รีวิวซีรีส์ฝรั่ง

[รีวิว-เรื่องย่อ] ชีวิตน่าอิจฉา | Envious ซีซั่น 3 ชีวิตน่าอิจฉา ดราม่ารักที่คาดเดาได้

  • Envious ซีซั่น 3 นำเสนอเรื่องราวของ Vicky ที่ต่อสู้กับความอิจฉางานของแฟน และปัญหาความสัมพันธ์ที่ยังไม่จบสิ้น
  • โครงเรื่องค่อนข้างคาดเดาได้ง่าย ใช้สูตรเดิมๆ ที่เคยเห็นในซีซั่นก่อนหน้า และไม่มีอะไรใหม่มากนัก
  • ตัวละคร Vicky ยังคงเป็นผู้หญิงสับสนที่ไม่ค่อยพัฒนาตัวเองจากซีซั่น 1 จนถึงซีซั่น 3
  • เนื้อเรื่องยืดเยื้อโดยไม่จำเป็น ทำให้บางตอนรู้สึกน่าเบื่อและอยากกดข้ามไปเลย

เคยรู้สึกอิจฉาใครบ้างไหม? โดยเฉพาะเมื่อชีวิตของเราดูเหมือนจะไม่เดินหน้าไปไหน ในขณะที่คนรอบข้างดูเหมือนจะประสบความสำเร็จไปทีละขั้น ซีรีส์ Envious (ชีวิตน่าอิจฉา) บน Netflix กลับมาพร้อมซีซั่น 3 ที่ยังคงติดตาม Vicky ผู้หญิงอายุเกือบ 40 ที่ยังคงต่อสู้กับความรัก ความสัมพันธ์ และความรู้สึกอิจฉาที่ไม่มีวันหายไป ครั้งนี้ Vicky ต้องเผชิญกับงานใหม่ของแฟน Matías ที่ทำให้เธอรู้สึกอิจฉา ทริปพักผ่อนที่กลายเป็นหายนะ และปัญหานักบำบัดที่ต้องเปลี่ยนคนใหม่

หลังจากซีซั่น 2 ที่หลายคนคิดว่าควรจบแล้ว ผู้สร้างก็ยังตัดสินใจทำต่อและส่งซีซั่น 3 มาให้ดูกัน แม้จะดีขึ้นกว่าซีซั่นก่อนบ้าง แต่ก็ยังติดอยู่กับปัญหาเดิมๆ คือโครงเรื่องที่คาดเดาได้ง่าย และตัวละครที่ไม่ค่อยพัฒนา ซีรีส์เรื่องนี้พยายามนำเสนอเรื่องราว การเสริมพลังให้ผู้หญิง ผ่านชีวิตของ Vicky แต่กลับดูเหมือนว่าเธอยังคงเป็นคนเดิมที่สับสนและไม่รู้จะเดินไปทางไหน

ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของ Envious ซีซั่น 3 ว่าเนื้อเรื่องเป็นอย่างไร ทำไมถึงรู้สึกว่าคาดเดาได้ง่าย และซีซั่นนี้คุ้มค่ากับเวลาในการรับชมหรือไม่ มาดูกันว่าชีวิตของ Vicky จะสามารถเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้หรือไม่

Envious Season 3 #1

รีวิวและเรื่องย่อ Envious ซีซั่น 3

Envious หรือชื่อต้นฉบับภาษาสเปนว่า Envidiosa เป็นซีรีส์ตลกดราม่าจากอาร์เจนตินาที่ออกฉายบน Netflix ตั้งแต่ปี 2024 โดยนำแสดงโดย Griselda Siciliani ในบท Vicky ผู้หญิงที่กำลังจะอายุ 40 และกำลังมองหาความรักใหม่หลังจากเลิกรากับแฟนเก่าอย่างเจ็บปวด ซีรีส์เรื่องนี้ติดตามชีวิตของเธอที่เต็มไปด้วยความอิจฉา ความไม่มั่นใจ และการค้นหาตัวเองในวัยกลางคน

ซีซั่น 3 เปิดเรื่องหลังจากที่ Vicky เพิ่งเลิกรากับ Nicolás อย่างยุ่งเหยิง และตอนนี้เธอก็เริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่กับ Matías แสดงโดย Esteban Lamothe ครั้งนี้เธอตัดสินใจที่จะเก็บความสัมพันธ์เป็นความลับ ไม่ประกาศบนโซเชียลมีเดียเหมือนครั้งก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงดราม่าและความล้มเหลวที่เคยเจอมา แต่ชีวิตของ Vicky มันไม่เคยง่ายเลย ระหว่างสอบ การไปพบนักบำบัด และความสัมพันธ์ใหม่ เธอก็ยังต้องเผชิญกับปัญหามากมายที่รอเธออยู่ข้างหน้า

