รีวิวหนังฝรั่ง

[รีวิว-เรื่องย่อ] เอเลี่ยน 4 ฝูงมฤตยูเกิดใหม่ | Alien Resurrection (1997)

  • Alien Resurrection เป็นหนังภาคต่อที่เกิดขึ้น 200 ปีหลังจากริปลีย์ตาย นักวิทยาศาสตร์โคลนเธอกลับมาเพื่อสร้างอาวุธสุดยอด แต่ทุกอย่างพลิกผัน
  • การแสดงของซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ในบทริปลีย์เวอร์ชั่นใหม่เด่นสุด แสดงความดิบเท่และการผสมผสานมนุษย์กับเอเลี่ยนได้อย่างน่าติดตาม
  • หนังสำรวจธีมการเอาชีวิตรอด ความโกลาหลจากเอเลี่ยน และพล็อตหักมุมที่เต็มไปด้วยความไร้เหตุผล
  • ผู้กำกับฌอง-ปิแอร์ เฌอเนต์ นำเสนอสไตล์มืดมนผสมฮิวเมอร์ แต่บทหนังเต็มไปด้วยไอเดียแปลกๆ ที่ไม่ค่อยลงตัว

เราเคยจินตนาการไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้ากลุ่มคนต้องว่ายน้ำหนีเอเลี่ยนสุดโหดในยานอวกาศ แล้วจู่ๆ มีคนที่คิดว่าตายไปแล้วโผล่มาจากอีกฝั่งแบบงงๆ? หนัง Alien Resurrection (1997) ของผู้กำกับ ฌอง-ปิแอร์ เฌอเนต์ (Jean-Pierre Jeunet) พาเราไปสัมผัสความโกลาหลแบบนี้แหละ เรื่องจริงจากเหตุการณ์ 200 ปีหลังริปลีย์ตาย นักวิทยาศาสตร์โคลนเธอกลับมาเพื่อสร้างอาวุธ แต่ริปลีย์เวอร์ชั่นใหม่เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ และเอเลี่ยนก็ยิ่งโหดกว่าเดิม

เรื่องราวเริ่มจากริปลีย์ต้องร่วมมือกับแก๊งลักลอบเพื่อหยุดฝูงเอเลี่ยนไม่ให้บุกโลก แต่พล็อตเต็มไปด้วยจุดที่ไม่เมคเซนส์ เช่น ฉากว่ายน้ำหนีแล้วมีคนโผล่มาจากทางอื่นแบบไม่มีคำอธิบาย เราเลยต้องปล่อยวางและสนุกไปกับความบ้าคลั่งแทน เอเลี่ยน ในเรื่องนี้กลายเป็นส่วนผสมแปลกๆ ระหว่างมนุษย์กับสัตว์ประหลาด เหมือนเปรียบเปรยหนังเรื่องนี้เองที่ผสมไอเดียเก่าๆ เข้าด้วยกันแบบมั่วๆ

ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกทุกมุมของหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่การแสดงที่โดดเด่น ไปจนถึงจุดด้อยในบทและธีมที่หนังพยายามสื่อ มาดูกันว่า Alien Resurrection จะทำให้เราตั้งคำถามกับการเอาชีวิตรอดในจักรวาลเอเลี่ยนยังไง

รีวิวและเรื่องย่อ Alien Resurrection (เอเลี่ยน 4 ฝูงมฤตยูเกิดใหม่)

Alien Resurrection เล่าเรื่อง 200 ปีหลังจาก ริปลีย์ ตาย นักวิทยาศาสตร์บนยานอวกาศโคลนเธอกลับมาเพื่อเพาะพันธุ์เอเลี่ยนเป็นอาวุธสุดยอด แต่ริปลีย์เวอร์ชั่นใหม่มี DNA เอเลี่ยนผสมอยู่ ทำให้เธอแข็งแกร่งและ badass สุดๆ เธอต้องร่วมมือกับแก๊งลักลอบนำโดย แคล (Call) แสดงโดย วีโนน่า ไรเดอร์ (Winona Ryder) เพื่อหยุดฝูงเอเลี่ยนไม่ให้บุกโลก

