รีวิวซีรีส์ฝรั่ง

[รีวิว-เรื่องย่อ] เกมหลอน ลักพาตาย | Playing Gracie Darling (2025)

  • Playing Gracie Darling เป็นซีรีส์ระทึกขวัญจิตวิทยาที่สร้างบรรยากาศหลอนผ่านภาพสวยงามแต่น่ากลัว และการเล่าเรื่องที่ทำให้สงสัยว่าอะไรคือความจริง
  • การแสดงของมอร์กานา โอไรลี่ในบทโจนี่โดดเด่นที่สุด แสดงความเปราะบางและความกล้าหาญของผู้หญิงที่ต้องเผชิญหน้ากับอดีตได้อย่างน่าเชื่อถือ
  • ซีรีส์เจาะลึกธีมบาดแผลทางใจและความผิดพลาดวัยรุ่นที่ตามหลอกหลอนไปตลอดชีวิต ด้วยการนำเสนอที่ละเอียดอ่อน
  • แม้จะมีจังหวะเนิบช้าบ้างในตอนต้นและความคลุมเครือที่มากเกินไปบ้าง แต่การแสดงที่ยอดเยี่ยมและบรรยากาศที่น่าติดตามทำให้คุ้มค่าแก่การดู

เคยสงสัยไหมว่าทำไมความผิดพลาดสมัยวัยรุ่นถึงตามหลอกหลอนเราไปตลอดชีวิต? โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับเทียนไข ห้องใต้ดินมืดๆ กับเพื่อนสมัยเด็กที่ดันชวนไปเล่นเกมเรียกวิญญาณซะด้วย ซีรีส์ Playing Gracie Darling (2025) บน Netflix จะพาเราไปสัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้อย่างเต็มที่ มันเป็นซีรีส์ที่ทำให้เรานึกถึงพลังงานวัยรุ่นที่บ้าคลั่ง กล้าได้กล้าเสีย และโง่เขลาจนน่ากลัว ในแบบที่คนวัยนั้นคิดว่าเป็นการสานสัมพันธ์กับเพื่อนๆ

เรื่องราวเริ่มต้นจากโจนี่ เกรย์ นักจิตวิทยาเด็กที่ดูเหมือนจะต้องการนักบำบัดจิตมากกว่าลูกค้าของเธอเสียอีก เธอถูกดึงกลับไปยังเมืองเล็กๆ ที่เธอหนีออกมาเมื่อหลายปีก่อน เพราะมีเด็กผู้หญิงอีกคนหายตัวไป และคนในเมืองกลัวว่าประวัติศาสตร์กำลังซ้ำรอย เมื่อหลายสิบปีก่อน เกรซี่ ดาร์ลิง เพื่อนสนิทของโจนี่ หายตัวไปกลางพิธีเรียกวิญญาณที่นำโดยโจนี่วัยรุ่นที่ไม่มีคุณสมบัติอะไรเลยนอกจากความคึกคะนอง บาดแผลที่ฝังลึกนี้กลายเป็นแกนหลักทางอารมณ์ของซีรีส์ และถูกจัดการได้อย่างละเอียดอ่อนน่าประทับใจ

สำหรับใครที่ชอบหนังหรือซีรีส์แนวระทึกขวัญจิตวิทยาที่ทำให้ต้องคิดไตร่ตรอง Playing Gracie Darling คือตัวเลือกที่น่าสนใจ มันไม่ได้พึ่งฉากสยองแบบกระแทกใจ แต่กลับสร้างความหลอนผ่านบรรยากาศ การแสดง และคำถามที่ว่า”อะไรคือความจริง อะไรคือความหลอน?” มาดูกันว่าซีรีส์เรื่องนี้จะพาเราไปสัมผัสกับความมืดมนของจิตใจมนุษย์ได้อย่างไร

รีวิวและเรื่องย่อ Playing Gracie Darling (เกมหลอน ลักพาตาย)