เหมือนทุกความสัมพันธ์ ความรักของ Vicky และ Matías ก็มีปัญหาของมันเอง และปัญหาเหล่านี้ก็คาดเดาได้ง่ายมาก ตัวอย่างเช่น Matías ได้งานใหม่ และ Vicky ก็เริ่มรู้สึกอิจฉาเขา ซึ่งฟังดูแปลกใช่ไหม? แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ในซีรีส์ เหตุผลที่เธออิจฉาก็เพราะในซีซั่นก่อน เธอไม่มีงานทำ และในซีซั่นนี้ เธอก็กำลังจะยอมแพ้กับการหางาน ความรู้สึกนี้ทำให้เธอรู้สึกแย่กับตัวเองและส่งผลต่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่

เมื่อเราคิดว่าอะไรจะแย่ไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว Matías และ Vicky ก็ตัดสินใจไปพักผ่อนหย่อนใจกัน แต่ทริปนี้กลับกลายเป็นหายนะ และทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาตึงเครียดมากขึ้น นอกจากนี้ Vicky ยังต้องเผชิญกับความจริงที่ว่าเธอไม่สามารถทำงานร่วมกับนักบำบัดคนเดิมได้อีกต่อไป ทุกอย่างที่จะผิดพลาดได้กำลังผิดพลาดหมดสำหรับ Vicky ในช่วงเวลานี้

โครงเรื่องของซีซั่นนี้น่าปวดหัวมากจริงๆ ในจุดหนึ่ง ผมอยากเห็น Vicky ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสุดซึ้ง เนื่องจากนี่ไม่ใช่ชีวิตจริง ผมคิดว่าผู้สร้างน่าจะให้โครงเรื่องที่ทำให้ Vicky ชนะบ้าง ซีรีส์เรื่องนี้เน้นเรื่องการเสริมพลังให้ผู้หญิงผ่านชีวิตของ Vicky และแม้ว่าจุดประสงค์จะดี แต่โครงเรื่องกลับคาดเดาได้มากจนเรารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป

ตัวอย่างเช่น เรารู้แล้วว่าเธออิจฉางานของ Matías แนวคิดนี้เป็นสิ่งที่เราเคยเห็นมาแล้ว แล้วก็ทริปพักผ่อนของพวกเขาที่“แน่นอน”ต้องเป็นเรื่องยุ่งวุ่นวาย นี่ก็เป็นโครงเรื่องที่เราเคยเห็นมาก่อนเช่นกัน ดังนั้นเราจึงไม่ได้โครงเรื่องใหม่ๆ มากนักในซีซั่นนี้เช่นกัน อีกอย่างหนึ่ง เรื่องราวของตัวละครอื่นๆ กลับดูน่าสนใจกว่าเรื่องของ Vicky เมื่อเทียบกัน

ผมยังรู้สึกว่าที่ไหนสักแห่ง ผู้สร้างไม่ได้พัฒนาตัวละครของ Vicky เลย เมื่อเราเปรียบเทียบการเดินทางจากซีซั่น 1 จนถึงตอนนี้ ซีซั่น 3 ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก เธอยังคงเป็นผู้หญิงสับสนคนเดิมที่กำลังมองหาความรัก นี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เราในฐานะผู้ชมสังเกตเห็น แต่ซีรีส์เรื่องนี้กลับขาดสิ่งนั้นไป การที่ตัวละครหลักไม่พัฒนาตัวเองเลยตลอด 3 ซีซั่น มันทำให้รู้สึกว่ากำลังดูซ้ำรอยเดิมอยู่ตลอดเวลา

นอกจากนั้น ผู้สร้างยังได้ยืดเยื้อโครงเรื่องโดยไม่มีเหตุผล มันดำเนินไปเรื่อยๆ และไม่มีอะไรให้ดูหลังจากจุดหนึ่ง มันแค่ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ และผมยังไม่รู้ว่าทำไมผู้สร้างถึงตัดสินใจยืดเยื้อเรื่องราว แทนที่จะทำแบบนั้น พวกเขาน่าจะลดความยาวลงและให้เรื่องราวที่สั้นและหวานกับเรา

Griselda Siciliani ในบท Vicky ยังคงทำหน้าที่ของเธอได้ดี เธอถ่ายทอดความเปราะบาง ความสับสน และความอิจฉาของตัวละครได้อย่างน่าเชื่อ แม้ว่าตัวละครจะไม่ได้พัฒนามากนัก แต่ Siciliani ก็ยังคงทำให้เรารู้สึกผูกพันกับ Vicky ได้บ้าง เธอทำให้เราเห็นว่าผู้หญิงคนหนึ่งกำลังต่อสู้กับความไม่มั่นใจและการหาที่ยืนในชีวิตตัวเอง

Esteban Lamothe ในบท Matías ก็แสดงได้ดีในฐานะแฟนหนุ่มที่พยายามเข้าใจและสนับสนุน Vicky แต่ก็ต้องเผชิญกับความอิจฉาและความไม่มั่นใจของเธอ การแสดงของเขาทำให้เราเห็นว่าผู้ชายคนหนึ่งกำลังพยายามรักษาความสัมพันธ์ให้ดีอยู่ ท่ามกลางปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ยังคงดูเหมือนกำลังซ้ำรอยเดิมจากซีซั่นก่อนๆ

ตัวละครสมทบอื่นๆ อย่าง Pilar Gamboa ในบท Carolina และ Violeta Urtizberea ในบท Lu ก็ให้มิติที่น่าสนใจแก่ซีรีส์ พวกเธอเป็นเพื่อนของ Vicky ที่คอยให้คำแนะนำและสนับสนุนเธอ แต่บางครั้งก็ทำให้เธอรู้สึกอิจฉามากขึ้นเมื่อเห็นชีวิตของพวกเธอดูเหมือนจะดีกว่า ตัวละครเหล่านี้มีเรื่องราวของพวกเธอเองที่บางครั้งน่าสนใจกว่าเรื่องของ Vicky เสียอีก

ผู้กำกับ Gabriel Medina ยังคงรักษาสไตล์การถ่ายทำที่เบาสบายและเป็นธรรมชาติ การถ่ายทำในบัวโนสไอเรสทำให้เราได้เห็นบรรยากาศของเมืองที่สวยงามและมีชีวิตชีวา แต่ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือโดดเด่นมากนัก ซีรีส์เรื่องนี้ใช้สไตล์การถ่ายทำแบบสบายตา ไม่ได้พยายามทำอะไรที่แปลกใหม่หรือทดลอง

Envious Season 3 #2

บทภาพยนตร์ของ Carolina Aguirre พยายามสร้างสถานการณ์ที่สมจริงและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน แต่ก็ยังคงติดอยู่กับสูตรเดิมๆ ที่เราเคยเห็นในซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ทั่วไป บทพูดบางส่วนก็ดีและตลก แต่บางส่วนก็รู้สึกว่าซ้ำซากและคาดเดาได้ง่าย

Envious ซีซั่น 3 พยายามสำรวจธีมของความอิจฉา ความไม่มั่นใจ และการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ซีรีส์แสดงให้เห็นว่าความอิจฉาสามารถทำลายความสัมพันธ์และทำให้เราเสียความสุขได้อย่างไร Vicky เป็นตัวอย่างของผู้หญิงที่ไม่สามารถหยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น และมันทำให้เธอทุกข์ทรมานอยู่ตลอดเวลา

ซีรีส์ยังพยายามส่งข้อความเกี่ยวกับการเสริมพลังให้ผู้หญิงและการค้นหาตัวเอง แต่ด้วยการที่ตัวละครหลักไม่ได้พัฒนาตัวเองเลย ข้อความนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ถูกส่งออกมาได้ดีเท่าที่ควร แทนที่เราจะได้เห็น Vicky เติบโตและเรียนรู้จากความผิดพลาด เรากลับได้เห็นเธอทำผิดพลาดซ้ำๆ และยังคงเป็นคนเดิมในทุกซีซั่น

ซีรีส์ยังสำรวจธีมของการบำบัดและสุขภาพจิต ผ่านการที่ Vicky ไปพบนักบำบัดเป็นประจำ แต่ก็ยังคงมีปัญหาเหมือนเดิม ซึ่งอาจทำให้บางคนตั้งคำถามว่าการบำบัดนี้ได้ผลจริงหรือไม่ ซีรีส์แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้นยาก แต่ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่ามันเป็นไปได้ด้วย

บางคนอาจชอบโครงเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้ และนั่นก็ไม่เป็นไรเลย แต่สำหรับผมส่วนตัวแล้ว ผมไม่ได้ชอบซีรีส์เรื่องนี้มากนัก มันดำเนินไปแบบกลางๆ ธรรมดา และนั่นทำให้น่าเบื่อหลังจากดูไปสักพัก ความรู้สึกที่ว่าเรากำลังดูเรื่องราวเดิมๆ ซ้ำๆ มันทำให้ไม่อยากติดตามต่อ

ซีรีส์เรื่องนี้มีโอกาสที่จะเป็นบางอย่างที่ดีกว่านี้ ถ้าผู้สร้างกล้าที่จะให้ Vicky พัฒนาตัวเองจริงๆ หรือให้โครงเรื่องที่ไม่คาดเดาได้ง่ายขนาดนี้ แต่แทนที่จะทำแบบนั้น เราก็ได้ซีรีส์ที่ยืดเยื้อและไม่มีจุดหมายชัดเจน ถ้าเทียบกับซีรีส์วัยรุ่นเรื่องอื่นๆ ที่มีการพัฒนาตัวละครที่ดีกว่า Envious ก็อาจดูจืดชืดไปหน่อย

