โทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2018 ไม่เกิน 15,000 บาท

ใครที่กำลังมองหาโทรศัพท์มือถือน่าใช้ และสามารถนำไปเล่นเกมได้ในปี 2018 แล้วมีงบประมาณจำกัดราคาไม่เกิน 15,000 บาท มีรุ่นไหนบ้างมาดูกัน

มือถือน่าใช้ 2018

1. POCOPHONE F1

POCOPHONE F1 สมาร์ทโฟนที่มีฉายาว่า Master of Speed และพร้อมเป็นรุ่นท็อป สเปกจัดเต็มที่มีราคาถูกที่สุด เริ่มตั้งแต่หน้าจอ IPS-LCD ขนาด 6.18 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 845 AIE, RAM 6GB, ROM 128GB พร้อมแบตฯ อึด 4,000 mAh มี Quick Charge 3.0 และกล้องหลังคู่ AI ความละเอียด 12 + 5 ล้านพิกเซล สามารถแยกซีนการถ่ายภาพได้ 206 ซีน จาก 25 รันบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo + MIUI 9.6 (For POCO)

สเปก POCOPHONE F1

• ขนาดตัวเครื่อง : 155.5 x 75.2 x 8.8 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 182 กรัม
• หน้าจอแสดงผลแบบ IPS-LCD กว้าง 6.18 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2246 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 18.7:9
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 845 AIE Octa Core ความเร็ว 2.8 GHz
• GPU : Adreno 630
• RAM 6 GB
• ROM 128 GB รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD สูงสุด 256GB
• ระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย MIUI 9.6 (For POCO)
• กล้องถ่ายรูปหลังคู่ความละเอียด 12+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช Dual LED รูรับแสง f/1.9 และรองรับ AI จดจำซีน
• กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Nano SIM แบบ Hybrid และรองรับ 4G ทั้ง 2 ซิม
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, 2.4G + 5G WiFi , Bluetooth 5.0, USB Type-C และช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
• เครือข่าย
  – GSM 850/900/1800/1900 MHz
  – WCDMA 5/8/2/1
  – LTE Bands 1/3/5/7/8/20/38/40/41
• เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล
  – 2G: EDGE/GPRS
  – 3G: HSPA+
  – 4G: FDD-LTE, TDD-LTE
• แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว (Quick Charge 3.0)
• ราคาเปิดตัว 10,990 บาท

2. vivo V11

Vivo V11 มือถือราคากลาง ๆ ชูจุดเด่นด้วยการสแกนลายนิ้วบนหน้าจอ มาพร้อมจอกว้างแบบ FullView Display ทั้งยังสามารถใช้งานปลดล็อคด้วยใบหน้า ยังมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 660AIE ใช้งานได้ไหลลื่น มีกล้องรองรับ AI และแบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น และรองรับการชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging

สเปก Vivo V11

• ขนาดตัวเครื่อง : 157.91 × 75.08 × 7.9 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 156 กรัม
• หน้าจอแสดงผล : Fullview Display ขนาด 6.41 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล อัตราส่วน 19.5:9
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 660 AIE Octa Core ความเร็ว 2.0 GHz
• RAM 6GB, ROM 128GB
• ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 4.5 Based on Android 8.0 (Oreo)
• กล้องหน้า : ความละเอียด 12 + 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8
• กล้องหลังคู่ : ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
• รองรับซิมแบบ : Nano ซิม 2 ช่อง + MicroSD 1 ช่อง
• การเชื่อมต่อ : Micro USB, Bluetooth 4.2, OTG
• ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า, ลายนิ้วมือ
• แบตเตอรี่ : 3,400 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging
• ราคาเปิดตัว 13,999 บาท

3. OPPO F9

OPPO F9 สมาร์ทโฟนที่มียอดจองสูงที่สุดรุ่นหนึ่ง เป็นรุ่นที่ออกมาตอบโจทย์ได้หลากหลายการใช้งาน ทั้งหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ 6.3 นิ้ว แต่มีรอยบากดีไซน์ใหม่แบบหยดน้ำ กล้องหลังคู่รองรับการถ่ายภาพ Portrait (หน้าชัด-หลังเบลอ) และยังเป็นรุ่นที่มาพร้อมการชาร์จเร็วอย่าง VOOC Flash Charge

