ความรู้ Tech

PayPay คืออะไร? สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับแอปจ่ายเงินในญี่ปุ่น

Key Points

  • PayPay คือแอปชำระเงินผ่านมือถือที่ได้รับความนิยมใน ญี่ปุ่น และเหมาะสำหรับทั้งผู้บริโภคและร้านค้า
  • ใช้งานง่ายผ่าน QR Code และรองรับการเติมเงินหลายช่องทาง เช่น บัญชีธนาคารและร้านสะดวกซื้อ
  • มีโปรโมชัน Cashback และระบบ PayPay Point ที่ช่วยให้คุณประหยัดและสะสมคะแนน
  • รองรับการใช้งานในร้านค้ากว่าล้านแห่งทั่วญี่ปุ่น รวมถึงร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และระบบขนส่งสาธารณะ

หากคุณเคยไปเที่ยวหรืออาศัยอยู่ใน ญี่ปุ่น และสงสัยว่าทำไมคนที่นั่นถึงไม่ค่อยได้ใช้เงินสดเวลาซื้อของ คำตอบอาจเป็นเพราะ PayPay หนึ่งในแอปพลิเคชันชำระเงินผ่านมือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อกาแฟจากร้านสะดวกซื้อ หรือแม้แต่จ่ายค่าอาหารในร้านอาหารระดับมิชลิน การใช้ PayPay ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่แสกน QR Code

สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นเคยกับระบบการชำระเงินแบบดิจิทัล หรือกำลังวางแผนเดินทางไปญี่ปุ่น บทความนี้จะพาคุณมาเจาะลึกว่า PayPay คืออะไร, มีวิธีใช้งานอย่างไร, ดีไหม และเหตุใดจึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมของทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ประวัติและความเป็นมาของ PayPay

PayPay Corporation ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2018 โดยความร่วมมือระหว่างสองบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง SoftBank Corp และ Yahoo Japan Corporation (ภายหลังรวมเข้ากับ Line เป็น Z Holdings) โดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้เงินของประชาชนในญี่ปุ่น ซึ่งยังพึ่งพาเงินสดอยู่มาก

แนวคิดของ PayPay เริ่มต้นจากเทรนด์การใช้ Mobile Payment ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศจีนที่มี Alipay และ WeChat Pay เป็นผู้บุกเบิก เมื่อเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่น PayPay จึงเน้นสร้างประสบการณ์ที่เรียบง่าย ปลอดภัย และเชื่อถือได้ พร้อมโปรโมชันที่กระตุ้นให้ผู้ใช้ทดลองใช้ เช่น “Cashback Campaign” ที่แจกเงินคืนสูงสุดถึง 100%

ภายในเวลาไม่นาน จำนวนผู้ใช้งานของ PayPay ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และขยายเครือข่ายร้านค้าที่รองรับการชำระเงินผ่านแอปจนครอบคลุมทั่วประเทศ ปัจจุบัน PayPay ไม่ใช่แค่แอปจ่ายเงินธรรมดา แต่ยังมีบริการเสริม เช่น PayPay Bank, PayPay Card, และ PayPay Point ที่ทำให้ผู้ใช้มีเครื่องมือทางการเงินครบวงจร

วิธีการใช้งาน PayPay

การใช้งาน PayPay นั้นไม่ซับซ้อนเลย โดยเริ่มจากการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบน iOS หรือ Android จากนั้นลงทะเบียนด้วยเบอร์โทรศัพท์และอีเมล ขั้นตอนต่อไปคือการเพิ่มเงินเข้ากระเป๋าเงิน (e-Wallet) ผ่านการเชื่อมต่อบัญชีธนาคาร หรือเติมเงินผ่านร้านสะดวกซื้อหลายแห่ง เช่น Lawson, FamilyMart หรือ 7-Eleven ในญี่ปุ่น

เมื่อเตรียมพร้อมแล้ว คุณสามารถใช้ PayPay ในการชำระเงินได้ 2 วิธีหลัก:
1 แสดง QR Code ของร้านค้า: แอปจะอ่าน QR Code ที่ร้านแสดงไว้ จากนั้นใส่จำนวนเงินและยืนยันการจ่าย
2 ให้ร้านสแกน QR Code ของคุณ: บางร้านจะขอให้คุณแสดง QR Code ของตนเองเพื่อให้แคชเชียร์สแกน

นอกจากนี้ PayPay ยังรองรับการใช้งานผ่าน PayPay Card (บัตรเดบิตเสมือน) ที่สามารถใช้แทนเงินสดในร้านค้าที่รับบัตร Visa ได้ รวมถึงการเชื่อมต่อกับนาฬิกาอัจฉริยะหรือสมาร์ทโฟนที่รองรับ NFC

