[รีวิว-เรื่องย่อ] เอเลี่ยน 3 อสูรสยบจักรวาล | Alien 3 (1992)

• Alien 3 เป็นภาคต่อที่เปลี่ยนโทนจากหนังก่อนๆ เน้นดราม่ามนุษย์ชั่วร้ายมากกว่าเอเลี่ยน
• การแสดงของซิกอร์นีย์ วีเวอร์ ในบทริปลีย์โดดเด่น แสดงความสิ้นหวังและความแข็งแกร่งได้สุดยอด
• หนังสำรวจธีมความชั่วในมนุษย์ เปรียบเทียบกับเอเลี่ยนที่แค่เป็นนักล่าธรรมชาติ
• ผู้กำกับเดวิด ฟินเชอร์ เปิดตัวเรื่องแรกด้วยบรรยากาศมืดมนและตึงเครียด

เราเคยคิดไหมว่าถ้าเอเลี่ยนบุกคุกที่เต็มไปด้วยนักโทษชั่วร้าย มันจะโหดขนาดไหน? หนัง Alien 3 (1992) ของผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ (David Fincher) พาเราไปเจอกับริปลีย์ที่ต้องเอาชีวิตรอดในดาวคุกสุดโหด หลังจากหนีรอดจากดาวเอเลี่ยนในภาคก่อน แต่คราวนี้ศัตรูไม่ใช่แค่มอนสเตอร์ แต่เป็นมนุษย์ที่เลวร้ายยิ่งกว่า เรื่องจริงจากยุค 90s ที่ผสมไซไฟกับดราม่าจิตวิทยา บนดาว ฟิโอรินา 161 ที่กลายเป็นสนามรบระหว่างคนกับสัตว์ประหลาด

เรื่องย่อเริ่มจาก ริปลีย์ แสดงโดย ซิกอร์นีย์ วีเวอร์ (Sigourney Weaver) หลังจากหนีมากับนิวต์และฮิกส์ แต่ยานตกที่ดาวคุก นิวต์กับฮิกส์ตายหมด เหลือแต่เอเลี่ยนตัวนึงที่ตามมา นักโทษในคุกไม่มีอาวุธอะไรเลย ต้องหาทางรอดกันเองแบบสุดลุ้น คราวนี้ไม่ใช่การล่าสัตว์แบบภาคก่อน แต่เป็นการเปิดโปงความชั่วในใจมนุษย์ที่แย่กว่าเอเลี่ยนเสียอีก

ในบทความนี้ เราจะพาไปรีวิวทุกมุมของ Alien 3 ตั้งแต่เรื่องย่อ การแสดงสุดปัง ไปจนถึงธีมลึกซึ้งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ยังน่าดูแม้ผ่านมานาน มาดูกันว่า หนังเอเลี่ยนภาค 3 จะทำให้เราตั้งคำถามกับธรรมชาติมนุษย์ยังไงบ้าง

รีวิวและเรื่องย่อ Alien 3 (เอเลี่ยน 3 อสูรสยบจักรวาล)

Alien 3 เล่าเรื่องริปลีย์ที่ตื่นขึ้นมาบนดาว ฟิโอรินา 161 ซึ่งเป็นคุกสำหรับนักโทษชายที่อันตรายที่สุด หลังจากยานของเธอตกที่นี่ นิวต์และฮิกส์ตายตั้งแต่ต้นเรื่อง ทำให้ริปลีย์ต้องเผชิญความโดดเดี่ยวอีกครั้ง แต่ที่แย่กว่านั้นคือเอเลี่ยนตัวนึงที่ติดมากับยาน มันเริ่มไล่ฆ่านักโทษทีละคนแบบเงียบๆ ในคุกที่ไม่มีปืนหรืออาวุธอะไรเลย นักโทษต้องรวมตัวกันหาทางกำจัดมันด้วยวิธีด้นสดสุดๆ

กลุ่มนักโทษนำโดย ดีลลอน แสดงโดย ชาร์ลส เอส. ดัตตัน (Charles S. Dutton) ชายผิวดำที่หันมานับถือศาสนาเพื่อไถ่บาป เขาเป็นผู้นำที่เต็มไปด้วยความโกรธและเสน่ห์ แต่คนอื่นๆ ในคุกส่วนใหญ่เป็นพวกขี้ขลาด โลภ และเต็มไปด้วยความกลัว พวกเขาพยายามสร้างทีมล่าเอเลี่ยน แต่ความขัดแย้งภายในทำให้ทุกอย่างพังพินาศ ริปลีย์กลายเป็นคนกลางที่ต้องโน้มน้าวให้ทุกคนฟังเธอ ซึ่งยากมากเพราะพวกนี้ไม่เชื่อใคร

เอเลี่ยนในเรื่องนี้ไม่ใช่แค่มอนสเตอร์ แต่เป็นสัญลักษณ์ของนักล่าธรรมชาติที่ทำตามสัญชาตญาณ ในขณะที่มนุษย์กลับชั่วร้ายกว่าเพราะความโง่เขลาและความเห็นแก่ตัว หนังเปรียบเทียบเหมือนว่าเอเลี่ยนคือเสือที่หิว แต่คนคือพวกที่หักหลังกันเองเพื่อเอาตัวรอด ธีมนี้ทำให้ Alien 3 แตกต่างจากภาคก่อนที่เน้นแอคชั่น

การแสดงของ ซิกอร์นีย์ วีเวอร์ (Sigourney Weaver) ในบทริปลีย์เป็นจุดเด่นสุดๆ เธอถ่ายทอดความสิ้นหวัง ความแข็งแกร่ง และความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ไม่รู้จบได้อย่างสมจริง ริปลีย์ในภาคนี้ไม่ใช่ฮีโร่ที่ชนะง่ายๆ แต่เป็นผู้หญิงที่ถูกทำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉากที่เธอต้องตรวจสอบตัวเองว่ามีเอเลี่ยนฝังในร่างกายไหม มันชวนลุ้นและสะเทือนใจมาก

