เรื่องน่าสนใจ

ประวัติกรีฑา ประเภท และประโยชน์ของกรีฑา

กรีฑา (Athletics) คือ กลุ่มของกีฬาที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันวิ่ง , กระโดด , การขว้างปาและการเดิน ผลการแข่งขันจะถูกตัดสินโดยตำแหน่งการจบสกอร์ (หรือเวลาที่วัดได้) โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ราคาแพง ทำให้กรีฑาเป็นหนึ่งในกีฬาที่มีการแข่งขันกันมากที่สุดในโลก

ประวัติกรีฑา

ความเป็นมาของกรีฑานั้นเป็นที่เชื่อกันว่าชาวกรีกสมัยโบราณเป็นผู้ริเริ่มการแข่งขันกีฬาและกรีฑาเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 776 ปีก่อนคริสตกาล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมพลเมืองของกรีกให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมที่จะรับใช้ประเทศชาติได้อย่างเต็มที่ อีกเหตุผลหนึ่งคือชาวกรีกในสมัยโบราณนับถือเทพเจ้าอยู่หลายองค์ และเชื่อว่ามีเทพเจ้าสถิตอยู่บนเขาโอลิมปัสเทพเจ้าทั้งหลายเป็นผู้บันดาลความสุขหรือความทุกข์ให้แก่ผู้นับถือคล้ายกับเป็นผู้ชี้ชะตาของ ชาวกรีก

ดังนั้นชาวกรีกจึงพยายามที่จะประพฤติตนให้เป็นที่โปรดปราน ทำความเข้าใจและสนิทสนมกับเทพเจ้า เป็นเหตุให้มีพิธีบวงสรวงหรือทำพิธีกรรม ต่าง ๆ เมื่อเสร็จการบวงสรวงตามพิธีทางศาสนาแล้วจะต้องมีการเล่นกีฬาถวาย ณ ลานเชิงเขาโอลิมปัสแค้วนอีลิสเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองพระเกียรติของเทพเจ้า

ก้าวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งสำหรับการพัฒนากรีฑากลับมาใน ปี 1896 ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนและฤดูหนาว เริ่มต้นที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ

ใน ปี 1912 ความก้าวหน้าครั้งที่สองในการพัฒนากรีฑาเกิดขึ้นเมื่อสหพันธ์กีฬาสมัครเล่นนานาชาติหรือ IAAF ก่อตั้งขึ้นและด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นหน่วยงานกำกับดูแลระหว่างประเทศสำหรับการติดตามพัฒนากรีฑานานาชาติ

การก้าวไปสู่กีฬาอาชีพมากขึ้นนี้ได้รับการยอมรับโดยเฉพาะใน ปี 2001 เมื่อสภาคองเกรส IAAF ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้เปลี่ยนชื่อองค์กรเป็นสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (IAAF – International Association of Athletics Federations)

แผนผังสนามกรีฑา

แผนผังสนามกรีฑา

สนามกรีฑามืออาชีพสิ่งที่ควรจะต้องมี

  • ลู่วิ่งยางสังเคราะห์ 400 ม.
  • ทางวิ่งและหลุมกระโดดยาว
  • วงกลมจุดขว้าง
  • อุปกรณ์กระโดดสูงทั้งหมด
  • อุปกรณ์กระโดดค้ำถ่อทั้งหมด
  • ค้อนและจักร
ประเภทของกรีฑา

ประเภทของกรีฑา

กรีฑาถือเป็นกีฬาพื้นฐานในการสร้างสมรรถภาพทางด้านร่างกาย และเป็นกีฬาหลักที่นิยมเล่นและแข่งขันทั้งในและระหว่างประเทศ จากรายละเอียดกติกากรีฑาของสหพันธ์กรีฑาสมัครเล่นนานาชาติ สามารถแบ่งประเภทของกรีฑา ได้เป็น 5 ประเภท ดังนี้

  • กรีฑาประเภทลู่ (Track Events)
  • กรีฑาประเภทลาน (Field Events)
  • กรีฑาประเภทเดิน (Walking Events)
  • กรีฑาประเภทถนน (Road Races)
  • กรีฑาประเภทวิ่งข้ามทุ่ง (Cross Country Races)

