![[รีวิว-เรื่องย่อ] นครสัตว์มหาสนุก 2 | Zootopia 2 (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Zootopia-2.webp)
- Zootopia 2 เป็นภาคต่อที่ประสบความสำเร็จในการสานต่อเรื่องราวจากภาคแรก พร้อมด้วยการแอนิเมชันที่สวยงามสุดขีด และเรื่องราวที่ลึกซึ้งกว่าเดิม
- การแสดงของนักพากย์เสียงทุกคนโดดเด่น โดยเฉพาะเก๋ หุ่ย ควนในบทแกรี่ เดอ’สเนค ที่เพิ่มมิติใหม่ให้กับเรื่องราว และควินตา บรันสันในบทดร.ฟัซบี้ที่น่ารักและมีส่วนสำคัญในการพัฒนาตัวละคร
- หนังสำรวจธีมการกีดกันทางสังคมและความยุติธรรมเชิงรื้อฟื้น แสดงให้เห็นว่าการยอมรับที่แท้จริงคือการเปิดประตูให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเท่าเทียม
- ด้วยการผสมผสานระหว่างความบันเทิง อารมณ์ขัน และข้อความที่มีความหมาย Zootopia 2 เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ต้องการหนังแอนิเมชันคุณภาพ
เคยคิดไหมว่าเมื่อโลกสวยงามที่เราคิดว่าสมบูรณ์แบบ กลับซ่อนความลับที่ยังไม่มีใครเคยรู้? Zootopia 2 พาเรากลับสู่นครสัตว์ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย แต่ครั้งนี้จูดี้ ฮอปส์และนิค ไวลด์จะค้นพบว่าเมืองที่พวกเขารักนั้นยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ถูกซ่อนเร้นไว้ อะไรคือเหตุผลที่นครสัตว์ไม่ยอมรับสัตว์เลื้อยคลาน? และทำไมถึงมีแค่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเท่านั้นที่ได้อยู่ในเมืองนี้?
เกือบ 10 ปีผ่านไปนับตั้งแต่ ภาคแรก ที่ออกฉายในปี 2016 และกลายเป็นหนึ่งในหนังแอนิเมชันที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของดิสนีย์ ภาคสองนี้กลับมาพร้อมทีมงานเดิม โดยมี จาเรด บุช (Jared Bush) และ ไบรอัน ฮาเวิร์ด (Byron Howard) กลับมาร่วมกำกับอีกครั้ง พร้อมกับนักแสดงพากย์เสียงคุ้นเคยอย่าง จินนิเฟอร์ กู๊ดวิน (Ginnifer Goodwin) และ เจสัน เบทแมน (Jason Bateman) ที่กลับมาให้ชีวิตกับตัวละครที่เราชื่นชอบ
ในบทความนี้เราจะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่เนื้อเรื่องที่ซับซ้อนมากขึ้น การแสดงที่โดดเด่น ไปจนถึงข้อความที่หนังต้องการสื่อสารเกี่ยวกับการยอมรับความแตกต่าง มาดูกันว่า Zootopia 2 จะสามารถสานต่อความสำเร็จจากภาคแรกได้หรือไม่

รีวิวและเรื่องย่อ Zootopia 2 (นครสัตว์มหาสนุก 2)
Zootopia 2 เริ่มต้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก จูดี้ ฮอปส์ กระต่ายผู้มีความกระตือรือร้นและเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นในการทำความดี ได้เป็นคู่หูกับ นิค ไวลด์ สุนัขจิ้งจอกอดีตนักต้มตุ๋นที่เพิ่งเข้าร่วมกองกำลังตำรวจ แต่ความเป็นคู่หูนี้กลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด บุคลิกที่ตรงข้ามกันทำให้พวกเขามีปัญหาในการทำงานร่วมกัน จูดี้ที่ชอบวางแผนทุกอย่างอย่างละเอียด กับนิคที่ชอบทำตามความรู้สึกและชอบความสบายๆ
หลังจากปฏิบัติการจับกุมแก๊งค้าของเถื่อนที่พลาดพลั้ง หัวหน้าโบโก้ ตำรวจควายผู้เคร่งครัดขู่ว่าจะแยกพวกเขาออกจากกัน เว้นแต่จะไปพบ ดร.ฟัซบี้ จิตแพทย์ควอกก้าตัวน้อยน่ารัก (พากย์โดย ควินตา บรันสัน) เพื่อปรับความเข้าใจระหว่างกัน ในระหว่างการบำบัด ฟัซบี้ก็สังเกตเห็นว่าเมื่อเธอถามคำถาม จูดี้มักจะตอบโดยไม่ปรึกษานิคหรือสังเกตปฏิกิริยาของเขาเลย
สถานการณ์เริ่มวุ่นวายขึ้นเมื่อจูดี้พบ เศษหนังงูลอก ขณะปฏิบัติการ เธอเริ่มสงสัยว่าอาจมีงูแอบเข้ามาในนครสัตว์ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมากเพราะนครสัตว์ถูกออกแบบมาให้มีแค่ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เท่านั้น ไม่มีสัตว์เลื้อยคลานหรือสัตว์น้ำเลย ด้วยเบาะแสต่างๆ จูดี้คิดว่างูตัวนั้นอาจจะปรากฏตัวใน งานเลี้ยงฉลองครบรอบ 100 ปี ของการก่อตั้งนครสัตว์ ที่จัดโดยตระกูลลิงซ์ผู้เป็นทายาทของ เอเบนีเซอร์ ลิงซ์ลีย์ ผู้ก่อตั้งนครสัตว์
ในงานเลี้ยงอันหรูหรา จูดี้และนิคได้พบกับ พอว์เบิร์ต ลิงซ์ (พากย์โดย แอนดี แซมเบิร์ก) สมาชิกตระกูลลิงซ์ที่ดูเก้งก้างแต่ใจดี และได้เห็นหนังสือโบราณอันมีค่าที่เป็นของบรรพบุรุษของตระกูล ซึ่งเป็นคนที่สร้างระบบทำให้แต่ละย่านของนครสัตว์มีสภาพอากาศที่เหมาะสมกับสัตว์ประเภทต่างๆ แต่แล้วหนังสือเล่มนั้นก็ถูกขโมยไปท่ามกลางงานเลี้ยง นำไปสู่การผจญภัยครั้งใหม่ของจูดี้และนิค
ตัวละครใหม่ที่โดดเด่นที่สุดคือ แกรี่ เดอ’สเนค งูหลุมพิษที่พากย์เสียงโดย เก๋ หุ่ย ควน (Ke Huy Quan) ผู้ชนะรางวัลออสการ์ แกรี่เป็นตัวละครที่น่าสนใจและมีมิติหลายด้าน เขาไม่ใช่แค่ผู้ร้ายธรรมดาๆ แต่มีเป้าหมายและแรงจูงใจที่ซับซ้อน การปรากฏตัวของเขาในนครสัตว์ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ ที่ถูกปกปิดและความยุติธรรมที่แท้จริง
อีกหนึ่งตัวละครที่น่าสนใจคือ นิบเบิลส์ (พากย์โดย ฟอร์จูน เฟมสเตอร์) บีเวอร์ผู้มีทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของนครสัตว์ เธอเป็นพอดคาสเตอร์ที่เชื่อว่ามีความลับมากมายถูกซ่อนไว้ และบทบาทของเธอช่วยให้จูดี้และนิคได้รู้ความจริงบางอย่างที่พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อน
นอกจากนี้ยังมี นายกเทศมนตรีไบรอัน วินด์แดนเซอร์ (พากย์โดย แพทริค วอร์เบอร์ตัน) ม้าที่เคยเป็นนักแสดงแล้วเข้าสู่วงการการเมือง ด้วยแผงคอหนาฟูสีบลอนด์สวยงาม เขาเหมือน ฟาบิโอ แห่งโลกม้า นายกฯ คนนี้มีบทบาทสำคัญในเรื่องราวและแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของการเมืองในนครสัตว์
การเดินทางของจูดี้และนิคพาพวกเขาไปยัง พื้นที่ใหม่ๆ ของนครสัตว์ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน รวมถึงทะเลทราย ภูเขาอัลไพน์ และที่สุดยอดที่สุดคือ พื้นที่ชายฝั่ง ที่มีสัตว์น้ำอาศัยอยู่ (และอย่าเรียกสิงโตทะเลว่าแมวน้ำนะ!) การออกแบบสภาพแวดล้อมเหล่านี้ทำอย่างพิถีพิถันและสวยงามมาก แต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของสัตว์ที่อาศัยอยู่ที่นั่น
จินนิเฟอร์ กู๊ดวิน กลับมาพากย์เสียง จูดี้ ฮอปส์ ได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย เธอถ่ายทอดความมุ่งมั่น ความกระตือรือร้น และความเปราะบางของจูดี้ได้อย่างสมจริง ในภาคนี้จูดี้โตขึ้นและต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ในการเป็นคู่หูและการยอมรับความแตกต่างของผู้อื่น กู๊ดวินทำให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ผ่านการพากย์เสียงที่ละเอียดอ่อน
เจสัน เบทแมน ในบท นิค ไวลด์ ยังคงมอบความเฉียบแหลมและอารมณ์ขันที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวละคร ในภาคนี้นิคต้องปรับตัวเข้ากับบทบาทใหม่ในฐานะตำรวจ และต้องเรียนรู้ที่จะไว้ใจผู้อื่นมากขึ้น เบทแมนถ่ายทอดการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะฉากที่นิคต้องเผชิญหน้ากับอดีตของตัวเองและตัดสินใจว่าเขาต้องการเป็นใครจริงๆ
เก๋ หุ่ย ควน ผู้ชนะรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจาก Everything Everywhere All at Once ให้เสียงแก่ แกรี่ เดอ’สเนค ได้อย่างโดดเด่นมาก ควนมอบความลึกซึ้งและเสน่ห์ให้กับตัวละครที่อาจถูกมองว่าเป็นแค่ผู้ร้ายธรรมดาๆ แต่แกรี่มีมิติมากกว่านั้น เขาเป็นตัวแทนของผู้ที่ถูกกีดกันออกจากสังคม และการแสดงของควนทำให้เราเข้าใจและเห็นใจเขา
ควินตา บรันสัน ดาราจากซีรีส์ Abbott Elementary ให้เสียงแก่ ดร.ฟัซบี้ จิตแพทย์ควอกก้าตัวน้อยที่น่ารักและฉลาด บรันสันมอบความอบอุ่นและภูมิปัญญาให้กับตัวละคร ทำให้ฉากบำบัดระหว่างจูดี้และนิคดูสนุกและมีความหมาย ฟัซบี้ช่วยให้ทั้งคู่เข้าใจตัวเองและกันและกันมากขึ้น
แอนดี แซมเบิร์ก จาก Brooklyn Nine-Nine ให้เสียง พอว์เบิร์ต ลิงซ์ สมาชิกตระกูลลิงซ์ผู้เป็นมิตรแต่เก้งก้าง แซมเบิร์กนำเสน่ห์ตลกขบขันที่เป็นเอกลักษณ์ของเขามาสู่ตัวละคร ทำให้พอว์เบิร์ตเป็นตัวละครที่น่าจดจำและน่ารัก
ฟอร์จูน เฟมสเตอร์ ให้เสียงแก่ นิบเบิลส์ พอดคาสเตอร์ทฤษฎีสมคบคิดได้อย่างสนุกสนาน เฟมสเตอร์มอบพลังและความกระตือรือร้นให้กับตัวละคร ทำให้นิบเบิลส์เป็นตัวละครที่สนุกและเพิ่มมิติตลกให้กับเรื่อง
แพทริค วอร์เบอร์ตัน นักแสดงมากประสบการณ์ให้เสียงแก่ นายกเทศมนตรีไบรอัน วินด์แดนเซอร์ ด้วยน้ำเสียงที่มีเสน่ห์และน่าเชื่อถือ วอร์เบอร์ตันทำให้นายกฯ คนนี้ดูเหมือนคนที่น่าไว้ใจ แต่ก็มีความซับซ้อนที่น่าสนใจ
นักแสดงสมทบจากภาคแรกก็กลับมาให้เสียงอีกครั้ง รวมถึง อิดริส เอลบา ในบทหัวหน้าโบโก้, เจนนี่ สเลท ในบทเบลล์เวเธอร์ แกะผู้ร้ายจากภาคแรก, และที่พลาดไม่ได้คือ เรย์มอนด์ เพิร์ซี่ ในบทแฟลช ตัวเกียจคร้านช้าสุดๆ จากกรมการขนส่ง ที่มีฉากสั้นๆ แต่ฮาสุดๆ และยังมี ชากีรา ที่กลับมาให้เสียงแก่ กาเซล ซูเปอร์สตาร์เจ้าของเพลงใหม่ในหนังเรื่องนี้

จาเรด บุช และ ไบรอัน ฮาเวิร์ด กลับมากำกับหนังเรื่องนี้อีกครั้ง และพวกเขาแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเข้าใจโลกของนครสัตว์อย่างลึกซึ้ง การกำกับในภาคนี้เน้นการสร้างโลกที่กว้างขึ้นและซับซ้อนมากขึ้น โดยยังคงรักษาเสน่ห์และอารมณ์ขันที่ทำให้ภาคแรกประสบความสำเร็จ
การแอนิเมชันในหนังเรื่องนี้อยู่ในระดับสูงสุดของเทคโนโลยีปัจจุบัน ทุกเส้นขนของตัวละครดูเป็นธรรมชาติและเคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหล การออกแบบสภาพแวดล้อมทุกพื้นที่มีรายละเอียดมากมาย ตั้งแต่ทะเลทรายที่แห้งแล้ง ไปจนถึงชายฝั่งที่เต็มไปด้วยน้ำและสัตว์ทะเล แสงและเงาถูกใช้อย่างชาญฉลาดเพื่อสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมในแต่ละฉาก
ฉากแอ็คชั่นในหนังเรื่องนี้ยิ่งใหญ่และตื่นเต้นมาก มีการไล่ล่าบนถนนที่เต็มไปด้วยรถยนต์ขนาดต่างๆ และที่โดดเด่นที่สุดคือฉากการเดินทางผ่าน ท่อ (Tube) ที่เต็มไปด้วยน้ำ ซึ่งไม่ใช่รถไฟใต้ดินแบบลอนดอน แต่เป็นท่อยาวหลายไมล์ที่สัตว์สามารถเดินทางผ่านน้ำได้ ฉากนี้ถูกออกแบบมาอย่างสร้างสรรค์และให้ความรู้สึกตื่นเต้นสุดขีด
ไมเคิล จิอาชชิโน (Michael Giacchino) ผู้แต่งเพลงประกอบจากภาคแรกกลับมาทำดนตรีประกอบอีกครั้ง จิอาชชิโนสร้างท่วงทำนองที่ทั้งคุ้นเคยและสดใหม่ โดยผสมผสานระหว่างธีมเพลงจากภาคแรกกับเพลงใหม่ที่สะท้อนการผจญภัยในพื้นที่ใหม่ๆ ดนตรีประกอบช่วยเพิ่มอารมณ์ความรู้สึกในทุกฉาก ตั้งแต่ความตื่นเต้นในฉากแอ็คชั่น ไปจนถึงความซาบซึ้งในช่วงเวลาที่อบอุ่นระหว่างจูดี้และนิค
เพลงใหม่ “Zoo” แต่งโดย ชากีรา (Shakira) และ เอ็ด ชีแรน (Ed Sheeran) เป็นเพลงที่มีจังหวะสนุกสนานและติดหู ชากีราร้องเพลงนี้ในบทกาเซลที่มีชุดใหม่สุดอลังการ เพลง “Zoo” ถูกใช้ในฉากสำคัญของหนังและช่วยเพิ่มพลังให้กับบรรยากาศ เป็นเพลงที่ฟังแล้วทำให้อยากลุกขึ้นมาเต้นตาม
Zootopia 2 สานต่อธีมเรื่องการยอมรับความแตกต่างจากภาคแรก แต่เจาะลึกมากขึ้นเกี่ยวกับ การกีดกันทางสังคม และประวัติศาสตร์ที่ถูกปกปิด หนังตั้งคำถามว่าทำไมนครสัตว์ที่อ้างว่าเป็นเมืองของสัตว์ทุกชนิดถึงไม่รวมสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์น้ำบางชนิด? อะไรคือเหตุผลที่แท้จริงเบื้องหลังการตัดสินใจนี้?
ผ่านการเดินทางของจูดี้และนิค เราได้เรียนรู้ว่าบางครั้งสังคมที่ดูเหมือนสมบูรณ์แบบก็สร้างขึ้นบนพื้นฐานของการกีดกันผู้อื่น และการยอมรับที่แท้จริงคือการเปิดประตูให้ทุกคนเข้ามา ไม่ใช่แค่พูดว่าทุกคนมีค่าเท่าเทียมกัน แต่ต้องทำจริงด้วยการสร้างพื้นที่ให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีศักดิ์ศรี
หนังยังพูดถึงความสำคัญของ มิตรภาพ และการทำงานเป็นทีม จูดี้และนิคต้องเรียนรู้ที่จะไว้ใจซึ่งกันและกันมากขึ้น และยอมรับว่าทุกคนมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน ความแตกต่างนี้เองที่ทำให้พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่ข้อบกพร่อง
อีกหนึ่งธีมที่น่าสนใจคือ ความยุติธรรมเชิงรื้อฟื้น (Restorative Justice) หนังแสดงให้เห็นว่าการแก้ปัญหาไม่ใช่แค่การลงโทษคนทำผิด แต่คือการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นและสร้างระบบที่ยุติธรรมกว่าเดิม จูดี้และนิคต้องเรียนรู้ว่าบางครั้งการเป็นตำรวจที่ดีไม่ใช่แค่การจับคนร้าย แต่คือการทำความเข้าใจว่าทำไมคนถึงกลายเป็นคนร้าย และช่วยสร้างสังคมที่ไม่มีใครต้องกลายเป็นคนร้ายอีก
การแอนิเมชันในหนังเรื่องนี้สวยงามสุดขีด ทุกรายละเอียดถูกทำมาอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่การเคลื่อนไหวของตัวละครที่ดูเป็นธรรมชาติ ไปจนถึงการออกแบบสภาพแวดล้อมที่มีชีวิตชีวา สีสันสดใสและความคมชัดของภาพทำให้ทุกฉากดูน่าตื่นตาตื่นใจ ฉากใต้น้ำและพื้นที่ชายฝั่งโดดเด่นเป็นพิเศษ ด้วยวิธีที่แสงถูกใช้เพื่อสร้างบรรยากาศใต้ทะเล
เรื่องราวมีความซับซ้อนและมีชั้นเชิงมากกว่าภาคแรก ไม่ใช่แค่เรื่องการจับคนร้ายธรรมดาๆ แต่เป็นการเจาะลึกประวัติศาสตร์ และโครงสร้างสังคมของนครสัตว์ การค้นพบว่ามีพื้นที่ที่ถูกซ่อนไว้และสัตว์บางชนิดถูกกีดกันนั้นทำให้เรื่องราวมีความน่าสนใจและกระตุ้นความคิด
ตัวละครใหม่ทุกตัวมีบทบาทที่ชัดเจนและน่าจดจำ โดยเฉพาะแกรี่ เดอ’สเนคที่เป็นตัวละครหลายมิติและน่าสนใจมาก ไม่ใช่แค่ผู้ร้ายเบื้องต้น แต่มีเรื่องราวและแรงจูงใจที่ซับซ้อน ดร.ฟัซบี้ก็เป็นการเพิ่มตัวละครที่น่ารักและมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจูดี้และนิค
อารมณ์ขันในหนังเรื่องนี้หลากหลายและเหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีมุกตลกจากการเล่นคำที่เกี่ยวกับสัตว์ (animal puns) การอ้างอิงวัฒนธรรมป๊อป และแม้กระทั่งการล้อเลียนบริการสตรีมมิงอย่าง EweTube และ HuluZoo ที่ให้ดูรายการอย่าง “Only Herders in the Building” (ล้อเลียน Only Murders in the Building) นอกจากนี้ยังมีการอ้างอิงถึงฉากที่น่ากลัวที่สุดใน The Shining อีกด้วย
ข้อความที่หนังต้องการสื่อสารเกี่ยวกับชุมชน การต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และการเปิดใจยอมรับผู้อื่นนั้นลึกซึ้งและเหมาะสมกับยุคสมัยปัจจุบัน หนังไม่ได้พูดถึงเรื่องเหล่านี้อย่างหนักหน่วง แต่สอดแทรกเข้าไปในเรื่องราวอย่างเป็นธรรมชาติ
แม้เรื่องราวจะน่าสนใจ แต่ก็มีความคาดเดาได้บ้าง โดยเฉพาะผู้ชมที่คุ้นเคยกับสูตรหนังแนวนี้จะสามารถเดาได้ว่าใครคือคนเบื้องหลังทั้งหมด และเรื่องราวจะจบลงอย่างไรภายในครึ่งชั่วโมงแรก บางคนอาจรู้สึกว่าหนังไม่มีความลึกลับมากพอเท่าที่ควร
ในบางฉากมีอารมณ์ขันมากเกินไป จนทำให้บางช่วงเวลาที่ควรจะจริงจังกลับกลายเป็นตลกเสียนิด ซึ่งอาจทำให้น้ำหนักทางอารมณ์ของฉากนั้นๆ ลดลง โดยเฉพาะในช่วงที่ควรจะเป็นฉากที่ตึงเครียด แต่กลับมีการแทรกมุกตลกเข้าไป
หนังอาจต้องการความลึกลับและความตึงเครียดมากกว่านี้ บางส่วนของเรื่องดูราบเรียบเกินไป และการไขคดีก็ไม่ได้ท้าทายมากนัก เมื่อเทียบกับภาคแรกที่มีการพลิกผันที่น่าประหลาดใจ ภาคสองอาจรู้สึกว่าปลอดภัยเกินไปสำหรับผู้ชมบางคน
การอ้างอิงวัฒนธรรมป๊อปมีมากมายจนในบางครั้งรู้สึกล้นเกินไป แม้จะสนุกสำหรับคนที่จับได้ แต่บางคนอาจรู้สึกว่ามันทำให้สูญเสียจังหวะของเรื่องราว และอาจทำให้หนังรู้สึกเหมือนพยายามดึงความสนใจของผู้ชมด้วยการอ้างอิงมากเกินไปแทนที่จะพึ่งเนื้อเรื่องของตัวเอง
ตัวละครบางตัวขาดการพัฒนาที่ลึกซึ้ง โดยเฉพาะตัวละครรอง บางตัวปรากฏขึ้นมาแล้วก็หายไปโดยไม่มีการพัฒนาที่เพียงพอ ทำให้รู้สึกว่าพวกเขาเป็นแค่เครื่องมือในการขับเคลื่อนเรื่อง ไม่ใช่ตัวละครที่มีชีวิตชีวาเหมือนตัวละครหลัก

Zootopia 2 เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2025 ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดวันขอบคุณพระเจ้า คาดการณ์ว่าจะทำรายได้มากกว่า 125 ล้านดอลลาร์ในช่วงห้าวันแรก และทั่วโลกอาจทำได้มากกว่า 270 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้เป็นการเปิดตัวช่วงวันขอบคุณพระเจ้าที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก Moana 2 ของปีที่แล้ว
จากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes หนังได้คะแนน 92% จากนักวิจารณ์ ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่สูงมาก แสดงให้เห็นว่านักวิจารณ์ส่วนใหญ่ชื่นชอบหนังเรื่องนี้ Metacritic ให้คะแนน 73 จาก 100 ซึ่งบ่งบอกว่า “ได้รับการวิจารณ์ในเชิงบวกโดยทั่วไป”
