![[รีวิว-เรื่องย่อ] ห่าก้อม (2025) หนังผีจากตำนานปอบอีสาน](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/10/Review-The-darkness-of-the-soul.webp)
- นำตำนานปอบมาผสมประเด็นสังคมได้หลอนและลึกซึ้ง ชวนคิดถึงการตีตราในชุมชนไทย
- ตัวละครยายพรและแบงค์ถ่ายทอดความสับสนและความเจ็บปวดได้สมจริง จนลืมไม่ลง
- ใช้ภาพและเสียงพื้นบ้านอีสานสร้างความกลัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่พึ่งเอฟเฟกต์มาก
- หนังเตือนว่าความเชื่ออาจกลายเป็นอาวุธทำร้ายกันเอง ดูแล้วชวนทบทวนสังคมรอบตัว
เคยคิดไหมว่าตำนาน ปอบ ในหมู่บ้านอีสานสมัยนี้ จะกลายเป็นกระจกสะท้อนความชั่วร้ายในใจคนได้ยังไง? หนัง ห่าก้อม (2025) ไม่ใช่แค่เรื่องผีแบบเดิมๆ ที่ตุ้งแช่แล้วจบ แต่พาไปเจาะลึกความโลภ กิเลส และการตีตราแบบไม่ยั้ง ในชุมชนที่ทุกคนจ้องตัดสินกันเอง กำกับโดย พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ที่เคยทำให้เราขนลุกกับหนังไทยแนวนี้มาแล้วหลายเรื่อง เรื่องราวเริ่มจากแบงค์ที่กลับบ้านเกิดไปงานศพเพื่อน แล้วเริ่มสงสัยว่ายายพรคือตัวการฆ่า แต่ยิ่งสืบ ยิ่งเจอความจริงที่ชวนสับสน ว่าใครกันแน่คือเหยื่อ หรือผู้ล่า? และสิ่งที่เรากลัวจริงๆ มันคือผี หรือแค่ความเชื่อที่คนสร้างกันเอง?
หนังเรื่องนี้หยิบเอา บรรยากาศอีสานแท้ๆ มาผสมกับพิธีกรรมพื้นบ้าน จนรู้สึกเหมือนนั่งดูในโรงหนังกลางนา มันไม่ใช่แค่หลอนจากเอฟเฟกต์ แต่บีบหัวใจด้วยสายตาชาวบ้านที่พร้อมตราหน้าใครก็ได้ และความระแวงที่ค่อยๆ กัดกินทุกคน เหมือนกับที่วัยรุ่นไทยชอบแชร์กันในโซเชียล ว่าชีวิตจริงน่ากลัวกว่าผีเสียอีก บทความนี้จะพาไปเจาะลึกทุกมุมของ ห่าก้อม ตั้งแต่เรื่องย่อ การแสดง ไปจนถึงข้อความที่หนังอยากบอก ว่าทำไมมันถึงเป็นหนังผีไทยที่ต้องดูในปีนี้
รีวิวและเรื่องย่อ ห่าก้อม
ห่าก้อม (2025) เปิดเรื่องด้วยแบงค์ ชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ ต้องกลับมาบ้านเกิดในภาคอีสานเพื่อร่วมงานศพเพื่อนสนิทที่ตายอย่างลึกลับ ทันทีที่มาถึง หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้เต็มไปด้วยกระแสข่าวลือเรื่อง ปอบ สัตว์ประหลาดในตำนานที่กินไส้คน และชาวบ้านเริ่มชี้เป้าว่ายายพร ผู้เฒ่าที่อยู่คนเดียว คือตัวการฆ่า แบงค์ที่เคยหนีความเชื่อเหล่านี้ไปนาน สุดท้ายก็เชื่อตามอารมณ์โศกเศร้าและแรงกดดันจากคนรอบข้าง เขาเริ่มสืบหาความจริงด้วยตัวเอง ลากเพื่อนเก่าและญาติๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง จนกลายเป็นการล่าปอบที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย
แต่ยิ่งเรื่องดำเนินไป หนังก็ค่อยๆ เผยให้เห็นว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผีสาง แต่เป็นความขัดแย้งในชุมชนที่ถูกความโลภและกิเลสครอบงำ ชาวบ้านที่เคยช่วยเหลือกัน กลับหันมาต่อว่ากันเองเพราะเรื่องที่ดิน หนี้สิน และความอิจฉา พิธีกรรมไล่ปอบที่ดูน่าขนลุก กลายเป็นเครื่องมือในการลงทัณฑ์คนที่ใครไม่ชอบ ยายพรในสายตาแบงค์ เริ่มจากตัวร้ายที่น่ากลัว สู่ผู้ถูกกดขี่ที่ชวนสงสาร หนังใช้ฉากหมู่บ้านยามค่ำคืนที่มืดมิด เสียงลมพัดผ่านต้นไผ่ และกลิ่นควันธูปจากศาลพระภูมิ มาสร้างความกดดันที่ค่อยๆ บีบคั้น จนผู้ชมรู้สึกเหมือนถูกจ้องจากทุกมุม เหมือนกับที่วัยรุ่นไทยชอบพูดกันว่า “หลอนแบบไม่ต้องมีผีโผล่ก็พอ”
โครงเรื่องนี้ชาญฉลาดตรงที่ไม่รีบเฉลย แต่ปล่อยให้ความสงสัยสะสม เหมือนเกมไขปริศนาที่ชวนให้คิดตาม ทุกตัวละครมีมิติ ไม่ใช่แค่ดีหรือชั่วล้วนๆ ทำให้เรื่องราวไหลลื่นและชวนติดตาม โดยเฉพาะตอนจบที่พลิกผันแบบไม่คาดคิด ชวนให้ตั้งคำถามว่าความเชื่อในสังคมไทย มันช่วยหรือทำร้ายกันแน่
ตัวเอกอย่างแบงค์ ได้รับการแสดงโดยนักแสดงหนุ่มที่ถ่ายทอดความสับสนระหว่างความเชื่อเก่าและชีวิตสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว เขาเริ่มจากคนที่เย่อหยิ่งกับความงมงาย แต่เมื่อเจอแรงกดดันจากหมู่บ้าน ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปกลายเป็นคนที่ถูกครอบงำด้วยความกลัว การแสดงนี้ทำให้เห็นว่ามนุษย์ธรรมดาๆ สามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของฝูงชนที่โหดร้ายได้ยังไง โดยเฉพาะฉากที่เขาต้องเผชิญหน้ากับยายพรคนเดียว ท่าทางสั่นเทาและสายตาที่เต็มไปด้วยความลังเล มันชวนให้ขนลุกแบบไม่ต้องมีเอฟเฟกต์อะไรเลย
ยายพร ตัวละครหลักที่เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง แสดงโดยนักแสดงอาวุโสที่ถ่ายทอดความโดดเดี่ยวและความเจ็บปวดจากสังคมได้น่าประทับใจ เธอไม่ใช่แค่เหยื่อ แต่เป็นสัญลักษณ์ของคนชายขอบที่ถูกตีตราเพราะความยากจนและความแปลกแยก ฉากที่เธอเล่าเรื่องราวชีวิตตัวเองท่ามกลางพิธีกรรมไล่ปอบ มันบีบหัวใจจนน้ำตาซึม ผสมกับความน่ากลัวที่ค่อยๆ เผยออกมา ทำให้ผู้ชมรู้สึกสับสนระหว่างความสงสารและความหวาดระแวง เหมือนกับที่ชาวเน็ตไทยชอบเมนต์กันในรีวิวหนังผี ว่าตัวละครแบบนี้หลอนใจจริงๆ
ตัวละครรองอย่างชาวบ้านและเพื่อนเก่าของแบงค์ ก็ช่วยเสริมให้เรื่องสมจริง พวกเขาถ่ายทอดความเป็นชุมชนอีสานได้แจ่มชัด ทั้งสำเนียง การแต่งกายแบบบ้านๆ และปฏิกิริยาต่อข่าวลือที่แพร่กระจายเร็วเหมือนไฟลามทุ่ง การแสดงกลุ่มนี้ทำให้รู้สึกว่าหมู่บ้านนี้มีชีวิตจริงๆ ไม่ใช่แค่ฉากหลัง แต่เป็นตัวการที่ขับเคลื่อนความโกลาหลทั้งหมด