Playing Gracie Darling เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องผ่านสองไทม์ไลน์ที่สลับไปมา ระหว่างปัจจุบันกับอดีตของโจนี่ ในปัจจุบัน เธอเป็นนักจิตวิทยาเด็กที่ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จ แต่ก็เปราะบางและเต็มไปด้วยบาดแผลทางใจที่ไม่เคยหายขาด เมื่อเด็กผู้หญิงอีกคนหายตัวไปในเมืองบ้านเกิดของเธอ โจนี่ถูกดึงกลับไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่เธอพยายามหนีมาตลอด คือความจริงเกี่ยวกับคืนที่เกรซี่หายตัวไป

ในอดีต เราจะได้เห็นโจนี่วัยรุ่นที่กล้าหาญแต่ก็โง่เขลา เธอคือคนที่คิดว่าการเล่นพิธีเรียกวิญญาณเป็นวิธีที่ดีในการทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเกรซี่ถูกนำเสนอด้วยความจริงใจที่ทำให้เราเข้าใจว่าการสูญเสียเพื่อนสนิทในวัยเด็กส่งผลกระทบต่อชีวิตมากแค่ไหน ฉากย้อนอดีตไม่ได้มีแค่ความหวานของมิตรภาพ แต่ยังมีความตึงเครียดและความลึกลับที่ค่อยๆ คลี่คลาย

จังหวะการเล่าเรื่องเริ่มช้าพอสมควร แบบที่ทำให้เราคิดว่า “เราควรจะรู้สึกหนาวไหล่หรือเปล่า หรือว่าคนตัดต่อแค่พักกลางวันนานไปหน่อย?” แต่เมื่อความลึกลับเริ่มคลี่คลาย ซีรีส์ก็ค้นพบจังหวะของมันเอง การที่ความจริงและความทรงจำของโจนี่เบลอเข้าหากันตลอดเวลา ทำให้เรื่องราวมีความรู้สึกลอยนวลและไม่แน่นอน ซึ่งจริงๆ แล้วมันทำให้น่าติดตาม มันเหมือนกับผู้เขียนต้องการให้เราสงสัยทุกฉากย้อนอดีต ทุกบทสนทนากระซิบ ทุกโคมไฟที่กระพริบพอดี

การแสดงคือสิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้โดดเด่นมากที่สุด มอร์กานา โอไรลี่ (Morgana O’Reilly) ในบทโจนี่ให้มิติของตัวละครที่เปราะบาง หลอกหลอน และตลกขบขันในแบบมืดๆ ที่ทำให้เธอน่าสนใจทันที เธอติดอยู่ระหว่างการเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มั่นใจที่ต้องการให้โลกเห็น กับเด็กสาวที่กลัวกลัวที่เธอเคยเป็น มันเป็นการผสมผสานที่ยุ่งเหยิง แต่โอไรลี่แสดงได้อย่างจริงใจจนแม้ว่าโจนี่จะทำสิ่งที่โง่เขลาสุดๆ เช่น ตามเสียงประหลาดไปคนเดียวหรืออ่านบันทึกพิธีเรียกวิญญาณเก่าๆ ตอนกลางคืนเพราะเหมือนเธอเกลียดตัวเอง เราก็ยังเชียร์ให้เธออยู่

นักแสดงสมทบก็แข็งแกร่งไม่แพ้กัน รูดี ดาร์มาลิงแฮม (Rudi Dharmalingam) ในบทนักสืบนำพาความสงสัยที่เหนื่อยล้าเข้ามา ซีเลีย แพ็คควอลา (Celia Pacquola) เพิ่มความสดใสที่จำเป็นเข้ามาในโทนเรื่อง และวัยรุ่นทั้งหลายแสดงได้ยอดเยี่ยมในการถ่ายทอดพฤติกรรมของเด็กยุคใหม่ที่สามารถทำพิธีเรียกวิญญาณได้แต่ก็ยังกังวลเรื่องแบตเตอรี่โทรศัพท์ บทเขียนให้แต่ละคนมีช่วงเวลาที่แสดงอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ซึ่งช่วยให้เรื่องราวรู้สึกมีมิติมากกว่าแค่ความน่าขนลุกเพื่อความน่าขนลุก

