ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จที่เห็นได้บ่อยในซีรีส์วัยรุ่น
นอกจากนี้ บางฉากยังรู้สึกล้ำหน้าไปเร็วเกินไป โดยเฉพาะการแก้ปัญหาบางอย่างที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นอย่างง่ายดายเกินไป ตัวอย่างเช่น ความขัดแย้งระหว่าง Ruby และเพื่อนของเธอ Ember ถูกแก้ไขอย่างรวดเร็วโดยไม่มีน้ำหนักทางอารมณ์มากนัก ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นเพียงการ “เช็คลิสต์” มากกว่าการพัฒนาตัวละครอย่างจริงจัง สิ่งเหล่านี้ทำให้ซีซั่นนี้รู้สึกไม่สมดุลและขาดความลึกซึ้งในบางจุด

แม้จะมีข้อบกพร่อง Maxton Hall ซีซั่น 2 ก็ยังคงสื่อสารธีมสำคัญเกี่ยวกับการเยียวยาและการให้อภัย ซีรีส์แสดงให้เห็นว่าการสูญเสียสามารถเปลี่ยนแปลงคนได้อย่างไร และการที่เราจะผ่านพ้นความเจ็บปวดไปได้ ต้องอาศัยความกล้าที่จะเปิดใจและรับความช่วยเหลือ James ต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับความโศกเศร้าและไปพบจิตแพทย์ ซึ่งเป็นข้อความที่สำคัญโดยเฉพาะสำหรับผู้ชายที่มักถูกสอนให้ปิดบังอารมณ์
ซีรีส์ยังพูดถึงความเปราะบางและการแสดงอารมณ์ ว่าเป็นสิ่งที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่ความอ่อนแอ การที่ James ยอมรับว่าเขาต้องการความช่วยเหลือและพยายามแก้ไขความผิดพลาดของเขาเองคือการแสดงออกถึงความกล้าหาญ ในขณะเดียวกัน Ruby ก็เรียนรู้ที่จะตั้งขอบเขตและปกป้องตัวเอง แม้ว่าเธอจะยังรัก James แต่เธอก็ไม่ยอมให้ตัวเองถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ธีมเรื่องอำนาจและชนชั้น ยังคงเป็นแกนหลัก Mortimer แสดงถึงการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมเพื่อควบคุมชีวิตของคนอื่น เขาเห็น Ruby เป็นภัยคุกคามต่อภาพลักษณ์ของครอบครัวและพยายามทำลายเธอ ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นจริงของสังคมที่ชนชั้นและความมั่งคั่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อชีวิตของคน แต่ Ruby แสดงให้เห็นว่าความมุ่งมั่นและความแข็งแกร่งสามารถต่อสู้กับอำนาจเหล่านั้นได้
Maxton Hall ซีซั่น 1 ทำสถิติเป็นซีรีส์ต่างชาติที่มียอดดูสูงสุดในสัปดาห์แรกของ Prime Video ตลอดกาล ซีรีส์นี้ครองอันดับหนึ่งในชาร์ตของ Prime Video ในกว่า 120 ประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เม็กซิโก บราซิล ออสเตรเลีย แคนาดา และแอฟริกาใต้ ความสำเร็จนี้ทำให้ ซีซั่น 2 ได้รับการอนุมัติเพียง 8 วันหลังจาก ซีซั่น 1 ออกอากาศ และไม่นานหลังจากนั้น ซีซั่น 3 ก็ได้รับการอนุมัติเช่นกัน แม้ว่า ซีซั่น 2 จะยังไม่ออกอากาศ
ความนิยมของ Maxton Hall ทำให้นวนิยายต้นฉบับของ Mona Kasten ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษเป็นครั้งแรก หนังสือ Save Me ออกจำหน่ายเป็นภาษาอังกฤษในวันที่ 1 กรกฎาคม 2025 ตามด้วย Save You ในวันที่ 2 กันยายน 2025 และ Save Us ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2025 แฟนๆ ทั่วโลกที่ไม่ได้พูดภาษาเยอรมันในที่สุดก็ได้อ่านเรื่องราวต้นฉบับที่สร้างปรากฏการณ์นี้
ซีรีส์นี้ยังได้รับคะแนนจากผู้ชมสูงถึง 95% บน Rotten Tomatoes ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแฟนๆ รักซีรีส์เรื่องนี้อย่างมาก แม้ว่านักวิจารณ์บางคนจะมองว่าเป็นแค่ซีรีส์วัยรุ่นธรรมดา แต่สำหรับกลุ่มเป้าหมาย Maxton Hall คือเรื่องราวความรักที่พวกเขาต้องการ เต็มไปด้วยอารมณ์ ดราม่า และความโรแมนติกที่ทำให้หัวใจเต้นแรง
การตั้งฉากของ Maxton Hall ยังคงสวยงามและโอ่อ่าเหมือนซีซั่นแรก โรงเรียน Maxton Hall ถ่ายทำที่ปราสาท Marienburg ในเยอรมนี และฉากต่างๆ ใน Oxford ถ่ายทำที่เมือง Potsdam สถาปัตยกรรมแบบยุคกลางและความหรูหราของอาคารช่วยสร้างบรรยากาศของโรงเรียนชนชั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้เราเชื่อว่านี่คือโลกของเหล่าคนรวยที่มีทุกอย่าง
การถ่ายภาพยนตร์ในซีซั่นนี้เน้นไปที่ความตัดกันระหว่างแสงและเงา เพื่อสะท้อนอารมณ์ของตัวละคร ฉากที่ Ruby เดินทางไปงานปาร์ตี้และพบ James กำลังจูบ Elaine ถูกถ่ายทำด้วยแสงสีฟ้าที่สร้างความรู้สึกเย็นชาและเจ็บปวด ในขณะที่ฉากที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขจะใช้แสงที่อบอุ่นและนุ่มนวล การใช้สีและแสงเหล่านี้ช่วยเสริมอารมณ์ของเรื่องราวได้ดี
