![[รีวิว-เรื่องย่อ] เล่ห์รักนักล้วง | The Handmaiden (2016)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-The-Handmaiden-2016.webp)
- The Handmaiden สร้างจากนิยาย Fingersmith ย้ายฉากมาเป็นเกาหลียุค 1930s เกี่ยวกับแผนโกงมรดกของสาวใช้และนายจอมปลอม
- การแสดงของคิมแทรีในบทซุกฮีเด่นสุดๆ แสดงความสดใสและความซับซ้อนได้อย่างเข้าถึง
- หนังสำรวจธีมการหลอกลวง ความรัก และความชั่วร้ายที่ซ่อนใต้ภาพลักษณ์หรูหรา
- ผู้กำกับพัคชานอุคสร้างเรื่องราวที่เต็มไปด้วยพล็อต twist และภาพสวยงามตระการตา
เคยคิดไหมว่าหนังเกาหลีจะมาสั่นสะเทือนวงการได้ขนาดนี้? หนัง The Handmaiden (2016) ของผู้กำกับ พัคชานอุค (Park Chan-wook) คือตัวอย่างที่ทำให้เราต้องยอมรับว่าหนังเอเชียมีดีไม่แพ้ฮอลลีวูดเลย เรื่องนี้ดัดแปลงจากนิยาย Fingersmith ของซาราห์ วอเตอร์ส แต่ย้ายฉากมาเป็นเกาหลียุค 1930s ที่ญี่ปุ่นยึดครอง มันเล่าเรื่องการหลอกลวงสุดแยบยลที่กลายเป็นความรักต้องห้าม ผสมผสานความเซ็กซี่ ระทึกขวัญ และดราม่าที่ทำให้เรานั่งไม่ติดเก้าอี้
ลองนึกภาพสิ ถ้าเราเป็นสาวใช้ธรรมดาที่ถูกจ้างไปโกงมรดกจากคุณหนูไฮโซ แต่ดันตกหลุมรักเธอซะงั้น? ซุกฮี แสดงโดย คิมแทรี (Kim Tae-ri) คือเด็กสาวล้วงกระเป๋าที่ถูก เคานต์ฟูจิวาระ จอมปลอม (ฮาจองอู – Ha Jung-woo) ชวนมาร่วมแผนโกง เลดี้ฮิเดโกะ (คิมมินฮี – Kim Min-hee) คุณหนูรวยที่ถูกคุณลุงหมกมุ่นกับหนังสืออีโรติกเลี้ยงดู แผนคือให้ซุกฮีไปเป็นสาวใช้ สร้างความไว้วางใจ แล้วชักชวนให้ฮิเดโกะแต่งงานกับเคานต์ ก่อนจะส่งเธอไปโรงพยาบาลบ้าและฮุบมรดกทั้งหมด แต่เรื่องมันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะ twist มาเพียบ!
ในรีวิวนี้ เราจะพาไปเจาะลึกทุกมุมของ หนังเล่ห์รักนักล้วง ตั้งแต่ภาพสวยๆ ที่ทำให้อยากย้ายไปอยู่ในบ้านนั้น ไปจนถึงการแสดงที่ทำให้เราอึ้ง การสำรวจธีมความชั่วร้ายที่ซ่อนใต้ความหรูหรา และพล็อตที่ซับซ้อนเหมือนปริศนา มาดูกันว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้เราคิดยังไงกับความรักและการหลอกลวงในโลกที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม
รีวิวและเรื่องย่อ The Handmaiden (เล่ห์รักนักล้วง)