การถ่ายภาพยนตร์คือจุดที่ซีรีส์เรื่องนี้ส่องประกายจริงๆ สุนทรียศาสตร์ทั้งหมดร้องตะโกนว่า “สวยงามแต่น่าขนลุก” ด้วยถนนที่มืดมิด ป่าที่เต็มไปด้วยหมอก และภายในที่มีแสงสลัวจนแม้แต่สิ่งของที่ไม่มีอันตรายก็ดูเหมือนถูกสาป ถ้าทีมออกแบบฉากบอกว่าพวกเขานำเข้าหมอกมาจากหนองน้ำผีสางเพื่อความสมจริง เราก็อาจจะเชื่อ ช็อตแบบถือกล้องในช่วงที่โจนี่วิกลจริต เฟรมกว้างสำหรับความลับของเมือง วิธีที่เงามืดเกาะมุมต่างๆ ทุกอย่างช่วยสร้างบรรยากาศที่เกือบจะเป็นตัวละครในตัวมันเอง

แม้จะชอบซีรีส์เรื่องนี้มาก แต่ก็ต้องชี้ให้เห็นจุดด้อยบ้าง ประการแรก ซีรีส์พยายามทำให้ลึกลับมากจนบางครั้งก็ไม่ได้บอกอะไรเราเลย แต่กลับทำเหมือนว่าบอกทุกอย่างแล้ว มีฉากที่ตัวละครพูดประโยคลึกลับอย่าง “รู้ใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น” และเรานั่งตะโกนว่า “ไม่รู้สักหน่อย! นั่นคือเหตุผลที่อยู่ดูนี่! อธิบายหน่อยสิ!” บางการเปิดเผยความจริงก็มาช้าเกินไป หลังจากที่เราหยุดสนใจเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยแล้วและเริ่มตัดสินสามัญสำนึกของตัวละครแทน

นอกจากนี้ยังมีการใช้ความคลุมเครือเหนือธรรมชาติมากเกินไปบ้าง ซีรีส์ต้องการให้เราเดาว่าอะไรคือความจริง ซึ่งดีมาก แต่บางครั้งมันข้ามไปถึงจุดที่ “ผู้เขียนลืมเลือกทิศทางหรือเปล่า?” เส้นเรื่องบางเส้นควรจะได้รับการปิดที่กระชับกว่านี้ หรืออย่างน้อยก็บอกใบ้ว่ามันไม่ได้ถูกลืมไปในควันหมอก อย่างไรก็ตาม แม้จะมีจุดด้อยเหล่านี้ เส้นโค้งอารมณ์ก็ยังคงมั่นคง และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ซีรีส์ยืนหยัดได้ในที่สุด

หนึ่งในแง่มุมที่ชอบที่สุดคือวิธีที่ซีรีส์ปฏิบัติต่อวัยเด็กของเด็กผู้หญิง ไม่ใช่ด้วยความคิดถึงที่หวานชื่น แต่เป็นสิ่งที่เข้มข้น มีพลังไฟฟ้า และบางครั้งก็น่ากลัว ความสัมพันธ์ระหว่างโจนี่กับเกรซี่ถูกนำเสนอด้วยความซื่อสัตย์ที่ดิบเถื่อนจนการสูญเสียนั้นเจ็บปวดแม้แต่ในฉากย้อนอดีต การถ่ายทอดบาดแผลทางใจ ความผิดที่ถูกกดไว้ และวิธีที่ชุมชนเงียบๆ แบกรับเรื่องราวเก่าๆ เพิ่มความลึกซึ้งที่ยกระดับเรื่องราวให้สูงกว่าความระทึกขวัญพื้นผิว

เมื่อตอนสุดท้ายมาถึง ผลตอบแทนก็น่าพอใจพอที่จะให้อภัยการเดินเรื่องที่ว่องไวไปบ้างในช่วงก่อนหน้า การปิดเรื่องไม่ได้เรียบร้อย ซึ่งเข้ากับโทนของมัน แต่มันยอมรับความยุ่งเหยิงทางอารมณ์ที่ซีรีส์สร้างขึ้นมา การเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายของโจนี่กับอดีตของเธอนำมาซึ่งการปิดที่สมเหตุสมผลโดยไม่ได้ผูกทุกอย่างเป็นโบว์ที่สมบูรณ์แบบ มันทำให้คิดถึงวิธีที่ความทรงจำบิดเบือน ความกลัวยืนยง และบางครั้งผีที่น่ากลัวที่สุดคือผีที่เราสร้างขึ้นเอง

Playing Gracie Darling คือซีรีส์ที่มีบรรยากาศดี แสดงได้ดี มีพื้นฐานทางอารมณ์ที่แข็งแกร่ง และสร้างสรรค์อย่างมั่นใจ แน่นอนว่าบางครั้งมันพยายามดูฉลาดมากกว่าจะชัดเจน แต่แม้ในช่วงที่สับสนที่สุด มันก็ไม่เคยน่าเบื่อ ถ้าชอบความลึกลับแบบค่อยเป็นค่อยไป เรื่องจิตวิทยาที่บิดเบือน หรือเรื่องราวเกี่ยวกับความผิดพลาดวัยรุ่นที่หลอกหลอนชีวิตผู้ใหญ่ในแบบที่ชัดเจนที่สุด เรื่องนี้คุ้มค่าแก่การดู และถ้าเคยมีส่วนร่วมในพิธีเรียกวิญญาณตอนวัยรุ่น หวังว่าซีรีส์เรื่องนี้จะนำความสงบสุขมาให้ หรืออย่างน้อยก็อธิบายว่าทำไมชีวิตผู้ใหญ่ถึงรู้สึกถูกสาปนิดๆ

สำหรับใครที่ชอบเรื่องราวที่ทำให้ต้องคิด ไม่พึ่งแค่การผวาแบบกระแทกใจ และอยากได้ดราม่าที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความผิดที่ฝังลึก Playing Gracie Darling จะไม่ทำให้ผิดหวัง มันเป็นซีรีส์ที่จะติดตามใจเราไปอีกนานหลังจากดูจบ เหมือนกับความทรงจำวัยเด็กที่ไม่ยอมจางหาย มาแชร์ความคิดเห็นกันในคอมเมนต์ว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำให้คิดอย่างไรเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีต และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชอบซีรีส์แนวระทึกขวัญลึกลับ!

  • ชื่อเรื่องในภาษาอังกฤษ: Playing Gracie Darling
  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เกมหลอน ลักพาตาย
  • ประเภท: ระทึกขวัญ, ลึกลับ, จิตวิทยา, ดราม่า
  • วันที่ออกฉาย: 2025
  • นักแสดงนำ: Morgana O’Reilly, Rudi Dharmalingam, Celia Pacquola
  • จำนวนตอน: 6 ตอน
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

เกมเรียกวิญญาณวัยรุ่นที่กลายเป็นฝันร้ายตลอดชีวิต

บทภาพยนตร์ - 7.2
การแสดง - 8.5
โปรดักชัน - 8.8
ความบันเทิง - 7.8
ความคุ้มค่าในการรับชม - 8

8.1

Playing Gracie Darling เป็นซีรีส์สยองขวัญจิตวิทยาที่เล่าเรื่องราวของโจนี่ เกรย์ นักจิตวิทยาเด็กที่ต้องกลับไปเผชิญหน้ากับอดีตสุดมืดมนในเมืองบ้านเกิด เมื่อเด็กผู้หญิงอีกคนหายตัวไปแบบเดียวกับเกรซี่ ดาร์ลิง เพื่อนสนิทของเธอที่หายตัวไปในระหว่างพิธีเรียกวิญญาณเมื่อหลายสิบปีก่อน ซีรีส์เรื่องนี้สร้างบรรยากาศสุดหลอนผ่านภาพที่สวยงามแต่น่ากลัว การแสดงที่ลงตัว และการเล่าเรื่องที่ทำให้ต้องสงสัยว่าอะไรคือความจริงอะไรคือความฝัน แม้จะมีจังหวะเนิบช้าบ้างในตอนต้น แต่เมื่อเรื่องราวเริ่มคลี่คลาย มันก็กลายเป็นการเดินทางสู่ใจกลางความมืดมิดของความผิดและความกลัวที่ซ่อนอยู่

User Rating: Be the first one !

กดเพื่ออ่านต่อ

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button