[รีวิว-เรื่องย่อ] ผจญภัยในฝัน | In Your Dreams (2025)

• In Your Dreams เป็นหนังแอนิเมชันครอบครัวจากผู้กำกับมือใหม่ Alex Woo อดีตนักเขียนเรื่องจาก Pixar
• เล่าเรื่องสองพี่น้อง Stevie และ Elliot ที่ค้นพบโลกแห่งความฝันร่วมกันและพยายามตามหา Sandman
• การแสดงเสียงของนักพากย์อย่าง Craig Robinson, Simu Liu และ Cristin Milioti สร้างความสนุกสนานและอบอุ่น
• หนังสำรวจธีมเรื่องการหย่าร้าง ความสัมพันธ์พี่น้อง และการยอมรับความเป็นจริงแทนที่จะหนีไปในโลกแห่งจินตนาการ

เราเคยอยากหนีไปในโลกแห่งความฝันกันไหม? โลกที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราต้องการ ไม่มีปัญหา ไม่มีเรื่องยุ่งยาก แต่ถ้าวันหนึ่งเราค้นพบว่าความฝันของเราสามารถเชื่อมต่อกับคนอื่นได้ และเราอาจจะพบทางแก้ไขปัญหาในชีวิตจริงจากโลกแห่งความฝันนั้นล่ะ? หนัง In Your Dreams (2025) จาก Netflix เป็นผลงานการกำกับเรื่องยาวเรื่องแรกของ Alex Woo อดีตนักเขียนเรื่องจาก Pixar ที่เคยร่วมงานกับหนังดังอย่าง Wall-E และ Incredibles 2 หนังเรื่องนี้พาเราไปผจญภัยกับพี่น้องสองคนที่พยายามแก้ปัญหาครอบครัวด้วยการเดินทางไปในโลกแห่งความฝัน

เรื่องราวของ Stevie เด็กสาววัย 12 ปีที่เป็นคนช่างกังวลและชอบควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการ เธอสังเกตเห็นว่าพ่อแม่ของเธอเริ่มมีปัญหากัน เพราะแม่ได้รับข้อเสนองานใหม่ที่เมือง Duluth ซึ่งห่างจากบ้านหลายร้อยไมล์ ในขณะที่พ่อไม่อยากย้าย Stevie กลัวว่าสิ่งนี้จะนำไปสู่การหย่าร้าง เธอจึงพยายามหาทางแก้ไข และคำตอบก็มาจากหนังสือเล่มหนึ่งที่เธอและ Elliot น้องชายวัย 8 ขวบ ที่น่ารำคาญของเธอค้นพบ หนังสือเล่มนั้นเล่าเรื่องของ The Sandman สิ่งมีชีวิตในตำนานที่สามารถทำให้ความปรารถนาเป็นจริงได้ถ้าเราหาเขาเจอในโลกแห่งความฝัน

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกทุกมิติของหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่เรื่องราว การแสดงเสียงที่โดดเด่น ไปจนถึงข้อความที่หนังต้องการสื่อสารเกี่ยวกับการยอมรับความเป็นจริงและความสำคัญของครอบครัว มาดูกันว่า In Your Dreams จะพาเราไปสัมผัสกับการผจญภัยในโลกแห่งความฝันที่เต็มไปด้วยความหมายได้อย่างไร

รีวิวและเรื่องย่อ In Your Dreams (ผจญภัยในฝัน)

In Your Dreams เริ่มต้นด้วยชีวิตธรรมดาของครอบครัว Stevie ในรัฐตะวันตกเฉียงเหนือของอเมริกา เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความสมบูรณ์แบบเป็นอุดมคติ ชอบจัดระเบียบทุกอย่างให้เรียบร้อย ทำการบ้านเสร็จก่อนเวลา และคาดหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่เธอวางไว้ แต่ชีวิตไม่ได้เป็นไปตามที่เธอคิดเสมอไป โดยเฉพาะเมื่อเธอสังเกตเห็นว่าพ่อแม่ของเธอเริ่มห่างเหินกัน มีการถกเถียงกันเรื่องเงินและเรื่องอนาคต และที่แย่ที่สุดคือแม่ได้รับข้อเสนองานใหม่ที่ต้องย้ายครอบครัวไปอยู่เมืองอื่น

