![[รีวิว-เรื่องย่อ] ฟ้าผ่าชี้ชะตาเมือง | Death by Lightning (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Death-by-Lightning-2025.webp)
- Death by Lightning เป็นมินิซีรีส์ 4 ตอนบน Netflix ที่สร้างจากเรื่องจริงในปี 1880s เกี่ยวกับประธานาธิบดี James Garfield
- การแสดงของ Matthew Macfadyen ในบทผู้ลอบสังหารที่บ้าคลั่งโดดเด่นสุดๆ แสดงให้เห็นความวิกลจริตได้อย่างน่าขนลุก
- ซีรีส์เจาะลึกประเด็นการเมืองที่ทุจริตและความบ้าคลั่งที่นำไปสู่ความรุนแรง สะท้อนปัญหาสังคมที่ยังคงเกิดขึ้นในปัจจุบัน
- ทีมงานจาก Game of Thrones คือ David Benioff และ D.B. Weiss เป็นผู้อำนวยการสร้างที่ทำให้ซีรีส์มีมาตรฐานสูง
เคยสงสัยไหมว่าประธานาธิบดีสหรัฐที่ไม่ค่อยมีใครจำได้มีเรื่องราวอะไรซ่อนอยู่? Death by Lightning (2025) มินิซีรีส์ล่าสุดจาก Netflix จะพาไปค้นหาคำตอบผ่านเรื่องจริงที่แปลกประหลาดกว่านิยาย เกี่ยวกับ ประธานาธิบดี James Garfield คนที่ 20 ของอเมริกา ผู้ซึ่งถูกลอบสังหารโดยแฟนตัวยงที่บ้าคลั่งของตัวเองชื่อ Charles Guiteau ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ธรรมดา แต่เป็นการเจาะลึกโลกการเมืองที่เต็มไปด้วยความทุจริต ความบ้าคลั่ง และความรุนแรงที่ยังคงสะท้อนถึงปัญหาในยุคปัจจุบัน
ด้วยทีมงานอำนวยการสร้างระดับตำนานอย่าง David Benioff และ D.B. Weiss จากซีรีส์ชื่อดังอย่าง Game of Thrones ผู้สร้าง Mike Makowsky และผู้กำกับ Matt Ross รวมถึงนักแสดงชั้นนำอย่าง Michael Shannon และ Matthew Macfadyen ทำให้ Death by Lightning กลายเป็นหนึ่งในซีรีส์ประวัติศาสตร์ที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2025 แต่มันดีแค่ไหน และเหมาะกับใครบ้าง? มาดูกันเลย!

รีวิวและเรื่องย่อ Death by Lightning (ฟ้าผ่าชี้ชะตาเมือง)
Death by Lightning เริ่มต้นด้วยฉากในปี 1969 ที่พิพิธภัณฑ์การแพทย์กองทัพ เมื่อลูกจ้างคนหนึ่งทำขวดแก้วใสตกลงมา ภายในมีสมองมนุษย์แช่ในน้ำยาถนอม และคำถามที่ตามมาคือ “Charles Guiteau คือใครเนี่ย?” คำถามนี้คือจุดเริ่มต้นของซีรีส์ที่จะพาเราย้อนกลับไปยุค 1880 เมื่อเรื่องราวที่ถูกลืมเลือนนี้เกิดขึ้นจริง
ซีรีส์นี้สร้างจากหนังสือชื่อดังของ Candice Millard เรื่อง “Destiny of the Republic: A Tale of Madness, Medicine and the Murder of a President” ที่ตีพิมพ์ในปี 2011 โดยเล่าเรื่องราวของ James Garfield ชาวไร่ธรรมดาและทหารผ่านศึกสงครามกลางเมืองที่ไม่เคยคิดจะเป็นประธานาธิบดี แต่ด้วยการกล่าวสุนทรพจน์ที่ทรงพลังในการประชุมพรรครีพับลิกันที่ชิคาโก เขากลับได้รับการเสนอชื่อแทน ซึ่งทำให้ภรรยาของเขา Lucretia แสดงโดย Betty Gilpin รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะเห็นว่าการเป็นประธานาธิบดีจะนำมาซึ่งอันตรายต่อครอบครัว
ในขณะเดียวกัน Charles Guiteau แสดงโดย Matthew Macfadyen คือชายผู้หมกมุ่นอยู่กับความฝันที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกการเมือง เขาเคยใช้ชีวิตอย่างล้มเหลว ถูกพ่อทารุณกรรม และเคยเข้าร่วมกลุ่มศาสนาที่เหมือนลัทธิชื่อ Oneida Community ซึ่งทำให้สภาพจิตใจของเขาแย่ลง Guiteau เชื่อว่าตัวเองมีบทบาทสำคัญในการชนะเลือกตั้งของ Garfield เพียงเพราะเขาเคยเขียนสุนทรพจน์สนับสนุน Ulysses Grant แล้วแก้ไขเป็นสนับสนุน Garfield แทน ความเชื่อนี้ทำให้เขาคิดว่าตัวเองสมควรได้ตำแหน่ง กงสุลในยุโรป แต่เมื่อคำขอของเขาถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำอีก ความคิดของเขาก็เริ่มบิดเบี้ยวไปในทางที่อันตราย