สำหรับใครที่ชอบซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้แบบเบาสมองและไม่ต้องคิดมาก Envious ซีซั่น 3 อาจเป็นตัวเลือกที่พอใช้ได้ แต่ถ้าอยากดูอะไรที่มีเนื้อหาลึกซึ้งกว่า หรือตัวละครที่พัฒนาตัวเองได้ดีกว่านี้ ก็ควรมองหาซีรีส์เรื่องอื่นดีกว่า เช่น ซีรีส์ที่มีเนื้อหาสดใหม่บน Prime Video หรือ ซีรีส์จากไต้หวันที่สะท้อนปัญหาชีวิตจริง

Envious Season 3 #3

Envious ซีซั่น 3 กลับมาพร้อมกับเรื่องราวเดิมๆ ที่เราคุ้นเคยจากซีซั่นก่อนหน้า Vicky ยังคงเป็นผู้หญิงสับสนที่กำลังมองหาความรักและการยอมรับตัวเอง แต่ด้วยโครงเรื่องที่คาดเดาได้ง่าย การพัฒนาตัวละครที่ขาดหายไป และเนื้อเรื่องที่ยืดเยื้อโดยไม่จำเป็น ทำให้ซีซั่นนี้รู้สึกว่าน่าเบื่อและไม่น่าติดตามมากนัก

การแสดงของ Griselda Siciliani และนักแสดงทีมอื่นๆ ยังคงดี และการถ่ายทำก็สวยงามเหมาะสม แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงพอที่จะกลบข้อบกพร่องของโครงเรื่องที่ไม่น่าสนใจ ถ้าชอบซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้แบบเบาสมอง Envious ซีซั่น 3 อาจเป็นตัวเลือกที่พอดูได้ แต่ถ้าอยากดูอะไรที่มีคุณภาพดีกว่า ก็ควรมองหาเรื่องอื่นดีกว่า

ซีซั่นนี้ทำให้เราตั้งคำถามว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ผู้สร้างควรปล่อยวาง Vicky และเรื่องราวของเธอ หรือพวกเขาจะยังคงยืดเยื้อเรื่องราวนี้ต่อไปอีกในซีซั่นหน้า? เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ แต่สำหรับตอนนี้ Envious ซีซั่น 3 ก็เป็นแค่ซีรีส์ระดับกลางๆ ที่อาจไม่คุ้มค่ากับเวลาในการรับชมมากนัก

มาแชร์ความคิดเห็นกันในคอมเมนต์ว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับความอิจฉาและการเปรียบเทียบตัวเอง และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่กำลังมองหาซีรีส์ใหม่ๆ บน Netflix กันด้วย!

  • ชื่อเรื่องในภาษาอังกฤษ: Envious (Envidiosa)
  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ชีวิตน่าอิจฉา
  • ประเภท: ตลก, ดราม่า, โรแมนติก
  • วันที่ออกฉาย: 19 พฤศจิกายน 2568 (ซีซั่น 3)
  • จำนวนตอน: 10 ตอน
  • นักแสดงนำ: Griselda Siciliani (Vicky), Esteban Lamothe (Matías), Benjamín Vicuña (Nicolás), Pilar Gamboa (Carolina), Violeta Urtizberea (Lu)
  • ผู้กำกับ: Gabriel Medina
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

ชีวิตน่าอิจฉา แต่เนื้อเรื่องคาดเดาได้ง่าย

บทภาพยนตร์ - 5.5
การแสดง - 6.8
โปรดักชัน - 6.5
ความบันเทิง - 5.8
ความคุ้มค่าในการรับชม - 5.2

6

Envious ซีซั่น 3 กลับมาพร้อมเรื่องราวความรักของ Vicky และ Matías ที่ยังคงเต็มไปด้วยปัญหา ครั้งนี้ Vicky ต้องเผชิญกับความอิจฉางานของแฟน ทริปพักผ่อนที่กลายเป็นฝันร้าย และปัญหานักบำบัดที่ต้องเปลี่ยน ซีซั่นนี้ดีกว่าซีซั่น 2 เล็กน้อย แต่ก็ยังติดอยู่กับสูตรเดิมๆ ที่คาดเดาได้ง่าย เนื้อเรื่องยืดเยื้อและตัวละครหลักไม่ค่อยพัฒนา ทำให้รู้สึกว่ากำลังดูซ้ำรอยเดิม แม้จะมีช่วงเวลาที่สนุกและเข้าใจได้ แต่โดยรวมแล้วซีรีส์เรื่องนี้ยังคงเป็นแค่ระดับกลางๆ ที่อาจทำให้เบื่อได้หลังดูไปสักพัก

User Rating: Be the first one !

กดเพื่ออ่านต่อ

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button