
ทุกวันนี้เกมปลูกผักทําฟาร์มไม่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ยังคงมีฐานแฟนคลับที่ใหญ่มากสำหรับเกมทําฟาร์ม เกมทำฟาร์มจะได้ไประสบการณ์ที่ผ่อนคลาย เมื่อเทียบกับ Call of Duty เราได้รวบรวมเกมปลูกผักทําฟาร์ม ที่ดีที่สุดมาให้แล้ว
1. Stardew Valley

สตาร์ดิวแวลลี (Stardew Valley) เป็นวิดีโอเกมสวมบทบาทจำลองกสิกรรมอินดีที่พัฒนาโดย คอนเซินด์เอพ และจัดจำหน่ายโดย ชักเคิลฟิชเกมส์ เกมออกสำหรับไมโครซอฟท์ วินโดวส์ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559
ในสตาร์ดิวแวลลี ผู้เล่นรับบทบาทตัวละครที่ต้องรับฟาร์มของปู่ในสตาร์ดิวแวลลีที่ชำรุดทรุดโทรม ด้วยความที่อยากหนีจากงานในสำนักงานอันเร่งรีบ ขณะหาเงินในเกมเพื่อขยายฟาร์ม ผู้เล่นต้องจัดการกับเวลาและพลังงานของตัวละครระหว่างทำงาน เช่น ปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์ สร้างของ ขุดเหมือง และเข้าสังคม รวมไปถึงการแต่งงานกับผู้อยู่อาศัยในเมืองเล็ก ๆ นี้ เกมมีปลายที่เปิดกว้างทำให้ผู้เล่นสามารถทำกิจกรรมได้ตามต้องการ
สตาร์ดิวแวลลีได้รับแรงบันดาลใจจากเกมชุดฮาร์เวสต์มูน ผู้สร้าง เอริค บาโรน ทำการจัดการกับจุดอ่อนของเกม ขณะพัฒนาความสามารถในการสร้างโปรแกรมและออกแบบเกมส์ของตนเอง นอกจากบาโรนจะสร้างและพัฒนาเกมนี้ด้วยตนเองในสี่ปีที่ผ่านมาแล้วยังสื่อสารกับผู้เล่นที่สนใจเพื่อฟังการตอบรับ ชักเคิลฟิชเกมส์เข้าหาบาโรนเพื่อขอเผยแพร่เกมขณะพัฒนาไปได้ครึ่งหนึ่ง ทำให้บาโรนสามารถมุ้งไปที่การสร้างเกมที่เขาอยากจะสร้าง
สตาร์ดิวแวลลีได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้วิจารย์ และยังเป็นหนึ่งในเกมที่ขายดีที่สุดในสตรีมในเดือนแรก ๆ ที่ถูกปล่อยมา และขายได้กว่าหนึ่งล้านครั้ง จากนั้นบาโรนชี้ว่าเขามีแผนจะขยายเกมเพื่อให้มีระบบอื่น ๆ เช่น โหมดที่ผู้เล่นร่วมมือกัน และการเล่นในเครื่องเล่นเกมอื่น ๆ
2. Minecraft