เนลล์ มินอว์ จาก RogerEbert.com ให้คะแนน 4 จาก 4 ดาว และเขียนว่า “Zootopia 2 สนุกสุดขีด ทั้งตื่นเต้น อบอุ่นใจ และเต็มไปด้วยจินตนาการเหมือนภาคแรกที่ชนะรางวัลออสการ์ และอาจจะตลกยิ่งกว่าด้วยซ้ำ” คำวิจารณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าหนังสามารถสานต่อความสำเร็จจากภาคแรกได้อย่างดี
หนังเปิดฉายไปแล้วในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงจีน เกาหลี อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย โดยในไทยเปิดฉายวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 การตอบรับจากผู้ชมทั่วโลกเป็นไปในทางบวก โดยเฉพาะครอบครัวที่พาเด็กๆ ไปดู ต่างชื่นชอบตัวละครและเรื่องราวที่สนุกสนาน
Zootopia 2 เป็นหนังแอนิเมชันที่ประสบความสำเร็จในการสานต่อเรื่องราวจากภาคแรก ด้วยการแอนิเมชันที่สวยงามระดับโลก เรื่องราวที่มีความซับซ้อนและความหมายลึกซึ้ง และตัวละครที่น่าจดจำ หนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นแค่ความบันเทิงสำหรับเด็ก แต่ยังมีข้อความที่สำคัญเกี่ยวกับการยอมรับความแตกต่างและการสร้างสังคมที่ยุติธรรมกว่า
การกลับมาของจูดี้และนิคในภาคนี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของตัวละคร ทั้งคู่ต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเป็นทีม การไว้ใจซึ่งกันและกัน และการเผชิญหน้ากับความจริงที่ไม่สวยงามเกี่ยวกับสังคมที่พวกเขาอาศัยอยู่ การเดินทางของพวกเขาทำให้เราได้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงคือการยอมรับจุดอ่อนของกันและกัน และช่วยเหลือกันผ่านพ้นอุปสรรค
สำหรับใครที่ชื่นชอบหนังแอนิเมชันดิสนีย์ หรือการ์ตูนดิสนีย์และพิกซาร์ หนังเรื่องนี้คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด เด็กๆ จะสนุกกับตัวละครสัตว์ที่น่ารักและอารมณ์ขันที่ตลกขบขัน ในขณะที่ผู้ใหญ่จะได้รับความบันเทิงจากการอ้างอิงวัฒนธรรมป๊อปและข้อความที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับสังคมและความยุติธรรม
แม้ว่าหนังจะมีจุดด้อยบางประการ เช่น ความคาดเดาได้ของเรื่องราวและการใช้อารมณ์ขันมากเกินไปในบางฉาก แต่จุดเด่นต่างๆ ที่หนังมีนั้นมากกว่าเสียเท่าตัว ภาพที่สวยงาม เรื่องราวที่มีความหมาย และการแสดงที่ยอดเยี่ยมทำให้ Zootopia 2 เป็นหนังที่คุ้มค่าแก่การรับชม
มาร่วมสนับสนุนหนังแอนิเมชันคุณภาพอย่าง Zootopia 2 กันเถอะ! พาครอบครัวไปดูในโรงภาพยนตร์และสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของนครสัตว์อีกครั้ง อย่าลืมมาแชร์ความคิดเห็นกันในคอมเมนต์ว่าชอบตัวละครตัวไหนที่สุด หรือคิดอย่างไรกับข้อความที่หนังต้องการสื่อสาร และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชื่นชอบหนังดิสนีย์ด้วยนะ!
