![[รีวิว-เรื่องย่อ] Cat's Eye (2025) อนิเมะนักขโมยสาวสุดเท่](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/10/Review-Cats-Eye-2025.webp)
- Cat’s Eye (2025) เป็นอนิเมะรีบูตจากมังงะดังของ Tsukasa Hojo ออกอากาศครั้งแรก 26 กันยายน 2568 บน Disney+
- สามสาวพี่น้อง Hitomi Rui และ Ai ผสมผสานชีวิตประจำวันกับการเป็นโจรสลัดศิลปะ เพื่อไขปริศนาการหายตัวไปของพ่อ
- การผลิตโดยสตูดิโอ Liden Films นำเสนอเทคโนโลยีสมัยใหม่ผสานกลิ่นอายวินเทจ ทำให้เรื่องราวสดใหม่แต่ยังคงเสน่ห์ดั้งเดิม
- ธีมหลักสำรวจความสัมพันธ์ครอบครัว ความยุติธรรม และเสน่ห์ของนักขโมยหญิงที่ขโมยหัวใจผู้ชม
เราเคยจินตนาการบ้างไหมว่าชีวิตประจำวันอันแสนธรรมดาจะพลิกผันกลายเป็นการผจญภัยสุดเสี่ยงภัยยามค่ำคืน? ลองนึกภาพสาวๆ ที่ยิ้มหวานเสิร์ฟกาแฟตอนกลางวัน แต่พอพระจันทร์ขึ้น ก็แปลงร่างเป็นนักขโมยชั้นฉกาจ ลักพาตัวภาพวาดล้ำค่าจากพิพิธภัณฑ์ด้วยความแม่นยำราวกับแมวล่าเหยื่อ อนิเมะ Cat’s Eye (2025) พาเราไปสำรวจโลกนั้น ผ่านเรื่องราวของสามพี่น้องคิซูกิที่ไม่ใช่แค่นักขโมยธรรมดา แต่คือผู้ตามหาความจริงเกี่ยวกับพ่อผู้เป็นศิลปินชื่อดังที่หายสาบสูญไปในยุคนาซี
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การไล่ล่าแสนสนุก แต่ยังสะท้อนถึงยุคบูมเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปี 1980s ที่เต็มไปด้วย City Pop สุดติดหูและแฟชั่นสุดเปรี้ยว ด้วยการรีบูตจากมังงะคลาสสิกของ Tsukasa Hojo ผู้สร้าง City Hunter เราได้เห็นสามสาวที่ทั้งฉลาด กล้าหาญ และมีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ ไม่ใช่เด็กสาววัยรุ่นอีกต่อไป ทำให้เรื่องราวนี้รู้สึกใกล้ชิดและน่าติดตามยิ่งขึ้นสำหรับผู้ชมสมัยใหม่
ในรีวิวนี้ เราจะดำดิ่งสู่ทุกมุมของ Cat’s Eye ตั้งแต่โครงเรื่องที่ชวนลุ้น ไปจนถึงสไตล์การเล่าเรื่องที่ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับความทันสมัย มาดูกันว่าเจ้าสามแมวสาวคู่นี้จะขโมยหัวใจเราได้สำเร็จหรือไม่ ในฤดูใบไม้ร่วงที่เต็มไปด้วยอนิเมะใหม่ๆ มากมาย

รีวิวและเรื่องย่อ Cat’s Eye
Cat’s Eye เล่าเรื่องสามพี่น้องคิซูกิ-ไฮโทมิ รุย และไอ-ที่ใช้ชีวิตสองหน้าแบบสุดขั้ว ตอนกลางวันพวกเธอคือเจ้าของคาเฟ่เล็กๆ ในโตเกียว เสิร์ฟกาแฟหอมกรุ่นให้ลูกค้าด้วยรอยยิ้มสดใส แต่ยามค่ำคืน พวกเธอแปลงร่างเป็น “แมวตาเพชร” กลุ่มนักขโมยศิลปะที่เลื่องชื่อ ลักพาตัวงานศิลปะจาก European painter Michael Heinz พ่อของพวกเธอที่หายตัวไปตั้งแต่สมัยนาซีปกครอง ทุกการขโมยคือเบาะแสหนึ่งชิ้นที่นำไปสู่ปริศนาครอบครัวอันลึกลับ โดยมีนักสืบโทชิโอะ อุสึมิ คอยไล่ล่าอย่างไม่ลดละ แต่เขากลับกลายเป็นคู่ปรับที่ทั้งน่ารำคาญและน่าหลงใหลในเวลาเดียวกัน