ในขณะเดียวกัน Elliot น้องชายของเธอเป็นเด็กชายที่ร่าเริง ไม่ค่อยกังวลอะไร และมักจะทำให้ Stevie รำคาญด้วยพฤติกรรมเด็กๆ ของเขา Stevie เชื่อว่าครอบครัวมีความสุขมากกว่าก่อนที่ Elliot จะเกิด และเธอคิดว่าถ้าไม่มีน้องชาย ทุกอย่างคงจะง่ายกว่านี้ แต่ทั้งสองคนกลับต้องร่วมมือกันเมื่อพวกเขาค้นพบ หนังสือเกี่ยวกับ Sandman ซึ่งเป็นตำนานเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตลึกลับที่สามารถทำให้ความปรารถนาเป็นจริงได้ถ้าเราหาเจอเขาในความฝัน

หลังจากท่องคาถาตามหนังสือ Stevie และ Elliot ถูกดึงเข้าไปในโลกแห่งความฝันร่วมกัน ซึ่งเป็นโลกที่ มีสีสันสดใส เต็มไปด้วยสิ่งที่แปลกประหลาดและน่าตื่นเต้น แต่ก็อันตรายไม่แพ้กัน ในโลกนี้ พวกเขาได้พบกับ Baloney Tony ตุ๊กตายีราฟของ Elliot ที่มีชีวิตขึ้นมาและพูดได้ โดยมี Craig Robinson เป็นนักพากย์เสียงที่ทำให้ตัวละครนี้กลายเป็นตัวตลกที่น่ารักและมีมุกเจ๋งๆ ตลอดเวลา Tony กลายเป็นไกด์ที่พาสองพี่น้องไปผจญภัยในโลกแห่งความฝัน แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยรู้ทางเท่าไรนักก็ตาม

การเดินทางในโลกแห่งความฝันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด สองพี่น้องต้องเผชิญกับ อาหารเช้าที่มีชีวิต ที่พยายามจะจับพวกเขา ไปจนถึง Nightmara ราชินีแห่งฝันร้ายที่น่ากลัว และอุปสรรคอีกมากมาย นอกจากนี้ ทุกครั้งที่พวกเขา “ตาย” ในโลกแห่งความฝัน พวกเขาจะตื่นขึ้นมาและต้องเริ่มต้นใหม่ ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ความมุ่งมั่นที่จะรักษาครอบครัวให้อยู่ด้วยกันทำให้พวกเขาไม่ยอมแพ้

Craig Robinson ในบท Baloney Tony เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของหนังเรื่องนี้ เขาพากย์เสียงยีราฟตุ๊กตาที่มีบุคลิกเจ้าชู้และชอบพูดมุก แม้ว่าบางทีตัวละครจะดูคล้ายกับ Donkey จาก Shrek มากเกินไปก็ตาม แต่ Robinson ก็ทำให้ Tony มีเสน่ห์และน่ารักในแบบของเขาเอง โดยเฉพาะฉากที่เขาพยายามช่วยสองพี่น้องแต่กลับทำพลาดเป็นประจำ ซึ่งสร้างความสนุกสนานและเบาสมองให้กับหนัง

Simu Liu และ Cristin Milioti พากย์เสียงพ่อและแม่ของ Stevie ได้อย่างมีมิติ พวกเขาไม่ได้เป็นแค่ตัวละครสนับสนุน แต่เป็นส่วนสำคัญของเรื่อง โดยเฉพาะในครึ่งหลังของหนังเมื่อพวกเขาเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในโลกแห่งความฝัน Liu และ Milioti ถ่ายทอดความรักและความกังวลของพ่อแม่ที่กำลังเผชิญกับปัญหาในชีวิตสมรสแต่ยังคงรักลูกๆ อย่างไม่มีเงื่อนไข นอกจากนี้ พวกเขายังร้องเพลงประกอบในหนังด้วย ซึ่งเป็นเพลงที่เขียนขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะเรื่องการ “ยึดมั่นและปล่อยวาง” ที่สะท้อนธีมหลักของหนังได้อย่างสวยงาม

Jolie Hoang-Rappaport พากย์เสียง Stevie ได้อย่างน่าเชื่อถือ เธอถ่ายทอดความเป็นเด็กผู้หญิงที่ กังวลมากเกินไป และพยายามควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการ แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินไป เราจะได้เห็นการเติบโตของตัวละครที่เธอค่อยๆ เรียนรู้ว่าบางสิ่งไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของเธอ และนั่นก็ไม่เป็นไร Hoang-Rappaport ทำให้ Stevie เป็นตัวละครที่เด็กๆ สามารถเห็นตัวเองในตัวเธอได้

