13 วิธีเห็นผี สาเหตุทำให้เห็นผี ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

คนที่กำลังมองหา วิธีเห็นผี คาถาเห็นผี เราได้ทำการรวบรวมมาให้ได้ทราบกัน และสาเหตุที่ทำให้เห็นผี หรือ สัมผัสที่ 6 เกิดจากอะไรมาดูกัน
วิธีเห็นผี

1. ตัดเล็บตอนกลางคืน
วิธีนี้จะต้องทำระหว่างสี่ทุ่มถึงเที่ยงคืนเท่านั้น โดยเริ่มจากมือขวา ให้ตัดเล็บเรียงตามลำดับนิ้วดังนี้ “ก้อย โป้ง นาง ชี้ กลาง” หรือตัดจากด้านนอกเข้าด้านในนั่นเอง การตัดจะต้องระวังเป็นพิเศษให้เล็บได้รูป ห้ามหักหรือฉีกเด็ดขาด
เมื่อตัดเล็บมือขวาเสร็จ ให้ตัดเล็บมือซ้ายต่อ เช่นเดิมตามลำดับ
จากนั้นให้นำเศษเล็บทั้งหมดไปห่อในผ้าใช้แล้วที่เป็นสีดำ นำไปวางไว้ทางทิศตะวันตกของที่พัก เมื่อคุณเข้านอนได้ไม่นานจะได้ยินเสียงบางอย่างมาตัดเล็บดังแกร๊ก ๆ ถ้าอยากเห็นให้ลืมตาได้ แต่อย่าโวยวายเพราะเขามาดี มาเพื่อตัดเล็บคืนคุณนั่นเอง
และเมื่อคุณตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ให้เปิดห่อผ้าที่วางเอาไว้ในตอนแรก จะพบว่าเล็บที่อยู่ในห่อผ้าไม่ใช่เล็บของคุณ แล้วพูดเบา ๆ ว่า “ขอบคุณ” ก่อนจะนำไปฝังที่ไหนก็ได้ แต่ห้ามทิ้งหรือเผาเด็ดขาด
2. นำน้ำตาสุนัขสีดำมาทาใต้เปลือกตา
เป็นวิธีหนึ่งจากตำราไทยโบราณเกี่ยวกับสุนัขสีดำ คนไทยมีความเชื่อว่าสุนัขสีดำเป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้ายและมองเห็นสิ่งลี้ลับได้
หากคุณเลือกทำตามวิธี ให้นำน้ำตาของสุนัขสีดำมาทาใต้เปลือกตาพร้อมกับหลับตาตั้งจิตอธิษฐาน เมื่อลืมตาขึ้น…คุณอาจจะเห็น…ก็เป็นได้
3. นอนคาบธูปสีดำหันไปทางทิศตะวันตก
ปกติการนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตกจัดว่าเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับคนโบราณ แต่ก็ไม่ได้บอกไว้ว่าทำไม (คาดว่าอาจเป็นเพราะทิศตะวันตกเป็นทิศที่คนตายนอนหันหัวไปทางนั้น) แต่เหตุผลที่แท้จริงนั้นอาจเป็นเพราะว่าบ้านในสมัยก่อนของคนไทยเป็นแบบเปิดโล่ง คือ หน้าต่างเปิดไว้ตลอดเวลา ถ้าหากนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก พอพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก แดดก็จะส่องหน้าและทำให้ร้อนนั่นเอง
วิธีนี้จะต้องทำในวันพระ โดยนอนลงบนพื้นพร้อมพนมมือและนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก คาบธูปสีดำ 3 ดอกไว้ในปาก แล้วหลับตาท่องนะโมย้อนหลังให้ครบ 16 จบ เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอาจจะเห็นวิญญาณ…ก็เป็นได้…
