
ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ (Leonardo DiCaprio) ถือเป็นหนึ่งในนักแสดงชายที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมากที่สุดในฮอลลีวูด ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบัน เขาสร้างผลงานหนังที่ทรงพลังและน่าจดจำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหนังแนวโรแมนติก ดราม่า แอ็คชั่น หรือทริลเลอร์ การแสดงของเขามักได้รับคำชมจากนักวิจารณ์และแฟนๆ ทั่วโลก จนในที่สุดก็คว้ารางวัล ออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมไปครองจากหนังเรื่อง The Revenant
สำหรับใครที่กำลังมองหา หนังลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ ที่ดีที่สุดเพื่อมาดูในช่วงสุดสัปดาห์ เราได้รวบรวม 10 หนังเด็ดที่ห้ามพลาดมาให้แล้ว แต่ละเรื่องมีความโดดเด่นและแสดงให้เห็นถึงฝีมือการแสดงที่หลากหลายของเขา ตั้งแต่หนุ่มรักใสๆ ไปจนถึงบทบาทที่ซับซ้อนและท้าทาย พร้อมแล้วเราไปดูกันเลยว่ามีหนังอะไรบ้าง!
1. Titanic (1997)

Titanic เป็นหนังรักโศกนาฏกรรมที่โด่งดังที่สุดเรื่องหนึ่งของโลก เมื่อ ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ รับบท แจ็ค ดอว์สัน ศิลปินหนุ่มผู้ยากจน และ เคท วินสเล็ต รับบท โรส ดีวิตต์ บูเคเตอร์ สาวน้อยชนชั้นสูงที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับเศรษฐีหนุ่ม ทั้งสองพบรักกันบนเรือไททานิกที่กำลังเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ความรักของพวกเขาเบ่งบานท่ามกลางความแตกต่างทางสังคม
แต่เรื่องราวดีๆ ก็ต้องจบลงด้วยโศกนาฏกรรม เมื่อเรือไททานิกชนกับภูเขาน้ำแข็งและจมลงในคืนที่หนาวเหน็บ แจ็กต้องเสียสละตัวเองเพื่อให้โรสรอดชีวิต Titanic ไม่เพียงแต่เป็นหนังที่มีฉากโรแมนติกสุดคลาสสิก แต่ยังเต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นและความหลอนที่ทำให้คนดูซาบซึ้งและจดจำไปตลอดชีวิต
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ไททานิก
- ประเภท: โรแมนติก, ดราม่า, ประวัติศาสตร์
- วันที่เข้าฉาย: 19 ธันวาคม 1997
- นักแสดงนำ: Leonardo DiCaprio, Kate Winslet
- ผู้กำกับ: James Cameron
- ระยะเวลา: 194 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 7.9/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: Disney+
2. Inception (2010)

Inception เป็นหนังไซไฟ-ทริลเลอร์สุดซับซ้อนที่ทำให้สมองของคนดูต้องทำงานหนัก ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ รับบท ดอม คอบบ์ โจรขโมยความคิดมืออาชีพที่สามารถเข้าไปในความฝันของคนอื่นเพื่อขโมยความลับ เขาได้รับมอบหมายภารกิจพิเศษที่ต้อง “ปลูกฝัง” ความคิดลงในใจเป้าหมาย แทนที่จะขโมยออกมา ดอมต้องรวมทีมผู้เชี่ยวชาญเพื่อปฏิบัติภารกิจที่เสี่ยงอันตรายนี้
หนังเรื่องนี้มีฉากแอ็คชั่นที่สร้างสรรค์และตระการตา ไม่ว่าจะเป็นฉากต่อสู้ในทางเดินโรงแรมที่ไร้แรงโน้มถ่วง หรือฉากเมืองที่พับงอได้ การเล่าเรื่องของ Inception มีหลายชั้นและซับซ้อน จนทำให้คนดูต้องคิดตามไปด้วยตลอดทั้งเรื่อง ตอนจบที่คาใจยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่จนถึงทุกวันนี้ว่าดอมกลับมาสู่โลกแห่งความจริงจริงๆ หรือไม่
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: จิตพิฆาตโลก
- ประเภท: ไซไฟ, ทริลเลอร์, แอ็คชั่น
- วันที่เข้าฉาย: 16 กรกฎาคม 2010
- นักแสดงนำ: Leonardo DiCaprio, Marion Cotillard, Tom Hardy
- ผู้กำกับ: Christopher Nolan
- ระยะเวลา: 148 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 8.8/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: HBO MAX
3. The Wolf of Wall Street (2013)