สเปก OPPO F9

• ขนาดตัวเครื่อง : 156.7 × 74 × 8 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 168 กรัม
• หน้าจอแสดงผล : ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด 2280 x 1080 พิกเซล อัตราส่วน 19.5:9
• หน่วยประมวลผล : Mediatek MT6771 Helio P60 Octa Core ความเร็ว 2.0 GHz
• RAM 6GB, ROM 64GB
• ระบบปฏิบัติการ : Color OS 5.2 based on Android 8.1 (Oreo)
• กล้องหลังคู่ : ความละเอียด 16 + 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8
• กล้องหน้า : ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
• รองรับซิมแบบ : Nano ซิม 2 ช่อง + MicroSD 1 ช่อง
• การเชื่อมต่อ : Micro USB, Bluetooth 4.2, OTG
• ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า, ลายนิ้วมือ
• แบตเตอรี่ : 3,500 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge
• ราคาเปิดตัว 10,990 บาท

4. Nokia 7 Plus

Nokia 7 Plus สมาร์ทโฟนในโครงการ Android One ที่ยืนยันว่าจะได้รับการอัปเดตอย่างน้อย ๆ ถึง 2 ปี ไม่โดนลอยแพ โดดเด่นด้วยดีไซน์โลหะ และการเคลือบเซรามิคเพื่อการจับถนัดมือ ทำงานได้อย่างลื่นไหลด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 660, RAM 4GB, ROM 64GB และแบตเตอรี่สูงถึง 3,800 mAh พร้อมชูจุดเด่นที่กล้องคู่จาก ZEISS ความละเอียด 12+13 ล้านพิกเซล

สเปก Nokia 7 Plus

• ขนาดตัวเครื่อง : 158.38 x 75.64 x 7.99 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 180 กรัม
• หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD กว้าง 6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2160 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 18:9
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 660 Octa-core ความเร็ว 2.36 GHz
• GPU : Adreno 512
• RAM 4 GB
• ROM 64 GB สามารถเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 256 GB
• ระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo
• กล้องถ่ายรูปด้านหลังเลนส์ออปติก ZEISS ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/1.75 + 13 ล้าน
• พิกเซล รูรับแสง f/2.6 รองรับระบบกันสั่นไหวแบบ EIS พร้อมไฟแฟลช Dual-Tone
• กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
• รองรับซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง (Hybrid)
  – รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, USB Type-C 2.0
• เครือข่าย
  – GSM 850/900/1800/1900 MHz
  – WCDMA 850/900/1900/2100 MHz
  – LTE Bands 1/3/5/7/8/20/28/38/40/41
• เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล
  – 2G: EDGE/GPRS
  – 3G: HSDPA , HSUPA
  – 4G: LTE DL , LTE UL
• แบตเตอรี่ความจุ 3,800 mAh รองรับเทคโนโลยีเพิ่มความเร็วในการชาร์จ
• ราคาเปิดตัว 13,900 บาท

5. Xiaomi Mi A2

Xiaomi Mi A2 สมาร์ทโฟน Android One สานต่อความสำเร็จจาก Xiaomi Mi A1 โดยมาคราวนี้จัดเต็มขึ้นในทุกด้าน ทั้งเรื่องของกล้องถ่ายรูปที่ให้มาแบบเน้น ๆ และสเปกที่ใช้งานได้แบบลื่น ๆ ซึ่งกล้องถ่ายรูปมาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียด 12+20 ล้านพิกเซล และกล้องหหน้าก็มีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ทำงานคู่กับ AI ทั้งแต่งหน้าสวยด้วย AI Beautify 4.0 และรองรับถ่ายรูปแบบ Portrait หน้าชัดหลังเบลอ ส่วนสเปก ก็ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 660 AIE ทำงานคู่กับระบบ AI