ดนตรีประกอบ ก็เป็นอีกจุดเด่นหนึ่ง เพลงที่เลือกมาใช้ในแต่ละฉากสอดคล้องกับอารมณ์ของตัวละครอย่างลงตัว โดยเฉพาะฉากที่ Ruby และ James อยู่ในรถด้วยกัน เพลงที่ดังขึ้นสร้างบรรยากาศของความโรแมนติกและความปรารถนาที่พวกเขามีต่อกัน การใช้เพลงป็อปร่วมสมัยทำให้ซีรีส์รู้สึกทันสมัยและเข้าถึงวัยรุ่นได้ง่าย

Maxton Hall ซีซั่น 2 เป็นซีซั่นที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานและดราม่าที่หนักหน่วง ซีรีส์พยายามเจาะลึกเข้าไปในความมืดมนของตัวละครและแสดงให้เห็นว่าความรักต้องผ่านการทดสอบหลายอย่าง แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องบางอย่าง เช่น ดราม่าที่ดูเหมือนถูกสร้างขึ้นเพื่อกระตุ้นอารมณ์และตัวละครที่ทำสิ่งที่ไร้สาระ แต่เคมีระหว่างตัวละครหลักและการแสดงที่ยอดเยี่ยม ก็ช่วยปกปิดข้อบกพร่องเหล่านั้นได้
สำหรับแฟนๆ ที่รัก ซีซั่น 1 ซีซั่นนี้จะไม่ทำให้ผิดหวัง แม้ว่าจะต้องเตรียมใจให้พร้อมกับความเจ็บปวดและน้ำตาที่จะไหล ซีรีส์นี้แสดงให้เห็นว่าความรักไม่ได้เป็นเรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับอุปสรรคจากภายนอกและความเจ็บปวดจากภายใน แต่ถ้าเรายังรักและเชื่อใจกัน เราก็สามารถผ่านพ้นไปได้
ด้วยการที่ ซีซั่น 3 ได้รับการอนุมัติแล้ว เราจะได้เห็นว่าเรื่องราวของ Ruby และ James จะจบลงอย่างไร พวกเขาจะได้อยู่ด้วยกันในที่สุดหรือไม่? คำตอบจะอยู่ในซีซั่นสุดท้ายที่จะดัดแปลงมาจาก Save Us แต่ในตอนนี้ เรามาร่วมเดินทางไปกับพวกเขาในความขัดแย้งและความเจ็บปวดของ ซีซั่น 2 กันก่อน
สำหรับใครที่ชอบซีรีส์รักวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยดราม่า เช่น Heartstopper, The Kissing Booth หรือ After Maxton Hall คือซีรีส์ที่ไม่ควรพลาด แม้จะมีข้อบกพร่อง แต่ซีรีส์นี้ก็สามารถทำให้เราหลงใหลและติดตามไปกับเรื่องราวได้ มาแชร์ความคิดเห็นกันในคอมเมนต์ว่าชอบซีรีส์เรื่องนี้แค่ไหน และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชื่นชอบซีรีส์รักวัยรุ่นด้วย!
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: โลกที่ขวางระหว่างเรา (ซีซั่น 2)
- ประเภท: โรแมนติก, ดราม่า, วัยรุ่น
- วันที่ออกอากาศ: 7 พฤศจิกายน 2025
- นักแสดงนำ: Damian Hardung (James Beaufort), Harriet Herbig-Matten (Ruby Bell), Sonja Weißer (Lydia Beaufort), Fedja van Huêt (Mortimer Beaufort), Andrea Guo (Lin Wang), Runa Greiner (Ember Bell), Justus Riesner (Alistair Ellington), Ben Felipe (Cyril Vega)
- ผู้กำกับ: Martin Schreier
- ผู้แต่งนวนิยาย: Mona Kasten
- จำนวนตอน: 6 ตอน
- ช่องทางการดู: Prime Video
![[รีวิว-เรื่องย่อ] อลิซเลือกรัก | Just Alice (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Just-Alice-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ฝ่าคลื่นทะเลคลั่ง | Heweliusz (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Heweliusz-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] เดอะ มาร์เชียน กู้ตาย 140 ล้านไมล์ | The Martian (2015)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-The-Martian-2015.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ฆาตกรรมรักหลังเขา | Decision to Leave (2022)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-Decision-to-Leave-2022.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ฝ่าคลื่นและสงคราม | In Waves and War (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-In-Waves-and-War-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] สุดยอดคุณครู | The Greatest Teacher (2023)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-The-Greatest-Teacher-2023.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] Last Summer (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Last-Summer-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ดุจลมหายใจที่รวยริน | Breathless ซีซั่น 2](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Breathless-Season-2.webp)