![[รีวิว-เรื่องย่อ] Wandance (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/10/Review-Wandance-2025.webp)
- Wandance ดัดแปลงจากมังงะฮิปฮอปแดนซ์ที่เริ่มตีพิมพ์ปี 2019 เน้นธีมการเอาชนะความกลัวและแสดงออกผ่านการเคลื่อนไหวร่างกาย
- ตอนแรกนำเสนอตัวละครหลัก คาโบกุ ที่มีปัญหากลุ่มอาการพูดติด และ วันดะ สาวนักเต้นที่จุดประกายให้เขาก้าวข้ามขีดจำกัด
- แม้จะมีจุดเด่นเรื่องอารมณ์และเพลงประกอบ แต่ซีจีการเต้นยังดูแปลกๆ ไม่ค่อยกลมกลืนกับภาพ 2D
- อนิเมะเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนชอบเรื่อง coming-of-age ที่ผสมสปอร์ต โดยมี OP จาก BE:FIRST และ ED จาก ELSEE ที่ฟังเพราะติดหู
เคยคิดไหมว่าการเต้นคือทางออกสำหรับคนที่พูดไม่ออก? ในโลกที่คำพูดบางครั้งกลับกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ Wandance (2025) อนิเมะจากสตูดิโอ Madhouse และ Cyclone Graphics พาไปพบกับคาโบกุ โคตานิ เด็กมัธยมปีแรกที่ใช้ชีวิตแบบเงียบๆ หลีกเลี่ยงการเป็นจุดสนใจเพราะปัญหาพูดติด แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็เจอฮิคาริ วันดะ สาวในชั้นเรียนที่เต้นฮิปฮอปแบบไม่แคร์สายตาใคร จังหวะนั้นเหมือนไฟที่จุดประกายให้คาโบกุอยากลองก้าวออกจากเปลือกตัวเอง
เรื่องราวเริ่มจากประสบการณ์เลวร้ายในมัธยมต้น ที่คาโบกุเคยล้มเหลวในการแสดงเต้นจนกลายเป็นบาดแผลในใจ ทำให้เขาเลี่ยงทุกอย่างที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวแบบนั้น แต่การพบวันดะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เธอเต้นราวกับไม่มีใครมอง หรือไม่สนใจเลยว่าคนอื่นจะมองยังไง ซึ่งเป็นภาพที่ตรงข้ามกับชีวิตของคาโบกุที่เต็มไปด้วยความกังวล อนิเมะตอนแรกนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องเต้น แต่เป็นการสำรวจว่าการแสดงออกทางร่างกายช่วยเยียวยาความไม่มั่นใจได้อย่างไร
อนิเมะเรื่องนี้ดึงดูดด้วยการผสมผสานระหว่างดราม่าส่วนตัวและโลกของการเต้นสตรีท ที่ไม่ใช่แค่บัลเลต์แบบคลาสสิก แต่เป็นฮิปฮอป เฮาส์ และเบรกแดนซ์ที่สดใหม่ ผ่านบทที่เขียนโดยมิชิยะ คาโตะ ผู้กำกับและสคริปต์เตอร์หลัก เรื่องราวจะพาไปดูว่าความกลัวเล็กๆ สามารถถูกแทนที่ด้วยจังหวะเพลงได้ยังไง มาดูกันว่าตอนแรกของ Wandance จะจุดประกายให้อยากลุกขึ้นเต้นตามหรือไม่

Wandance ดัดแปลงจากมังงะ seinen ของคอฟฟี่ที่เริ่มตีพิมพ์ในนิตยสาร Monthly Afternoon ของ Kodansha ตั้งแต่เดือนมกราคม 2019 จนถึงตอนนี้มียอดขาย 900,000 เล่มใน 14 เล่ม (ข้อมูลเดือนกันยายน 2025) มังงะเรื่องนี้โดดเด่นด้วยสไตล์ภาพที่ไหลลื่นและเรื่องราวอารมณ์ที่เน้นโลกการเต้น โดยมีโทนสมจริงที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกเชื่อมโยง อนิเมะเวอร์ชันนี้ประกาศเมื่อสิงหาคม 2024 และออกอากาศครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2025 ผ่านบล็อก IMAnimation W ของ TV Asahi พร้อมสตรีมบน Disney+ ทั่วโลก
ตอนแรกเปิดเรื่องด้วยคาโบกุที่ใช้ชีวิตแบบไหลไปตามเพื่อนๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับตามอง เขามีปัญหาพูดติดที่ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจทุกครั้งที่ต้องพูดต่อหน้าคนอื่น เพื่อนๆ ในชั้นรู้เรื่องนี้แต่กลับไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของเขา มักล้อเลียนหรือพูดถึงโดยไม่คิดอะไร จนกระทั่งคาโบกุเห็นวันดะเต้นคนเดียวในโรงเรียน เธอเคลื่อนไหวอย่างอิสระ สนุกสนานกับจังหวะเพลงฮิปฮอปที่ดังก้อง ภาพนั้นทำให้คาโบกุรู้สึกอยากลองทำตาม แม้จะกลัวขนาดไหนก็ตาม
วันดะไม่ใช่แค่สาวสวยธรรมดา แต่เป็นคนที่แสดงออกผ่านการเต้น เธอบอกคาโบกุว่าการเต้นไม่ต้องใช้คำพูด แค่ร่างกายและจังหวะก็พอ ซึ่งเป็นประโยคที่จุดประกายให้เขาเห็นแสงสว่างใหม่ คาโบกุเลยตัดสินใจ join คลับเต้นรำในโรงเรียน เพื่อเข้าใกล้เธอและค้นหาความกล้าที่หายไป เรื่องราวในตอนนี้ยังไม่ลงลึกมาก แต่ได้เห็นความสัมพันธ์ที่เริ่มก่อตัว และการเผชิญหน้ากับเพื่อนที่ไม่ค่อยเป็นมิตร ซึ่งทำให้คาโบกุพูดได้โดยไม่ติดขัดครั้งแรก
อนิเมะเรื่องนี้มีเพลงประกอบที่คัดสรรมาเพื่อเสริมอารมณ์ OP “Stare In Wonder” จาก BE:FIRST กลุ่ม J-pop ยอดฮิต ที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้นและอยากเคลื่อนไหว ส่วน ED “Wondrous” จาก ELSEE กลุ่มเต้นหญิงที่ร้องได้นุ่มนวล สะท้อนบรรยากาศไตร่ตรองของเรื่อง มีเพลง insert อย่าง “Kujira” จาก Yaffle feat. Sahnya และศิลปินอื่นๆ เช่น Yujin Aramaki, Black Boboi ที่ช่วยให้ฉากเต้นมีชีวิตชีวา ยิ่งไปกว่านั้น ตอนแรกยังมีเพลง “Scatman” ของ Scatman John ที่ฟิตกับปัญหาพูดติดของคาโบกุ ทำให้ฉากนั้นดูมีนัยยะและน่าจดจำ
คาโบกุ โคตานิ พากย์โดยโคคิ อุจิยามะ เป็นตัวเอกที่วัยรุ่นรู้สึกเข้าใจได้ โดยเฉพาะคนที่เคยรู้สึกขี้อาย เขาไม่ใช่ฮีโร่แบบสมบูรณ์ แต่เป็นคนธรรมดาที่มีบาดแผลจากอดีต โดยเฉพาะบาดแผลทางใจจากการแสดงเต้นในมัธยมต้นที่ล้มเหลว ทำให้เขาเลี่ยงทุกอย่างที่ต้องเคลื่อนไหวต่อหน้าคนอื่น แต่การเจอวันดะทำให้เขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่าชีวิตแบบนี้จะดีจริงหรือ ผ่านฉากที่เขาพูดคุยกับวันดะครั้งแรก แม้จะตะกุกตะกัก แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จริงใจ
ฮิคาริ วันดะ พากย์โดยฮินะ โยมิยะ เป็นตัวละครที่ขโมยซีนตั้งแต่ปรากฏตัว เธอไม่ใช่สาวเย็นชาหรือไฮโซ แต่เป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและแสดงอารมณ์ผ่านการเต้น วันดะชอบเต้นคนเดียวเพราะมันคือการสื่อสารที่ไม่ต้องใช้คำพูด ซึ่งตรงกับปัญหาของคาโบกุ ทำให้ทั้งคู่เชื่อมโยงกันได้ง่าย ความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มจากความชื่นชอบ แต่ค่อยๆ พัฒนาเป็นมิตรภาพที่ช่วยให้ทั้งสองเติบโต วันดะยังเป็นแรงบันดาลใจให้คาโบกุเข้าร่วมคลับเต้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัย
เพื่อนๆ ของคาโบกุ เช่น ตัวละครสมทบที่พากย์โดยโทชิกิ มาซูดะ และยูมะ อุจิดะ แสดงให้เห็นด้านมืดของวัยรุ่น พวกเขารู้ปัญหาพูดติดของเขาแต่กลับล้อเลียนโดยไม่คิด ซึ่งทำให้คาโบกุรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้น จนกระทั่งวันดะเข้ามาเปลี่ยนมุมมอง ฉากที่คาโบกุเผชิญหน้ากับเพื่อนพวกนี้เป็นไฮไลต์ที่แสดงการพัฒนาตัวละคร โดยเขาได้พูดได้ลื่นไหลครั้งแรกเพราะได้รับกำลังใจจากวันดะ ตัวละครเหล่านี้ทำให้เรื่องราวสมจริง ไม่ใช่แค่โรแมนติกหวานๆ แต่มีดราม่าที่สะท้อนชีวิตจริง

แอนิเมชั่นโดยรวมดูดี โดยเฉพาะดีไซน์ตัวละครจากซาโตชิ ทาสากิและไทกิ อิมาหนุระ ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและมีพลัง แต่จุดอ่อนหลักคือซีจีในฉากเต้นที่ดูไม่กลมกลืน ตัวละครมีสีหน้าว่างเปล่าและผมกระเซิง ซึ่งต่างจากภาพ 2D ที่ไหลลื่น ทำให้บางฉากดูเหมือน VR หรือ mocap ที่ยังไม่สมบูรณ์ แม้ผู้ผลิตจะใช้ Riehata นักออกแบบท่าเต้นชื่อดังจาก BTS และ TWICE มาช่วย แต่ผลลัพธ์ยังไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับอนิเมะเต้นอื่นๆ อย่าง Love Live ที่ผสม 2D-CG ได้เนียนกว่า
ดนตรีคือจุดแข็งที่ชดเชยจุดด้อยได้ส่วนหนึ่ง นอกจาก OP-ED ที่กล่าวไป ยังมีเพลง insert จากศิลปินหลากหลายที่ช่วยเสริมจังหวะฮิปฮอปและสตรีทแดนซ์ ประกอบโดยนาโอคิ ชิบะ ทำให้ฉากเต้นมีบรรยากาศเร้าใจ การใช้ “Scatman” ในตอนแรกเป็นเซอร์ไพรส์ที่ฟิตกับธีมพูดติด ราวกับเพลงนี้กำลังล้อเลียนปัญหาของคาโบกุแต่ในทางบวก ช่วยให้ผู้ชมรู้สึกสนุกและเชื่อมโยงกับตัวเอกมากขึ้น
ธีมหลักของ Wandance คือการแสดงออกผ่านการเคลื่อนไหวแทนคำพูด สำหรับคาโบกุ การเต้นกลายเป็นทางสื่อสารที่ช่วยเอาชนะความกังวลทางสังคมและอดีตที่เจ็บปวด มันไม่ใช่แค่สปอร์ต แต่เป็น coming-of-age ที่ถามว่าทำไมมนุษย์ถึงกลัวการยืนหยัด และการเต้นช่วยให้เรา “พูด” ได้โดยไม่ต้องออกเสียง เรื่องนี้สะท้อนปัญหาวัยรุ่นจริงๆ อย่าง bullying จากเพื่อนและการค้นหาตัวตน โดยผสมกับความสนุกของแดนซ์ที่ทำให้ดูเพลิน แม้ตอนแรกจะยังไม่ perfect แต่ก็มีศักยภาพในการพัฒนา
Wandance (2025) คืออนิเมะที่ชวนให้คิดถึงจังหวะชีวิตตัวเอง ผ่านเรื่องราวของคาโบกุที่ก้าวจากความกลัวสู่ความกล้า ด้วยตัวละครที่น่ารัก ดนตรีติดหู และธีมลึกซึ้งเกี่ยวกับการสื่อสาร มันแสดงให้เห็นว่าการเต้นไม่ใช่แค่ท่า แต่เป็นการปลดปล่อยตัวตน แม้แอนิเมชั่นเต้นจะยังต้องปรับปรุง แต่ศักยภาพในการเล่าเรื่องทำให้เรื่องนี้สมควรติดตามต่อไป
สำหรับสาวกอนิเมะแนวสปอร์ตดราม่าหรือคนที่เคยรู้สึกขี้อาย Wandance คือนิเมะที่ควรลองดู จะได้เห็นว่าจังหวะเพลงช่วยเปลี่ยนชีวิตได้จริงๆ ลองแชร์ในคอมเมนต์ว่าชอบฉากไหนที่สุด หรือเคยมีประสบการณ์คล้ายคาโบกุไหม และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชื่นชอบอนิเมะเต้นรำด้วยนะ!
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: Wandance
- ประเภท: ดราม่า, สปอร์ต, ฮิปฮอปแดนซ์
- วันที่ออกฉาย: 8 ตุลาคม 2568
- เรตติ้ง MyAnimeList: 6.73/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: Disney+