สเปก Xiaomi Mi A2

• ขนาดตัวเครื่อง : 158.7×75.4×7.3 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 168 กรัม
• หน้าจอแสดงผล : กว้าง 5.99 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ความละเอียด FHD+ (2160×1080 พิกเซล) ความละเอียดพิกเซล 403ppi ค่าความต่าง 1500:1
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 660 AIE Octa-Core ความเร็ว 2.2Ghz ทำงานร่วมกับระบบ AI
• GPU : Adreno 512
• RAM : 4GB / 6GB
• ROM : 64GB / 128GB
• ระบบปฏิบัติการ : Android 8.1 Oreo เป็นแบบ Android One
• กล้องหลังคู่
  – เลนส์หลัก ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX486 ขนาดพิกเซล 1.25um รูรับแสง f/1.75
  – เลนส์เสริม ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX376 ขนาดพิกเซล 2.0um รูรับแสง f/1.75 มีเทคโนโลยี Pixel Binning
• กล้องหน้า : ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ IMX376 ขนาดพิกเซล 2.0um รูรับแสง f/2.2 มีเทคโนโลยี 4 ใน 1 Super Pixel บนพื้นฐาน Pixel Binning
• รองรับซิมแบบ : Nano SIM 2 ซิม (สนับสนุน 4G เพียง 1 ซิม)
• เครือข่ายที่รองรับ
  – GSM : B2/B3/B5/B8
  – WCDMA : B1/B2/B4/B5/B8
  – LTE FDD : B1/B2/B3/B4/B5/B7/B8/B20
  – LTE TDD : B38/B40
• การเชื่อมต่อ : 802.11 a/b/g/n/ac, 2.4G WiFi/5G WiFi/WiFi Direct/WiFi Display, Bluetooth 5.0, USB Type-C
• แบตเตอรี่ : 3,010mAh
• ราคาเปิดตัว 8,990 บาท

6. Honor 10

Honor 10 สมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์เรื่อง AI ผ่านกล้องคู่ด้านหลังความละเอียด 24 + 16 ล้านพิกเซล รวมเป็นเทคโนโลยีในนาม “AI 2.0 Camera” ที่แยกแยะภาพได้มากกว่า 500 ประเภท รวม 22 หมวดแบบเรียลไทม์ โดยมีชิปเซ็ต AI พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลพิเศษ Neural Processing Unit (NPU) ที่ช่วยกันขับเคลื่อนให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ทั้งยังทำงานบนหน้าจอ FullView ขนาด 5.84 นิ้ว ความละเอียด FHD+

สเปก Honor 10

• ขนาดตัวเครื่อง : 149.6 x 71.2 x 7.7 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 153 กรัม
• หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD กว้าง 5.84 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2280 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19:9
• หน่วยประมวลผล : Octa-core ความเร็ว 2.36 GHz
• GPU : Mali-G72 MP12
• RAM 4 GB
• ROM 128 GB
• ระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย EMUI 8.1
• กล้องถ่ายรูปด้านหลังเลนส์ Monochrome ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 + เลนส์ RGB ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 พร้อมไฟแฟลช LED
• กล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
• รองรับซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง
• รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2, USB Type-C
• เครือข่าย
  – GSM 850/900/1800/1900 MHz
  – WCDMA 850/900/2100 MHz
  – LTE Bands 1,3,5,8,34,38,39,40,41
• เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล
  – 2G: EDGE/GPRS
  – 3G: HSDPA , HSUPA
  – 4G: LTE DL , LTE UL
• แบตเตอรี่ความจุ 3,400 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว (Honor SuperCharge)
• ราคาเปิดตัว 13,990 บาท

7. Huawei nova 3e

Huawei Nova 3e มือถือรุ่นเล็กของ Huawei P20 ที่พกความสามารถเด่นจากกล้องหน้ามาด้วย สมกับฉายา The Master Of Selfies สามารถถ่ายรูปจากกล่องหน้าได้อย่างเนียน ๆ และใบหน้าเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ไม่ได้มีดีเพียงแค่นั้นเพราะกล้องหลังก็มีดีไม่แพ้กัน ด้วยการมาของกล้องหลังคู่แบบแนวตั้ง ทำให้รองรับการถ่ายรูปแบบ Portrait หน้าชัดหลังเบลอ แถมยังมาพร้อมดีไซน์แห่งยุคสมัยอย่าง จอแหว่ง