The Handmaiden เล่าเรื่องแผนการโกงมรดกที่ซับซ้อนสุดๆ ในยุคที่เกาหลีถูกญี่ปุ่นยึดครอง ซุกฮี สาวล้วงกระเป๋าถูกจ้างโดยเคานต์ฟูจิวาระจอมปลอมให้ไปเป็นสาวใช้ของเลดี้ฮิเดโกะ คุณหนูไฮโซที่อาศัยในคฤหาสน์หรูกับคุณลุงที่หมกมุ่นกับหนังสืออีโรติก แผนคือชักชวนให้ฮิเดโกะแต่งงานกับเคานต์ แล้วส่งเธอไปโรงพยาบาลบ้าเพื่อฮุบมรดก แต่เรื่องราวกลับพลิกผันเมื่อซุกฮีดันตกหลุมรักฮิเดโกะจริงๆ และความลับต่างๆ เริ่มถูกเปิดเผย
ทุกอย่างในหนังดูสวยงามจนน่าอิจฉา คฤหาสน์ที่ผสมผสานสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตก ห้องสมุดที่เต็มไปด้วยหนังสือหายาก และชุดเสื้อผ้าที่หรูหรา ทำให้เราอยากหยุดภาพดูรายละเอียดทุกมุม ผู้กำกับพัคชานอุคใส่ใจกับเซ็ตติ้งมาก เพราะมันช่วยเสริมเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งทางวัฒนธรรมและชนชั้น มันเหมือนบ้านในฝันที่ซ่อนนรกไว้ข้างใน
พล็อตไม่ใช่แค่เรื่องโกงเงินธรรมดา แต่มีดราม่าครอบครัว ความขัดแย้งทางอารมณ์ ผีแม่ที่หลอกหลอนลูกสาว และพวกเฒ่าหัวงูที่คลั่งหนังสือโป๊ Twist ใหญ่ๆ มาแบบไม่ทันตั้งตัวหลังจากชั่วโมงแรก และยิ่งใกล้จบยิ่งมีความจริงโผล่มาไม่หยุด ทำให้เราต้องดูซ้ำเพื่อจับรายละเอียด
หนังเรื่องนี้เหมือนงานศิลปะที่เคลื่อนไหวได้ ทุกฉากถ่ายกว้างๆ เพื่อโชว์ห้องหรูหราที่เต็มไปด้วยของตกแต่งละเอียดยิบ เราอยากย้ายไปอยู่ในบ้านนั้นเลย! ชุดเสื้อผ้าก็สวยเป๊ะ ผสมผสานวัฒนธรรมเกาหลีและญี่ปุ่น ทำให้รู้สึกถึงยุคสมัยที่ตึงเครียด ผู้กำกับพัคชานอุคคิดถึงทุกรายละเอียด เพราะเซ็ตติ้งพวกนี้ช่วยขับเน้นเรื่องราวที่เกี่ยวกับความหรูหราที่ซ่อนความเน่าเฟะไว้
ห้องสมุด ห้องนอนของฮิเดโกะ และวิวต้นไม้จากหน้าต่าง ทุกอย่างถูกจัดวางเพื่อให้เรื่องเดินหน้าแบบสมบูรณ์ มันไม่ใช่แค่ฉากสวยๆ แต่เป็นส่วนหนึ่งของพล็อตที่ทำให้เรารู้สึกถึงความกดดันและความลึกลับ เหมือนบ้านที่ดูเพอร์เฟกต์แต่เต็มไปด้วยกับดัก
การถ่ายทำช่วยให้หนังดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะฉากที่โชว์ความแตกต่างระหว่างความรวยกับความจน ความสวยงามภายนอกกับความชั่วร้ายภายใน มันทำให้เราถามตัวเองว่า ความหรูหราพวกนี้ซ่อนอะไรไว้บ้าง?
