เคล็ดลับเสริมดวง

พระสยามเทวาธิราช คืออะไร? เทพอภิบาลแผ่นดินไทย

Key Points

  • พระสยามเทวาธิราช เป็นเทวรูปทองคำที่สร้างขึ้นในสมัย รัชกาลที่ 4 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องประเทศไทยจากภัยคุกคาม
  • มีความสำคัญในฐานะ เทพอภิบาลแผ่นดินไทย ที่คนไทยเชื่อว่าคอยปกป้องชาติจากวิกฤตต่างๆ
  • มีพิธีบวงสรวงประจำปีในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 และพิธีอื่นๆ ที่ผสมผสานวัฒนธรรมไทยและจีน

ถ้าพูดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของเรา ชื่อของ พระสยามเทวาธิราช คงเป็นหนึ่งในนั้นที่หลายคนนึกถึง โดยเฉพาะในยามที่บ้านเมืองเผชิญวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นภัยจากภายนอกหรือความไม่สงบภายใน เทวรูปทองคำองค์นี้ถูกเชื่อว่าเป็นเทพยดาที่คอยปกป้องประเทศไทยให้รอดพ้นจากอันตรายมานานนับศตวรรษ แต่ พระสยามเทวาธิราช คืออะไรกันแน่? มีที่มาอย่างไร? และทำไมถึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังของคนไทย? วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกเรื่องราวของเทพองค์นี้ ตั้งแต่ประวัติการสร้าง ความเชื่อ พิธีกรรม ไปจนถึงบทบาทในหน้าประวัติศาสตร์ไทย

พระสยามเทวาธิราช ไม่ใช่แค่รูปเคารพธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นชาติไทยที่สะท้อนถึงความศรัทธาและความมุ่งมั่นในการรักษาเอกราชและความมั่นคงของแผ่นดิน เรื่องราวของเทพองค์นี้เต็มไปด้วยความน่าสนใจ ทั้งในแง่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มาดูกันว่า พระสยามเทวาธิราช มีความสำคัญอย่างไร และทำไมคนไทยถึงให้ความเคารพนับถือมาจนถึงทุกวันนี้

พระสยามเทวาธิราช คืออะไร?

ประวัติการสร้าง พระสยามเทวาธิราช

เรื่องราวของ พระสยามเทวาธิราช เริ่มต้นในสมัย รัชกาลที่ 4 หรือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในช่วงประมาณ พ.ศ. 2402–2403 ซึ่งเป็นยุคที่ประเทศไทย หรือ สยาม ในขณะนั้น เผชิญกับภัยคุกคามจากชาติตะวันตก โดยเฉพาะ ฝรั่งเศส และ อังกฤษ ที่กำลังขยายอิทธิพลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พระองค์ทรงมีพระราชดำริว่า สยาม สามารถรอดพ้นจากวิกฤตการสูญเสียเอกราชได้หลายครั้งราวปาฏิหาริย์ ซึ่งน่าจะมีเทพยดาคอยปกป้องอยู่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเทวรูปขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการปกป้องชาติ

ผู้รับผิดชอบในการออกแบบและปั้นเทวรูปนี้คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการ ซึ่งในขณะนั้นยังทรงเป็น หม่อมเจ้าประดิษฐ์วรการ และเป็นช่างฝีมือชั้นนำใน กรมศิลปากร พระสยามเทวาธิราชถูกหล่อขึ้นด้วย ทองคำบริสุทธิ์ สูง 8 นิ้ว (ประมาณ 20 เซนติเมตร) ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ พระหัตถ์ขวาทรง พระแสงขรรค์ และพระหัตถ์ซ้ายยกขึ้นในท่าอภิปราย เทวรูปนี้ถูกประดิษฐานในเรือนแก้วที่ทำจาก ไม้จันทน์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายวิมานจีน และมีคำจารึกภาษาจีนที่แปลว่า “ที่สิงสถิตแห่งพระสยามเทวาธิราช”

ต่อมาในสมัย รัชกาลที่ 5 หรือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง พระสยามเทวาธิราช อีกองค์หนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับองค์แรก แต่พระพักตร์ออกแบบให้เหมือน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และประดิษฐานที่ พระที่นั่งอัมพรสถาน ใน พระราชวังดุสิต นอกจากนี้ ยังมีการสร้างเหรียญที่มีภาพ พระสยามเทวาธิราช เช่น เหรียญดุสิดีมาลา และ เหรียญราชการผ่านศึก ในปี พ.ศ. 2427 เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปีของ กรุงรัตนโกสินทร์ และเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ในช่วงสงคราม

การสร้าง พระสยามเทวาธิราช ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงถึงความศรัทธาในเทพยดาเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือในการรวมใจคนในชาติให้เป็นหนึ่งเดียวในยามที่ สยาม ต้องเผชิญกับความท้าทายจากทั้งภายในและภายนอก การที่ รัชกาลที่ 4 ทรงเลือกให้สร้างเทวรูปนี้ขึ้นมาในช่วงเวลานั้น แสดงถึงวิสัยทัศน์ในการใช้ความเชื่อทางจิตวิญญาณเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชาติ

ลักษณะและสถานที่ประดิษฐาน

พระสยามเทวาธิราช เป็นเทวรูปที่หล่อด้วย ทองคำบริสุทธิ์ มีความสูง 8 นิ้ว (20 เซนติเมตร) และกว้าง 2 นิ้ว (5.1 เซนติเมตร) ประทับยืนในท่วงท่าที่สง่างาม ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ พระหัตถ์ขวาทรง พระแสงขรรค์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและการปกป้อง ส่วนพระหัตถ์ซ้ายยกขึ้นในท่าอภิปราย ซึ่งแสดงถึงการประทานพร เทวรูปนี้ถูกประดิษฐานในเรือนแก้วที่ทำจาก ไม้จันทน์ ออกแบบในลักษณะคล้ายวิมานจีน โดยมีคำจารึกภาษาจีนที่ผนังด้านหลัง แปลว่า “ที่สิงสถิตแห่งพระสยามเทวาธิราช”

ในอดีต พระสยามเทวาธิราช องค์แรกถูกประดิษฐานที่ พระที่นั่งทรงธรรม ใน พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ภายใน พระบรมมหาราชวัง แต่ต่อมาในสมัย รัชกาลที่ 5 ได้ย้ายไปประดิษฐานที่ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบัน โดยตั้งอยู่เหนือประตู ทวารเทวราชมเหศวร์ ซึ่งเป็นประตูกลางของพระที่นั่ง สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งใน พระบรมมหาราชวัง เพราะเป็นจุดที่ใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆ

เรือนแก้วที่ประดิษฐาน พระสยามเทวาธิราช ถูกออกแบบอย่างประณีตด้วย ไม้จันทน์ และมีการแกะสลักลวดลายปิดทอง ทำให้เทวรูปนี้ไม่เพียงแต่มีความศักดิ์สิทธิ์ในแง่จิตวิญญาณ แต่ยังเป็นงานศิลปะชั้นสูงที่สะท้อนถึงฝีมือช่างไทยในสมัย รัตนโกสินทร์

ความเชื่อและความสำคัญ

คนไทยเชื่อว่า พระสยามเทวาธิราช เป็น เทพอภิบาลแผ่นดินไทย ที่มีอำนาจสูงสุดเหนือเทพยดาทั้งปวง คอยปกป้องและรักษาประเทศให้รอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นภัยจากศัตรูภายนอก ความไม่สงบภายใน หรือภัยพิบัติต่างๆ เทพยดาองค์นี้มีบริวารสำคัญ เช่น พระสุเทพ, พระสุดา, พระสุเมือง, และ พระลักษณ์เมือง ซึ่งล้วนแต่เป็นเทพยดาที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องเมืองและชุมชนในความเชื่อของไทย

พระสยามเทวาธิราช ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของศาสนาพุทธหรือศาสนาพราหมณ์โดยตรง แต่เป็นความเชื่อที่ผสมผสานระหว่างความศรัทธาในเทพยดาและความเชื่อในวิญญาณบรรพบุรุษที่ปกป้องเมือง ตามที่ หม่อมเจ้าปุณพิศมัย ดิศกุล ได้กล่าวไว้ว่า การบูชา พระสยามเทวาธิราช เป็น “พิธีผี” ที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อในเจ้าพ่อเจ้าเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยโบราณ

ในสมัย รัชกาลที่ 4 พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับการบูชา พระสยามเทวาธิราช เป็นอย่างมาก โดยมีการถวายเครื่องบูชาทุกวัน และจัดพิธีพิเศษในวันอังคารและวันเสาร์ก่อนเที่ยง ความเชื่อนี้ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในยามที่บ้านเมืองเผชิญกับวิกฤต เช่น สงครามหรือความไม่สงบทางการเมือง ซึ่งคนไทยมักนึกถึง พระสยามเทวาธิราช เพื่อขอพรให้ชาติรอดพ้นจากภัยอันตราย

พิธีกรรมและการบูชา

พิธีกรรมที่สำคัญที่สุดของ พระสยามเทวาธิราช คือ พระราชพิธีบวงสรวง ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ของไทยในสมัยโบราณ (ประมาณเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม) พิธีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่ พระบรมมหาราชวัง โดยมีเครื่องบูชาต่างๆ เช่น หัวหมู, เป็ด, ไก่, เมี่ยงส้ม, ขนมหวานปิดทอง, เส้นหมี่ไข่, ส้มเขียวหวาน, องุ่น, ลูกจันทน์อบ, มะพร้าวอ่อน, กล้วย, หอมแดง, ขนมต้มแดงต้มขาว, ทับทิม, เทียนเงินเทียนทอง และอื่นๆ