Matthew Macfadyen ซึ่งเคยทำให้ทุกคนติดใจในซีรีส์ Succession กลับมาพิสูจน์อีกครั้งว่าเขาคือนักแสดงที่เก่งที่สุดในการรับบทคนพิลึกและไร้ประโยชน์ การแสดงของเขาในบท Charles Guiteau เต็มไปด้วยความตลกขบขันแต่ก็น่าสงสารในเวลาเดียวกัน เขาถ่ายทอดความเป็นคนที่ถูกหลอกให้เชื่อว่าตัวเองใกล้จะได้รับการยอมรับและความยิ่งใหญ่ แต่ความจริงแล้วเขาไม่เคยมีโอกาสเลย ฉากที่เขาต้องพบกับ Garfield และพยายามขอตำแหน่งงาน ทำให้เราเห็นความสิ้นหวังและความบ้าคลั่งที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในตัวของเขา
Michael Shannon ในบท James Garfield แสดงให้เห็นถึงความเป็นคนดี มีความฉลาด และมีหลักการที่แน่วแน่ เขาถ่ายทอดการเป็นประธานาธิบดีที่ไม่เคยต้องการตำแหน่งนี้ แต่เมื่อได้รับเลือกแล้วก็พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อปฏิรูประบบราชการและกำจัดความทุจริตคอร์รัปชัน Shannon ซึ่งอายุ 49 ปีขณะถ่ายทำ ซึ่งเท่ากับอายุของ Garfield ขณะถูกลอบสังหารพอดี ทำให้การแสดงของเขามีความสมจริงมากขึ้น เขาบอกว่าการแสดงในซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เขาได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์แบบที่ไม่เคยรู้สึกสนใจตอนเรียนหนังสือ
Nick Offerman ที่เคยสร้างชื่อจาก Parks and Recreation และ The Last of Us กลับมาด้วยบทบาท รองประธานาธิบดี Chester Arthur ที่ดูเหมือนจะเป็นคนเมาและหยาบคาย แต่กลับค่อยๆ พัฒนาจิตสำนึกในตัวเองเมื่อเวลาผ่านไป การแสดงของ Offerman เต็มไปด้วยพลังและอารมณ์ขันที่ทำให้ตัวละครนี้น่าจดจำ แม้ว่าในซีรีส์จะทำให้ Arthur ดูเหมือน Bluto Blutarsky ในโลกการเมือง ที่ชอบตะโกนว่า “ดนตรี!” แต่ก็มีความลึกซึ้งในตัวละครที่ทำให้เรารู้สึกเห็นใจ
Shea Whigham ซึ่งเป็นนักแสดงที่ถูกประเมินต่ำไปมากในบท วุฒิสมาชิก Roscoe Conkling แสดงได้อย่างยอดเยี่ยมในฐานะสัญลักษณ์ของความเน่าเปื่อยในระบบสถาบัน เขาแต่งตัวเหมือน Willy Wonka และมีท่าทีที่โอ้อวดจนน่าขันและน่าเกลียดในเวลาเดียวกัน การแสดงของ Whigham เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของซีรีส์เรื่องนี้
Betty Gilpin ในบท Lucretia Garfield ภรรยาของประธานาธิบดี แสดงได้อย่างน่าประทับใจในฐานะผู้หญิงที่แข็งแกร่งและรอบรู้ เธอเป็นหนึ่งในคนแรกที่เห็นอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับสามีของเธอ และพยายามปกป้องครอบครัวของเธออย่างเต็มที่ ฉากที่เธอเข้าเยี่ยม Guiteau ในคุกหลังจากที่สามีของเธอเสียชีวิตเป็นหนึ่งในฉากที่ทรงพลังที่สุดในซีรีส์
นอกจากนี้ยังมี Bradley Whitford ในบทวุฒิสมาชิก James Blaine และ Vondie Curtis-Hall ในบท Frederick Douglass แม้ว่าพวกเขาจะได้เวลาบนหน้าจอไม่มากนัก แต่ก็ทำให้ซีรีส์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

สิ่งที่ทำให้ Death by Lightning แตกต่างจากซีรีส์ประวัติศาสตร์ทั่วไปคือการผสมผสานระหว่างความตลกขบขันและความน่าสลดใจที่เกิดขึ้นพร้อมกัน Mike Makowsky ผู้สร้างซีรีส์บอกว่าเขาต้องการสร้างสิ่งที่สมดุลระหว่าง “โศกนาฏกรรมที่เหลือพูด” และ “อารมณ์ขันที่มืดมน” บางฉากในซีรีส์จะทำให้เราหัวเราะ แต่ก็มีบางฉากที่ทำให้เรารู้สึกสะเทือนใจ
การเปลี่ยนโทนอย่างฉับพลันบางครั้งอาจทำให้รู้สึกไม่สบายใจ แต่นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งหมายของซีรีส์ที่ต้องการแสดงให้เห็นว่าประวัติศาสตร์ไม่ได้เป็นแค่เรื่องจริงจังเสมอไป บางครั้งความบ้าคลั่งและความไร้สาระก็เป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงโลก ฉากที่ Guiteau พยายามขอตำแหน่งกงสุลจาก Garfield ดูตลกและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน แต่ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำระหว่างความเป็นจริงและภาพลวงตาที่ Guiteau เชื่อ