มน์คราฟต์ (Minecraft) เป็นวิดีโอเกมแซนด์บ็อกซ์ที่สร้างขึ้นโดยนักออกแบบเกมชาวสวีเดน มาร์คุส แพร์สชอน (Markus Persson) และต่อมาได้รับการพัฒนาโดยโมแยง (Mojang) เกมนี้จะให้ผู้เล่นสามารถสร้างสิ่งต่าง ๆ ด้วยบล็อกที่หลากหลายในรูปแบบโลก 3 มิติ ซึ่งจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ในเกมก็จะมีการสำรวจ การรวบรวมทรัพยากร การคราฟต์ของ และการต่อสู้
เกมนี้จะมีโหมดการเล่นที่หลากหลายซึ่งประกอบไปด้วย โหมดเอาชีวิตรอด (Survival mode) เป็นโหมดที่ผู้เล่นจะต้องหาทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อสร้างโลกของตัวเองและต้องรักษาเลือดของตัวเองด้วย, โหมดฮาร์ดคอร์ (Hardcore mode) เป็นโหมดที่ผู้เล่นจะต้องหาทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อสร้างโลกของตัวเองเช่นเดียวกับโหมดเอาชีวิตรอด แต่โหมดนี้ผู้เล่นจะมีเพียงแค่หนึ่งชีวิตเท่านั้น, โหมดสร้างสรรค์ (Creative mode) เป็นโหมดที่ผู้เล่นมีทรัพยากรไม่จำกัดและสามารถบินได้, โหมดผจญภัย (Adventure mode) เป็นโหมดที่ผู้เล่นสามารถเล่นแมปที่สร้างโดยคนอื่นได้ และโหมดผู้ชม (Spectator mode) เป็นโหมดที่ผู้เล่นสามารถบินไปได้รอบ ๆ และสามารถทะลุบล็อกได้ แต่จะไม่สามารถวางหรือทำลายบล็อกใด ๆ ได้เลย
3. Farming Simulator 22

สวมบทบาทเป็นชาวนายุคใหม่ และสร้างฟาร์มของคุณอย่างสร้างสรรค์ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันสามแบบในอเมริกาและยุโรป เกม Farming Simulator 22 นำเสนอการทำฟาร์มหลากหลายรูปแบบ โดยเน้นที่การเกษตร การเลี้ยงสัตว์ และการทำป่าไม้ และในขณะนี้มีการเพิ่มรอบตามฤดูกาลที่น่าตื่นเต้น!
4. My Time at Portia

เริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมือง Portia ที่น่าหลงใหล ฟื้นฟูโรงงานที่ถูกทิ้งร้างของพ่อคุณให้กลับมารุ่งเรืองเหมือนในอดีต ด้วยการทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์และผูกมิตรกับผู้อาศัยสุดแปลกในดินแดนหลังหายนะที่น่าหลงใหลนี้
คุณจะต้องรวบรวมเหมืองแร่และสร้างหนทางไปสู่การเป็นโรงงานอันดับหนึ่งใน Portia ด้วยคู่มือเก่าแก่และโต๊ะทำงานของพ่อคุณ ช่วยชาวบ้านฟื้นฟูเมืองและเปิดเผยความลับที่ซ่อนอยู่ลึกลงไปข้างใต้
5. Kynseed

Kynseed เป็นเกมผจญภัย RPG กราฟฟิค 2D ที่มีระบบการเล่นโดยผู้เล่นจะเป็นคนกำหนดเส้นทางและการดำเนินเรื่องเอง ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเกมสุดฮิตอย่าง Stardew Valley ภายในเกม ผู้เล่นจะสามารถใช้เวลาไปกับการทำฟาร์ม, สร้างผลผลิตทางการเกษตร หรือ เลี้ยงสัตว์ และการพบปะผู้คนภายในเกม จะเป็นการสร้างสัมพันธ์หรือความเกลียดชัง ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้เล่นเอง อีกหนึ่งความพิเศษของเกมนี้คือ ถ้าหากคุณสามารถเล่นตัวเกมไปได้ระยะหนึ่งแล้วเนื้อเรื่องนำพาไปถึงจุดที่ผู้เล่นต้องตาย ผู้เล่นก็ยังคงสามารถเล่นเกมต่อได้โดยการรับบทตัวละครรุ่นลูกแทน เรียกได้ว่าไม่เคยเห็นเกมไหนที่ทำแบบนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย
6. Verdant Skies

Verdant Skies เป็นเกมทำฟาร์มแทนที่จะปลูกพืชที่คุ้นเคยเช่นข้าวโพดหรือฟักทองคุณจะปลูกพืชอวกาศดัดแปลงพันธุกรรม แทนที่จะเป็นเมืองชนบทตัวเอกของคุณเป็นสมาชิกล่าสุดของอาณานิคมอวกาศ คุณจะช่วยสร้างและขยายขีดความสามารถของอาณานิคมด้วยทรัพยากรที่คุณค้นพบและรวบรวมดึงดูดให้บุคคลใหม่เข้าร่วมอาณานิคม เช่น เดียวกับเกมทำฟาร์มอื่น ๆ และยังสามารถให้คุณสร้างสัมพันธ์และแต่งงานกับเพื่อนอาณานิคมต่าง ๆ อย่างไรก็ตามคุณลักษณะที่น่าสนใจที่สุดคือส่วนที่คุณใช้ในการสร้างพืชชนิดใหม่
7. Farmer’s Dynasty