4. เคาะเรียกผีมากินข้าว
ตามตำราไทยโบราณได้บันทึกเรื่องนี้เอาไว้ มีความเชื่อว่าผู้ที่ตายจากอุบัติเหตุ ผีตายโหง จะติดอยู่ในบริเวณที่ตนเองเสียชีวิตและไม่สามารถไปไหนได้ ถ้าอยากเห็นผีให้ลองไปบริเวณที่มีอุบัติเหตุ หรือทางสามแพร่งซึ่งมีความเชื่อที่ว่าเป็นทางที่ผีผ่าน
นำอาหารไปวาง แล้วเคาะช้อนส้อม เคาะตะเกียบไปเรื่อย ๆ การเคาะคือการเรียกผีมากินข้าว ให้ลองสังเกตปริมาณอาหารให้ดี เพราะอาจมีปริมาณที่ลดลงโดยไม่มีใครแตะต้องมันเลยแม้แต่น้อย
5. หวีผมหน้ากระจก
เป็นอีกหนึ่งในวิธีเห็นผีจากตำราไทยโบราณ ถ้าอยากเห็นผีด้วยวิธีการนี้ให้ดับไฟทุกดวงในบ้าน จุดเทียน 1 เล่มหน้ากระจก จากนั้นให้ใช้หวีหวีผมตัวเองพร้อมกับจ้องมองเงาในกระจกไปเรื่อย ๆ
6. กางร่มในที่ร่ม
ร่มที่ใช้จะต้องเป็นร่มสีขาวหรือดำเท่านั้นเพราะเป็นสัญลักษณ์ของการไว้ทุกข์นั่นเอง ให้กางในที่ร่มตอนเวลาโพล้เพล้ใกล้มืด ถ้าจะให้ดีที่นั่นต้องมีประวัติเรื่องผีด้วย กำหนดจิตให้เห็นในสิ่งที่อยากเห็น
7. ใส่เสื้อผ้าคนตาย
ตำราไทยโบราณบันทึกไว้ว่า การลองของวิธีนี้จะต้องเตรียมเสื้อผ้าคนตายไปวัด เมื่อไปถึงแล้วให้ใส่เสื้อผ้าที่เตรียมไว้ เสร็จแล้วก็กลั้นหายใจระมาณ 10 วินาทีพร้อมอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากเจอ
มีความเชื่อว่าหากทำตามวิธีนี้จะทำให้เราได้เห็นหรือได้สัมผัสกับวิญญาณที่เป็นเจ้าของเสื้อผ้านั่นเอง
8. ใช้เถ้ากระดูกผู้ตายทาเปลือกตา
คนโบราณมีความเชื่อว่าเถ้ากระดูกและดินฝังศพจะซึมซับวิญญาณของผู้ตายไว้ โดยเฉพาะดินฝังศพ ยิ่งมาจากดินที่ลึกมากเท่าไร ก็ยิ่งซึมซับวิญญาณได้มากเท่านั้น
วิธีการก็ คือ เอาดินมาทาที่เปลือกตาแล้วตั้งจิตอธิษฐาน จะทำให้เห็นวิญญาณในบริเวณนั้นหรือวิญญาณอาจมาชวนคุณไปอยู่ด้วย…ก็เป็นได้
9. นอนในโลงศพ
เป็นอีกหนึ่ง วิธีเห็นผี ที่ช่วงล่าท้าผีชอบทำบ่อยที่สุด การนอนในโลงศพนั้นเชื่อว่าจะทำให้เราได้สัมผัสกับโลกแห่งความตาย วิธีการก็คือให้เข้าไปนอนในโลงศพของจริง จากนั้นอธิษฐานพนมมือแล้วอมเหรียญบาทไว้ที่ปาก เชื่อกันว่าจะได้เห็นวิญญาณยืนอยู่ใกล้โลงศพ
10. แหงนหน้ามองบันได
การเห็นผีด้วยวิธีนี้ จะต้องนั่งถัดก้นจากบันไดขั้นบนสุดลงมาจนถึงขั้นล่างสุด เมื่อถึงขั้นสุดท้ายแล้ว ให้แหงนหน้าขึ้นไปมองบันไดขั้นบนสุดแล้วเราจะเจอกับวิญญาณที่รอเราอยู่
11. มองลอดใต้หว่างขา
