![[รีวิว-เรื่องย่อ] บริษัทรับจ้างหลอน (ไม่) จำกัด | Monsters, Inc. (2001)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-Monsters-Inc.-2001.webp)
- Monsters, Inc. เป็นหนัง Pixar เรื่องที่สี่ที่เปลี่ยนผู้กำกับ แต่ยังคงสไตล์อบอุ่นเกี่ยวกับมิตรภาพและความสุขของเด็กๆ
- การแสดงเสียงพากย์ของจอห์น กู๊ดแมน ในบทซัลลีย์ และบิลลี คริสตัล ในบทไมค์ สร้างตัวละครที่น่ารักและน่าจดจำ
- หนังสำรวจธีมโลกมหัศจรรย์ที่ใช้เสียงกรี๊ดเด็กผลิตพลังงาน พร้อมการผจญภัยสุดฮาและอบอุ่นหัวใจ
- แม้กราฟิกจะเก่า แต่เรื่องราวยังคงชวนให้หลงรักและคิดถึงวัยเด็ก
เราเคยสงสัยกันไหมว่า ถ้าโลกมอนสเตอร์มีจริง มันจะเป็นยังไง? ลองนึกภาพเมืองที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์น่ารักๆ ที่กลัวเด็ก แต่ต้องไปหลอกเด็กเพื่อเอาเสียงกรี๊ดมาผลิตไฟฟ้า! หนัง Monsters, Inc. (2001) จากค่าย Pixar พาเราไปสัมผัสโลกแบบนั้นเลย เรื่องนี้กำกับโดย พีท ด็อกเตอร์ (Pete Docter) ร่วมกับทีมอื่นๆ เป็นเรื่องแรกที่ไม่ใช่ฝีมือจอห์น ลาสเซเตอร์ แต่ยังคงกลิ่นอาย Pixar แบบเต็มๆ เน้นมิตรภาพและการดูแลเด็กๆ ในแบบที่ไม่ซ้ำกับ Toy Story
เรื่องราวเกิดในเมืองมอนสโตรโปลิส ที่ซึ่งมอนสเตอร์ใช้เสียงกรี๊ดจากเด็กมนุษย์เป็นพลังงาน เจมส์ พี. “ซัลลีย์” ซัลลิแวน พากย์โดย จอห์น กู๊ดแมน (John Goodman) คือยอดฝีมือในการหลอกเด็ก แต่แล้ววันหนึ่ง เขาบังเอิญปล่อยเด็กตัวน้อยชื่อบูเข้ามาในโลกมอนสเตอร์ สร้างความโกลาหลไปทั้งเมือง! ซัลลีย์ต้องร่วมมือกับเพื่อนซี้ ไมค์ วาซอฟสกี พากย์โดย บิลลี คริสตัล (Billy Crystal) เพื่อพาบูกลับบ้าน โดยต้องหลบศัตรูอย่างแรนดัลล์ บ็อกส์ (Steve Buscemi) ที่กำลังวางแผนร้าย
ในรีวิวนี้ เราจะพาไปเจาะลึกทุกมุมของหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่ตัวละครสุดน่ารัก โลกมหัศจรรย์ที่สร้างสรรค์ ไปจนถึงข้อความอบอุ่นที่หนังอยากบอกเรา มาดูกันว่า Monsters, Inc. จะทำให้เราหัวเราะและซึ้งใจยังไงในฐานะหนังครอบครัวที่ยังคงคลาสสิกมาถึงทุกวันนี้

รีวิวและเรื่องย่อ Monsters, Inc. (บริษัทรับจ้างหลอน (ไม่) จำกัด)
Monsters, Inc. เล่าเรื่องในเมืองมอนสโตรโปลิส ที่มอนสเตอร์อาศัยอยู่และใช้เสียงกรี๊ดจากเด็กมนุษย์ผลิตพลังงาน ซัลลีย์คือมอนสเตอร์ยักษ์ขนฟูที่เก่งที่สุดเรื่องหลอกเด็ก แต่ชีวิตพลิกผันเมื่อเขาบังเอิญเปิดประตูให้เด็กน้อยชื่อบูหลุดเข้ามา สร้างความวุ่นวายเพราะมอนสเตอร์ทุกตัวกลัวเด็กแบบสุดๆ! ซัลลีย์ต้องหาทางพาบูกลับบ้าน โดยมีไมค์ เพื่อนตาเดียวสุดฮาช่วยเหลือ ขณะที่แรนดัลล์คู่แข่งกำลังวางแผนลับๆ เพื่อแย่งตำแหน่งยอดมอนสเตอร์
เรื่องนี้เหมือนกับการผสมผสานระหว่างโลกเวทมนตร์แบบดิสนีย์เก่าๆ กับไอเดียสดใหม่จาก Pixar เราจะได้เห็นกฎของโลกมอนสเตอร์ที่สนุกมาก เช่น ประตูตู้เสื้อผ้าที่เชื่อมโลกมนุษย์ หรือบริษัทที่เหมือนโรงงานผลิตไฟฟ้าจากเสียงกรี๊ด หนังเดินเรื่องเร็ว ผสมมุกตลกและฉากผจญภัยที่ทำให้เราลุ้นตามไม่หยุด แม้พล็อตจะพื้นฐาน แต่การสร้างโลกและตัวละครทำได้ยอดเยี่ยม จนเรารู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในมอนสโตรโพลิสจริงๆ
นอกจากนี้ หนังยังซ่อนข้อความลึกซึ้งเกี่ยวกับมิตรภาพและการเปลี่ยนแปลง ซัลลีย์ที่เคยคิดว่าเด็กคืออันตราย กลับค้นพบความน่ารักของบู ทำให้เขาต้องเลือกระหว่างงานกับหัวใจ มันเหมือนกับชีวิตจริงที่บางทีเราต้องกล้าทิ้งความเชื่อเก่าๆ เพื่อสิ่งที่ดีกว่า หนังเรื่องนี้เลยไม่ใช่แค่หนังเด็ก แต่เป็นหนังที่ผู้ใหญ่ดูแล้วยังยิ้มได้
จอห์น กู๊ดแมน (John Goodman) ในบทซัลลีย์ทำได้เยี่ยมมาก เขาถ่ายทอดความเป็นมอนสเตอร์ใจดีแต่ขี้กลัวได้อย่างน่ารัก เสียงทุ้มๆ ของเขาทำให้ซัลลีย์ดูอบอุ่น เหมือนพี่หมีขนฟูที่อยากกอดจริงๆ การพัฒนาตัวละครจากมอนสเตอร์หลอกเด็กกลายเป็นพ่อบุญธรรมชั่วคราว มันชวนให้เรารู้สึกซึ้ง โดยเฉพาะฉากที่ซัลลีย์ต้องปกป้องบูจากอันตราย
บิลลี คริสตัล (Billy Crystal) ในบทไมค์ วาซอฟสกีคือจุดเด่นอีกคน มุกตลกของเขามาแบบรัวๆ ทำให้หนังไม่น่าเบื่อ ไมค์คือเพื่อนซี้ที่ซื่อสัตย์แต่ขี้โม้ การเคมีระหว่างเขากับซัลลีย์เหมือนคู่หูในชีวิตจริง ที่ทะเลาะกันแต่สุดท้ายก็คอยช่วยเหลือ มันทำให้หนังมีเสน่ห์แบบครอบครัว Pixar ที่เราคุ้นเคย
ส่วนตัวละครอื่นๆ อย่างแรนดัลล์ที่พากย์โดย สตีฟ บุสเซมี (Steve Buscemi) ก็ร้ายกาจแต่สนุก หนังใช้เสียงพากย์ให้เข้ากับดีไซน์ตัวละคร เช่น บูที่พูดน้อยแต่แสดงออกทางสีหน้าและเสียงเด็กๆ น่ารัก มันช่วยให้โลกมอนสเตอร์ดูมีชีวิตชีวา แม้หนังจะเก่ากว่า 20 ปี แต่การแสดงยังคงสดใหม่

งานภาพใน Monsters, Inc. ถือว่าล้ำสมัยในยุคนั้น โดยเฉพาะขนฟูของซัลลีย์ที่ดูนุ่มนิ่มจนอยากเอื้อมมือไปจับ มันเหมือนกับการอัพเกรดจากหนัง Pixar เรื่องก่อนๆ ที่มนุษย์ยังดูแข็งๆ แต่ในเรื่องนี้ มีมนุษย์น้อยมาก และบูก็ใส่ชุดมอนสเตอร์เกือบตลอด ทำให้ไม่สะดุดตา แม้ฟันบางตัวจะดูแปลกๆ แต่โดยรวมยังสวยงามและสีสันสดใส
ดนตรีประกอบโดย แรนดี นิวแมน (Randy Newman) ช่วยเสริมอารมณ์ได้ดีมาก เพลงอย่าง “If I Didn’t Have You” ที่ไมค์กับซัลลีย์ร้อง มันอบอุ่นและติดหู เหมือนเพลงประกอบชีวิตที่บอกว่าเพื่อนแท้สำคัญแค่ไหน ดนตรีช่วยให้ฉากผจญภัยตื่นเต้น และฉากซึ้งก็ยิ่งน้ำตาซึม