โครงเรื่องตอนแรกวางรากฐานได้อย่างแน่นหนา เปิดด้วยเพลงเปิดจาก Ado ที่ผสมกลิ่นอาย 1980s ด้วยเสียงสังเคราะห์และจังหวะ City Pop ชวนโยกตาม สามสาวบุกพิพิธภัณฑ์ด้วยท่าทางพลิ้วไหว กระโดดโลดเต้นราวกับนักกายกรรมกลางอากาศ ใช้เครื่องมือไฮเทคเหมือนหลุดออกมาจาก Totally Spies! แต่สวมทับด้วยชุดแมวสไตล์ Charlie’s Angels ดั้งเดิม ทำให้ฉากแอ็คชั่นทั้งตื่นเต้นและเต็มไปด้วยเสน่ห์ย้อนยุค เราได้เห็นว่าพวกเธอไม่ได้ขโมยเพื่อความมั่งคั่ง แต่เพื่อความยุติธรรม—คืนสมบัติที่ถูกยึดครองอย่างไม่ชอบธรรมให้เจ้าของเดิม
ยิ่งดูยิ่งรู้สึกถึงชั้นเชิงของผู้กำกับที่ปรับเรื่องเก่าให้เข้ากับยุค 2025 โดยไม่เสียเอกลักษณ์ เช่น การเพิ่มมิติทางจิตวิทยาให้ตัวละคร ทำให้สามพี่น้องไม่ใช่แค่ “สาวเท่” แต่เป็นผู้หญิงผู้ใหญ่ที่เผชิญความขัดแย้งภายใน จากความผูกพันครอบครัวสู่การเสี่ยงชีวิตเพื่ออุดมการณ์ ตอนแรกอาจดูเหมือนเป็นการเกริ่นแบบ รูทีน แต่กลับสร้าง ความน่าติดตาม ได้อย่างแนบเนียน เหมือนเกมแมวไล่หนูที่เพิ่งเริ่มต้น แต่เรารู้ว่ามันจะเข้มข้นกว่านี้แน่
สามพี่น้องคิซูกิคือหัวใจของเรื่อง โดยเฉพาะไฮโทมิ พี่สาวคนโตที่ฉลาดหลักแหลมและเป็นหัวหน้าทีม เธอคือตัวอย่างของนักขโมยที่ทั้งสง่างามและเด็ดเดี่ยว ใช้เสน่ห์แบบแมวตัวเมียหลอกล่อศัตรู ขณะที่รุย น้องสาวคนกลาง เก่งด้านเทคโนโลยีและการวางแผน ทำให้ทุกปฏิบัติการราวกับโชว์มายากลที่คำนวณมาอย่างละเอียด ส่วนไอ น้องสาวคนเล็กที่ยังเป็นนักเรียนมัธยม เอาแต่ใจแต่เต็มเปี่ยมพลังเยาว์ เธอคือตัวเชื่อมที่ทำให้เรื่องไม่หนักอึ้งเกินไป แต่กลับเพิ่มความสดชื่นด้วยมุมมองวัยรุ่นที่มองโลกในแง่ดี
นักแสดงให้เสียงพากย์ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเสียงของ Mikako Komatsu ในบทไฮโทมิ ที่ถ่ายทอดความมั่นใจและความเปราะบางได้ลงตัว เหมือนน้ำกาแฟร้อนที่ทั้งหอมกรุ่นแต่ซ่อนความขมเอาไว้เบาๆ การโต้ตอบระหว่างพี่น้องเต็มไปด้วยเคมีที่ลงตัว ราวกับพวกเธอเติบโตมาด้วยกันจริงๆ ขณะที่โทชิโอะ นักสืบหนุ่มไฟแรง กลับกลายเป็นตัวละครรองที่ขโมยซีนได้ไม่แพ้กัน ด้วยบุคลิกขี้บ่นแต่หลงรักสาวๆ โดยไม่รู้ตัว ทำให้เกิดโมเมนต์โรแมนติกคอมเมดี้ที่ชวนยิ้ม
สิ่งที่ทำให้ตัวละครเหล่านี้โดดเด่นคือการพัฒนาที่ค่อยเป็นค่อยไป จากตอนแรกที่ดูเหมือนแค่ทีมโจรสลัดสนุกๆ เราเริ่มเห็นรอยร้าวในครอบครัว ความกลัวการสูญเสียพ่อ และคำถามใหญ่ การขโมยเพื่อความยุติธรรมนั้นถูกต้องจริงหรือ? มันเหมือนกระจกสะท้อนสังคมที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ ทำให้เราไม่ใช่แค่มองดู แต่เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองด้วย

สไตล์ภาพและดนตรีคือจุดขายหลักของ Cat’s Eye (2025) จากสตูดิโอ Liden Films ที่ผสมผสานอนิเมชั่นสมัยใหม่เข้ากับกลิ่นอายวินเทจได้อย่างลงตัว ฉากกลางคืนในโตเกียวสว่างไสวด้วยแสงนีออนและเงาแมวลึกลับ ขณะที่เพลงประกอบ City Pop ฟังดูลื่นไหลเหมือนขับรถคันโปรดยามค่ำ ทุกอย่างชวนนึกถึงยุคบับเบิ้ลที่ญี่ปุ่นเคยรุ่งเรือง แต่ปรับให้เข้ากับผู้ชมปี 2025 ด้วยแก็ดเจ็ตสุดไฮเทคที่ไม่ดูเว่อร์เกินจริง
ข้อความหลักของเรื่องวนเวียนอยู่ที่พลังของผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงผู้ใหญ่ที่ได้เป็นพระเอกในเรื่องอาชญากรรม มันไม่ใช่แค่แอ็คชั่น แต่คือการเฉลิมฉลองความฉลาดและความกล้าหาญของสตรีที่พลิกเกมสังคมได้ เปรียบเหมือนแมวที่ดูอ่อนโยนแต่มีกรงเล็บแหลมคม พร้อมทั้งสะท้อนประเด็นประวัติศาสตร์จริงจากยุคนาซีที่ศิลปะถูกยึดครอง ทำให้เรื่องนี้ลึกซึ้งกว่าที่คิด
โดยรวมแล้ว การรีบูตนี้รักษาเสน่ห์ดั้งเดิมไว้ได้ดี แต่เพิ่มมิติใหม่ที่ทำให้รู้สึกสดชื่น เหมือนกาแฟเย็นที่ผสมไซรัปพิเศษชวนติดใจ มันไม่พยายามเปลี่ยนแปลงมากเกินไป แต่เลือกเสริมจุดแข็งให้เด่นยิ่งขึ้น สำหรับแฟนอนิเมะแนวโจรสลัดหรือสายพลังหญิง เรื่องนี้คือของดีที่ไม่ควรพลาด
Cat’s Eye (2025) คืออนิเมะที่เตือนใจเราว่าบางครั้ง การขโมยไม่ใช่บาป แต่คือการคืนความยุติธรรมให้ถูกที่ทาง โดยเฉพาะเมื่อมันมาพร้อมกับสามสาวที่ทั้งเท่และน่าหลงใหลแบบนี้ เราได้เห็นว่ายุค 80s ยังคงมีเสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย เมื่อนำมาผสมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ มันกลายเป็นเรื่องราวที่ทั้งสนุก ลุ้น และชวนคิดถึงครอบครัวของตัวเราเอง
ถ้าเรายังลังเล ลองนึกดูสิว่าการได้เป็นส่วนหนึ่งของการไล่ล่าแสนสนุกนี้จะรู้สึกอย่างไร? อย่ารอช้า ไปดูบน Disney+ แล้วมาพูดคุยกันในคอมเมนต์ว่าสามพี่น้องคิซูกิขโมยหัวใจเราไปส่วนไหนบ้าง แชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนที่ชื่นชอบอนิเมะแอ็คชั่นและ City Pop ด้วยนะ แล้วเราจะได้เห็นว่ามีคนคิดเหมือนเรากี่คน!
- ประเภท: แอ็คชั่น, คอมเมดี้, ดราม่า
- วันที่ออกฉาย: 26 กันยายน 2568
- นักแสดงนำ: Mikako Komatsu (Hitomi), Yōko Hikasa (Rui), และอื่นๆ
- ความยาว: 12 ตอน
- เรตติ้ง MyAnimeList: 6.62/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: Disney+