ทำไมต้องเป็นหว่างขา? เวลาคนเราเกิดและลืมตาขึ้นมาบนโลกใบนี้ เราทุกคนล้วนเกิดมาจากหว่างขาของแม่ ดังนั้นจึงมีความเชื่อว่าบริเวณหว่างขานี้เองที่เป็นจุดที่ติดต่อกันระหว่างโลกมนุษย์กับดินแดนแห่งวิญญาณ
ถ้าอยากเห็นผี ให้รอจนกว่าจะถึงเวลากลางคืน ยืนตรงที่โล่งที่มองเห็นพระจันทร์ กำใบไม้ที่เก็บได้จากแถวนั้นแล้วหันหน้าไปทางทิศตะวันออก (เพื่อที่เวลาก้มลงเราก็จะหันหน้าไปทางทิศตะวันตกพอดี) หมุนตัวตามเข็มนาฬิกา (หมุนซ้าย) เมื่อหมุนครบ 1 รอบ ให้ท่อง “พุทโธทายะ” ทำซ้ำทั้งหมด 3 รอบ (อย่าลืมท่องให้ครบ 3 ครั้งด้วย)
ให้จินตนาการว่าใบไม้อันนี้คือสื่อกลางที่ทำให้เรามองเห็นวิญญาณได้ แล้วค่อย ๆ ก้มลง อย่าเพิ่งลืมตา ค่อย ๆ ตั้งสติ เมื่อสติมาครบแล้วจึงค่อยลืมตามองภาพใต้หว่างขาได้
เชื่อกันว่าคุณจะได้สัมผัสกับวิญญาณเข้าอย่างจัง
12. เล่นผีถ้วยแก้ว
การเล่นผีถ้วยแก้วเป็นการละเล่นที่ตกทอดมาจากอดีต และขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล อุปกรณ์ในการเล่นก็จะมี แก้ว ธูป 1 ดอก อุปกรณ์ในการจุดไฟ และกระดานที่เขียนตัวอักษร ทั้งพยัญชนะ สระในภาษาไทยอย่างครบถ้วน ตัวเลข ช่องสำหรับตอบคำถามว่า “ใช่หรือไม่ใช่” และช่องสำหรับออก
ผู้เล่นจะอัญเชิญดวงวิญญาณของผู้ตายในที่แห่งนั้นมาสิงสถิตอยู่ในแก้ว และสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ จากดวงวิญญาณนั้น
วิธีการเล่นขั้นแรกคือ จุดธูปหนึ่งดอกที่เตรียมมาเพื่อเชิญวิญญาณ นำควันธูปเข้าไปไว้ในแก้วที่คว่ำรออยู่บนกระดาษ จากนั้นให้ผู้เล่นทุกคนเอานิ้ววางไว้บนแก้ว และเริ่มสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ โดยห้ามผู้เล่นคนใดคนหนึ่งปล่อยนิ้วออกจากแก้วหรือพลิกแก้วเด็ดขาด
ว่ากันว่า วิญญาณที่เราเชิญมานั้น จะนั่งข้าง ๆ ผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง และคอยเอานิ้วดันแก้วเพื่อตอบคำถาม ในกรณีที่วิญญาณโกรธและไม่เต็มใจมา อาจจะไม่ต้องการออก
13. เล่นซ่อนหาตอนกลางคืน
เคยได้ยินคำเตือนที่คนโบราณมักจะห้ามกันบ้างไหม คำเตือนที่บอกว่า “ห้ามเล่นซ่อนหาตอนกลางคืน ผีจะบังตาและเอาไปซ่อน” นี่คือที่มาของวิธีการลองของ ซึ่งเป็นวิธีที่อันตรายที่สุดในบรรดาวิธีเห็นผีอื่น ๆ เปอร์ไม่แนะนำสักเท่าไหร่ แต่ถ้าอยากลองจริง ๆ ก็ควรมีเพื่อนมากกว่าหนึ่งคนเพราะจะต้องมีทั้งคนซ่อนและคนหา
