![[รีวิว-เรื่องย่อ] Man vs. Baby (2025) มิสเตอร์บีนกับภารกิจเลี้ยงเด็ก](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/12/Review-Man-vs.-Baby-2025.webp)
- Man vs. Baby เป็นซีรีส์ตามมาจาก Man vs. Bee โดย Rowan Atkinson กลับมาแสดงในบท Trevor ที่ต้องดูแลทารกลึกลับ
- ซีรีส์พยายามผสมผสานระหว่างคอมเมดี้กับดราม่าแบบอบอุ่นหัวใจ แต่กลับไม่สามารถสร้างความตลกขบขันได้จริงจัง
- ตัวละคร Trevor มีความโง่เขลาจนเกินไป ทำให้ผู้ชมรู้สึกหงุดหงิดมากกว่าหัวเราะตาม
- ซีรีส์จบอย่างไม่น่าพอใจ รู้สึกเหมือนเป็นการหลบหนีจากปัญหาที่สร้างขึ้นมา
สำหรับใครที่เติบโตมากับความตลกของมิสเตอร์บีน การได้เห็น Rowan Atkinson กลับมาแสดงอีกครั้งคงทำให้หลายคนรู้สึกคิดถึง แต่ถ้าหวังว่าซีรีส์ Man vs. Baby จะเป็นอีกหนึ่งผลงานคอมเมดี้สุดฮาแบบที่เคยชอบ เตรียมตัวผิดหวังได้เลย ซีรีส์เรื่องนี้พยายามนำเอาเสน่ห์แบบไร้คำพูดของแอ็ตคินสันมาสร้างเรื่องราวใหม่ แต่กลับออกมาเป็นผลงานที่ทำให้หงุดหงิดมากกว่าที่จะหัวเราะตาม มาดูกันว่าซีรีส์เรื่องนี้มีปัญหาอะไรบ้าง และทำไมถึงไม่สามารถสร้างความประทับใจได้เหมือนผลงานเก่าๆ ของเขา

Trevor (Rowan Atkinson) เป็นพ่อครัวที่ทำงานให้กับครอบครัวมั่งคั่งในเพนท์เฮาส์หรูหรา ในช่วงเปิดเรื่อง เราจะได้เห็นภาพชีวิตครอบครัวของเขาที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าจนแทบไม่คิดว่านี่คือซีรีส์คอมเมดี้ แต่แล้วเรื่องราวก็พลิกกลับมาสู่แนวตลกอีกครั้ง เมื่อเจ้านายของเขาบอกกล่าวในนาทีสุดท้ายว่าจะไปนิวยอร์กในช่วงคริสต์มาส ทำให้ Trevor ต้องอยู่คนเดียวในเพนท์เฮาส์ แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาพบทารกลึกลับวางอยู่หน้าประตู ไม่มีใครรู้ว่าเด็กคนนี้มาจากไหน Trevor จึงต้องรับหน้าที่ดูแลทารกคนนี้ด้วยความไม่มีประสบการณ์เลย
ซีรีส์เรื่องนี้เป็นภาคต่อของ Man vs. Bee ที่ออกฉายในปี 2022 ซึ่งเล่าเรื่องของ Trevor ที่พยายามฆ่าผึ้งตัวหนึ่ง คำว่า “vs.” ในชื่อเรื่องนั้นเหมาะสม เพราะมันเป็นการต่อสู้จริงๆ แต่ใน Man vs. Baby กลับไม่มีการต่อสู้อะไรเลย Trevor แค่ดูแลเด็กเท่านั้น ชื่อที่เหมาะสมกว่าน่าจะเป็น “Man and Baby” หรือ “Man with Baby” มากกว่า แต่คงเป็นเพราะต้องการสร้างความต่อเนื่องจากภาคก่อนหน้า
เรื่องราวมีองค์ประกอบแบบหนังคริสต์มาสทั่วไป คือคนโดดเดี่ยวที่ค้นพบความสุขจากการอยู่กับผู้คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ เจ้าหน้าที่สวัสดิการสังคม หรือคู่รักที่กลับมาขอบคุณและมอบของขวัญให้กับทารก ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะทารกลึกลับคนนี้ที่ดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของทารกพระเยซู ทำให้ทุกอย่างดูอบอุ่นและเป็นธรรม แต่ปัญหาคือมันอ่อนไหวเกินไปจนดูไม่เป็นธรรมชาติ