สเปก Huawei Nova 3e

• ขนาดตัวเครื่อง : 148.6×71.2×7.4 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 145 กรัม
• หน้าจอแสดงผล : IPS ขนาด 5.84 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2280×1080 พิกเซล) ความละเอียดพิกเซล 432 PPI อัตราส่วน 19:9
• หน่วยประมวลผล : Huawei Kirin 659 Octa-core ความเร็ว 2.36 GHz
• RAM : 4GB
• ROM : 128GB รองรับ MicroSD สูงสุด 256GB
• ระบบปฏิบัติการ : Android 8.0 Oreo ครอบทับด้วย EMUI เวอร์ชั่น 8.0
• กล้องหน้า : ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
• กล้องหลังคู่ : ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
• ระบบการเชื่อมต่อ : Wi-Fi:802.11b/g/n 2.4 GHz USB แบบ C, รองรับ Bluetooth 4.2, BLE, aptX
• เครือข่ายที่รองรับ : รองรับแบบ 2 ซิม (ซิมรองจะรองรับแต่ 2G)
  – 4G (LTE TDD / LTE FDD)
  – 3G (WCDMA / TDS-CDMA / CDMA)
  – 2G (GSM / CDMA)
• ระบบรักษาความปลอดภัย : สแกนนิ้วมือ, สแกนใบหน้า
• แบตเตอรี่ : 3,000mAh
• ราคาเปิดตัว 10,990 บาท

8. ASUS ZenFone 5

Asus Zenfone 5 เป็นสมาร์ทโฟนที่จับใส่เทรนด์มาแรงในปี 2018 มาเกือบทั้งหมด ซึ่งสิ่งที่เห็นชัดที่สุดก็คือ “หน้าจอแหว่ง” ทำให้อัตราส่วนหน้าจอถูกขยายเป็น 19:9 เพิ่มวิสัยทัศน์ในการใช้งาน และกล้องหลังคู่แนวตั้ง ความละเอียด 12 + 8 ล้านพิกเซล และแน่นอนว่าทำงานร่วมกับ AI ที่เป็นเทคโนโลยีเสริมมาแรง ในการปรับแต่งภาพให้ออกมาสวยสมบูรณ์ ทั้งนี้ระบบ AI ยังไม่ได้มีดีแค่ด้านถ่ายภาพ เพราะระบบจะมีการเข้าไปจัดการเรื่องพลังงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานทุกรูปแบบ

สเปก Asus Zenfone 5

• ขนาดตัวเครื่อง : 75.6x153x7.7 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 155 กรัม
• หน้าจอแสดงผล : Super IPS+ ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ (2246×1080 พิกเซล) เฉดสี NTSC 96% ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass โค้ง 2.5D
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 636
• RAM : 4GB
• ROM : 64GB รองรับ MicroSD สูงสุด 2TB
• กล้องหลังคู่ : ความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล กล้องเลนส์หลัก 12 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ Sony IMX363 มีรูรับแสง f/1.8 จุดพิกเซล 1.4um และระบบกันสั่น EIS / OIS ส่วนกล้องเลนส์เสริม 8 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ Omnivision8856 รูรับแสง f/2.2 ส่วนขยายเลนส์กว้างถึง 120 องศา มีไฟแฟลชแบบ LED
• กล้องหน้า : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Omnivision8856 รูรับแสง f/2.0 แฟลชจากหน้าจอแสดงผล
• ระบบปฎิบัติการ : Android 8.0 Oreo ทับด้วย ZenUI 5.0
• เครือข่าย
  – รองรับ 2 ซิม แบบ Nano SIM
  – GSM/GPRS/EDGE; WCDMA/HSPA+/DC-HSPA+; TD-SCDMA; CDMA 2000; FDD-LTE; TD-LTE
  – FDD-LTE (Bands 1, 3, 5, 7, 8, 20)
  – TD-LTE (Band 40)
  – WCDMA (Bands 1, 5, 8)
  – EDGE/GPRS/GSM (850, 900, 1800, 1900MHz)
• เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล
  – LTE Cat13 UL up to 150Mbps / Cat12 DL up to 600Mbps
  – DC-HSPA+: UL 5.76 / DL 42Mbps
• การเชื่อมต่อ
  – WLAN 802.11 a/b/g/n/ac 2.4 & 5GHz
  – Bluetooth 5.0
  – Wi-Fi โดยตรง
  – NFC
• ระบบเสียง
  – ลำโพงคู่ แบบแม่เหล็ก 5 แกน ใช้ Smart AMP NXP คู่ ในการเพิ่มความดัง
  – Hi-Res Audio
  – ระบบ DTS (Digital Theater System) สำหรับหูฟัง 7.1
• แบตเตอรี่ : 3300 mAh
• ราคาเปิดตัว 13,990 บาท

