รีวิวหนัง-ซีรีส์

[รีวิว-เรื่องย่อ] คนซื่อบื้อ | The Twits (2025)

  • The Twits ดัดแปลงจากนิยายโรอัลด์ ดาห์ล สู่หนังแอนิเมชั่นที่เต็มไปด้วยมุกตลกแปลกๆ และภาพสไตล์วายร้ายสุดขีด แต่จังหวะเรื่องอาจสะดุดบ้าง
  • การแสดงเสียงโดดเด่น โดยเฉพาะ จอห์นนี่ เวกัส และ มาร์โก มาร์ตินเดล ที่ถ่ายทอดคู่ร้ายได้น่าขนลุกแต่ฮา
  • หนังเน้นธีมครอบครัว ความเมตตา และการต่อสู้กับความชั่วร้าย ผ่านเด็กกำพร้าและฝูงลิงที่ถูกจับ
  • ผู้กำกับฟิล จอห์นสตัน ขยายเรื่องจากหนังสือให้มีพล็อตการเมืองและการเอาชีวิตรอดที่เข้ากับยุคสมัย

เคยลองนึกภาพไหมว่าโลกของคู่สามีภรรยาจอมวายร้ายจะมันส์ขนาดไหน ถ้าพวกเขาสร้างสวนสนุกที่สกปรกยับเยินและพยายามครองเมือง? หนัง The Twits (2025) จากนิยายคลาสสิกของ Roald Dahl พาไปดำดิ่งสู่ความโกลาหลแบบแอนิเมชั่นที่ทั้งฮา ทั้งน่าขยะแขยง แต่แฝงข้อคิดลึกๆ เกี่ยวกับครอบครัวและความดี เรื่องนี้ฉายบน Netflix และกลายเป็นที่พูดถึงในหมู่แฟนหนังเด็กที่ชอบอะไรแปลกๆ ไม่ซ้ำใคร

เรื่องราวหมุนรอบ Mr. Twit และ Mrs. Twit คู่ร้ายตัวเอกที่ใช้ชีวิตแบบจอมวายร้ายเต็มขั้น พวกเขาบริหารสวนสนุกชื่อ Twitlandia ในเมือง Triperrott ที่เต็มไปด้วยลูกเล่นสกปรกและมุกโหดร้าย แต่แล้วเด็กกำพร้าสองคนอย่าง Bea และ Buzz ก็เข้ามาค้นพบแผนการชั่วร้าย พวกเขาร่วมมือกับฝูงลิง Muggle-Wump ที่ถูกจับไว้ สู้เพื่อปลดปล่อยสัตว์และช่วยเมืองจากความทะเยอทะยานของคู่ Twit หนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องตลก แต่ยังแทรกการเสียดสีเรื่องการเมืองและอำนาจที่ทำให้ดูแล้วต้องยิ้มกริ่ม

บทความนี้จะเจาะลึกทุกมุมของ The Twits ตั้งแต่การแสดงเสียงที่โดดเด่น ภาพแอนิเมชั่นสุดเพี้ยน ไปจนถึงจุดเด่นจุดด้อยที่ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นตัวเลือกน่าดูสำหรับครอบครัวที่ชอบอะไรไม่ธรรมดา มาดูกันว่าเรื่องนี้จะพาไปหัวเราะรึร้องไห้ หรือทั้งคู่เลย?

The Twits (2025) #3

รีวิวและเรื่องย่อ The Twits (คนซื่อบื้อ)

The Twits เปิดเรื่องด้วยคู่ร้ายหลักอย่าง Mr. Twit ให้เสียงโดย Johnny Vegas และ Mrs. Twit โดย Margo Martindale ที่ถ่ายทอดความเกลียดชังและลูกเล่นแกล้งกันได้แบบสุดโต่ง พวกเขาสร้างสวนสนุก Twitlandia ในเมือง Triperrott ที่กลายเป็นสถานที่โกลาหลเต็มไปด้วยมุกสกปรกและความโหดร้ายแบบการ์ตูน คู่ Twit ไม่ใช่แค่วายร้ายธรรมดา แต่เป็นตัวแทนของความชั่วที่ฮาและน่าขนลุก หนังขยายจากนิยายต้นฉบับโดยเพิ่มพล็อตการแย่งชิงอำนาจเมือง ซึ่งทำให้เรื่องดูสดใหม่และเข้ากับปัญหาสังคมสมัยนี้

เด็กกำพร้าสองคน Bea ให้เสียงโดย Maitreyi Ramakrishnan และ Buzz โดย Ryen Lopez เข้ามาเป็นตัวเอกที่จุดประกายการต่อสู้ พวกเขาค้นพบแผนการของ Twit ที่เอารัดเอาเปรียบสัตว์และชาวเมือง ร่วมมือกับฝูงลิง Muggle-Wump ที่ให้เสียงโดย Natalie Portman และ Timothy Simons เพื่อวางแผนกอบกู้ทุกอย่าง เรื่องราวไหลลื่นด้วยฉากแอ็คชั่นแบบเด็กๆ ที่ผสมมุกตลกและดราม่า หนังแสดงให้เห็นว่าความกล้าหาญของเด็กๆ สามารถเปลี่ยนแปลงโลกที่เต็มไปด้วยผู้ใหญ่ชั่วร้ายได้อย่างไร

