![[รีวิว-เรื่องย่อ] มฤตยูหมอกกินมนุษย์ | The Mist (2007) หมอกมรณะที่เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นสัตว์ร้าย](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/07/Review-The-Mist-2007.webp)
- The Mist เป็น หนังสยองขวัญ ที่เล่าถึงหมอกปริศนาและสิ่งมีชีวิตที่ซ่อนอยู่ในนั้น พร้อมสำรวจด้านมืดของมนุษย์เมื่อเผชิญหน้ากับความกลัว
- การแสดงของ มาร์เซีย เกย์ ฮาร์เดน ในบทมิสซิสคาร์โมดีคือจุดเด่นที่ทำให้หนังน่าจดจำ
- ตอนจบที่สะเทือนใจและแตกต่างจากนิยายต้นฉบับคือสิ่งที่ยกระดับให้ The Mist กลายเป็นตำนาน
- เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ หนังสตีเฟน คิง และเรื่องราวที่ทั้งน่ากลัวและชวนคิด
ลองนึกภาพคุณติดอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ ท่ามกลางหมอกหนาที่ยิ่งกว่าฝันร้าย สิ่งมีชีวิตปริศนาคืบคลานอยู่ในนั้น และคนรอบตัวเริ่มสูญเสียสติ กลายเป็นภัยที่อันตรายยิ่งกว่าสัตว์ประหลาด นี่คือสิ่งที่ The Mist (2007) หนังสยองขวัญจากนิยายของ สตีเฟน คิง นำเสนอ ผลงานของผู้กำกับ แฟรงก์ ดาราบอนต์ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่หนังสยองขวัญธรรมดา แต่เป็นการสำรวจด้านมืดของมนุษย์เมื่อถูกบีบคั้นด้วยความกลัวและความสิ้นหวัง คุณเคยสงสัยไหมว่าในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด คนเราจะเลือกช่วยเหลือกัน หรือหันมาทำร้ายกันเอง?
The Mist ดึงดูดใจด้วยการเล่าเรื่องที่ตึงเครียดและตอนจบที่ไม่มีใครลืมได้ หนังเรื่องนี้ฉายภาพของสังคมที่แตกสลายเมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่รู้จัก และถึงแม้ว่าจะมีจุดที่ทำให้รู้สึกว่า “นี่มันอะไรกัน?” แต่พลังของเรื่องราวและการแสดงที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะจาก มาร์เซีย เกย์ ฮาร์เดน ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งใน หนังสยองขวัญ ที่น่าจดจำ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจเรื่องราวของ The Mist ตั้งแต่โครงเรื่องที่เข้มข้น ตัวละครที่หลากหลาย ไปจนถึงเหตุผลที่ทำให้ตอนจบกลายเป็นตำนาน มาดำดิ่งสู่หมอกแห่งความกลัวนี้กันเลย!

รีวิวและเรื่องย่อ The Mist (มฤตยูหมอกกินมนุษย์)
เรื่องราวของ The Mist เริ่มต้นที่เมืองเล็กๆ ในรัฐเมน หลังจากพายุรุนแรงพัดถล่มเมืองบริดจ์ตัน เดวิด เดรย์ตัน (รับบทโดย โธมัส เจน) พาลูกชายวัย 8 ปี บิลลี่ (นาธาน แกมเบิล) และเพื่อนบ้าน เบรนต์ (อังเดร บรอเฮอร์) ไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในเมือง แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อแดน มิลเลอร์ (เจฟฟรีย์ เดอมันน์) วิ่งเข้ามาในร้านด้วยความตื่นตระหนก ตะโกนว่ามีบางอย่างในหมอกกำลังฆ่าคน หมอกหนาทึบเริ่มปกคลุมทุกหนแห่ง และผู้คนที่ติดอยู่ในร้านต้องเผชิญกับความจริงที่น่าสะพรึงกลัว: มีสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักซ่อนอยู่ในหมอก
สิ่งที่ทำให้ The Mist แตกต่างจากหนังสัตว์ประหลาดทั่วไปคือการที่มันไม่เน้นแค่ความน่ากลัวของสิ่งมีชีวิต แต่เน้นไปที่ปฏิกิริยาของมนุษย์เมื่อถูกกดดันจนถึงขีดสุด ตัวละครในร้านค้าตัวแทนของคนหลากหลายประเภทในสังคม ตั้งแต่ศิลปินใจเย็นอย่างเดวิด ไปจนถึงนักศาสนาที่คลั่งไคล้อย่างมิสซิสคาร์โมดี (มาร์เซีย เกย์ ฮาร์เดน) หนังค่อยๆ เผยให้เห็นว่าความกลัวและความสิ้นหวังสามารถเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นอะไรได้บ้าง คุณคิดว่าตัวเองจะทำอย่างไรถ้าต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ไม่มีทางออก? คำตอบอาจไม่ง่ายอย่างที่คิด
หนึ่งในจุดเด่นของ The Mist คือการแสดงที่ทรงพลัง โดยเฉพาะ มาร์เซีย เกย์ ฮาร์เดน ในบทมิสซิสคาร์โมดี หญิงสาวที่เริ่มต้นด้วยความเชื่อทางศาสนาที่สุดโต่ง และค่อยๆ กลายเป็นผู้นำที่อันตรายของกลุ่มคนที่หวาดกลัวในร้านค้า การแสดงของเธอทั้งน่าขนลุกและน่าหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน คุณอาจจะเกลียดตัวละครนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเธอขโมยซีนทุกครั้งที่ปรากฏตัว มันน่าเสียดายที่เธอไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ เพราะการแสดงของเธอคือหนึ่งในกุญแจที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีชีวิตชีวา
ตัวละครอื่นๆ อย่างเดวิดและโอลลี่ วีคส์ (โทบี้ โจนส์) ก็มีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดมุมมองที่หลากหลายของมนุษย์เมื่อเผชิญกับวิกฤต เดวิดเป็นตัวแทนของคนที่พยายามใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา ในขณะที่โอลลี่แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญที่ซ่อนอยู่ในคนธรรมดา อย่างไรก็ตาม ตัวละครบางตัวอาจดูเหมือนเป็นตัวแทนของ “ความโง่” มากเกินไป ซึ่งบางครั้งทำให้รู้สึกว่าหนังพยายามยัดเยียดข้อคิดมากเกินความจำเป็น แต่ถึงอย่างนั้น การพัฒนาตัวละครที่หลากหลายนี้ก็ช่วยให้เรื่องราวมีมิติและน่าติดตาม
แฟรงก์ ดาราบอนต์ ผู้กำกับที่เคยสร้างผลงานอย่าง The Shawshank Redemption และ The Green Mile นำความสามารถในการเล่าเรื่องที่เข้มข้นมาสู่ The Mist แม้ว่าหนังจะไม่ได้สมบูรณ์แบบเท่าผลงานชิ้นก่อนๆ ของเขา แต่เขาก็สามารถสร้างบรรยากาศที่ตึงเครียดและน่าสะพรึงกลัวได้อย่างดีเยี่ยม ฉากที่กลุ่มตัวละครออกไปสำรวจร้านขายยาท่ามกลางหมอกเป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่ทั้งน่ากลัวและน่าจดจำ มันเหมือนกับการเดินเข้าไปในฝันร้ายที่คุณรู้ว่าไม่มีอะไรดีรออยู่ข้างหน้า
งานภาพของ The Mist อาจไม่ได้อลังการเหมือนหนังสยองขวัญสมัยใหม่ แต่ความเรียบง่ายของมันกลับช่วยขับเน้นความรู้สึกอึดอัดและความกลัวที่คืบคลานเข้ามา หมอกที่ปกคลุมทุกหนแห่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของความไม่แน่นอน และการออกแบบสัตว์ประหลาดก็ทำได้ดีพอที่จะทำให้คุณรู้สึกหวาดกลัวโดยไม่ต้องพึ่ง CGI ที่เกินจริง การใช้แสงและเงาในร้านค้าช่วยเพิ่มความรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในกรง ทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความกดดันของตัวละคร
ถ้าจะพูดถึง The Mist โดยไม่พูดถึงตอนจบก็คงเหมือนเล่าครึ่งเรื่อง เพราะนี่คือจุดที่ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นตำนาน ตอนจบของ The Mist ไม่เพียงแต่สะเทือนใจ แต่ยังทิ้งรอยแผลในใจให้กับผู้ชมที่ไม่มีวันลืม มันเหมือนกับการถูกชกเข้าที่ท้องอย่างไม่ทันตั้งตัว และถึงแม้ว่าคุณจะรู้ว่ามันกำลังมา มันก็ยังเจ็บปวดทุกครั้งที่ดู แฟรงก์ ดาราบอนต์เลือกที่จะจบเรื่องในแบบที่แตกต่างจากนิยายต้นฉบับของสตีเฟน คิง และนั่นคือสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น

สิ่งที่ทำให้ตอนจบน่าจดจำคือการที่มันบังคับให้คุณตั้งคำถามถึงการตัดสินใจของตัวละคร และอาจถึงขั้นตั้งคำถามถึงตัวคุณเอง คุณจะทำอย่างไรถ้าถูกบีบให้ต้องเลือกในสถานการณ์ที่ไม่มีทางออกที่ดี? การจบแบบนี้ไม่ใช่แค่การสร้างความตกใจ แต่เป็นการสะท้อนถึงความเปราะบางของมนุษย์และผลลัพธ์ของความสิ้นหวัง หนังเรื่องนี้ทิ้งคำถามที่ไม่มีคำตอบง่ายๆ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้มันยังคงถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้
The Mist (2007) อาจไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน แต่มันเป็นมากกว่า หนังสยองขวัญ ทั่วไป ด้วยการเล่าเรื่องที่เข้มข้น การแสดงที่ทรงพลัง และตอนจบที่กลายเป็นตำนาน หนังเรื่องนี้สำรวจด้านมืดของมนุษย์เมื่อเผชิญหน้ากับความกลัวและความไม่แน่นอน มันเหมือนกระจกที่สะท้อนให้เห็นว่าในยามวิกฤต คนเราอาจกลายเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของตัวเอง ถ้าคุณรัก หนังสตีเฟน คิง หรือกำลังมองหาหนังที่ทั้งน่ากลัวและชวนคิด The Mist คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด
ถึงเวลาแล้วที่คุณจะกลับไปดูหรือแนะนำ The Mist ให้เพื่อนๆ ได้สัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยตัวเอง! คุณคิดว่าตัวเองจะตัดสินใจอย่างไรถ้าติดอยู่ในสถานการณ์แบบนี้? มาคุยกันในคอมเมนต์ และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้คนรัก หนังสยองขวัญ ได้อ่านกัน!
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: มฤตยูหมอกกินมนุษย์
- ประเภท: สยองขวัญ, ดราม่า, ไซไฟ
- วันที่ออกฉาย: 21 พฤศจิกายน 2007
- นักแสดงนำ: โธมัส เจน, มาร์เซีย เกย์ ฮาร์เดน, โทบี้ โจนส์
- ผู้กำกับ: แฟรงก์ ดาราบอนต์
- ความยาว: 2 ชั่วโมง 6 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 7.1/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: