ในยุคที่ผู้คนต่างแสวงหาความสุขและความสำเร็จในชีวิต แต่กลับหลงลืมคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่รอบตัว นิทานชาดก : การเปลื้องตน เป็นอีกหนึ่งบทเรียนสอนใจที่มีคุณค่ายิ่ง เรื่องราวว่าด้วยพ่อค้าผู้ร่ำรวยที่ละทิ้งทุกอย่างเพื่อแสวงหาความสุขที่แท้จริง แต่กลับพบว่าความสุขนั้นอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด นิทานเรื่องนี้จะสอนให้เรารู้จักคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่และปล่อยวางความยึดติดทั้งปวง เพื่อที่จะพบความสุขที่แท้จริงในชีวิต
การเปลื้องตน
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้า ประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภประโยชน์การทำพลีกรรมอ้อนวอนแก่เทวดา เรื่องมีอยู่ว่า สมัยนั้น มนุษย์ส่วนมาก เมื่อจะไปค้าขายหรือทำงานต่างประเทศ มักจะฆ่าสัตว์ทำพลีกรรมแก่เทวดา ปรารถนาความสำเร็จประโยชน์โดยไม่ให้ขัดข้องอยู่เสมอๆ และเมื่อกลับมาถึงบ้านโดยความปลอดภัยแล้ว เข้าใจว่า เป็นผลที่เกิดจากอานุภาพของเทวดา จึงฆ่าสัตว์เป็นอันมากทำพลีกรรม เพื่อปลดเปลื้องการอ้อนวอนของตนนั้น พวกภิกษุเห็นเหตุการณ์เช่นนี้แล้ว จึงทูลถามพระพุทธองค์ว่า “ประโยชน์ของการอ้อนวอนและทำพลีกรรมนี้มีอยู่หรือ ?” พระพุทธองค์จึงได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า… กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในแคว้นกาสี มีพ่อค้าคนหนึ่ง เมื่อจะออกจากบ้านไปทำการค้าขาย ได้ไปบนบานศาลกล่าวแก่เทวดาที่ต้นไทร ใกล้ประตูบ้านว่า
“สาธุ…ทวยเทพทั้งหลาย หากข้าพเจ้าไปค้าขายได้กำไร กลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ข้าพเจ้าจักทำการฆ่าสัตว์ทำพลีกรรมบูชา”
หลายวันต่อมาเมื่อเขากลับมาถึงบ้านโดยไม่มีอันตรายแล้ว จึงได้ทำการฆ่าสัตว์เป็นจำนวนมาก เพื่อทำพลีกรรมเปลื้องคำอ้อนวอนนั้น รุกขเทวดาที่ต้นไทรนั้น จึงกล่าวคาถาว่า
“ถ้าท่านปรารถนาจะเปลื้องตนให้พ้น ท่านละโลกนี้ไปแล้วก็จะพ้นได้ ก็ท่านเปลื้องตนอยู่อย่างนี้ กลับจะติดหนักเข้า เพราะนักปราชญ์หาได้เปลื้องตน ด้วยอาการอย่างนี้ไม่ การเปลื้องตนอย่างนี้ เป็นเครื่องติดของคนพาล”
Advertisement
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
การทำพลีกรรมด้วยการฆ่าสัตว์บูชา ไม่มีประโยชน์