ส่วนที่ทำให้ The Twits โดดเด่นคือความแปลกประหลาดที่ไม่ยั้ง ทีมแอนิเมชั่นจาก Jellyfish Pictures เล่นกับพื้นผิวและสัดส่วนจนตัวละคร Twit ดูน่าเกลียดแบบแสดงความเคารพให้ Dahl โดยไม่กลัวเสี่ยง การแสดงเสียงช่วยยกระดับทั้งหมด Martindale ใส่ความดูถูกแบบแหบพร่าให้ Mrs. Twit ส่วน Vegas เพิ่มประกายชั่วร้ายใต้หน้ากากตลก เด็กๆ นำความจริงใจมาสร้างอารมณ์ขันที่อบอุ่น ท่ามกลางเพลงประกอบจาก David Byrne และแทร็กเครดิตจาก Hayley Williams ที่ทำให้หนังดูมีระดับเกินหนังเด็กทั่วไป

การแสดงเสียงใน The Twits คือหัวใจหลักที่ทำให้หนังมีชีวิตชีวา Johnny Vegas ถ่ายทอด Mr. Twit ได้แบบวายร้ายที่ทั้งฮาและน่ากลัว เขาใส่ความทะเยอทะยานชั่วร้ายลงในทุกประโยค ทำให้ผู้ชมทั้งขำทั้งขนลุก ขณะที่ Margo Martindale ในบท Mrs. Twit แสดงความเกลียดชังแบบคู่หูได้ลงตัว เหมือนคู่ร้ายที่เติมเต็มกันเองโดยไม่ต้องพูดมาก ด้านเด็กๆ อย่าง Maitreyi Ramakrishnan นำความกล้าหาญและความอยากมีครอบครัวมาสร้างมิติทางอารมณ์ ส่วน Ryen Lopez เพิ่มความเชื่อมั่นในมิตรภาพที่ทำให้ฉากดราม่าดูจริงใจ

ฝูงลิง Muggle-Wump ก็ไม่แพ้กัน Natalie Portman ให้เสียงลิงตัวแม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ ขณะที่ Timothy Simons ช่วยสร้างพลวัตครอบครัวลิงที่ขนานกับเด็กกำพร้า การแสดงเหล่านี้ไม่ใช่แค่พากย์ แต่ช่วยขับเคลื่อนธีมเรื่องความเมตตาและการปลดปล่อยจากความชั่วร้าย หนังใช้เสียงเหล่านี้สร้างความตึงเครียดในฉากต่อสู้ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัย

ภาพแอนิเมชั่นคืออีกจุดขายที่ทำให้ The Twits สนุกตา สไตล์จาก Jellyfish Pictures เน้นความเพี้ยนด้วยสีสันสดและสัดส่วนที่บิดเบี้ยว บ้านของ Twit ดูเหมือนบ้านผีสิงที่บิดงอ สวนสนุก Twitlandia เต็มไปด้วยเครื่องเล่นสกปรกที่ระเบิดความโกลาหลแบบเครื่องจักรกลมหาโหด การถ่ายภาพเคลื่อนไหวนำเสนอการเปลี่ยนผ่านจากมุกแกล้งสกปรกสู่การเมืองสู่การไถ่บาปได้อย่างแนบเนียน ภาพเหล่านี้ไม่ใช่แค่สวย แต่ช่วยเสริมการเสียดสีเรื่องอำนาจที่ซ่อนอยู่ในความตลก

The Twits (2025) #2

The Twits แฝงธีมครอบครัวและความเมตตาไว้ใต้ชั้นความสกปรก Bea เรียนรู้ว่าครอบครัวไม่ใช่แค่เลือดเนื้อ แต่คือคนที่เลือกอยู่ด้วยกัน ฉากที่เธอเผชิญ Twit แสดงความกล้าหาญที่เด็กๆ ทุกคนฝันถึง ขณะที่ Buzz นำความเชื่อในการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมมาสร้างความหนักแน่นทางอารมณ์ที่ทำให้หนังไม่ใช่แค่ตลก แต่ยังอบอุ่นหัวใจ ฝูงลิง Muggle-Wump ขนานเรื่องด้วยการต่อสู้เพื่ออิสรภาพจากการถูกจับ สะท้อนว่าความชั่วร้ายไม่ควรถูกหล่อหลอมเข้าไปในตัว แต่ต้องต่อต้านด้วยความดี

หนังยังแทรกการเสียดสีเรื่องการเมืองผ่านพล็อต Twit ลงสมัครนายกเทศมนตรี ฉากนี้ทันต่อเหตุการณ์สุดๆ แสดงให้เห็นว่าผู้ใหญ่ชั่วร้ายพยายามควบคุมด้วยการยึดอำนาจ แต่เด็กและสัตว์คือผู้เปลี่ยนแปลง มันเหมือนกระจกสะท้อนสังคมที่เต็มไปด้วยผู้นำทุจริตโดยไม่ต้องจริงจังเกินไป ธีมเหล่านี้ทำให้ The Twits เกินกว่าหนังเด็ก กลายเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ก็ดูแล้วได้ข้อคิดเกี่ยวกับชุมชนและการเลือก

เปรียบเหมือนเกมที่ชิ้นส่วนความชั่วและความดีปะทะกัน หนังถามว่าความเมตตาจะชนะความทะเยอทะยานได้ไหม? คำตอบมาจากตัวละครเด็กที่ได้รับอำนาจในการท้าทายวายร้าย ไม่ใช่แค่รอผู้ใหญ่ช่วย นี่คือการเล่าเรื่องอย่างชาญฉลาดที่ทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่างจากการดัดแปลงทั่วไป

The Twits (2025) #1

ถึงจะสนุก แต่ The Twits มีจุดสะดุดเรื่องจังหวะการเล่าเรื่อง จากนิยายที่เป็นแค่ชุดมุกแกล้ง ทีมผู้สร้างขยายพล็อตเพิ่มตัวละครใหม่และเรื่องราวรองอย่างการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี ทำให้บางฉากรู้สึกยัดเยียด บางส่วนยืดเยื้อ การเปลี่ยนโทนจากมุกดำสู่ความรู้สึกดูอึดอัดบ้าง หนังพยายามทำให้ขอบคมของ Dahl นุ่มนวลลงเพื่อเน้นความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งน่ารักแต่ทำให้การเสียดสีเบลอลงนิดๆ

มุกน่าขยะแขยงอย่างสปาเก็ตตี้หนอนหรือน้ำท่วมเนื้อก็มากเกินไป มันตั้งใจน่าเกลียดเพื่อฮา แต่บางทีกลบความเฉลียวฉลาดของเรื่อง จนข้ามเส้นจากน่าขยะแขยงแบบตลกไปเป็นแค่น่าขยะแขยงล้วนๆ นอกจากนี้ การทำให้เป็นแบบอเมริกันในฉากและโทนวัฒนธรรมทำให้ไม่สอดคล้องกัน บางมุกตลกร่างกายเกิน บางการเสียดสีลึกเกินกลุ่มเป้าหมายดูคลุมเครือ ระหว่างเด็กเล็ก เด็กโต หรือแฟน Dahl วัยผู้ใหญ่

อย่างไรก็ตาม จุดด้อยเหล่านี้ไม่บดบังคุณภาพการผลิตที่ดี ผู้กำกับ Phil Johnston (ที่ร่วมเขียนบทกับ Meg Favreau) แสดงความทะเยอทะยานในการสร้างสรรค์เรื่องใหม่ ไม่ใช่แค่ดัดแปลงตรงๆ มีความประหลาดใจและความตึงเครียดที่ทำให้ดูเพลิน หนังกล้าทำให้เด็กมีบทบาทหลักในการเอาชนะวายร้าย ซึ่งน่าปลื้มและสดใหม่สำหรับแนวนี้

สรุปแล้ว The Twits (2025) คือหนังแอนิเมชั่นที่แปลกประหลาดและป่าเถื่อน แม้จะยุ่งเหยิงบ้าง แต่ในยุคที่หนังเด็กปลอดภัยเต็มไปหมด มันยืนออกมาโดดเด่นด้วยจินตนาการและหัวใจที่แฝงเรื่องความเมตตากับชุมชน ใครชอบนิยาย Dahl หรืออยากดูอะไรแปลกๆ กับครอบครัว ลองเปิด Netflix ดูเลย รับรองหัวเราะกับมุกสกปรกและซึ้งกับข้อคิดได้ทั้งคู่ หนังเรื่องนี้พิสูจน์ว่าความดีสามารถชนะความชั่วได้ ถ้ามีความกล้าและมิตรภาพที่แท้จริง มันทำให้คิดถึงพลังของการเลือกทางที่ถูกต้องในชีวิตจริง

ถ้าดูแล้วรู้สึกยังไง ลองแชร์ในคอมเมนต์ว่าชอบฉากไหนที่สุด หรือ Twit คู่ไหนน่ากลัวกว่ากัน? อย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่รักหนังแอนิเมชั่นแนววายร้ายสุดเพี้ยน แล้วเรามาคุยกันว่าหนังเด็กสมัยนี้ควรมีการเสียดสีแบบนี้มากกว่านี้ไหม!

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: คนซื่อบื้อ
  • ประเภท: แอนิเมชั่น, ตลก, ผจญภัย
  • วันที่ออกฉาย: 19 พฤศจิกายน 2568
  • นักแสดงนำ (ให้เสียง): จอห์นนี่ เวกัส (Johnny Vegas), มาร์โก มาร์ตินเดล (Margo Martindale), ไมตรี รามากริชแนน (Maitreyi Ramakrishnan), ไรอัน โลเปซ (Ryan Lopez), นาตาลี พอร์ตแมน (Natalie Portman)
  • ผู้กำกับ: ฟิล จอห์นสตัน (Phil Johnston)
  • ความยาว: 1 ชั่วโมง 42 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 5.0/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

กดเพื่ออ่านต่อ

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button