ผู้กำกับ Matt Ross และช่างภาพ Adriano Goldman ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างภาพที่สวยงามและมีความสมจริง แม้ว่าจะเป็นซีรีส์ประวัติศาสตร์ แต่ก็ไม่ได้ดูเหมือนชิ้นงานที่เต็มไปด้วยฝุ่นและล้าสมัย แต่กลับดูทันสมัยและสามารถเชื่อมโยงกับปัญหาในปัจจุบันได้
Death by Lightning ไม่ใช่แค่เรื่องราวของการลอบสังหารธรรมดา แต่เป็นการเจาะลึกเกี่ยวกับ ความทุจริตในการเมือง ระบบอุปถัมภ์ที่เต็มไปด้วยความไม่ชอบมาพากล และความเชื่อที่บิดเบี้ยวของคนที่คิดว่าตัวเองมีความสำคัญมากกว่าความเป็นจริง Garfield พยายามปฏิรูประบบราชการและกำจัดความทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับคนทรงอำนาจอย่างวุฒิสมาชิก Roscoe Conkling และพรรคพวกของเขา
ซีรีส์แสดงให้เห็นว่าในปี 1881 อเมริกายืนอยู่ ณ จุดแยกทางระหว่างอดีตและอนาคต และคนอย่าง Garfield คือผู้ที่พยายามกำหนดทิศทางของประเทศในอีก 100 ปีข้างหน้า แต่ความพยายามของเขาถูกตัดขาดด้วยการลอบสังหารที่เกิดจากความบ้าคลั่งของ Guiteau ซึ่งเป็นตัวแทนของคนที่คิดว่าการฆ่าคนที่มีอิทธิพลจะทำให้ตัวเองมีความสำคัญ
อีกประเด็นหนึ่งที่ซีรีส์นำเสนอคือความล้มเหลวทางการแพทย์ที่เกิดขึ้นหลังจาก Garfield ถูกยิง แพทย์ที่ดูแลเขาปฏิเสธที่จะรับฟังความคิดเห็นใหม่ๆ จากนักวิทยาศาสตร์อย่าง Alexander Graham Bell ที่พยายามใช้เครื่องมือตรวจหาตัวกระสุนในร่างกาย ความดื้อรั้นและความเชื่อในตัวเองมากเกินไปของแพทย์ทำให้ Garfield ต้องทนทุกข์ทรมานเป็นเวลาหลายเดือนก่อนที่จะเสียชีวิต ซึ่งบางคนเชื่อว่าถ้าแพทย์ปล่อยให้เขาหายเองหรือใช้วิธีการที่ทันสมัยกว่า Garfield อาจจะรอดชีวิตได้

หนึ่งในเหตุผลที่ Death by Lightning รู้สึกเกี่ยวข้องกับปัจจุบันมากคือเพราะเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองยังคงเกิดขึ้นจนถึงทุกวันนี้ Matthew Macfadyen เองก็บอกว่าการถ่ายทำซีรีส์นี้รู้สึก “เหนือจริง” โดยเฉพาะเมื่อเหตุการณ์พยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี Donald Trump เกิดขึ้นในปี 2024 ในช่วงกลางการถ่ายทำ เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ “น่าตกใจ” ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ที่ “มีความเกี่ยวข้องและเป็นปัจจุบันมาก”
การที่ซีรีส์แสดงให้เห็นว่าความรุนแรงทางการเมืองไม่ใช่แค่เรื่องของอดีต แต่เป็นปัญหาที่ยังคงอยู่ในสังคมปัจจุบัน ทำให้ Death by Lightning มีความหมายมากกว่าแค่การเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ ซีรีส์ต้องการให้เราตั้งคำถามว่าเราเรียนรู้อะไรจากอดีตบ้าง และจะป้องกันความรุนแรงเหล่านี้ในอนาคตได้อย่างไร
แม้ว่า Death by Lightning จะมีจุดแข็งมากมาย แต่ก็มีจุดอ่อนบางประการที่ต้องพูดถึง การมีแค่ 4 ตอนทำให้เรื่องราวรู้สึกรีบเร่งในบางช่วง โดยเฉพาะเรื่องราวของ Garfield และ Guiteau ในอดีตที่น่าจะได้รับการขยายเวลามากกว่านี้ ถ้าซีรีส์มี 6 หรือ 8 ตอน จะทำให้เราได้เห็นความลึกซึ้งของตัวละครมากขึ้น เช่นการรับราชการในสงครามกลางเมืองของ Garfield หรือความล้มเหลวและความสัมพันธ์กับพ่อของ Guiteau
อีกประเด็นหนึ่งคือการใช้นักแสดงชื่อดังมาเล่นบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ แต่ให้เวลาบนหน้าจอน้อยมาก ตัวอย่างเช่น Vondie Curtis-Hall ที่เล่นเป็น Frederick Douglass แทบไม่มีอะไรให้ทำเลย ซึ่งดูเหมือน Netflix กำลังจ่ายเงินมากมายเพื่อใส่ชื่อดาราในรายชื่อนักแสดงโดยไม่สนใจว่ามันจะเป็นประโยชน์กับโครงเรื่องหรือไม่