The Wolf of Wall Street เป็นหนังชีวประวัติของ จอร์แดน เบลฟอร์ต นายหน้าหุ้นวอลล์สตรีทที่รวยแบบไม่มีจริยธรรม ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ แสดงได้อย่างเหนือชั้นในบทนี้ สวมบทบาทเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูง โลภมาก และดำเนินชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยสุดเหวี่ยง จากการโกงหุ้นและล้มละลายเงินของนักลงทุนหลายล้านดอลลาร์ เขาใช้ชีวิตอย่างสุดเหวี่ยงด้วยยา เครื่องดื่ม และผู้หญิง
หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากที่ตลกขบขัน เกินเลย และแสดงให้เห็นถึงความเสื่อมทรามของวงการการเงิน การแสดงของดิแคพรีโอได้รับคำชมอย่างมาก โดยเฉพาะฉากสุนทรพจน์ที่สร้างแรงบันดาลใจแก่พนักงาน และฉากที่เขาเมาจัดจนเคลื่อนไหวตัวไม่ได้ The Wolf of Wall Street เป็นหนังที่แสดงให้เห็นด้านมืดของความโลภและความฟุ่มเฟือยได้อย่างชัดเจน
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: คนจะรวย ช่วยไม่ได้
- ประเภท: ชีวประวัติ, ดราม่า, คอมเมดี้
- วันที่เข้าฉาย: 25 ธันวาคม 2013
- นักแสดงนำ: Leonardo DiCaprio, Jonah Hill, Margot Robbie
- ผู้กำกับ: Martin Scorsese
- ระยะเวลา: 180 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 8.2/10
4. The Revenant (2015)

The Revenant เป็นหนังที่ทำให้ ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ คว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมไปครองในที่สุด เขารับบท ฮิวจ์ กลาส นักล่าสัตว์ที่ถูกหมีโจมตีอย่างรุนแรงและถูกทิ้งให้ตายโดยเพื่อนร่วมทีมของเขาเอง ท่ามกลางหิมะและความหนาวเหน็บ ฮิวจ์ต้องใช้ความพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อเอาชีวิตรอดและแก้แค้นคนที่ทรยศเขา
หนังเรื่องนี้ถ่ายทำในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายและใช้แสงธรรมชาติทั้งหมด ทำให้ภาพสวยงามแต่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ฉากต่อสู้กับหมีได้รับคำชมว่าสมจริงและน่าสะพรึงกลัวที่สุดฉากหนึ่งในประวัติศาสตร์หนัง การแสดงของดิแคพรีโอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความโกรธ และความมุ่งมั่น The Revenant เป็นมากกว่าหนังแอ็คชั่น แต่เป็นเรื่องราวของการอยู่รอดและการแก้แค้นที่หนักหน่วง
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เดอะ เรเวแนนท์ ต้องรอด
- ประเภท: ผจญภัย, ดราม่า, ทริลเลอร์
- วันที่เข้าฉาย: 25 ธันวาคม 2015
- นักแสดงนำ: Leonardo DiCaprio, Tom Hardy, Will Poulter
- ผู้กำกับ: Alejandro González Iñárritu
- ระยะเวลา: 156 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 8.0/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: Disney+
5. Django Unchained (2012)

Django Unchained เป็นหนังเวสเทิร์นสุดเท่ของ ควินติน ทาแรนติโน ที่ ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ รับบทวายร้าย คัลวิน แคนดี้ เจ้าของไร่ทาสผู้โหดเหี้ยมและชอบจัดให้ทาสต่อสู้กันจนตาย จางโก้ ทาสที่ได้รับอิสรภาพจากนักล่าเงินรางวัลชาวเยอรมัน ต้องแกล้งทำเป็นคนรับใช้เพื่อเข้าไปช่วยเหลือภรรยาของเขาจากไร่ของแคนดี้
การแสดงของดิแคพรีโอในบทนี้แตกต่างจากบทบาทอื่นๆ ของเขาอย่างมาก เขาแสดงเป็นคนที่มีเสน่ห์แต่โหดร้าย สนุกกับการทรมานคนอื่นและดูถูกคนผิวสี บทสนทนาที่ฉากโต๊ะอาหารเป็นหนึ่งในฉากที่น่าจดจำที่สุด Django Unchained เต็มไปด้วยความรุนแรงสไตล์ทาแรนติโน บทสนทนาที่เฉียบคม และการแก้แค้นที่สมใจ
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: จังโก้ โคตรคนแดนเถื่อน
- ประเภท: เวสเทิร์น, ดราม่า, แอ็คชั่น
- วันที่เข้าฉาย: 25 ธันวาคม 2012
- นักแสดงนำ: Jamie Foxx, Christoph Waltz, Leonardo DiCaprio
- ผู้กำกับ: Quentin Tarantino
- ระยะเวลา: 165 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 8.5/10
6. Shutter Island (2010)

Shutter Island เป็นหนังระทึกขวัญสุดลึกลับที่ทำให้คนดูเดาไม่ถึงจนถึงนาทีสุดท้าย ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ รับบท เท็ดดี้ แดเนียลส์ นักสืบรัฐบาลกลางที่เดินทางไปยังเกาะชัตเตอร์เพื่อสืบสวนคคดีผู้ป่วยหญิงหนึ่งที่หายตัวไปจากโรงพยาบาลจิตเวช ยิ่งเขาสืบสวนลึก เขาก็ยิ่งพบความลับที่น่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับเกาะแห่งนี้
แต่เรื่องราวไม่ได้เป็นเหมือนที่เห็น เมื่อความจริงถูกเปิดเผยในตอนท้าย คนดูจะต้องกลับไปตั้งคำถามกับทุกสิ่งที่เพิ่งดูมา การแสดงของดิแคพรีโอเต็มไปด้วยความกังวล ความสับสน และความสิ้นหวัง Shutter Island เป็นหนังที่ต้องดูอย่างตั้งใจและอาจต้องดูซ้ำเพื่อจับรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ทั้งหมด
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เกาะนรกซ่อนทมิฬ
- ประเภท: ทริลเลอร์, ลึกลับ, จิตวิทยา
- วันที่เข้าฉาย: 19 กุมภาพันธ์ 2010
- นักแสดงนำ: Leonardo DiCaprio, Mark Ruffalo, Ben Kingsley
- ผู้กำกับ: Martin Scorsese
- ระยะเวลา: 138 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 8.2/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: HBO MAX, MONOMAX
7. Catch Me If You Can (2002)

Catch Me If You Can เป็นหนังชีวประวัติของ แฟรงก์ อเบเกนล จูเนียร์ หนึ่งในมิจฉาชีพที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ รับบทแฟรงก์วัยรุ่นที่หนีออกจากบ้านและเริ่มปลอมตัวเป็นนักบินสายการบินแพนแอม หมอ และทนายความ พร้อมกับปลอมเช็คเงินหลายล้านดอลลาร์ เขาฉลาดและเจ้าเล่ห์จนเจ้าหน้าที่ FBI ตามไม่ทัน
หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ตลกขบขัน และความทะเยอทะยานของหนุ่มน้อยที่ต้องการหลบหนีจากความทุกข์ในครอบครัว ทอม แฮงค์ส รับบทเป็นคาร์ล แฮนราตตี้ เจ้าหน้าที่ FBI ผู้แสนดีที่ไล่ตามแฟรงก์ ความสัมพันธ์ระหว่างสองคนค่อยๆ พัฒนาไปเป็นความเคารพซึ่งกันและกัน Catch Me If You Can เป็นหนังที่สนุกสนาน ดูง่าย และมีเรื่องราวที่น่าทึ่งเพราะมันเกิดขึ้นจริง
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: จับให้ได้ถ้านายแน่จริง
- ประเภท: ชีวประวัติ, อาชญากรรม, ดราม่า
- วันที่เข้าฉาย: 25 ธันวาคม 2002
- นักแสดงนำ: Leonardo DiCaprio, Tom Hanks, Christopher Walken
- ผู้กำกับ: Steven Spielberg
- ระยะเวลา: 141 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 8.1/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: HBO MAX
8. The Departed (2006)

The Departed เป็นหนังแอ็คชั่น-ทริลเลอร์ที่ได้รับรางวัลออสการ์สาขาหนังยอดเยี่ยม ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ รับบท บิลลี่ คอสติแกน นายตำรวจสายลับที่แฝงตัวเข้าไปในแก๊งค์มาเฟียของบอสตัน ในขณะเดียวกัน แมตต์ เดม่อน รับบทเป็นสมาชิกแก๊งค์ที่แฝงตัวเข้ามาในกรมตำรวจ ทั้งสองฝ่ายต่างพยายามเปิดโปงสายลับของอีกฝ่าย
หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด การหักมุมที่ไม่คาดคิด และฉากแอ็คชั่นที่ดุเดือด การแสดงของดิแคพรีโอแสดงให้เห็นถึงความเครียดของคนที่ต้องใช้ชีวิตสองหน้า กลัวว่าจะถูกเปิดโปงได้ทุกเมื่อ The Departed เป็นหนังที่มีความซับซ้อน ไม่มีที่ว่างให้คนดูผ่อนคลาย และจบแบบที่คาดไม่ถึง
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ภารกิจโหด แฝงตัวโค่นเจ้าพ่อ
- ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, ทริลเลอร์
- วันที่เข้าฉาย: 6 ตุลาคม 2006
- นักแสดงนำ: Leonardo DiCaprio, Matt Damon, Jack Nicholson
- ผู้กำกับ: Martin Scorsese
- ระยะเวลา: 151 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 8.5/10
9. Once Upon a Time in Hollywood (2019)

Once Upon a Time in Hollywood เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวในยุคทองของฮอลลีวูดปี 1969 ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ รับบท ริก ดัลตัน นักแสดงซีรีส์เวสเทิร์นที่กำลังล้มเหลว และ แบรด พิตต์ รับบท คลิฟฟ์ บูธ สตั้นท์แมนและคนขับรถของเขา ทั้งสองพยายามหาทางกลับมาอีกครั้งในวงการบันเทิงที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป
หนังเรื่องนี้มีจังหวะช้า เน้นบรรยากาศและความคิดถึงยุคเก่า การแสดงของดิแคพรีโอเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ความไม่มั่นใจ และความพยายามที่จะยึดติดกับชื่อเสียงที่กำลังจางหาย ฉากจบที่ทาแรนติโนเขียนใหม่จากประวัติศาสตร์จริงทำให้หนังนี้มีความพิเศษและน่าจดจำ Once Upon a Time in Hollywood เป็นหนังสำหรับคนที่รักฮอลลีวูดและยุคทองของมัน
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: กาลครั้งหนึ่งใน…ฮอลลีวู้ด
- ประเภท: ดราม่า, คอมเมดี้
- วันที่เข้าฉาย: 26 กรกฎาคม 2019
- นักแสดงนำ: Leonardo DiCaprio, Brad Pitt, Margot Robbie
- ผู้กำกับ: Quentin Tarantino
- ระยะเวลา: 161 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 7.6/10
10. The Great Gatsby (2013)

The Great Gatsby เป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายคลาสสิกของ เอฟ. สก็อตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์ ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ รับบท เจย์ แกตสบี้ เศรษฐีผู้ลึกลับที่จัดงานปาร์ตี้อันหรูหราในคฤหาสน์ของเขาทุกคืน แต่ทุกสิ่งที่เขาทำคือเพื่อดึงดูดความสนใจของ เดซี่ บูคานัน ความรักในอดีตของเขาที่แต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว
หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความโอ่อ่าตระการตา สี สัน และความฟุ่มเฟือยของยุค 1920 แต่เบื้องหลังความหรูหราคือความเศร้าและความว่างเปล่าของชีวิต การแสดงของดิแคพรีโอแสดงให้เห็นถึงความโรแมนติก ความมุ่งมั่น และความสิ้นหวังของคนที่พยายามหาความรักที่หลุดมือไป The Great Gatsby เป็นหนังที่สวยงามตระการตาแต่เศร้าใจในเวลาเดียวกัน
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เดอะ เกรท แกตสบี้ รักเธอสุดที่รัก
- ประเภท: โรแมนติก, ดราม่า
- วันที่เข้าฉาย: 10 พฤษภาคม 2013
- นักแสดงนำ: Leonardo DiCaprio, Carey Mulligan, Tobey Maguire
- ผู้กำกับ: Baz Luhrmann
- ระยะเวลา: 143 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 7.2/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: HBO MAX
ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ (Leonardo DiCaprio) พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเรา ผ่านผลงานที่หลากหลายและทรงพลัง ตั้งแต่หนังรักโรแมนติกอมเศร้าอย่าง Titanic ไปจนถึงหนังแอ็คชั่นสุดโหดอย่าง The Revenant เขาสามารถแสดงได้ทุกบทบาท ไม่ว่าจะเป็นคนรักที่เสียสละ โจรขโมยความคิด นายหน้าหุ้นโลภ หรือนักล่าสัตว์ผู้อยู่รอด
ทั้ง 10 หนังที่เรานำเสนอนี้ล้วนแสดงให้เห็นถึงความสามารถและความหลากหลายในการแสดงของดิแคพรีโอ แต่ละเรื่องมีเสน่ห์และจุดเด่นที่แตกต่างกัน ทั้งหนังที่ได้รางวัลออสการ์ หนังที่ทำเงินสูงสุด และหนังที่ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ ไม่ว่าเราจะชอบหนังแนวไหน เราสามารถเลือกดู หนังลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ ที่เหมาะกับเราได้จากลิสต์นี้ เพราะแต่ละเรื่องล้วนคุ้มค่ากับเวลาของเราอย่างแน่นอน!