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: นครสัตว์มหาสนุก 2
- ชื่อภาษาอังกฤษ: Zootopia 2
- ประเภท: แอนิเมชัน, ผจญภัย, ตลก, ครอบครัว
- วันที่ออกฉายในไทย: 27 พฤศจิกายน 2568
- นักแสดงพากย์เสียง: จินนิเฟอร์ กู๊ดวิน (Ginnifer Goodwin), เจสัน เบทแมน (Jason Bateman), เก๋ หุ่ย ควน (Ke Huy Quan), ควินตา บรันสัน (Quinta Brunson), ฟอร์จูน เฟมสเตอร์ (Fortune Feimster), แอนดี แซมเบิร์ก (Andy Samberg), แพทริค วอร์เบอร์ตัน (Patrick Warburton)
- ผู้กำกับ: จาเรด บุช (Jared Bush), ไบรอัน ฮาเวิร์ด (Byron Howard)
- ผู้อำนวยการสร้าง: อีเวตต์ เมอรีโน (Yvett Merino)
- ผู้แต่งเพลงประกอบ: ไมเคิล จิอาชชิโน (Michael Giacchino)
- ความยาว: 1 ชั่วโมง 48 นาที
- เรตติ้ง Rotten Tomatoes: 92%
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: โรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
กลับมาสนุกกว่าเดิม นครสัตว์ที่ใครๆ ก็รอคอย
บทภาพยนตร์ - 8.2
การแสดง - 8.8
โปรดักชัน - 9.2
ความบันเทิง - 9
ความคุ้มค่าในการรับชม - 8.7
8.8
Zootopia 2 กลับมาเต็มรูปแบบด้วยความสนุกสนานและข้อความที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าภาคแรก จูดี้และนิคในฐานะคู่หูตำรวจต้องเผชิญกับคดีใหม่ที่นำพาไปสู่ส่วนใหม่ของนครสัตว์ที่เราไม่เคยเห็น หนังมอบประสบการณ์ภาพที่สวยงาม เรื่องราวที่น่าติดตาม และตัวละครใหม่ที่โดดเด่น โดยเฉพาะแกรี่ งูจอมปริศนาที่พากย์โดยเก๋ หุ่ย ควน ที่ขโมยซีนไปทุกครั้งที่ปรากฏตัว เป็นหนังแอนิเมชันที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะสนุกไปพร้อมกันอย่างแน่นอน
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ทางรถไฟสายฝัน | Train Dreams (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Train-Dreams-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] The Family Plan 2 (2025) หนังแอ็คชั่นคอมเมดี้คริสต์มาส](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-The-Family-Plan-2-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] วันหนักของคนหน่วง | The Follies (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Las-Locuras.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] แชมเปญรัก ปัญหาร้าย | Champagne Problems (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Champagne-Problems-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ช่องว่างที่ขาดหาย สายใยที่ผูกพัน | The Son of a Thousand Men (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-The-Son-of-a-Thousand-Men-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] หวีดสุดขีด | Scream (1996)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Scream-1996.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ต้นฉบับรุ่งอรุณแห่งความตาย | Dawn of the Dead (1978)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/10/Review-Dawn-of-the-Dead-1978.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] คริสต์มาสป่วนรัก | A Merry Little Ex-Mas (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-A-Merry-Little-Ex-Mas-2025.webp)