หนังเรื่องนี้แม้จะไม่สมบูรณ์แบบเรื่องกราฟิก แต่ไอเดียสร้างสรรค์และการเล่าเรื่องทำให้เราลืมจุดด้อยไป มันเหมือนตุ๊กตาหมีเก่าที่เรายังรัก เพราะความทรงจำดีๆ ที่มันให้

Monsters, Inc. สำรวจธีมมิตรภาพและการเปลี่ยนแปลงผ่านมุมมองมอนสเตอร์ที่กลัวเด็ก แต่สุดท้ายพบว่าความกลัวนั้นไร้สาระ มันเหมือนกับชีวิตเราที่บางทีกลัวสิ่งใหม่ๆ โดยไม่ลองเปิดใจ หนังใช้บริษัทเป็นฉากหลังเพื่อเสียดสีโลกทุนนิยม ที่เน้นผลผลิตแต่ลืมความสุขของพนักงาน มันชวนให้เราคิดว่าความสำเร็จแท้จริงคืออะไร
นอกจากนี้ หนังยังเน้นเรื่องการดูแลเด็กและความไร้เดียงสา บูคือสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ที่ทำให้มอนสเตอร์เห็นคุณค่าของเสียงหัวเราะแทนกรี๊ด มันเป็นข้อคิดน่ารักว่าความสุขแท้จริงมาจากการแบ่งปัน ไม่ใช่การเอาเปรียบ หนังเดินเรื่องแบบเบาสมองแต่ซ่อนความลึกไว้ ทำให้ดูได้ทุกวัย
หนังเรื่องนี้ยังคงเป็นคลาสสิกเพราะไอเดียที่สดใหม่และตัวละครที่น่าจดจำ แม้เราดูตอนโตแล้วอาจรู้สึกว่ามันเบาๆ ไปหน่อย แต่ความอบอุ่นยังคงอยู่ เหมือนขนมหวานที่กินแล้วยิ้มได้
Monsters, Inc. (2001) คือหนัง Pixar ที่ทำให้เรายิ้มและหัวเราะไปกับโลกมอนสเตอร์สุดมหัศจรรย์ หนังเรื่องนี้เตือนเราว่ามิตรภาพแท้จริงสามารถเปลี่ยนโลกได้ แม้ในสถานการณ์วุ่นวายแค่ไหนก็ตาม มันแสดงให้เห็นว่าความกลัวเป็นแค่ภาพลวงตา และเสียงหัวเราะคือพลังงานที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ หนังยังคงชวนให้เราคิดถึงวัยเด็กและความสุขเล็กๆ น้อยๆ
ถ้าเราเป็นแฟนหนังแอนิเมชันครอบครัวที่เต็มไปด้วยมุกฮาและข้อคิดดีๆ Monsters, Inc. คือเรื่องที่ต้องดูซ้ำ! หนังเรื่องนี้จะทำให้เราอยากกลับไปดู Pixar เรื่องเก่าๆ อีกครั้ง มาแชร์กันในคอมเมนต์ว่า ตัวละครไหนที่เราชอบที่สุดในเรื่องนี้ และทำไมถึงยังรักหนังเรื่องนี้อยู่? อย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชอบหนังน่ารักๆ แบบนี้ด้วยนะ!
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: บริษัทรับจ้างหลอน (ไม่) จำกัด
- ประเภท: แอนิเมชัน, คอมเมดี้, ผจญภัย
- วันที่ออกฉาย: 2 พฤศจิกายน 2544
- นักแสดงนำ (เสียงพากย์): จอห์น กู๊ดแมน (John Goodman), บิลลี คริสตัล (Billy Crystal), สตีฟ บุสเซมี (Steve Buscemi), แมรี กิ๊บส์ (Mary Gibbs)
- ผู้กำกับ: พีท ด็อกเตอร์ (Pete Docter)
- ความยาว: 1 ชั่วโมง 32 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 8.1/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: Disney+