หนัง ห่าก้อม ใช้เทคนิคถ่ายทำที่เน้นความสมจริงแบบงบน้อยแต่ได้ผลลัพธ์ที่หลอนสุดๆ ภาพสีเทาๆ หม่นหมอง สะท้อนชีวิตในหมู่บ้านอีสานที่แห้งแล้งทั้งกายและใจ กล้องถือมือที่สั่นไหวเบาๆ ในฉากไล่ล่า ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังวิ่งหนีไปด้วยกัน ไม่มีซีจีไอหรูหรา แต่ใช้แสงธรรมชาติจากตะเกียงและไฟจากพิธีกรรม มาสร้างเงามืดที่ชวนจินตนาการว่าปอบกำลังซุ่มอยู่ไหนสักแห่ง มันเหมือนกับหนังผีเอเชียคลาสสิกที่วัยรุ่นไทยชื่นชอบ เพราะมันใกล้ตัวและน่ากลัวแบบไม่ต้องพึ่งเอฟเฟกต์แพงๆ
เสียงประกอบเป็นอีกจุดแข็งที่ทำให้หนังกดดันตลอดเรื่อง เสียงพื้นหลังอย่างลมหวีดหวิว เสียงไก่ขันยามเช้า และเสียงร้องไห้แผ่วๆ จากพิธีกรรม ผสมกับดนตรีพื้นบ้านอีสานที่บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีไทยอย่างแคนและโหวต มันค่อยๆ เร่งจังหวะให้หัวใจเต้นแรง โดยเฉพาะในฉากที่ชาวบ้านรวมตัวกันตะโกนไล่ปอบ เสียงนั้นดังก้องจนรู้สึกอึดอัดเหมือนถูกขังในห้องปิดทึบ ผู้กำกับฉลาดที่ใช้ความเงียบเป็นอาวุธหลัก บางฉากไม่มีเสียงเลยนอกจากลมหายใจ ทำให้ทุกเสียงเล็กๆ กลายเป็นจุดหลอนที่คาดไม่ถึง
โดยรวม เทคนิคเหล่านี้ทำให้ ห่าก้อม ไม่ใช่แค่หนังผี แต่เป็นประสบการณ์ที่ชวนให้รู้สึกอึดอัดกับสังคมรอบตัว เหมือนกับที่ชาวเน็ตไทยชอบแชร์คลิปผีในติ๊กต็อก แต่เวอร์ชันนี้ลึกซึ้งและน่าคิดกว่ามาก
ข้อดีที่เด่นสุดของ ห่าก้อม คือการนำตำนานปอบมาผสมกับประเด็นสังคมสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว มันไม่ใช่แค่หลอนจากผี แต่สะท้อนการตีตราและแพะรับบาปในชุมชนไทยที่ยังเกิดขึ้นจริงๆ ทุกวัน ฉากไคลแมกซ์ที่ทุกอย่างระเบิดออกมา ชวนให้ขนลุกและน้ำตาซึมไปพร้อมกัน โดยเฉพาะการแสดงที่สมจริงและบรรยากาศที่กดดัน มันทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่างจากหนังผีไทยทั่วไป ที่มักพึ่งฉากสะดุ้งเต็มไปหมด ที่นี่ความกลัวมาจากคนมากกว่าผี ชวนให้คิดถึงชีวิตวัยรุ่นที่เคยโดนรังแกจากข่าวลือในโรงเรียนหรือโซเชียล
แต่ก็มีข้อเสียที่ทำให้เสียดายนิดๆ ช่วงกลางเรื่องยืดเยื้อเกินไปหน่อย วนเวียนกับความระแวงซ้ำๆ จนจังหวะช้าลง และบางฉากยังมีฉากสะดุ้งแบบสูตรสำเร็จแทรกเข้ามา ทำให้ความคมของประเด็นสังคมจางลงบ้าง ถ้าตัดให้กระชับกว่านี้ คงพุ่งทะยานได้ไกลกว่านี้เยอะ เหมือนกับหนังไทยหลายเรื่องที่ไอเดียดีแต่จังหวะไม่แน่น
สุดท้าย หนังเรื่องนี้ทิ้งข้อคิดที่หนักแน่น ว่าความเชื่อที่เรายึดถือ มันอาจเป็นอาวุธที่ทำร้ายกันเองโดยไม่รู้ตัว ในสังคมที่เต็มไปด้วยข่าวลือและการตัดสิน ห่าก้อม ชวนให้เรามองย้อนกลับไปที่ตัวเองและชุมชนรอบตัว ว่าอะไรคือสิ่งที่เรากลัวจริงๆ