จำเวลาดี ๆ ในวันเก่า ๆ เมื่อครั้งไปเยี่ยมฟาร์มของปู่คุณได้ไหม? จำเวลาที่คุณนั่งอยู่บนรถแทรกเตอร์กับปู่ขับรถไปรอบๆ และทำงานในไร่ได้รึเปล่า? ตอนนี้คุณกลับมาที่ฟาร์มของคุณแล้ว หลายปีที่ผ่านมาคุณยุ่งอยู่กับงานมากมายในเมืองแต่ก็ยังไม่เคยลืมช่วงเวลาดีๆ ในอดีต คุณยังคงจดจำความใฝ่ฝันที่มีได้ดีเสมอ นั่นก็คือการฟื้นฟูฟาร์มของปู่และเริ่มทำฝันของคุณให้เป็นจริง!
8. Harvest Moon: Light of Hope

Harvest Moon: Light of Hope เป็นเกมที่พัฒนาและจำหน่ายโดย Natsume ตัวเกมนั้นยังพัฒนาโดยมีแนวคิดที่ต้องการให้เกมนั้นเล่นง่ายและไม่ซับซ้อน เหมาะกับผู้เล่นทั่วไป งานภาพของภาคนี้ทาง Natsume ตั้งชื่อว่าเป็นสไตล์ “Retro Plus” กล่าวคือตัวเกมจะเป็นลักษณะ 2D คล้าย ๆ เกมสมัยก่อน แต่ลายเส้นของตัวเกมจะเป็นแบบสมัยใหม่คือมีสีสันสวยงาม อีกทั้งระบบเกมเพลย์ใหม่ ๆ ตามแบบเกมยุคนี้
เนื้อเรื่องในเกมภาคนี้นั้นค่อนข้างสั้น ๆ ใช้เวลาไม่นานก็สามารถจบเนื้อเรื่องหลักได้ หากเล่นอย่างรวดเร็วก็อาจจะใช้เพียง 2-3 ฤดูกาลภายในเกมเท่านั้น ในส่วนของเกมเพลย์หลักนอกจากระบบการทำฟาร์มแล้ว จะมีเรื่องของการทำเควสต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเควสต์เนื้อเรื่อง หรือหรือเควสต์ทั่วไปที่ชาวบ้านจะส่งเป็นจดหมายมาบอกเราที่ตู้จดหมายหน้าบ้าน โดยระบบเควสต์นี้ก็เพื่อให้เราสามารถจดจำได้นั่นเองว่าเรามีงานอะไรและต้องทำอะไรต่อไป
สิ่งที่แตกต่างไปจาก Story of Seasons หรือ Harvest Moon ของผู้พัฒนาต้นตำหรับก็คือ ระบบ Mutation หรือระบบการกลายพันธุ์ กล่าวคือผักแต่ละชนิดเมื่อเราปลูกแล้วก็จะมีโอกาสกลายพันธุ์เป็นผักชนิดใกล้เคียงอื่น ๆ ได้ เช่น Corn ถ้าสามารถทำตามเงื่อนไขได้ครบก็มีโอกาสได้เป็น Sunset Corn
9. Doraemon Story of Seasons