Elias Janssen ในบท Elliot สร้างความสนุกสนานด้วยพฤติกรรมเด็กๆ ของเขา เขาเป็นน้องชายที่น่ารำคาญแต่น่ารัก มักจะทำให้พี่สาวโมโหด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่เมื่อถึงเวลาที่สำคัญ เขากลับเป็นคนที่ให้กำลังใจและช่วยเหลือพี่สาวอย่างเต็มที่ ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องนี้เป็นหัวใจสำคัญของหนัง และ Janssen พากย์เสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่ารัก

Omid Djalili พากย์เสียง The Sandman ด้วยน้ำเสียงที่ลึกลับและมีเสน่ห์ แม้ว่าตัวละครจะปรากฏตัวในช่วงครึ่งหลังของหนัง แต่ก็ทิ้งความประทับใจไว้ได้ Sandman ไม่ได้เป็นแค่สิ่งมีชีวิตวิเศษที่มาช่วยแก้ปัญหา แต่เป็นตัวละครที่สอนบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับการยอมรับความเป็นจริงและการเติบโตของตัวละคร

จุดเด่นของ In Your Dreams คือ ภาพแอนิเมชัน ที่สวยงามและมีสีสันสดใส โดยเฉพาะในโลกแห่งความฝันที่มีการออกแบบที่แปลกตาและน่าตื่นเต้น แต่ละฝันมีสไตล์ของตัวเอง ตั้งแต่เมืองที่เต็มไปด้วยอาหารเช้าที่มีชีวิต ไปจนถึงปราสาททรายลอยฟ้าของ Sandman ที่มีการออกแบบแบบ Escher ที่สวยงามและซับซ้อน อย่างไรก็ตาม บางคนอาจรู้สึกว่าการออกแบบตัวละครดูเหมือน Cocomelon มากเกินไปและไม่มีเอกลักษณ์เท่าที่ควร

หนังมีการใช้ สไตล์แอนิเมชันหลายรูปแบบ โดยเฉพาะในบางฉากที่เปลี่ยนเป็น 2D แบบอนิเมะ ซึ่งดูสวยงามและมีสีสันมากกว่าสไตล์หลักของหนัง ทำให้หลายคนอยากเห็นหนังทั้งเรื่องในสไตล์นี้แทน การผสมผสานสไตล์แอนิเมชันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของโลกแห่งความฝัน แต่ก็อาจทำให้บางคนรู้สึกว่าหนังไม่มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนนัก

เสียงประกอบ ของหนังโดด John Debney นักแต่งเพลงชื่อดังที่เคยทำงานกับ Disney ในหนังอย่าง Hocus Pocus และ Spy Kids แม้ว่าจะไม่มีธีมเพลงที่ติดหูเท่าผลงานเก่าของเขา แต่เสียงประกอบก็ช่วยเสริมบรรยากาศของแต่ละฉากได้ดี นอกจากนี้ หนังยังใช้เพลงยอดนิยมหลายเพลง เช่น “Mr. Sandman” ของ The Chordettes, “Sweet Dreams (Are Made of This)” ของ Eurythmics และแม้กระทั่ง “Enter Sandman” ของ Metallica ซึ่งช่วยสร้างความสนุกสนานและความคุ้นเคยให้กับผู้ชม

ที่น่าสนใจคือหนังมีการใช้เพลง “Don’t Cha” ของ The Pussycat Dolls แต่เนื้อร้องถูกเปลี่ยนเป็นเรื่องพิซซ่า ซึ่งเป็นตัวอย่างของมุกตลกที่หนังพยายามสร้าง แม้ว่าบางคนอาจรู้สึกว่ามันไม่ค่อยตลกเท่าไรนัก แต่ก็เป็นความพยายามที่จะสร้างความสนุกสนานให้กับเด็กๆ ที่ดูหนัง

In Your Dreams ไม่ได้เป็นแค่หนังผจญภัยในโลกแห่งความฝัน แต่เป็นหนังที่พูดถึง ครอบครัวสมัยใหม่ และปัญหาที่เด็กๆ ต้องเผชิญเมื่อพ่อแม่มีปัญหากัน หนังแสดงให้เห็นว่าเด็กๆ มักจะรู้สึกว่าตัวเองต้องรับผิดชอบหรือสามารถแก้ปัญหาของพ่อแม่ได้ แต่ความจริงคือบางสิ่งไม่อยู่ในความสามารถของเด็กๆ และนั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาทำผิด

ธีมสำคัญของหนังคือการ ยอมรับความเป็นจริง แทนที่จะหนีไปในโลกแห่งจินตนาการ หนังแสดงให้เห็นว่าแม้โลกแห่งความฝันจะสวยงามและน่าตื่นเต้น แต่มันไม่สามารถแทนที่ชีวิตจริงได้ และบางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าต้องการอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา Stevie เรียนรู้ว่าแม้พ่อแม่จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่พวกเขาก็ยังรักเธอและ Elliot เหมือนเดิม และครอบครัวไม่จำเป็นต้อง “สมบูรณ์แบบ” เพื่อที่จะมีความสุข