ข้อดีของการใช้ PayPay

หนึ่งในสาเหตุที่ PayPay ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วคือความสะดวกสบายในการใช้งาน คุณไม่จำเป็นต้องพกเงินสดจำนวนมากหรือกังวลเรื่องเหรียญทอน นอกจากนี้ ระบบยังออกแบบมาให้ใช้งานง่าย แม้แต่ผู้สูงอายุก็สามารถใช้ได้อย่างคล่องตัว

อีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญคือ ระบบ Cashback ที่มอบส่วนลดหรือเงินคืนให้กับผู้ใช้ โปรโมชันเหล่านี้ไม่เพียงช่วยประหยัดเงิน แต่ยังกระตุ้นให้ผู้คนหันมาใช้ Digital Payment มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น PayPay ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยสูง โดยมีการยืนยันตัวตนผ่านรหัส PIN หรือระบบลายนิ้วมือ/ใบหน้า

สำหรับร้านค้ารายย่อย การรับชำระผ่าน PayPay ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย เพราะลูกค้ามักจะใช้จ่ายมากขึ้นเมื่อไม่ต้องกังวลเรื่องเงินสด ขณะเดียวกัน PayPay ก็มีบริการสำหรับร้านค้า เช่น เครื่อง POS และรายงานการขาย เพื่อช่วยจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

PayPay แตกต่างจากแอปอื่นอย่างไร?

ในตลาด Mobile Payment ของญี่ปุ่นมีผู้เล่นหลายคน เช่น LINE Pay, Rakuten Pay, และ Apple Pay แต่ PayPay มีจุดเด่นที่โดดเด่น เช่น การสนับสนุนจากบริษัทใหญ่ๆ ที่มีเครือข่ายกว้างขวาง รวมถึงการลงทุนในการสร้างโปรโมชันที่ดึงดูดผู้ใช้ใหม่

อีกหนึ่งความแตกต่างคือ PayPay ใช้เทคโนโลยี QR Code เป็นหลัก ซึ่งเหมาะกับสภาพแวดล้อมของญี่ปุ่นที่ร้านค้าขนาดเล็กสามารถติด QR Code ได้ง่ายโดยไม่ต้องลงทุนในเครื่องรูดบัตรราคาแพง ตรงข้ามกับ Apple Pay ที่ต้องอาศัยเครื่องรับชำระแบบ NFC ซึ่งยังไม่แพร่หลายเท่า

นอกจากนี้ PayPay ยังมีบริการที่หลากหลายกว่า เช่น PayPay Bank ที่ให้บริการบัญชีเงินฝากออนไลน์ และ PayPay Point ที่รวบรวมคะแนนสะสมจากหลายแบรนด์ไว้ในที่เดียว ทำให้ผู้ใช้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้จ่าย

PayPay ใช้ได้ที่ไหนบ้าง?

ปัจจุบัน PayPay ถูกยอมรับโดยร้านค้ากว่าล้านแห่งทั่วญี่ปุ่น ตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้าปลีก ไปจนถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น AEON, Takashimaya, และ Seibu

คุณสามารถพบเห็นสัญลักษณ์ PayPay ตามร้านค้าหรือเว็บไซต์ที่รับชำระเงินผ่านแอป แม้แต่สถานที่ท่องเที่ยว เช่น สวนสนุก Tokyo Disneyland และรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro ก็รับชำระผ่าน PayPay ได้

สำหรับนักท่องเที่ยว PayPay เป็นทางเลือกที่สะดวกมาก เพราะคุณสามารถเติมเงินเข้าระบบได้โดยไม่ต้องเปิดบัญชีธนาคารในญี่ปุ่น และยังสามารถตรวจสอบรายการใช้จ่ายย้อนหลังได้ทุกครั้ง ทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี

ทิ้งท้าย

หากคุณกำลังวางแผนไปเยือนญี่ปุ่น หรือสนใจใช้บริการ Mobile Payment ที่ปลอดภัยและสะดวก PayPay ถือเป็นหนึ่งในแอปที่ควรลอง ด้วยความเรียบง่ายในการใช้งาน โปรโมชันที่น่าสนใจ และเครือข่ายร้านค้าที่ครอบคลุม PayPay ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคและร้านค้าได้อย่างลงตัว

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องการความคล่องตัวในการใช้จ่าย หรือผู้ประกอบการที่มองหาวิธีรับชำระเงินที่มีประสิทธิภาพ PayPay ก็พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง อย่าลืมดาวน์โหลดแอปและสมัครสมาชิกก่อนออกเดินทาง เพื่อให้ทริปของคุณสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

หากคุณชอบบทความนี้ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ ที่กำลังวางแผนไปญี่ปุ่น และคอมเมนต์บอกเราด้วยว่าคุณมีประสบการณ์ใช้ PayPay อย่างไรบ้าง!

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button