กรีฑาประเภทลู่ (Track Events)

กรีฑาประเภทลู่ ประกอบด้วยการวิ่งในลู่วิ่ง ซึ่งการวิ่งระยะสั้น การวิ่งผลัด และการวิ่งข้ามรั้วแต่ละรายการมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป โดยการวิ่งระยะสั้นให้ความตื่นเต้น สนุกสนาน การวิ่งผลัดแสดงให้เห็นถึงการประสานงานกันเป็นทีม การวิ่งข้ามรั้วเป็นความสัมพันธ์ระหว่างการวิ่งและการกระโดดแต่การที่บุคคลหนึ่งจะทำการแข่งขัน กรีฑาประเภทลู่ได้ จำเป็นต้องมีทักษะเฉพาะตัวเบื้องต้น ต้องใช้ความอดทนในการฝึกซ้อมที่ถูกวิธี และสิ่งสำคัญต้องมีใจรักในการวิ่งด้วย

กรีฑาประเภทลู่สามารถแบ่งการแข่งขันได้ ดังนี้

1.1 การวิ่งระยะสั้น ประกอบด้วยการวิ่งระยะทาง 60, 80, 100, 200 และ 400 เมตร
1.2 การวิ่งระยะกลาง ประกอบด้วยการวิ่งระยะทาง 800 เมตร 1,500 เมตรและ 3,000 เมตร
1.3 การวิ่งระยะไกล ประกอบด้วยการวิ่งระยะทางตั้งแต่ 5,000 เมตร ขึ้นไป
1.4 การวิ่งผลัด ประกอบด้วยการวิ่งผลัด 4 x 100 เมตร วิ่งผลัด 4 x 400 เมตร
1.5 การวิ่งข้ามรั้ว ประเภทหญิงระยะทาง 100 เมตร 400 เมตร ประเภทชายระยะทาง 110 เมตร 400 เมตร

กรีฑาประเภทลาน (Field Events)

กรีฑาประเภทลาน ประกอบด้วยการวิ่งกระโดดไกล การวิ่งกระโดดสูง การทุ่มน้ำหนัก การขว้างจักร และการพุ่งแหลน แต่ละประเภทต้องอาศัยทักษะที่แตกต่างกัน โดยการวิ่งกระโดดไกล ระบบการทำงานของร่างกายระหว่างประสาทและกล้ามเนื้อต้องมีความสัมพันธ์กัน จะช่วยให้สามารถบังคับส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างนิ่มนวลและถูกต้องตามจังหวะที่ต้องการ การวิ่งกระโดดสูงต้องรู้จักจังหวะการกระโดด การสปริงตัวขึ้น การลอยตัวในอากาศ และการลงสู่พื้นได้อย่างปลอดภัย การทุ่มลูกน้ำหนักต้องรู้จักการทรงตัว การกระโดดได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว และการใช้แรงส่งลูกน้ำหนักให้ไปไกลที่สุด การขว้างจักรต้องอาศัยการเหวี่ยงตัว และจังหวะที่ดีในการเหวี่ยงจักร รวมทั้งต้องมีความรวดเร็วว่องไว ประสาทและทักษะในการเคลื่อนไหวดี การพุ่งปล่อยแหลนออกไปในท่าที่ถูกต้องรู้จักจังหวะการวิ่ง การบังคับแหลนควรเรียนรู้ทำความเข้าใจ และฝึกปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ

กรีฑาประเภทลานสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ประเภทละ 4 รายการ ดังนี้

ประเภทกระโดด (Jumping Events)

  • กระโดดสูง (High Jump)
  • กระโดดไกล (Long Jump)
  • เขย่งก้าวกระโดด (Triple Jump)
  • กระโดดค้ำ (Pole Vault)

ประเภทขว้าง (Throwing Events)

  • ทุ่มลูกน้ำหนัก (Putting The Shot)
  • ขว้างจักร (Discus)
  • พุ่งแหลน (Javelin)
  • ขว้างค้อน (Hammer)

กรีฑาประเภทเดิน (Walking Events)