ชาร์ลส เอส. ดัตตัน (Charles S. Dutton) ในบทดีลลอนก็ปังไม่แพ้ เขาเล่นเป็นนักโทษที่หันมาศรัทธาศาสนา แต่ยังเก็บความโกรธไว้ข้างใน การแสดงของเขาทำให้ตัวละครมีมิติมากกว่าที่บทเขียนไว้ ตัวละครอื่นๆ อย่างหมอ เคลเมนส์ แสดงโดย ชาร์ลส แดนซ์ (Charles Dance) ก็เพิ่มโรแมนติกนิดๆ แต่หนังใช้มันเพื่อช็อกคนดูตอนเอเลี่ยนฆ่าเขา ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่าทุกอย่างไร้ความหวัง

แม้บทจะมีจุดอ่อนอย่างการฆ่านิวต์กับฮิกส์แบบรวดเร็วเกินไป แต่การแสดงโดยรวมช่วยยกหนังขึ้นมาได้ นักแสดงทำให้เรารู้สึกถึงความมืดมนของคุกดาวนี้ เหมือนอยู่ในนรกที่มนุษย์สร้างขึ้นเอง

เดวิด ฟินเชอร์ (David Fincher) เปิดตัวหนังเรื่องยาวเรื่องแรกด้วย Alien 3 แต่หนังถูกสตูดิโอแทรกแซงหนักมาก ทำให้เวอร์ชั่นที่ออกมาไม่ใช่ที่เขาต้องการ มันกลายเป็นความวุ่นวายที่มีไอเดียดีแต่ไม่สมบูรณ์ ฟินเชอร์ถึงกับปฏิเสธหนังเรื่องนี้ในภายหลัง แต่เรายังเห็นสไตล์ของเขาในแสงมืดและบรรยากาศตึงเครียดที่สร้างความลุ้นระทึกได้ดี

เซ็ตดีไซน์ของคุกดาวฟิโอรินา 161 น่าประทับใจ มันดูเก่า โทรม และกว้างใหญ่แบบทำให้หลงทางง่ายๆ การถ่ายภาพเน้นความมืดเพื่อซ่อนเอเลี่ยน ทำให้ฉากฆ่าดูสยองขวัญยิ่งขึ้น แม้เนื้อเรื่องจะมีปัญหาเรื่องจังหวะที่ช้าไปบ้าง แต่โปรดักชันโดยรวมยังทำให้หนังมีเสน่ห์แบบหม่น ๆ ที่แฟนซีรีส์เอเลี่ยนชื่นชอบ

หนังเรื่องนี้เหมือนเกมหมากรุกที่ชิ้นส่วนเคลื่อนที่ช้าๆ แต่จบด้วยการพลิกผันสุดโหด มันสำรวจว่ามนุษย์คือมอนสเตอร์ตัวจริง เมื่อไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาควบคุม

Alien 3 สำรวจธีมว่ามนุษย์ชั่วร้ายกว่าสัตว์ประหลาดยังไง เอเลี่ยนแค่ฆ่าเพื่อเอาชีวิตรอด แต่คนฆ่ากันเพราะกลัว โลภ และขี้ขลาด หนังใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือที่นักโทษเอาไว้หลอกตัวเอง เหมือนถามเราว่า ถ้าไม่มีสังคม เราจะกลายเป็นอะไร?

ธีมนี้ทำให้หนังดูหดหู่สุดๆ แต่ก็ลึกซึ้ง เหมือนเปรียบเทียบว่าคุกดาวนี้คือโลกใบเล็กที่สะท้อนสังคมจริง ริปลีย์กลายเป็นสัญลักษณ์ของผู้หญิงที่ต่อสู้ไม่ยอมแพ้ แม้ทุกอย่างจะพังทลาย

Alien 3 (1992) เป็นหนังที่ทำให้เราตั้งคำถามกับความชั่วในตัวมนุษย์ หนังเรื่องนี้แสดงว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่เอเลี่ยน แต่เป็นธรรมชาติของคนที่เต็มไปด้วยความกลัวและความเห็นแก่ตัว แม้จะอยู่ในที่ไกลแสนไกลอย่างดาวคุก เมื่อไม่มีอาวุธและความช่วยเหลือ ความขัดแย้งก็ปะทุขึ้นแบบหยุดไม่อยู่

สำหรับใครที่ชอบ หนังไซไฟสยองขวัญที่มีธีมลึกซึ้ง และอยากเห็นการแสดงสุดปังจากซิกอร์นีย์ วีเวอร์ Alien 3 คือเรื่องที่ต้องดู หนังจะทำให้เราคิดถึงการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ในสถานการณ์วิกฤต มาแชร์ความเห็นในคอมเมนต์ว่าหนังเรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกยังไง และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่เป็นแฟนเอเลี่ยนซีรีส์!

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เอเลี่ยน 3 อสูรสยบจักรวาล
• ประเภท: ไซไฟ, สยองขวัญ, ดราม่า
• วันที่ออกฉาย: 22 พฤษภาคม 2535
• นักแสดงนำ: ซิกอร์นีย์ วีเวอร์ (Sigourney Weaver), ชาร์ลส เอส. ดัตตัน (Charles S. Dutton), ชาร์ลส แดนซ์ (Charles Dance)
• ผู้กำกับ: เดวิด ฟินเชอร์ (David Fincher)
• ความยาว: 1 ชั่วโมง 54 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 6.4/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Disney+