วิธีการก็ไม่ยาก แค่เล่นซ่อนหาในตอนกลางคืน คนที่ซ่อนจะโดนผีบังตา ทำให้หาเท่าไรก็หาไม่เจอ วิธีการแก้คือต้องหาแมวดำมาวิ่งผ่านจึงจะเห็นคนที่ถูกซ่อน แต่แมวดำไม่ใช่ว่าจะหาง่าย ๆ และมันก็คงไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับเราสักเท่าไหร่ วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่อันตรายที่สุด แถมวิธีแก้ก็ยุ่งยากมาก ๆ
สาเหตุที่ทำให้เห็นผี

บุคคลนั้นมีสัมผัสที่ 6 ในกรณีนี้ คือ ความสามารถของแต่ละบุคคลที่จะเกิดขึ้นกับบางคนเท่านั้น โดยที่สัมผัสที่ 6 ที่เราได้ยินกันจนชินหูนั้นก็แยกออกไปอีกหลายประเภท อย่างแรกคือ ของเก่า หมายถึงสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดของบุคคลนั้นอาจมีสาเหตุมาจากสัญญาในอดีตหรือสิ่งที่บุคคลนั้นเคยสั่งสมและปฏิบัติมา อย่างที่สองคือ ได้ใหม่ในชาตินี้ ตรงนี้จะเกิดได้จากหลายสาเหตุเช่น การฝึกจิตไปจนถึงระดับหนึ่งจะสามารถทำให้มองเห็นและรับรู้ถึงพวกเขาได้ การครอบครู การเปิดตา ตรงนี้ก็มีส่วนมาก
เทพสถิต
ในกรณีนี้อาจจะพูดโดยรวมให้เห็นง่าย ๆ คือพวกที่เราชอบเรียกเขาว่า ร่างทรง พวกนี้การที่มีพลังงานชั้นสูงมาสัมผัสจะทำให้จิตถูกปรับและพัฒนาไปจนสามารถมองเห็นได้ โดยเทพสถิตนี้จะมาจากสัญญาเก่า ตัวตันของจิตนั้น และ การครอบครูเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาคุ้มครองอย่างเช่นการครอบครูของนาฏศิลป์
ดวงตก
ในกรณีที่บุคคลใดเกิดการดวงตกจนต่ำมาก ๆ จะทำให้สภาพจิตของคนคนนั้นต่ำลงจนไปแตะเอาชายขอบของภพนั้นและจะทำให้มองเห็นได้แต่สิ่งไม่ดีและน่ากลัว ที่สำคัญอาจเกิดอันตรายจากการมองเห็นได้
พวกเข้าต้องการให้เห็น
กรณีนี้พบได้น้อยเพราะว่าตัววิญญาณนั้นมีข้อจำกัดในการปรากฏตัวไม่ใช่ว่าอยากให้เห็นก็ได้เห็น แต่ถ้าวิญญาณดวงนั้นมีจิตอันแน่วแน่จะทำให้สามารถสื่อสารกับบางคลได้ แต่ทั้งนี้บุคคลนั้นก็ต้องพอมีอะไรที่เป็นตัวช่วยบ้าง เช่น พื้นเพเป็นคนมีเซ้นท์อยู่แล้ว หรือว่ามีอะไรสัมพันธ์กับวิญญาณดวงนั้น
สัมผัสที่ 6

สัมผัสที่หก (Sixth Sense หรือ Extrasensory perception) เป็นความสามารถพิเศษเฉพาะบุคคลที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์แน่ชัด แต่จะหมายถึง บุคคลที่สามารถรับรู้ข้อมูลเหนือจากสัมผัสปกติทั้งห้า คือ การมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การรับรส และการสัมผัส ส่วนใหญ่ จะหมายถึงการ ติดต่อกับวิญญาณของคนตาย หรือ การรับรู้ข้อมูลอนาคต
สัมผัสที่ 6 ประจำวันเกิด