พล็อตเต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นโหดๆ เช่น กลุ่มผู้รอดชีวิตว่ายน้ำหนีเอเลี่ยน แต่แล้วด็อกเตอร์ Wren (J.E. Freeman) หักหลังแคล จนเธอตกลงไปตาย แต่ไม่กี่นาทีต่อมา แคลโผล่มาจากอีกฝั่งแบบงงๆ เปิดประตูที่เคยติดขัดได้ซะงั้น เราไม่รู้เลยว่าเธอมาทางไหน ทำไมคนอื่นไม่ใช้ทางนั้นตั้งแต่แรก มันไร้เหตุผลสุดๆ แต่หนังเรื่องนี้ก็แบบนี้แหละ ต้องปล่อยวางและสนุกกับความบ้าไป

จุดเด่นคือการนำองค์ประกอบจากหนังภาคก่อนๆ มาผสม แต่กลายเป็นไอเดียครึ่งๆ กลางๆ เช่น ลูกผสมมนุษย์-เอเลี่ยนที่แปลกประหลาด เหมือนหนังพยายามสร้างอะไรใหม่แต่ไม่ลงตัว ธีมการเอาชีวิตรอดยังคงอยู่ แต่ขาดสาระลึกซึ้งแบบภาคก่อนๆ

ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ (Sigourney Weaver) กลับมาในบท ริปลีย์ เวอร์ชั่นโคลนที่ผสม DNA เอเลี่ยน ทำให้เธอเปลี่ยนจากหญิงแกร่งธรรมดาเป็นนักสู้สุดโหด เธอเตะก้นเอเลี่ยนแบบไม่ยั้ง และแสดงความซับซ้อนระหว่างมนุษย์กับสัตว์ประหลาดได้ดี แต่ตัวละครสูญเสียเสน่ห์เดิมที่เคยทำให้ริปลีย์น่าจดจำ กลายเป็นแค่เครื่องจักรสังหาร

วีโนน่า ไรเดอร์ ในบทแคลเป็นตัวละครหลักอีกคน เธอเล่นเป็นหุ่นยนต์ลึกลับที่พยายามหยุดเอเลี่ยน แต่บทค่อนข้างแบน เหมือนคลิเช่ทั่วไป การแสดงของเธอโอเค แต่ไม่เด่นเท่าริปลีย์ ฉากหักหลังและการกลับมาของแคลเป็นจุดที่ทำให้เราสงสัย แต่หนังไม่ตอบอะไร

นักแสดงสมทบอย่าง J.E. Freeman ในบทด็อกเตอร์ Wren เพิ่มความชั่วร้ายให้เรื่อง แต่ตัวละครอื่นๆ ค่อนข้างจืดชืด แก๊งลักลอบดูเหมือนตัวประกอบที่รอตายทีละคน การผสมฮิวเมอร์แบบโง่ๆ เข้ากับความสยองไม่ค่อยเวิร์ค ทำให้หนังดูไม่จริงจัง

ฌอง-ปิแอร์ เฌอเนต์ ผู้กำกับชาวฝรั่งเศส นำสไตล์มืดมนและพลังงานสูงมาสู่หนังเรื่องนี้ แต่บทจาก จอส วีดอน (Joss Whedon) เต็มไปด้วยไอเดียโง่ๆ และหักมุมไร้เหตุผล เขาบอกว่าคนอื่นทำบทพัง แต่ดูจากผลงานอื่นๆ ของเขา ก็ไม่น่าเหมาะกับจักรวาลเอเลี่ยนเท่าไหร่

หนังพยายามเพิ่มฮิวเมอร์ดำและความรุนแรง แต่ไม่ค่อยสำเร็จ ฉากแรกๆ ดี สร้างบรรยากาศได้ แต่พอเอเลี่ยนหลุดออกมา เรื่องกลายเป็นแค่การวิ่งหนีและตายโหดๆ ไม่ได้ใช้เซ็ตติ้งให้คุ้ม เปรียบเหมือนเล่นเกมที่แผนที่กว้างแต่เราแค่วิ่งตรงๆ