โนบิตะได้พบเข้ากับเมล็ดพันธ์ประหลาดซึ่งไม่รู้ที่มาที่ไป หลังจากรดน้ำต้นไม้ครั้งแรกจนเป็นต้นอ่อนก็เริ่มเจริญเติบโตเร็วขึ้นกว่าเดิมอย่างผิดปกติจนแตกก้านสาขาออกกลายเป็นต้นไม้ที่สวยงามตระหง่าน ในขณะนั้นเองก็เกิดพายุฝนฟ้าคะนองขึ้น พายุนั้นได้พัดพาพวกเขาและต้นไม้เข้าไปในห้วงมิติ หลังจากพายุสงบลงทุกคนก็ได้ตื่นขึ้นมาในสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งโดราเอม่อนทำเครื่องมือวิเศษหายไปในพายุครั้งนั้นแล้วถูกพวกสัตว์ในป่าโขมยไปทำให้โดราเอม่อนไม่เหลือเครื่องมือที่จะพาพวกเขากลับบ้านได้ ในขณะที่เดินออกสำรวจกันก็ได้เดินไปจนพบกับเมืองที่มีชื่อว่า ‘Natura’ พวกโนบิตะได้พบกับเด็กหนุ่มที่ชื่อว่า ‘Harmon(ฮาม่อน)’ ซึ่งในตอนแรกนั้นพวกเขาไม่สามารถสื่อสารกันได้เนื่องจากพูดคนละภาษา
โดราเอม่อนจึงได้ให้เขากินวุ้นแปลภาษาทำให้สื่อสารเข้าใจกัน หลังจากที่พวกโนบิตะจึงเล่าว่าพวกตนถูกพามาที่นี่ได้อย่างไรให้กับฮาม่อนและคุณยายของเขาที่ชื่อว่า ‘Ravi(ราวี่) ‘ เธอจึงเล่าว่าที่นี่มักมีพายุที่พัดพาผู้คนออกไป และพัดเข้ามาอยู่บ่อยครั้ง เธอเสนอให้พวกโนบิตะพักกันที่บ้านของเธอก่อนในวันแรก ในวันถัดมานายกของเมืองที่ชื่อว่า ‘Ryam(ไรอัม/เรียม)’
เข้ามาพบที่บ้านและประกาศขึ้นว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ในเมืองนี้ต้องทำงานกันทุกคน หลังจากนั้นฮาม่อนจึงได้พาพวกโนบิตะเข้าไปในเมืองเพื่อทำความรู้จักกับชาวเมืองและหางานให้กับพวกโนบิตะ หลังจากที่เพื่อนๆทั้ง4คนหางานกันได้แล้ว เหลือเพียงโนบิตะคนเดียวที่ยังไม่มีงานทำ โนบิตะจึงได้เสนอตัวขอช่วยเหลืองานฮาม่อนที่ฟาร์ม ฮาม่อนจึงได้แนะนำพื้นที่อีกไร่นึงของเขาให้กับโนบิตะและบอกว่าโนบิตะสามารถพักที่นี่ได้ ด้วยเหตุนี้โนบิตะจึงได้อาศัยอยู่ที่ฟาร์มแห่งนี้ และการใช้ชีวิตในฟาร์มของโนบิตะก็ได้เริ่มต้นขึ้น
10. Staxel

Staxel จากผู้พัฒนา Plukit ที่ตอนนี้ได้ออกมาประกาศว่าตัวเกมนั้นได้ออกจาก Steam Early Access เป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ยังได้ออกมาสรุปคุณสมบัติทั้งหมดของเกมที่ได้ในช่วง Early Access กับผู้ที่ไม่ได้ติดตามเกมอีกด้วย ซึ่งคุณสมบัติทั้งหมดประกอบไปด้วย ระบบการสร้างดินแดนเวทมนตร์ใหม่ “จากความลึกของถ้ำคริสตัลวางกับเห็ดลอยบนท้องฟ้า”, เพิ่มมินิเกม สุนัขและสัตว์เลี้ยงกระต่ายตัวใหม่, เทศกาลที่จะมีส่วนร่วมในการจับนางฟ้า, การสำรวจถ้ำเพื่อสมบัติ และการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจาก fishing minigame ไปอยู่บนปฏิทิน เกม Staxel จะคล้ายกับเกม Stardew Valley แต่ไม่มีการต่อสู้ และได้รับการดัดแปลงมาจากเกม Minecraft เกมกำลังวางจำหน่ายบน Steam และ Humble