กรีฑาประเภทเดินเป็นการแข่งขันที่ต้องใช้ทักษะการเดิน ซึ่งสามารถจัดการแข่งขันได้ทั้งภายในสนามและบนถนน ประกอบด้วยการแข่งขันเดินภายในสนาม ระยะทาง 10,000 เมตร และ 20,000 เมตร ส่วนการแข่งขันเดินบนถนน ระยะทาง 20 กิโลเมตร และ 50 กิโลเมตร

กรีฑาประเภทถนน (Road Races)

เป็นการแข่งขันวิ่งบนถนน เส้นเริ่มและเส้นชัยอาจอยู่ในสนามกรีฑาก็ได้ มีระยะทาง มาตรฐานในการจัดการแข่งขันสำหรับชายและหญิง ดังนี้

  • วิ่ง 15 กิโลเมตร
  • วิ่ง 20 กิโลเมตร
  • วิ่งครึ่งมาราธอน (Half Marathon) 25 กิโลเมตรและ 30 กิโลเมตร
  • วิ่งมาราธอน (Marathon) 42.195 กิโลเมตรและ 100 กิโลเมตร

กรีฑาประเภทวิ่งข้ามทุ่ง (Cross Country Races)

กรีฑาประเภทวิ่งข้ามทุ่ง เป็นการวิ่งที่มักจัดขึ้นในสวนสาธารณะขนาดใหญ่ หรือ นอกเมือง เส้นทางวิ่งจะเป็นสนามหญ้า เนินเขา ทางเดิน หรือทุ่งนาที่ไถแล้ว นักวิ่งอาจจะพบสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ในธรรมชาติ ซึ่งในระดับนานาชาติมีการจัดการแข่งขัน ดังนี้

  • ประเภททีม แบ่งรายการแข่งขันเป็น ชาย ระยะทาง 12 กิโลเมตร เยาวชนชาย ระยะทาง 8 กิโลเมตร หญิง ระยะทาง 6 กิโลเมตร เยาวชนหญิง ระยะทาง 4 กิโลเมตร
  • การวิ่งขึ้นเขาเป็นส่วนใหญ่ ทั่วไปชาย ระยะทาง 12 กิโลเมตร ระดับความสูง 1,200 เมตร ทั่วไปหญิง ระยะทาง 7 กิโลเมตร ระดับความสูง 550 เมตร เยาวชนชาย ระยะทาง 7 กิโลเมตร ระดับความสูง 550 เมตร

ถ้าจุดปล่อยตัวและเส้นชัยอยู่ในระดับเดียวกัน ทั่วไปชาย ระยะทาง 12 กิโลเมตร ระดับความสูง 700 เมตร ทั่วไปหญิง ระยะทาง 7 กิโลเมตร ระดับความสูง 400 เมตร เยาวชนชาย ระยะทาง 7 กิโลเมตร ระดับความสูง 400 เมตร

ประโยชน์ของกรีฑา

ประโยชน์ของกรีฑา

  • ช่วยทำให้กล้ามเนื้อสมบูรณ์แข็งแรง
  • ช่วยให้ร่างกายมีรูปร่างได้สัดส่วน มีบุคลิกภาพดี
  • ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมีความต้านทานโรคได้
  • ช่วยทำให้ร่างกายมีความอดทนต่อการทำงาน เหนื่อยช้าและหายใจเร็วขึ้น
  • ช่วยให้ระบบประสาทดีขึ้น ทำให้นอนหลับสบาย
  • ช่วยให้ระบบการหายใจดีขึ้น ทรวงอกมีขนาดใหญ่ขึ้น
  • ช่วยทำให้ระบบการย่อยและระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น
  • ช่วยให้เส้นโลหิตขยายโตขึ้น ส่งผลให้การไหลเวียนของโลหิตดี ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้นด้วย
  • ช่วยทำให้มีอารมณ์ร่าเริง แจ่มใส สนุกสนานเพลิกเพลิน

ทิ้งท้าย

ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลคร่าว ๆ ของกรีฑา หวังว่าทุกท่านจะเข้าใจกฏกติกา และประวัติกรีฑากันมากขึ้น

อ่านต่อ

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button