อีกธีมหนึ่งคือ ความสัมพันธ์พี่น้อง Stevie เริ่มต้นด้วยการคิดว่า Elliot เป็นแค่เด็กน้อยที่น่ารำคาญและทำให้ชีวิตของเธอยุ่งยาก แต่เมื่อพวกเขาต้องผจญภัยร่วมกัน เธอค้นพบว่า Elliot เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอและเป็นคนที่เข้าใจเธอมากที่สุด การเดินทางในโลกแห่งความฝันทำให้สองพี่น้องเข้าใจกันมากขึ้นและเห็นคุณค่าของกันและกัน

หนังยังพูดถึง ความกลัวการเปลี่ยนแปลง ที่เด็กๆ มักจะมี Stevie กลัวที่จะย้ายบ้าน กลัวที่จะเสียครอบครัวที่เธอรัก และพยายามควบคุมทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตยังคงเหมือนเดิม แต่เธอเรียนรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงไม่ได้แย่เสมอไป และบางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าจะแย่กลับกลายเป็นสิ่งที่ดีขึ้น หนังสอนให้เด็กๆ ยอมรับการเปลี่ยนแปลง และเผชิญหน้ากับความกลัวแทนที่จะหนีหรือปฏิเสธมัน

จุดเด่น ของหนังคือเรื่องราวที่อบอุ่นและเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ ที่อาจกำลังเผชิญกับสถานการณ์คล้ายกันในครอบครัว หนังไม่ได้พยายามทำให้การหย่าร้างดูเป็นเรื่องง่าย แต่ก็ไม่ได้ทำให้มันดูน่ากลัวเกินไป แทนที่จะบอกว่า “ทุกอย่างจะดีขึ้น” หนังสอนให้เด็กๆ เข้าใจว่าบางสิ่งจะเปลี่ยนไป แต่ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกจะไม่เปลี่ยนแปลง นักแสดงพากย์เสียงทุกคนทำงานได้ดี โดยเฉพาะ Craig Robinson ที่สร้างความสนุกสนาน และ Jolie Hoang-Rappaport ที่ทำให้ Stevie เป็นตัวละครที่น่าจดจำ

จุดด้อย ของหนังคือเนื้อเรื่องและมุกตลกที่ ดูคาดเดาได้ และไม่ค่อยสร้างสรรค์เท่าที่ควร แม้ว่าจะเป็นหนังเกี่ยวกับโลกแห่งความฝันที่ไร้ขีดจำกัด แต่หนังกลับใช้ภาพและแนวคิดที่เราเคยเห็นมาแล้วในหนังอื่นๆ เช่น Little Nemo, Spirited Away และ Labyrinth มุกตลกส่วนใหญ่เป็นมุกเรื่องผายลมและเรื่องตลกๆ ที่เหมาะกับเด็กเล็ก แต่อาจจะไม่ค่อยสนุกสำหรับผู้ใหญ่หรือเด็กโตกว่า

อีกจุดที่น่าเสียดายคือการออกแบบตัวละครที่ดูค่อนข้าง generic และไม่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น หลายคนเปรียบเทียบว่าดูเหมือน Cocomelon หรือการ์ตูนเด็กเล็กอื่นๆ มากเกินไป และไม่ได้สวยงามหรือน่าประทับใจเท่ากับหนังแอนิเมชันจาก Pixar หรือ Studio Ghibli แม้ว่าจะมีบางฉากที่เปลี่ยนเป็นสไตล์ 2D ที่สวยงาม แต่ก็ใช้เวลาสั้นเกินไป โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ K-Pop Demon Hunters หนังแอนิเมชันเรื่องอื่นจาก Netflix ที่มีภาพที่สวยงามและสร้างสรรค์กว่ามาก

หนังอาจจะ นำเสนอธีมหลักได้ชัดเจนเกินไป จนดูเหมือนว่ากำลังสอนบทเรียนมากกว่าจะเล่าเรื่อง บางคนอาจรู้สึกว่าหนังเป็นเหมือน “Afterschool Special” ที่พยายามสอนอะไรบางอย่างโดยตรง แทนที่จะให้ผู้ชมได้คิดและตีความเอง อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักคือเด็กๆ ความชัดเจนนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ดีเพราะทำให้เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง

In Your Dreams เหมาะกับ ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กอายุประมาณ 6-12 ปี ที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในครอบครัวหรือกำลังมีปัญหากับพี่น้อง หนังนำเสนอข้อความที่สำคัญในรูปแบบที่เด็กๆ สามารถเข้าใจได้ และอาจจะช่วยเปิดบทสนทนาระหว่างพ่อแม่กับลูกเกี่ยวกับประเด็นที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ ความยาว 91 นาทีก็พอเหมาะสำหรับเด็กๆ ไม่ยาวจนเกินไป

สำหรับวัยรุ่นและผู้ใหญ่ หนังเรื่องนี้อาจจะดู เบาสมองและคาดเดาได้มากเกินไป แต่ถ้าชอบหนังแอนิเมชันครอบครัวที่มีข้อความอบอุ่นและต้องการดูอะไรที่ผ่อนคลายโดยไม่ต้องคิดมาก In Your Dreams ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว นอกจากนี้ ถ้าเป็นแฟนของ Alex Woo หรืออยากดูผลงานของอดีตทีม Pixar คนหนึ่ง ก็น่าจะลองดูเพื่อเห็นสไตล์การเล่าเรื่องของเขา

เมื่อเทียบกับหนังแอนิเมชันเรื่องอื่นๆ บน Netflix เช่น K-Pop Demon Hunters หรือ Long Story Short หนังเรื่องนี้อาจจะไม่โดดเด่นหรือสร้างสรรค์เท่า แต่ก็มีจุดเด่นในด้านความอบอุ่นและข้อความที่เหมาะกับเด็กๆ ถ้ากำลังหา หนังแอนิเมชันครอบครัวบน Netflix ที่ดูง่ายและไม่หนักใจ In Your Dreams เป็นตัวเลือกที่ดี

In Your Dreams (2025) เป็นหนังแอนิเมชันครอบครัวที่อบอุ่นและเข้าถึงได้ง่าย แม้ว่าจะไม่ได้โดดเด่นในด้านความคิดสร้างสรรค์หรือภาพที่สวยงามเท่ากับหนังแอนิเมชันชั้นนำ แต่ก็มีข้อความที่สำคัญเกี่ยวกับการยอมรับความเป็นจริง ความสัมพันธ์ในครอบครัว และการเติบโตของตัวละคร การแสดงเสียงของนักพากย์ทุกคนทำได้ดี โดยเฉพาะ Craig Robinson ที่สร้างความสนุกสนาน และ Jolie Hoang-Rappaport ที่ทำให้ Stevie เป็นตัวละครที่เด็กๆ สามารถเห็นตัวเองได้

หนังเรื่องนี้เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กและกำลังมองหาเนื้อหาที่ดูง่ายและมีข้อความดีๆ แม้ว่าวัยรุ่นและผู้ใหญ่อาจจะรู้สึกว่าเรื่องราวคาดเดาได้และมุกตลกไม่ค่อยสนุก แต่ความตั้งใจดีของหนังและธีมที่สำคัญก็ยังคงทำให้มันคุ้มค่ากับการดูสำหรับกลุ่มเป้าหมายหลัก ถ้ากำลังมองหาหนังที่จะดูกับลูกๆ ในวันหยุด In Your Dreams เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

สำหรับใครที่ชอบ หนังและซีรีส์แอนิเมชันบน Netflix อย่าลืมติดตาม รีวิวหนังใหม่ ของเราอย่างต่อเนื่อง มาแชร์ความคิดเห็นกันในคอมเมนต์ว่าหนังเรื่องนี้ทำให้เราคิดอย่างไรเกี่ยวกับครอบครัวและความฝัน และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่มีลูกเล็กหรือกำลังมองหา หนังครอบครัวน่าดู บน Netflix!

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ผจญภัยในฝัน
• ประเภท: แอนิเมชัน, ผจญภัย, ครอบครัว, แฟนตาซี, ตลก
• วันที่ออกฉาย: 7 พฤศจิกายน 2025 (โรงภาพยนตร์สหรัฐฯ), 14 พฤศจิกายน 2025 (Netflix)
• นักพากย์เสียง: Craig Robinson (Baloney Tony), Simu Liu (พ่อ), Cristin Milioti (แม่), Jolie Hoang-Rappaport (Stevie), Elias Janssen (Elliot), Omid Djalili (The Sandman), Gia Carides (Nightmara)
• ผู้กำกับ: Alex Woo, Erik Benson (ผู้กำกับร่วม)
• ผู้เขียนบท: Alex Woo, Erik Benson
• นักแต่งเพลง: John Debney
• ความยาว: 1 ชั่วโมง 31 นาที
• เรตติ้ง: PG
• คะแนน IMDb: 6.6/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix