[รีวิว] Escape Room: Tournament of Champions (2021)

ปี 2019 เราได้รู้จักกับภาพยนตร์ระทึกขวัญสุดล้ำอย่าง “Escape Room” ที่ชวนผู้ชมร่วมลุ้นระทึกไปกับเกมเอาชีวิตรอดสุดโหด ปีนี้ โซอี้และเบ็น สองผู้รอดชีวิตจากภาคแรก กลับมาอีกครั้งใน “Escape Room: Tournament of Champions” ที่มาพร้อมกับความท้าทายที่ยากขึ้น อันตรายมากขึ้น และเดิมพันที่สูงกว่าเดิม แต่ภาคต่อนี้จะสามารถรักษามาตรฐานความระทึกขวัญและความสนุกไว้ได้หรือไม่?

หากคุณเป็นแฟนของภาพยนตร์ภาคแรก หรือชื่นชอบเกมแนว Escape Room ที่ต้องใช้ไหวพริบและความรู้รอบตัวในการเอาชีวิตรอด บอกเลยว่า “Escape Room: Tournament of Champions” คือ ภาพยนตร์ที่คุณไม่ควรพลาด ด้วยการผสมผสานระหว่างปริศนาที่ซับซ้อน ฉากที่ตื่นตาตื่นใจ และความตื่นเต้นที่จะทำให้คุณลุ้นจนนั่งไม่ติดเก้าอี้

ในรีวิวฉบับเต็มนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของภาพยนตร์ ตั้งแต่เนื้อเรื่องที่เข้มข้น การแสดงที่น่าประทับใจ ไปจนถึงโปรดักชั่นที่ยิ่งใหญ่ โดยไม่มีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์ความระทึกขวัญได้อย่างเต็มที่เมื่อรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้

เนื้อเรื่องย่อ Escape Room: Tournament of Champions (กักห้อง เกมโหด 2: กลับสู่เกมสยอง)

โซอี้ (รับบทโดย Taylor Russell) และเบ็น (รับบทโดย Logan Miller) ตัดสินใจออกตามหา Minos องค์กรลับที่อยู่เบื้องหลังเกมมรณะในภาคแรก แต่แผนของพวกเขาไม่เป็นไปตามคาด เมื่อพวกเขาถูกจับตัวไปเข้าร่วมการแข่งขัน “Tournament of Champions” ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้ชนะจากเกม Escape Room ครั้งก่อนๆ

การแข่งขันครั้งนี้เต็มไปด้วยอันตรายที่คาดไม่ถึง และปริศนาที่ซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม ผู้เข้าแข่งขันต้องใช้ไหวพริบและสัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอด พร้อมกับเผชิญหน้ากับอดีตอันเจ็บปวดที่ยังคงตามหลอกหลอนพวกเขา

แต่ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้ความจริงเกี่ยวกับ Minos มากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งตระหนักว่าเกมนี้มีเบื้องหลังที่มืดมนและซับซ้อนมากกว่าที่พวกเขาเคยคิด

การแสดง

Taylor Russell และ Logan Miller กลับมารับบทนำได้อย่างยอดเยี่ยม พวกเขาสามารถถ่ายทอดความหวาดกลัว ความสิ้นหวัง และความมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตรอดออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ นักแสดงสมทบคนอื่นๆก็ทำหน้าที่ได้ดีในการสร้างสีสันและความตื่นเต้นให้กับภาพยนตร์

Indya Moore ผู้รับบท Brianna ทำให้ตัวละครนี้โดดเด่นด้วยความฉลาดและความกล้าหาญ ส่วน Holland Roden ในบทบาท Rachel ก็สามารถถ่ายทอดความเปราะบางและความแข็งแกร่งของตัวละครออกมาได้อย่างลงตัว

โปรดักชั่น

“Escape Room: Tournament of Champions” โดดเด่นด้วยงานสร้างที่อลังการและการออกแบบฉากที่สร้างสรรค์ แต่ละห้องในเกม Escape Room ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถีพิถัน เต็มไปด้วยรายละเอียดและลูกเล่นที่น่าทึ่ง เอฟเฟกต์ต่างๆ ก็ทำออกมาได้อย่างสมจริง ช่วยเพิ่มความตื่นเต้นและความระทึกขวัญให้กับภาพยนตร์

ดนตรีประกอบโดย Brian Tyler ก็มีส่วนช่วยในการสร้างบรรยากาศความตึงเครียดและความลุ้นระทึกได้เป็นอย่างดี

สรุป

“Escape Room: Tournament of Champions” เป็นภาพยนตร์ภาคต่อที่สนุก ตื่นเต้น และน่าติดตาม แม้ว่าเนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้แปลกใหม่มากนัก แต่การออกแบบฉากที่น่าทึ่ง ปริศนาที่ท้าทาย และการแสดงที่ยอดเยี่ยม ก็เพียงพอที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ตลอด 1 ชั่วโมง 28 นาที

หากคุณกำลังมองหาภาพยนตร์ระทึกขวัญที่จะมาเติมเต็มความตื่นเต้นในช่วงวันหยุด “Escape Room: Tournament of Champions” คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด