เจาะลึกคดี “Madam Ngo” กับเทคนิคการโกงที่นักลงทุนเหรียญ Altcoin ควรรู้

ในยุคที่การลงทุนในเหรียญ Altcoin ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลาย ความนิยมนี้กลับกลายเป็นช่องโหว่ให้มิจฉาชีพใช้เป็นเครื่องมือหลอกลวงนักลงทุน ซึ่งหนึ่งในคดีที่สะเทือนวงการคริปโตทั่วเอเชียคือกรณีของ “Madam Ngo” หญิงชาวเวียดนามที่ถูกจับกุมในไทยหลังหลบหนีคดีแชร์ลูกโซ่คริปโตมูลค่ากว่า 300 ล้านดอลลาร์

แม้ว่าโลกของคริปโตจะเต็มไปด้วยความเสี่ยง แต่ก็ยังมีเหรียญ Altcoin ที่น่าลงทุนหลายเหรียญที่มีศักยภาพ เติบโตได้จริง และได้รับการสนับสนุนจากทีมพัฒนาที่น่าเชื่อถือ การเลือกลงทุนในเหรียญที่มีปัจจัยพื้นฐานชัดเจนและตรวจสอบได้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถลดโอกาสในการตกเป็นเหยื่อของกลโกงเช่นกรณีของ Madam Ngo ได้

โก ถิ เทิว หรือ “Madam Ngo” วัย 30 ปีเป็นผู้ต้องหาที่ทางการเวียดนามและองค์การตำรวจสากลต้องการตัว เธอถูกจับกุมที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านคลองตันเหนือ กรุงเทพมหานคร โดยตำรวจปราบปรามอาชญากรรมของไทยจากการประสานข้อมูลกับทางการเวียดนาม คดีนี้มีเหยื่อมากกว่า 2,600 รายที่สูญเงินรวมประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นหนึ่งในคดีหลอกลวงคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขบวนการของ Madam Ngo ใช้เทคนิคหลอกลวงที่แยบยล หลอกล่อให้นักลงทุนหลงเชื่อในโครงการซื้อขายเหรียญคริปโตและ Forex ปลอมโดยสัญญาว่าจะมอบผลตอบแทนสูงถึง 20–30% ต่อเดือน ใช้บุคคลมีชื่อเสียงบนสื่อสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือสร้างความน่าเชื่อถือพร้อมจัดสัมมนาและโฆษณาลักษณะ “การลงทุนความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนสูง” เพื่อดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่ให้หลงเชื่อ

หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของขบวนการคือระบบการแนะนำแบบพีระมิด ผู้ที่เข้าร่วมจะได้รับค่าคอมมิชชั่นหากสามารถดึงคนอื่นมาลงทุนได้ โดยช่วงแรกผู้ลงทุนสามารถถอนกำไรเล็กน้อยได้จริงเพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ แต่เมื่อมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นระบบจะตัดการติดต่อทันที ทำให้เหยื่อไม่สามารถเรียกเงินคืนได้

นักลงทุนเหรียญ Altcoin จำนวนมากในเวียดนามตกเป็นเหยื่อเนื่องจากขาดความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนและการวิเคราะห์ความเสี่ยง 

ในระหว่างการหลบหนี Madam Ngo ยังคงดำเนินการโอนเงินผ่านบัญชีม้าในเวียดนามและไทย ถอนเงินสดครั้งละประมาณ 1 ล้านบาทเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานทางการเงิน เธอมีบทบาทสำคัญในเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่ใช้เทคโนโลยีคริปโตเป็นช่องทางฟอกเงินและหลอกลวงแบบแยบยล

กลโกงลักษณะนี้มีความซับซ้อนสูงและสะท้อนให้เห็นความเสี่ยงในตลาดเหรียญ Altcoin โดยเฉพาะกับนักลงทุนหน้าใหม่ที่มักจะหลงเชื่อในโครงการที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง 

ผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชน เช่น ตรัน ฮิวเยน ดิงห์ (Trần Huyền Dinh) และเหงียน วัน เฮียน (Nguyễn Vân Hiền) จากสมาคมบล็อกเชนเวียดนามเตือนว่าต้องระมัดระวังเหรียญปลอมที่ใช้เทคนิค “Pump and Dump” หรือแม้กระทั่งการแฮ็กผ่านเหรียญ Airdrop ปลอมที่แฝงมัลแวร์

ในยุคที่มีผู้ถือครองเหรียญ Altcoin เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น เวียดนามที่คาดว่าจะมีนักลงทุนคริปโตถึง 17 ล้านคนในปี 2024 ความรู้และความเข้าใจในเทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง การศึกษา Whitepaper วิเคราะห์ทีมพัฒนา และตรวจสอบแหล่งข้อมูลจากหลายช่องทางเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกันตนเองจากการเป็นเหยื่อกลโกงแบบนี้

กรณีของ Madam Ngo ไม่ใช่แค่เรื่องคดีอาชญากรรมทั่วไป แต่มันเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนถึงความจำเป็นในการพัฒนาความรู้ด้านการลงทุนในโลกดิจิทัล โดยเฉพาะในตลาดเหรียญ Altcoin ที่แม้จะมีโอกาสสูงแต่ก็เต็มไปด้วยกับดักมากมาย นักลงทุนที่ชาญฉลาดจึงไม่ใช่ผู้ที่กล้าลงทุนเท่านั้น แต่ต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจในสิ่งที่ตนเองต้องการลงทุนอย่างแท้จริง

กดเพื่ออ่านต่อ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button