นอกจากนี้ ยังมี พระราชพิธีบวงสรวงพระภูษามเรียง ซึ่งจัดขึ้นในวันก่อนวันไหว้พระจันทร์ของจีน และพิธีบวงสรวงในวันตรุษจีนที่ พระที่นั่งอัมพรสถาน โดยมีการถวายเครื่องบูชาคู่ เช่น หัวหมู, เป็ด, ไก่, ขนมเข่ง, ขนมจันอับ, ขนมเปี๊ยะ, ผลไม้, กระดาษเงินกระดาษทอง, วิมานเทวรูปสีชมพู, ดอกไม้, ธูป, เทียนเงินเทียนทอง และประทัด

พิธีเหล่านี้สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างความเชื่อของไทยและอิทธิพลจากวัฒนธรรมจีน ซึ่งเห็นได้จากลักษณะของเรือนแก้วและเครื่องบูชา การบูชา พระสยามเทวาธิราช จึงไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความเคารพต่อเทพยดา แต่ยังเป็นการสืบทอดประเพณีที่เชื่อมโยงกับรากเหง้าทางวัฒนธรรมของชาติ

เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์

พระสยามเทวาธิราช มีบทบาทสำคัญในหลายเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของไทย โดยเฉพาะในช่วงที่ชาติเผชิญกับวิกฤต ตัวอย่างเช่น ในสมัย รัชกาลที่ 4 การสร้างเทวรูปนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ สยาม ต้องเผชิญกับภัยคุกคามจาก ฝรั่งเศส และ อังกฤษ ซึ่งเป็นชาติมหาอำนาจที่กำลังขยายอิทธิพลในภูมิภาค การรอดพ้นจากการเป็นอาณานิคมถูกมองว่าเป็นผลจากอำนาจปกป้องของ พระสยามเทวาธิราช

ในสมัย รัชกาลที่ 7 หลังจากการปราบปราม กบฏบวรเดช ในปี พ.ศ. 2476 มีการสร้างเหรียญ พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ซึ่งมีภาพ พระสยามเทวาธิราช ในท่าประทับยืนถือพระแสงขรรค์ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่ช่วยปราบปรามกบฏ เหรียญนี้เป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะและความมั่นคงของชาติ

ในปี พ.ศ. 2518 ระหว่างความขัดแย้งบริเวณชายแดน มีการสร้างเทวรูปจำลองของ พระสยามเทวาธิราช ที่ สถานีตำรวจอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดย พระอุทัยธรรมาธร เจ้าอาวาสวัดป่ามะไฟ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ทหาร ตำรวจ และประชาชนในพื้นที่

อิทธิพลทางวัฒนธรรมและเทวรูปจำลอง

พระสยามเทวาธิราช ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ทางจิตวิญญาณ แต่ยังมีอิทธิพลอย่างมากต่อวัฒนธรรมและความเป็นชาติของไทย เทวรูปนี้ถูกมองว่าเป็นตัวแทนของความสามัคคีและความเข้มแข็งของชาติ โดยเฉพาะในยามที่ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ การบูชา พระสยามเทวาธิราช จึงเป็นการแสดงถึงความหวังและความศรัทธาในอนาคตของชาติ

นอกจากเทวรูปหลักที่ พระบรมมหาราชวัง และ พระราชวังดุสิต แล้ว ยังมีเทวรูปจำลองของ พระสยามเทวาธิราช กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย เช่น ที่ พิพิธภัณฑ์สักทอง วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร, หน้าสถานีตำรวจอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว, ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย, ด่านเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรี, ปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา และ สนามกอล์ฟนอร์ทเทิร์น จังหวัดอยุธยา

ในปี พ.ศ. 2525 ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 200 ปีของ กรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสสักการะ พระสยามเทวาธิราช ที่ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ประชาชนทั่วไปได้เข้าใกล้เทวรูปนี้อย่างใกล้ชิด

ทิ้งท้าย

พระสยามเทวาธิราช เป็นมากกว่าเทวรูปทองคำ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความหวัง ความสามัคคี และความมั่นคงของชาติไทย ตั้งแต่การสร้างในสมัย รัชกาลที่ 4 เพื่อปกป้อง สยาม จากภัยคุกคาม ไปจนถึงบทบาทในเหตุการณ์สำคัญ เช่น กบฏบวรเดช และความขัดแย้งชายแดน เทพองค์นี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณของคนไทย การบูชาและพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน สะท้อนถึงความผสมผสานระหว่างความเชื่อของไทยและอิทธิพลจากวัฒนธรรมอื่นๆ

หากเพื่อนๆ สนใจอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระสยามเทวาธิราช หรือประเพณีไทยอื่นๆ ลองค้นคว้าเพิ่มเติมหรือแวะไปเยี่ยมชมสถานที่ประดิษฐานเทวรูปจำลองในจังหวัดต่างๆ กันนะ แล้วอย่าลืมมาแชร์ประสบการณ์หรือความรู้ใหม่ๆ ในคอมเมนต์ด้านล่างด้วยล่ะ!

Source
wikipedia.orgroyaloffice.thmuseumsiam.orgtourismthailand.org
กดเพื่ออ่านต่อ

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button