![[รีวิว-เรื่องย่อ] แก๊งระห่ำ โหดทะลุพิกัด | The Merciless (2017)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-The-Merciless-2017.webp)
- The Merciless เป็นหนังอาชญากรรมเกาหลีที่สร้างจากเรื่องราวในคุกและโลกมาเฟีย เน้นธีมความเชื่อใจและการทรยศ
- การแสดงของซอล คยองกู ในบทหัวหน้าแก๊งโหดเหี้ยมโดดเด่น สลับจากเพื่อนสนิทเป็นศัตรูในพริบตา
- หนังเล่าเรื่องแบบไม่เรียงลำดับเพื่อสร้างหักมุม แต่บางทีก็มากเกินไปจนเหมือนหลอกคนดู
- ผู้กำกับบยอน ซองฮยอน นำเสนอโลกอาชญากรที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและการตัดสินใจผิดศีลธรรม
เคยดูหนังเกาหลีแล้วเจอหักมุมสุดพีคจนถึงกับอ้าปากค้างไหม? แบบเดียวกับ Montage (2013) ที่เรื่องราวลักพาตัวเด็กมีพล็อตพลิกผันจนจำได้แค่ตอนจบ แต่ถ้ามีหักมุมเยอะเกินไปล่ะ? หนัง The Merciless (2017) ของผู้กำกับ บยอน ซองฮยอน (คนเดียวกับ Kill Boksoon) พาเราไปสำรวจโลกแก๊งอาชญากรในคุกที่เต็มไปด้วยการทรยศและความไม่แน่นอน เรื่องจริงจากเกาหลีใต้ที่เกิดขึ้นในเรือนจำและวงการยาเสพติด หนังเรื่องนี้เหมือนเกมหมากรุกที่ทุกตัวเดินพลิกผันไม่หยุด ทำให้เราต้องลุ้นตลอดเวลา
เรื่องราวโฟกัสที่ ฮัน แจโฮ แสดงโดย ซอล คยองกู (Sol Kyung-gu) หัวหน้าแก๊งโหดที่คุมคุกแบบเหล็กกล้า เขาเจอ โจ ฮยอนซู นักโทษหนุ่มไฟแรง แสดงโดย อิม ชีวาน (Im Si-wan) แล้วเกิดสายสัมพันธ์แบบพี่น้อง ออกคุกปุ๊บ แจโฮดึงฮยอนซูเข้ามาเป็นมือขวาในดีลยาเสพติดใหญ่กับแก๊งรัสเซีย แต่ตำรวจก็ตามล่าไม่หยุด หนังเล่าแบบย้อนไปย้อนมาเพื่อสร้างความตื่นเต้น เหมือนปริศนาที่ค่อยๆ เผยทีละชิ้น
ในรีวิวนี้ เราจะพาไปเจาะลึกทุกมุมของ หนัง The Merciless ตั้งแต่การแสดงสุดเทพ ธีมความเชื่อใจที่ลึกซึ้ง ไปจนถึงจุดที่ twist เยอะเกินจนทำให้เรื่องดูตื้นเขิน มาดูกันว่า หนังอาชญากรรมเกาหลี เรื่องนี้จะทำให้เราคิดยังไงกับโลกที่ทุกคนพร้อมหักหลังกันได้ทุกเมื่อ
รีวิวและเรื่องย่อ The Merciless (แก๊งระห่ำ โหดทะลุพิกัด)
The Merciless เล่าเรื่อง ฮัน แจโฮ หัวหน้าแก๊งในคุกที่คุมทุกอย่างแบบไม่มีใครกล้าขัด เขาเป็นพวกโหดเหี้ยมแต่ก็มีเสน่ห์ ยิ้มตลอดแต่พร้อมฆ่าได้ทุกวินาที ชีวิตในคุกของเขาดูสงบจนกระทั่ง โจ ฮยอนซู นักโทษหน้าใหม่เข้ามา ฮยอนซูเป็นพวกคาดเดาไม่ได้ ไฟแรง และฉลาด หนังพาเราเห็นว่าทั้งคู่สร้างความผูกพันแบบพี่น้องยังไง ในโลกที่ทุกคนเห็นแก่ตัว
ออกจากคุกแล้ว แจโฮให้งานฮยอนซูเป็นมือขวาในดีลยาเสพติดใหญ่กับ แก๊งรัสเซีย แต่ตำรวจก็ไล่บี้ไม่หยุด เรื่องเล่าแบบไม่เรียงลำดับ เหมือนแฟลชแบ็กที่ค่อยๆ เปิดเผยความลับ ทำให้เราต้องคิดตามตลอดว่าใครทรยศใคร ธีมหลักคือความเชื่อใจ ในโลกอาชญากรที่ไม่มีใครไว้ใจได้จริงๆ แม้แต่คนสนิท
หนังสำรวจว่าตำรวจก็ไม่ใช่พระเอกเต็มตัว เพราะพวกเขายอมทำผิดศีลธรรมเพื่อจับตัวร้าย ส่วนแก๊งอาชญากรก็แค่เล่นตามกติกาของโลกตัวเอง ซึ่งโหดร้ายสุดๆ มันเหมือนอุปมาในสังคมจริงที่ทุกฝ่ายพร้อมหักหลังกันเพื่อผลประโยชน์
ซอล คยองกู ในบท ฮัน แจโฮ คือจุดเด่นสุดของหนัง เขาเล่นเป็นหัวหน้าแก๊งที่ยิ้มตลอดแต่ตาขวางพร้อมฆ่า สลับจากเพื่อนสนิทเป็นศัตรูในพริบตา เหมือนแมวที่เล่นกับหนูก่อนกิน มันทำให้เรารู้สึกถึงความไม่แน่นอนของตัวละครนี้ การแสดงของเขาทำให้ธีมความเชื่อใจดูน่าเชื่อถือมาก
อิม ชีวาน ในบท โจ ฮยอนซู ก็เทพไม่แพ้ เป็นนักโทษหนุ่มที่ดูไร้เดียงสาแต่ฉลาดลึก เขาถ่ายทอดความซับซ้อนของตัวละครได้ดี ทำให้เราสงสัยตลอดว่าฮยอนซูคิดอะไรอยู่จริงๆ มันเหมือนเป็นคำถามเชิงวาทศิลป์ว่า คนแบบนี้จะไว้ใจได้แค่ไหนในโลกของแก๊งมาเฟีย
นักแสดงสมทบอื่นๆ ก็ช่วยเสริมเรื่องให้แน่น เช่น ตำรวจและแก๊งรัสเซียที่ทำให้โลกอาชญากรดูสมจริง แต่โดยรวม การแสดงทั้งหมดช่วยชดเชยจุดอ่อนของพล็อตที่หักมุมเยอะเกินไป
บยอน ซองฮยอน ผู้กำกับเรื่องนี้ใช้สไตล์การเล่าแบบไม่เรียงลำดับเวลาเพื่อสร้างจุดหักมุม แต่บางครั้งมันเยอะเกินไป จนเหมือนหลอกคนดูมากกว่าสร้างสาระ หนังมีงานภาพที่สวย ใช้สีสดตัดกับความรุนแรง ทำให้ดูมีสไตล์มาก เหมือนหนังแอ็คชั่นฮอลลีวูดแต่ผสมกลิ่นอายเกาหลี
เสียงประกอบและการตัดต่อช่วยเพิ่มความตึงเครียด ค่อยๆ สร้างบรรยากาศจนถึงจุดพีค แต่พอมีการหักมุมมากเกินไป มันกลับทำให้เรื่องดูตื้นเขิน เหมือนกินของหวานมากไปจนเลี่ยน การเล่าเรื่องแบบนี้ทำให้หนังไม่ซ้ำซาก แต่ก็ขาดความลึกซึ้ง
บทภาพยนตร์เขียนได้ดีในแง่การเชื่อมโยงหักมุม แต่สุดท้ายก็คาดเดาได้ หนังเรื่องนี้เหมือนเตือนเราว่าการหักมุมมากมายไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง ถ้ามีตัวละครที่แข็งแรงและธีมที่ชัดเจน มันก็สามารถดึงดูดได้โดยไม่ต้องพยายามหลอกผู้ชม
ธีมหลักคือความเชื่อใจและการหักหลัง ในโลกที่ทุกคนเห็นแก่ตัว หนังสำรวจว่ามนุษย์เปลี่ยนไปอย่างไรเมื่อถูกกดดัน คล้ายกับสังคมจริงที่เพื่อนอาจกลายเป็นศัตรูได้ง่าย หนังยังตั้งคำถามถึงศีลธรรมของตำรวจที่ยอมเปื้อนสกปรกเพื่อจับคนร้าย จนไม่มีฝ่ายไหนที่ดีสมบูรณ์แบบ
แต่จุดอ่อนคือการหักมุมเยอะเกินไปจนทำให้เรื่องกลวง ไม่มีอะไรให้คิดตามหลังดูจบ ราวกับหนังที่พึ่งพากิมมิคมากกว่าสาระ ถึงแม้การถ่ายทำจะสวยและฉากแอ็คชั่นน่าตื่นเต้น แต่สุดท้ายกลับดูผิวเผินไปหน่อย
หนังเรื่องนี้ชวนให้คิดว่า ถ้าไม่มีการหักมุม มันยังน่าติดตามไหม? คำตอบคือ ใช่ ถ้ามีตัวละครที่แข็งแรงและการกำกับที่มั่นคง
The Merciless (2017) เป็นหนังอาชญากรรมเกาหลีที่เต็มไปด้วยการหักมุม แต่สุดท้ายสิ่งที่ติดอยู่ในใจคือการแสดงและธีมเรื่องความเชื่อใจมากกว่า หนังสะท้อนให้เห็นว่าในโลกแก๊งมาเฟีย ความไว้ใจคือสิ่งที่หาได้ยากที่สุด แม้พล็อตจะตื้นไปบ้าง แต่ก็ยังเหมาะสำหรับแฟนหนังแนวนี้
ถ้าเราเป็นคอหนังเกาหลีที่ชอบการหักมุมและแอ็คชั่นโหดๆ The Merciless คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด มันจะทำให้เราตั้งคำถามกับความสัมพันธ์ในชีวิตจริงว่าคนเราทรยศกันได้ง่ายขนาดไหน มาดูกันแล้วแชร์ในคอมเมนต์ว่าตอนจบทำให้เราช็อกหรือไม่ และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ชาวเน็ตที่ชอบหนังอาชญากรรมเกาหลีสุดเข้มข้น
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: แก๊งระห่ำ โหดทะลุพิกัด
- ประเภท: อาชญากรรม, แอ็คชั่น, ระทึกขวัญ
- วันที่ออกฉาย: 24 พฤษภาคม 2560
- นักแสดงนำ: ซอล คยองกู (Sol Kyung-gu), อิม ชีวาน (Im Si-wan)
- ผู้กำกับ: บยอน ซองฮยอน (Byun Sung-hyun)
- ความยาว: 2 ชั่วโมง
- เรตติ้ง IMDb: 6.7/10