Death by Lightning (2025) เป็นมินิซีรีส์ที่ทรงพลังและน่าติดตามที่พาเราไปสัมผัสกับเรื่องราวที่ถูกลืมเลือนในประวัติศาสตร์อเมริกา ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมจาก Michael Shannon และ Matthew Macfadyen รวมถึงทีมนักแสดงสมทบที่เต็มไปด้วยคนเก่งและมีชื่อเสียง ซีรีส์เรื่องนี้มีความสมดุลระหว่างความตลกขบขันและความน่าสลดใจที่ทำให้มันแตกต่างจากซีรีส์ประวัติศาสตร์ทั่วไป
ซีรีส์เจาะลึกประเด็นที่ยังคงเกี่ยวข้องกับปัจจุบันอย่าง ความทุจริตในการเมือง ความบ้าคลั่งที่นำไปสู่ความรุนแรง และความล้มเหลวของระบบที่ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าซีรีส์จะมีจุดอ่อนบางประการในเรื่องของจังหวะและการใช้ตัวละคร แต่จุดแข็งของมันก็มากพอที่จะทำให้เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่น่าดูที่สุดบน Netflix ในปี 2025
สำหรับใครที่ชื่นชอบ หนังดราม่าประวัติศาสตร์ หรือต้องการดูการแสดงที่ยอดเยี่ยมจากนักแสดงชั้นนำ Death by Lightning เป็นซีรีส์ที่ไม่ควรพลาด มันจะทำให้เราได้คิดทบทวนเกี่ยวกับความรุนแรงทางการเมืองและความหมายของการเป็นผู้นำที่ดีในสังคมที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง อย่าลืมแชร์ความคิดเห็นในคอมเมนต์ว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เราคิดอย่างไรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และการเมืองในปัจจุบัน และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชื่นชอบซีรีส์ประวัติศาสตร์ที่มีความหมาย!
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ฟ้าผ่าชี้ชะตาเมือง
- ประเภท: ดราม่า, ประวัติศาสตร์, อาชญากรรม
- วันที่ออกฉาย: 6 พฤศจิกายน 2025
- นักแสดงนำ: Michael Shannon, Matthew Macfadyen, Betty Gilpin, Nick Offerman, Bradley Whitford, Shea Whigham
- ผู้สร้าง: Mike Makowsky
- ผู้กำกับ: Matt Ross
- จำนวนตอน: 4 ตอน
- เรตติ้ง: Rotten Tomatoes 89%, Metacritic 80/100
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix
![[รีวิว-เรื่องย่อ] บารามุลลาอาถรรพ์ | Baramulla (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Baramulla-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] โลกที่ขวางระหว่างเรา | Maxton Hall – The World Between Us ซีซั่น 2](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Maxton-Hall-Season-2.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] อลิซเลือกรัก | Just Alice (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Just-Alice-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ฝ่าคลื่นทะเลคลั่ง | Heweliusz (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Heweliusz-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] เดอะ มาร์เชียน กู้ตาย 140 ล้านไมล์ | The Martian (2015)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-The-Martian-2015.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ฆาตกรรมรักหลังเขา | Decision to Leave (2022)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-Decision-to-Leave-2022.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ฝ่าคลื่นและสงคราม | In Waves and War (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-In-Waves-and-War-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] สุดยอดคุณครู | The Greatest Teacher (2023)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-The-Greatest-Teacher-2023.webp)