ถ้าซีรีส์คอมเมดี้ทำให้เราหัวเราะได้ ปัญหาอื่นๆ ก็คงไม่สำคัญ แต่ Man vs. Baby ไม่ตลกเลยจริงๆ ที่สุดก็แค่ยิ้มๆ ได้บ้างกับมุกเรื่องตดและกระดาษพิมพ์ที่ยาวไม่หยุด แทนที่จะหัวเราะ กลับรู้สึกหงุดหงิดมากกว่า เพราะตัวละครทำอะไรที่ไม่มี logic เลย ตัวอย่างเช่น ทำไม Trevor ไม่ซื้อผ้าอ้อมตอนที่ออกไปช็อปปิ้งกับเด็ก? แล้วทำไมพอสั่งผ้าอ้อมออนไลน์มาแล้ว เมื่อถึงตอนที่เขาเจอกระเป๋าใส่ผ้าอ้อมอยู่ห่างออกไป เขาถึงใช้รองเท้ากั้นลิฟต์ไม่ให้ปิด? แทนที่จะกลับไปเอากุญแจแล้วกลับมาเอากระเป๋าอีกทีเหรอ?
บางคนอาจบอกว่านี่มันคอมเมดี้แบบ Slapstick (สแลปสติก) การวิเคราะห์แบบนี้ไม่ควรทำ แต่ถ้าฉากนั้นไม่สามารถทำให้เราหัวเราะได้ เราก็ควรมีสิทธิ์วิจารณ์ว่ามันไม่สมเหตุสมผลได้นะ ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นเพราะ Man vs. Baby ทำให้รู้สึกหงุดหงิดมากจริงๆ Trevor เป็นคนที่ไร้ความสามารถมากจนแทนที่จะหัวเราะ กลับอยากให้เขาพัฒนาตัวเองและเลิกทำพลาดซะที ความไร้ความสามารถของเขาไม่ได้ทำให้รู้สึกสนุกเลย
ถึงขนาดที่เมื่อ Trevor ไขว้แขนให้นมเด็กสองคน (ให้นมเด็กด้านขวาด้วยมือซ้าย และให้นมเด็กด้านซ้ายด้วยมือขวา) ก็ยังรู้สึกหงุดหงิด เมื่อเราเริ่มอยากให้ตัวละครในซีรีส์คอมเมดี้ทำตัวปกติได้บ้าง นั่นคือสัญญาณที่ไม่ดีแน่นอน
สิ่งที่น่าประหลาดใจคือการได้ยิน Rowan Atkinson พูดเป็นภาษาอังกฤษ เพราะในซีรีส์ Mr. Bean เขาแทบไม่พูดเลย (นอกจากคำว่า “Bean” สักครั้งสองครั้ง) เวลาได้ยินเสียงจริงของเขา มันทำให้รู้สึกแปลกและตกใจไปอีก แต่น่าเสียดายที่ความสามารถในการแสดงของแอ็ตคินสันก็ไม่สามารถช่วยซีรีส์เรื่องนี้ให้ดีขึ้นได้ แม้เขาจะพยายามแสดงอย่างเต็มที่ แต่บทที่อ่อนแอทำให้ทุกอย่างดูไม่น่าสนใจ
ฉากเปิดเรื่องที่แสดงชีวิตครอบครัวของ Trevor แบบเศร้าๆ นั้นดูเหมือนว่าแอ็ตคินสันต้องการพิสูจน์ว่าเขาสามารถแสดงดราม่าได้ด้วย บางทีเขาอาจเบื่อกับการถูกมองว่าเป็นนักแสดงตลกอย่างเดียว แต่โชคดีที่เขายังคงเลือกทำคอมเมดี้ เพราะถ้าเปลี่ยนไปทำดราม่าจริงๆ อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีนัก

ซีรีส์เรื่องนี้พยายามสอดแทรกข้อความเกี่ยวกับการที่คนรวยปฏิบัติต่อลูกจ้างอย่างไม่ดี เมื่อนายจ้างของ Trevor ลืมบอกเขาว่าจะไปนิวยอร์ก แต่ซีรีส์ไม่ได้สนใจจะเจาะลึกในแง่มุมมืดๆ แบบนี้ มันแค่ผ่านๆ ไป และที่แย่กว่านั้นคือมันจบลงทันทีที่เรื่องราวกำลังจะสนุกขึ้น ตอนจบรู้สึกเหมือนการหลบหนี มันน่าหงุดหงิดมาก
มีฉากหนึ่งที่ตัวละครได้ยินชื่อ Trevor ผิดและเรียกเขาว่า “Mr. Bin” ซึ่งทำให้นึกถึง Mr. Bean ทันที และจริงอยู่ Mr. Bean ดีกว่า Man vs. Baby หลายพันเท่า บางทีแอ็ตคินสันอาจรู้เรื่องนี้ด้วย บางทีการอ้างอิงถึงซีรีส์ปี 90s นั้นอาจมีความหมายลึกซึ้งกว่าที่คิด แอ็ตคินสันอาจจะกำลังบอกเราว่ามุกตลกในซีรีส์นี้เขียนโดย “Mr. Dust Bin” (ถังขยะ) ก็เป็นได้ อย่าตัดสินเขาจากซีรีส์ slapstick comedy สี่ตอนเรื่องนี้เลย
Man vs. Baby (2025) เป็นซีรีส์ที่ทำให้ผิดหวังสำหรับแฟนๆ ของ Rowan Atkinson แม้จะมีนักแสดงที่มีความสามารถและแนวคิดที่น่าสนใจ แต่การขาดความตลกขบขันและโครงเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ไม่สามารถสร้างความประทับใจได้ แทนที่จะหัวเราะไปกับความซุ่มซ่ามของตัวละคร กลับรู้สึกหงุดหงิดและอยากให้เขาทำตัวปกติ ถ้าอยากดูคอมเมดี้ของแอ็ตคินสันจริงๆ แนะนำให้กลับไปดู Mr. Bean หรือ Man vs. Bee แทนดีกว่า Man vs. Baby เป็นแค่ความพยายามที่ล้มเหลวในการนำเสนอตัวตนใหม่ของนักแสดงที่เรารัก แชร์ความคิดเห็นกันในคอมเมนต์ว่าเห็นด้วยไหม และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่กำลังจะดูซีรีส์เรื่องนี้ได้รู้ว่าควรคาดหวังอะไรบ้าง!
- ประเภท: คอมเมดี้, ครอบครัว
- วันที่ออกฉาย: 11 ธันวาคม 2568
- นักแสดงนำ: Rowan Atkinson
- ผู้กำกับ: David Kerr
- จำนวนตอน: 4 ตอน
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ภรรยานักล่า | The Hunting Wives (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/12/Review-The-Hunting-Wives-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] เอมิลี่ในปารีส | Emily in Paris ซีซั่น 5](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/12/Review-Emily-in-Paris-5.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] 10 แดนซ์ | 10DANCE (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/12/Review-10DANCE-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] Wake Up Dead Man: A Knives Out Mystery (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/12/Review-Wake-Up-Dead-Man-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] The Great Flood (2025) หายนะน้ำท่วมกรุงโซล](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/12/Review-The-Great-Flood-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] อุบัติเหตุ | The Accident ซีซั่น 2](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/12/Review-The-Accident-Season-2.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ริมทะเลเลือด | Blood Coast ซีซั่น 2](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/12/Review-Blood-Coast-Season-2.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] เจย์ เคลลี | Jay Kelly (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/12/Review-Jay-Kelly-2025.webp)