สัมผัสที่ 6 หรือซิกเซ้นส์ มักเป็นพรสวรรค์อย่างหนึ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด บางคนมากบางคนน้อย หรือบางคนไม่มีเลยเพราะอาจขึ้นอยู่กับการปฏิบัติสมาธิ การมีบุญหรือกรรมที่ผูกกันมากับพลังที่สัมผัสได้ แต่ก็จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่มีสัมผัสที่ 6 หรือซิกเซ้นส์แรง ติดตัวมาโดยกำเนิดแต่จะเป็นคนที่เกิดวันไหนมาดูกัน
- ผู้ที่เกิดวันที่ 2 ผู้ที่เกิดวันนี้มีกมีซิกเซ้นส์แรง มีลางสังหรณ์ที่แม่นยำ สามารถสื่อสารกับสิ่งลี้ลับได้ มักสัมผัสได้ทั้งทางจิต และทางกาย ได้ง่ายกว่าคนอื่น ๆ เป็นคนที่มีสมาธิดีราวกับว่าอดีตชาติเคยผ่านการปฎิบัติธรรม หรือผ่านการฝึกกรรมฐานมาก่อน มีพลังจิต และสนใจในสิ่งลี้ลับด้วย
- ผู้ที่เกิดวันที่ 7 ผู้ที่เกิดวันนี้มักมีซิกเซ้นส์ที่แม่นยำแล้วก็ตรงด้วย คนเกิดวันที่ 7 ส่วนมากเป็นคนที่มีเชื้อสายของพญานาค และเป็นคนที่ชอบลองของ ใครว่าอะไรดีอะไรเด่น หรือที่ไหนเขาว่ามีของดีก็มักจะไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง
- คนที่เกิดวันที่ 8 คนที่เกิดวันนี้เป็นคนที่รับรู้ความรู้สึกความปรารถนาดีจากคนรอบข้างได้ง่าย เหมือนเขามีซิกเซ้นส์อย่างหนึ่ง รับรู้ได้เองว่าใครที่รักเขาจริง หรือใครที่เข้ามาหวังผลประโยชน์จากเขาโดยไม่ต้องพูดมาก อีกทั้งยังเป็นคนที่ฉลาดถ้ามาศึกษาเรื่องโหราศาสตร์ก็สามารถเป็นนักพยากรณ์ที่ดีได้
- ผู้ที่เกิดวันที่ 13 คนเกิดวันนี้เป็นคนที่มีสัมผัสที่ไว ถ้าปฏิบัติธรรมหรือเรียนรู้ธรรมะจะไปได้ไว เป็นคนที่มีลางสังหรณ์ มีซิกเซ้นส์ที่ค่อนข้างแรง คนวันที่ 13 บางคนเคยผ่านความเป็นความตายไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ หรือคนวันนี้มักจะเคยเกือบจมน้ำในตอนเด็ก ๆ จึงทำให้เขาสามารถสัมผัสกับสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติได้
- ผู้ที่เกิดวันที่ 18 คนวันนี้เป็นคนมีสมาธิมีสัมผัสที่ 6 มีลางสังหรณ์ มีซิกเซ้นส์ที่ค่อนข้างดี ถ้าทำสมาธิทำกรรมฐานด้วยจะพัฒนาไปได้ไวรวมทั้งเป็นคนมีสติปัญญาดีคิดวิเคราะห์ต่าง ๆ เนี่ยค่อนข้างลึก
- คนที่เกิดวันที่ 19 ผู้ที่เกิดวันนี้เป็นคนที่มีลางสังหรณ์แม่นยำ มีสมาธิรวมถึงพลังทางใจค่อนข้างสูงถ้าเอาไปใช้ในทางที่ดีก็จะไปได้ไกลไปได้ดีแต่ถ้าเอาไปใช้ในทางที่ผิดก็ถือว่าน่ากลัวจริง ๆ