9. Sony Xperia XZ1

Sony Xperia XZ1 มือถือที่ออกแบบเพื่อความบันเทิงเต็มขั้น ทั้งโดดเด่นด้านการถ่ายภาพแบบ 3 มิติ 3D Creator เทคโนโลยีกล้อง Motion Eye ที่ให้บันทึกภาพเคลื่อนไหวสโลว์โมชั่นแบบพิเศษ กล้องความละเอียด 19 ล้านพิกเซล กล้องหน้าเซลฟี่ 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo ขับเคลื่อนบนหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835 Octa-core ความเร็ว 2.45 GHz, RAM 4 GB หน้าจอแสดงผล 5.2 นิ้ว เทคโนโลยี TRILUMINOS และ X-Reality รองรับการแสดงผล HDR ลำโพงสเตอริโอระบบเสียง S-Force และมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

สเปก Xperia XZ1

• รัน Android 8.0 Oreo
• หน้าจอ IPS ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full-HD HDR
• ชิปเซ็ต Snapdragon 835 Octa-core 2.46 GHz
• ชิปกราฟิก Adreno 540 GPU
• แรม 4GB
• รอม 64GB
• รองรับ Micro-SD สูงสุด 256GB
• แบตเตอรี่ 2700 mAh
• รองรับ Quick Charge 3.0
• กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล f/2.0
• กล้องหลัง 19 ล้านพิกเซล Motion Eye f/2.0
• รองรับเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
• รองรับ 2 ซิม (ถาดซิมไฮบริด)
• กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68
• มี 4 สี คือ Black , Warm Silver , Venus Pink และ Moonlit Blue
• ราคา 13,990 บาท

10. Samsung Galaxy A8 (2018)

Samsung Galaxy A8 (2018) มือถือระดับกลางที่เต็มไปด้วยฟีเจอร์ระดับท็อป เริ่มตั้งแต่หน้าจอไร้ขอบ Infinity Display ความคมชัดระดับ FHD+, รองรับการใช้งาน Gear VR และ Samsung Pay มีมาตรฐานกันนํ้าและฝุ่นระดับ IP68 ทั้งยังมีผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Bixby และได้พัฒนาด้านกล้องหน้าที่มาพร้อมกับเลนส์คู่ความละเอียด 16 + 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 มีโหมดถ่ายภาพไลฟ์โฟกัสที่สามารถปรับความเบลอพื้นหลังได้อย่างอิสระ มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีทอง, สีดำ และสีม่วงเทา

สเปก Samsung Galaxy A8 (2018)

• ขนาดตัวเครื่อง : 149.2 x 70.6 x 8.4 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 172 กรัม
• หน้าจอแสดงผล Super AMOLED แบบ Infinity Display กว้าง 5.6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2220 พิกเซล อัตราส่วนหน้าจอ 18.5:9
• หน่วยประมวลผล : Exynos 7885 Octa Core ความเร็ว 2.2 GHz
• RAM 4 GB
• ROM 32 GB รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD สูงสุด 256GB
• ระบบปฎิบัติการ Android 7.1.1 (Nougat)
• กล้องถ่ายรูปหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 พร้อมไฟแฟลช LED
• กล้องหน้าคู่ความละเอียด 16+8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9
• กันน้ำ-กันฝุ่น มาตรฐานระดับ IP68
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Nano SIM
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, NFC และ USB Type-C
• เครือข่าย
  – GSM 850/900/1800/1900 MHz
  – WCDMA 1/2/5/6/8/19
  – LTE Bands
• เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล
  – 2G: EDGE/GPRS
  – 3G: HSDPA , HSUPA
  – 4G: LTE DL , LTE UL
• แบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว
• ราคา 10,990 บาท (ราคากลาง 13,990 บาท)

หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นและร้านตัวแทนจำหน่าย