คิมมินฮี (Kim Min-hee) ครองหนังทั้งเรื่องในบทเลดี้ฮิเดโกะ เธอแสดงความเปราะบางและความแข็งแกร่งได้อย่างลงตัว ทำให้เรารู้สึกถึงความซับซ้อนของตัวละครที่ถูกกดขี่แต่ก็มีเล่ห์เหลี่ยมซ่อนอยู่ คิมแทรี (Kim Tae-ri) ในบทซุกฮีก็ไม่แพ้กัน นี่คือหนังเรื่องแรกของเธอ แต่เธอแสดงความสดใส ความสับสน และความรักได้อย่างน่าเชื่อถือ ไม่ถูกกลบโดยดารารุ่นพี่
ฮาจองอูในบทเคานต์ฟูจิวาระและโชจินอุงในบทคุณลุง แสดงความน่ารังเกียจได้แบบมีมิติ แต่ละคนมีชั้นเชิงที่ค่อยๆ เผยออกมา ทำให้ตัวละครไม่แบนๆ แต่ซับซ้อนเหมือนปริศนา มันเหมือนพวกเขาซ่อนหน้ากากไว้หลายชั้น และการแสดงช่วยให้ twist ในเรื่องน่าติดตามยิ่งขึ้น
ตัวละครทุกคนพัฒนาไปตามเรื่อง โดยเฉพาะความรักระหว่างซุกฮีและฮิเดโกะที่เบ่งบานท่ามกลางความโกลาหล มันทำให้หนังไม่ใช่แค่ระทึกขวัญ แต่มีหัวใจที่อบอุ่นซ่อนอยู่
หนังสำรวจความชั่วร้ายที่ซ่อนใต้ภาพลักษณ์หรูหรา เหมือนสังคมที่ดูสวยงามแต่เต็มไปด้วยการหลอกลวงและการกดขี่ ยุคญี่ปุ่นยึดเกาหลีเพิ่มเลเยอร์ให้ธีมนี้ ทำให้เราคิดถึงประวัติศาสตร์และความขัดแย้งทางวัฒนธรรม แต่ใจกลางเรื่องคือความรักที่เกิดขึ้นท่ามกลางความเลวร้าย เหมือนดอกไม้ที่งอกในกองขยะ
ฉากเซ็กซ์ในหนังมีบทบาทสำคัญ ตั้งแต่ความหมกมุ่นของคุณลุงกับหนังสืออีโรติก ไปจนถึงความดึงดูดระหว่างฮิเดโกะและซุกฮี มันเป็นส่วนหนึ่งของเกมอำนาจ แต่บางทีฉากพวกนี้ไม่ได้เพิ่มอะไรมากนัก อาจแค่เพื่อท้าทายขอบเขตของหนังเกาหลี เหมือนถามเราว่า เซ็กซ์ในหนังควรเป็นยังไงถึงจะมีสาระ?
โดยรวม หนังเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ที่ซ่อนอยู่ ยิ่งดูยิ่งเจออะไรใหม่ๆ เหมือนหนังอื่นๆ ของพัคชานอุคอย่าง Decision to Leave มันทำให้เราอยากดูซ้ำเพื่อจับทุกรายละเอียด
The Handmaiden (2016) คือหนังที่ทำให้เราตั้งคำถามกับความจริงของมนุษย์ ว่าภายใต้หน้ากากหรูหรา เราซ่อนความชั่วร้ายอะไรไว้บ้าง? เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าการหลอกลวงอาจนำไปสู่ความรักที่แท้จริง และ twist ที่ซับซ้อนทำให้หนังน่าจดจำ มันไม่ใช่แค่หนังระทึกขวัญ แต่เป็นบทเรียนเกี่ยวกับอำนาจ ความรัก และการทรยศ
ถ้าเราเป็นแฟนหนังเกาหลีหรือชอบเรื่องที่มีพล็อตหักมุม เล่ห์รักนักล้วง คือต้องดู! หนังเรื่องนี้จะทำให้เราคิดทบทวนเกี่ยวกับความสัมพันธ์และเล่ห์เหลี่ยมในชีวิตจริง มาแชร์กันในคอมเมนต์ว่าฉากไหนที่ทำให้เราอึ้งที่สุด และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชอบหนังดราม่าจิตวิทยาสุดเข้มข้น ลองไปดูแล้วบอกเราว่าคิดยังไงนะ!
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เล่ห์รักนักล้วง
- ประเภท: ดราม่า, ระทึกขวัญ, โรแมนติก
- วันที่ออกฉาย: 27 พฤษภาคม 2559
- นักแสดงนำ: คิมมินฮี (Kim Min-hee), คิมแทรี (Kim Tae-ri), ฮาจองอู (Ha Jung-woo), โชจินอุง (Cho Jin-woong)
- ผู้กำกับ: พัคชานอุค (Park Chan-wook)
- ความยาว: 2 ชั่วโมง 25 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 8.1/10