- ผู้ที่เกิดวันที่ 21 ผู้ที่เกิดวันนี้เป็นคนที่เข้าใจคนอื่นได้ง่าย เป็นคนมีซิกเซ้นส์ดี ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในคนวันนี้ก็สามารถรับรู้และเข้าไปแก้ปัญหาไปเจรจาด้วยความสุภาพนุ่มนวลหรือมีวาทศิลป์ในการพูดที่ดี
- คนที่เกิดวันที่ 29 ผู้ที่เกิดในวันนี้เป็นผู้ที่ชอบศึกษาในสถานที่โบราณ เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ เป็นคนที่มีลางสังหรณ์และสัมผัสที่ค่อนข้างแม่นยำ มีพลังสมาธิที่ดีอีกทั้งมีพลังจิต หากฝึกฝนจะไปได้ไวกว่าคนอื่น เรียกว่าเป็นคนที่มีบุญเก่า หรือมีของเก่าติดตัวมาอย่างที่เขาเรียกว่าเชื้อฤาษีนั่นเอง
- ผู้ที่เกิดวันที่ 30 ผู้ที่เกิดวันนี้เป็นคนที่มีญาณ หรือมีลางสังหรณ์ในตัวเองค่อนข้างดี และแม่นยำ บุคลิกดูเป็นคนเข้มแข็งน่าเกรงขาม เป็นคนที่รู้จักตัวเอง สามารถที่จะอ่านความคิดอ่านใจคนอื่นได้ทะลุปรุโปร่งด้วย
ลักษณะคนที่มีสัมผัสพิเศษ

คาดการณ์ได้แม่นยำ
ไม่ว่าสภาพแวดล้อมภายนอกจะดูสงบนิ่งแค่ไหน คนกลุ่มนี้สังหรณ์ใจว่าจะต้องมีเรื่อง ก็มักจะมีตามนั้นทุกที ซึ่งอาการแบบนี้ส่วนใหญ่มาจาก ซิกเซ้นต์ ประจำตัวที่คอยเตือนให้เราระวังและป้องกันก่อนภัยจะมาเยือน
ความฝันมักจะเป็นจริง
ถึงจะฝันไม่บ่อย คนกลุ่มนี้ได้ลองฝันขึ้นมาล่ะก็ บอกเลยว่าส่วนมากมักเป็นจริง ทั้งเรื่องฝันแบบให้ต้องตีความ หรือฝันแบบเจอเหตุการณ์นั้นตรง ๆ เรียกว่าถ้าลองได้ฝันเมื่อไหร่ มักจะได้เรื่องแน่นอน
พบเจอสิ่งลี้ลับ
สิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ บางทีมาเป็นเสียง บางทีมาเป็นกลิ่น หรือบางทีมาจะ ๆ แบบไม่ต้องทันตั้งตัวกันเลยก็มี คนกลุ่มนี้มักเจอเป็นประจำ บางรายถึงขั้นเจอแม้แต่ในบ้านของตัวเอง ถ้ามีอาการแบบนี้ล่ะก็ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นคนมีเซ้นต์
พบเจอเหตุบังเอิญบ่อย ๆ
ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็มักจะเจอทุกที เช่น คนบางรายเจอเงินหล่นเป็นประจำ หรือบางคนเวลาเข้าห้องน้ำทีไร มักจะเจอของที่คนลืมไว้ในห้องน้ำทุกที สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่เหตุบังเอิญแบบที่เราคิดก็เป็นไปได้ เพราะจริง ๆ แล้วอาจจะเป็นซิกเซ้นต์ที่เรามีแต่ยังไม่รู้ตัวต่างหาก
- 13 หนังผี หนังสยองขวัญ แนะนำที่คุณไม่ควรพลาด ต้องหามาดู
- บั้งไฟพญานาค (บั้งไฟผี) วันออกพรรษา ณ ริมน้ำโขง
คาถาเห็นผี

“สุ ปิ นา นัง” แค่ 4 คำให้ภาวนาไปเรื่อย ๆ
ที่มาภาพ – Background vector created by pikisuperstar – www.freepik.com