หลังจากหนังเรื่องนี้ เฌอเนต์กลับไปทำหนังฝรั่งเศสอย่าง Amélie ที่ดังกว่า เหมือนประสบการณ์ในฮอลลีวูดทำให้เขาค้นพบสไตล์ที่ดีกว่า แต่สำหรับ Alien Resurrection มันแค่หนังดูเพลินๆ ไม่ได้ยอดเยี่ยม

ส่วนที่ดีที่สุดคือเอฟเฟกต์เอเลี่ยนที่ดูดี สวยงามแบบสยอง และหนังไม่ยาวเกินไป ทำให้ดูเพลินแม้พล็อตจะมั่ว การออกแบบยานอวกาศและฉากแอ็คชั่นยังคงมาตรฐานแฟรนไชส์ แต่ขาดธีมลึกซึ้งแบบภาคก่อนๆ ที่เคยพูดถึงความกลัว ความโดดเดี่ยว หรือการต่อสู้

จุดด้อยคือบทที่ขาดสาระ ตัวละครแบน และฮิวเมอร์ที่ไม่เข้ากับโทนเอเลี่ยน มันเหมือนเอาองค์ประกอบเก่ามาผสมแบบไม่คิด เหมือนทำซุปที่ใส่ทุกอย่างแต่ไม่อร่อย หนังดูได้ แต่ในแฟรนไชส์อื่นอาจจะผ่าน แต่สำหรับเอเลี่ยน มันต่ำกว่ามาตรฐาน

ถ้าเปรียบกับภาคก่อนๆ ที่แต่ละเรื่องมีมุมใหม่ Alien Resurrection แค่รีไซเคิลไอเดียเก่าแบบครึ่งๆ กลางๆ ทำให้รู้สึกเสียดายศักยภาพ

Alien Resurrection (1997) เป็นหนังที่แสดงให้เห็นว่าการพยายามฟื้นคืนชีพแฟรนไชส์ด้วยไอเดียแปลกๆ อาจกลายเป็นหายนะ หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความโกลาหล การหักหลัง และเอเลี่ยนโหดๆ แต่ปัญหาหลักคือพล็อตไร้เหตุผลและตัวละครที่ขาดมิติ แม้จะดูเพลิน แต่ก็ไม่ได้เพิ่มอะไรใหม่ให้จักรวาลเอเลี่ยน

สำหรับใครที่เป็นแฟน หนังเอเลี่ยน หรือชอบไซไฟสยองขวัญแบบไม่คิดมาก เรื่องนี้ยังสนุกพอให้ดูฆ่าเวลา แต่ถ้าอยากได้สาระลึกซึ้ง ไปดูภาคก่อนๆ ดีกว่า มาคอมเมนต์กันหน่อยสิว่าเราเคยงงกับพล็อตเรื่องนี้ตรงไหนบ้าง และแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชอบหนังแนวเอาชีวิตรอดจากเอเลี่ยนด้วยนะ!

ถ้าอยากได้รีวิวหนังอื่นๆ หรือเรื่องย่อแบบนี้ บอกมาเลย เราพร้อมพาไปสำรวจจักรวาลหนังกันต่อ

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เอเลี่ยน 4 ฝูงมฤตยูเกิดใหม่
  • ประเภท: ไซไฟ, สยองขวัญ, แอ็คชั่น
  • วันที่ออกฉาย: 26 พฤศจิกายน 1997
  • นักแสดงนำ: ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ (Sigourney Weaver), วีโนน่า ไรเดอร์ (Winona Ryder), รอน เพิร์ลแมน (Ron Perlman)
  • ผู้กำกับ: ฌอง-ปิแอร์ เฌอเนต์ (Jean-Pierre Jeunet)
  • ความยาว: 1 ชั่วโมง 49 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 6.2/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Disney+

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button