ห่าก้อม (2025) คือหนังผีไทยที่หลอนใจแบบไม่ต้องพึ่งผี แต่ใช้ความชั่วในใจคนมาบีบคั้นผู้ชม มันสะท้อนสังคมอีสานและไทยโดยรวมได้อย่างแสบสัน ชวนให้คิดถึงการตีตราและความเชื่อที่ยังครอบงำชีวิตเราอยู่ทุกวัน ใครที่ชอบหนังสยองเชิงสังคมรสเข้มๆ แบบนี้ ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด ลองดูแล้วมาคุยกันในคอมเมนต์ว่ามันทำให้คิดอะไรบ้าง หรือเคยเจอข่าวลือแบบนี้ในชีวิตจริงไหม? แชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ติดตามหนังไทยด้วยนะ จะได้ช่วยกันวิเคราะห์ว่าปอบตัวจริงอยู่ที่ไหน!
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ห่าก้อม
- ประเภท: สยองขวัญ, ดราม่า, พื้นบ้านอีสาน
- วันที่ออกฉาย: 19 มิถุนายน 2025
- นักแสดงนำ: วรวิทย์ จันทะเสน, กุณกนิช คุ้มครอง, ยะสะกะ ไชยสร, ชไมพร สิทธิวรนันท์, จิรวัฒน์ พุทธรรมา, ณัฐริกา เฝ้าด่าน
- ผู้กำกับ: พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
- ความยาว: 85 นาที
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ยุทธศาสตร์ อำนาจ ล้างโลก | A House of Dynamite (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/10/Review-A-House-of-Dynamite-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] แม่ซื้อ | Host (2025) หนังสยองขวัญไทยสุดหลอน](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/10/Review-Host-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ตู้ซ่อนผี | A Tale of Two Sisters (2003)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-A-Tale-of-Two-Sisters-2003.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] น้ำทิพย์ชะโลมตาย | The Elixir (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/10/Review-The-Elixir-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] รักนี้… ไม่มีใครอยากได้ | Nobody Wants This ซีซั่น 2](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/10/Review-Nobody-Wants-This-Season-2.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] เบบี้ แบนดิโต้: ปล้นสะท้านชิลี | Baby Bandito ซีซั่น 2](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/10/Review-Baby-Bandito-Season-2.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ฆาตกรรมอำปีศาจ | The Wailing (2016)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-The-Wailing-2016.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ปริศนาหมอกมรณะ | Sea Fog (2014)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-Sea-Fog-2014.webp)