ภาพยนตร์บันเทิง

15 หนังไทยจากหนังสือนิยาย นิยายที่รักสู่จอภาพยนตร์!

หนังไทยที่สร้างจากหนังสือนิยายเป็นผลงานศิลปะที่น่าทึ่งที่ผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์ในการเขียนนิยายและความล้ำสมัยในโลกภาพยนตร์ได้อย่างลงตัว การสร้างภาพให้กับเรื่องราวที่เป็นที่นิยมและคาดหวังมากมายนี้ช่วยให้ผู้ชมได้สัมผัสและตื่นเต้นกับเรื่องราวที่ควรติดตาม ด้วยการนำเสนอผ่านทางภาพยนตร์ หนังไทยที่สร้างจากหนังสือนิยายเต็มไปด้วยองค์ประกอบที่น่าทึ่ง เช่น การแสดงที่ดีเยี่ยมจากนักแสดงชั้นนำ การกำกับที่ชัดเจน และสร้างความตื่นเต้นที่คาดไม่ถึงให้กับผู้ชม หนังไทยที่สร้างจากหนังสือนิยายเป็นผลงานที่ควรได้รับการยกย่องและความสนใจจากผู้ชมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้โอกาสแก่ตัวเองในการสัมผัสกับเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นและไม่เหมือนใครที่ผ่านการดัดแปลงมาในรูปแบบของภาพยนตร์

เพื่อนสนิท (2005)

เพื่อนสนิท

เรื่องย่อ

กว่า 1500 กิโลเมตร จากทิวเขาและไอหมอกในจังหวัดเชียงใหม่ สู่ไอน้ำเค็มของหมู่เกาะพะงัน จังหวัด สุราษฏ์ธานี ความรักของ ไข่ย้อย หนุ่มนักศึกษาศิลปะ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ที่เกิดขึ้นสองครั้งสองครากับ เพื่อนสองคน

ที่เชียงใหม่ ไข่ย้อย คือ หนุ่มเมืองกรุงฯ จากโรงเรียนชายล้วนที่แสนขี้อาย เขาไม่กล้าคุยกับผู้หญิง พูดตะกุกตะกักทุกครั้งที่มีสาว ๆ เข้ามาทัก เป็นเหตุให้ต้องคอยหลบเลี่ยงอยู่เสมอ จนกระทั่งหญิงสาวท่าทางสดใส กระฉับกระเฉงเกินมาตราฐานสาวเหนือทั่วไปเข้ามาสมัครเป็นเพื่อน เธอชื่อ ดากานดา ซึ่งสำหรับไข่ย้อย ช่างเป็นชื่อที่แปลก แต่มีเสน่ห์สมตัวเจ้าของเป็นที่สุด ไข่ย้อยแอบหลงรักดากานดา แต่ไม่เคยเอ่ยปาก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ขยับเข้าใกล้มากที่สุดที่คำว่า เพื่อนสนิท เพราะดากานดามีคนที่เธอรักซึ่ง ไม่ใช่เขา

ที่พะงัน ไข่ย้อย คือ หนุ่มศิลป์จากเชียงใหม่ ที่อุตส่าห์ดั้นด้นมาเป็นคนไข้ถึงสถานีอนามัยแห่งเดียวบนเกาะ ไข่ย้อย พลัดตกจากดาดฟ้าเรือขาหักจากการพยายามขึ้นไปเล่นบทพระเอกมิวสิกวิดีโอ ท่ามกลางคนแปลกถิ่นหน้าเข้ม พูดจาเร็วปรื๋อ ไข่ย้อยได้ พยาบาลสาวตาโต ยิ้มเก่งเป็นคนคอยดูแล เธอชื่อ นุ้ย ซึ่งสำหรับไข่ย้อย รอยไมตรีที่เธอจ่ายให้เขาบ่อยกว่าจ่ายยา ทำให้เขาสมัครเป็นคนไข้ไม่มีกำหนดหายอย่างเต็มใจ ไข่ย้อยรู้ว่านุ้ยมีใจให้เขา แต่เธอก็ไม่เคยเอ่ยปาก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ขยับเข้าใกล้มากที่สุดที่คำว่า เพื่อนสนิท บางทีเธอคงรู้ว่า เขามีคนที่รักซึ่ง ไม่ใช่เธอ

ความรักของคนสามคน เกิดขึ้น สองสถานที่ สองเวลา ความรักของคนคู่ใดจะก้าวพ้นคำว่า เพื่อนสนิท ความรักของไข่ย้อย จะจบลงที่ไหน ภูเขา หรือ ทะเล

หมานคร (2004)

หมานคร

เรื่องย่อ

ป๊อด (มหาสมุทร บุณยรักษ์) เป็นชายผู้ไม่มีความฝัน เขาเป็นคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานเป็นคนงานในโรงงานปลากระป๋องที่กรุงเทพฯ วันหนึ่งเขาเผลอตัดนิ้วตัวเองใส่ไปในกระป๋อง ป๊อด เที่ยวตามหานิ้วของเขาไปทั่วทุกห้างสรรพสินค้า จนพบ ก่อนจะตัดสินใจลาออกจากงานไปเป็น รปภ. ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ที่นี่เองเขาได้พบกับ จิน (แสงทอง เกตุอู่ทอง)

จิน เป็นแม่บ้านทำความสะอาดที่ชอบถูพื้นเป็นชีวิตจิตใจ ป๊อด แอบชอบ จิน และสังเกตว่านอกจากชอบถูพื้นแล้ว จิน ยังชอบถือหนังสือปกสีขาวเล่มเล็ก ๆ ที่เธออ่านไม่ออกติดตัวตลอดเวลา จิน ต่างกับ ป๊อด เพราะ จิน มี ความฝัน เธอฝันว่าวันหนึ่งเธอจะอ่านหนังสือเล่มนั้นออก และชีวิตของเธอก็จะเปลี่ยนไป ป๊อด พยายามเอาใจ จิน ด้วยการลาออกไปขับแท็กซี่ เพื่อที่จะได้มีรถมารับส่ง จิน ทุกวัน แต่ จิน ก็ไม่เคยสนใจ ป๊อด เลย เพราะ จิน เอาแต่วิ่งไล่ตามความฝัน จนวันหนึ่งชีวิตของ จิน ก็เปลี่ยนไปจริง ๆ เมื่อจินได้พบกับ ปีเตอร์ (ชัค สตีเฟ่นส์) ฝรั่งนักประท้วงเพื่อสิ่งแวดล้อม จิน สนใจ ปีเตอร์ เพราะเขามีหนังสือปกสีขาวเล่มเดียวกับเธอ

ด้วยความอยากรู้ความหมายในหนังสือเล่มนั้น ทำให้ จิน ลาออกจากงานไปตามหา ปีเตอร์ และกลายเป็นพวกประท้วงเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วย จิน ยังเที่ยวเก็บพลาสติกที่ใช้แล้วมาเก็บไว้ในบ้าน จนมันกลายเป็นภูเขาพลาสติกลูกใหญ่มหึมา ป๊อด เศร้าใจที่ จิน เปลี่ยนไป แต่ ป๊อด ก็ยังรัก จิน และมารอ จิน ที่ภูเขาพลาสติกทุกวัน แต่ จิน ก็ไม่เคยกลับมาเลย

และแล้วหลังจากตามหามานาน จิน ก็ได้พบกับ ปีเตอร์ อีกครั้ง และได้รู้ความจริงในหนังสือปกสีขาวที่ทำให้ความฝันของเธอต้องพังทลายลง ด้วยความผิดหวัง จิน เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างรวดเร็ว และหนีหายไปจากชีวิต ป๊อด โดยบอก ป๊อด แต่เพียงว่า จิน อยากอยู่ห่าง ๆ ป๊อด สักพัก ป๊อด จึงกลับบ้านนอกไปด้วยความเศร้าใจ ในที่สุด ป๊อด ก็ทนคิดถึง จิน ไม่ไหว ป๊อด จึงตัดสินใจกลับมาตามหา จิน ที่กรุงเทพฯ เพื่อจะบอก จิน ว่า จิน จะไม่รัก ป๊อด ก็ได้ แต่อย่าให้ ป๊อด อยู่ห่าง ๆ จิน อีกเลย เพราะทำให้ป๊อดยิ่งคิดถึง จิน มากขึ้น ความรักของ ป๊อด จะเป็นอย่างไรต่อไป และ จิน จะค้นพบสิ่งที่เธอพยายามตามหาหรือไม่

หนูหิ่น เดอะมูฟวี่ (2006)

หนูหิ่น เดอะมูฟวี่

เรื่องย่อ

ว่ากันว่าถ้าเอ่ยชื่อ หนูหิ่น เด็กสาวอารมณ์ดี๊ดี เจ้าของผมทรงม้าเหี้ยน สวมเสื้อคอกระเช้า นุ่งผ้าซิ่น รับรองว่าไม่มีใครในหมู่บ้านโนนหินแห่ อ.ตระการพืชพล จังหวัดอุบลราชธานี ที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวีรกรรมเด็ดอันเกิดจากความคิดใสซื่อผสมปนเปเข้ากับความซนที่ไม่มีขีดจำกัด ทำให้พี่น้องชาวบ้านต่างอิดหนาระอาใจไปกับหนูหิ่นไปตาม ๆ กัน แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เมื่อย่างเข้าหน้าแล้ง บ้านนาขัดสน พ่อก็มาเจ็บ ๆ ออด ๆ หนูเหี้ยนน้องสาวกำลังจะเปิดเทอม ในฐานะพี่สาวคนโต หนูหิ่นตัดสินใจประกาศตัวอย่างชัดเจนว่า “หนูหิ่นนี่แหละจะเข้ามาเฮ็ดการเฮ็ดงานที่ กรุงเทพเอง อีพ่ออีแม่บ่ต้องเป็นห่วง” โดยหวังว่าตนเองจะเป็นเสาหลักของบ้าน เพียงแต่ว่าหลายคนในหมู่บ้านต่างเห็นพ้องต้องกันว่าหนูหิ่นจะเข้ามาก่อวีรกรรมความวุ่นวายในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพเสียมากกว่า

ณ สำนักจัดหางาน ความฝันอันสวยหรูของหนูหิ่นกับชีวิตการเป็นสาวโรงงานต้องพังพินาศลง เมื่อสาวกรุงเทพหุ่นดีที่ใครเห็นก็ต้องเหลียวหลังคอเคล็ด เดินผ่านเข้ามาในชีวิตของหนูหิ่น พร้อมยื่นตำแหน่งงานที่ท้าทายความสามารถของหนูหิ่นยิ่งกว่าการเป็นสาวโรงงานกับดักหนูเสียอีก แต่หิ่นรู้ดีเด้อคะว่า “ตำแหน่งผู้จัดการบ้าน” ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ จึงยื่นข้อเสนอกลับไปว่า เงินเดือนสวัสดิการพร้อม 1,500 บาทขาดตัว และบ่รับงานหลัง 2 ทุ่มครึ่งเพราะหนูหิ่นติดภารกิจสำคัญ คุณมิลค์ที่แปลว่านม (คนอะไรชื่อสมตัวดีแท้) แกก็ดีใจหายรับเงื่อนไขทุกประการ

หนูหิ่นลืมบอกไปเด้อคะ เจ้านายคนสวยที่รับหนูหิ่นเข้าเฮ็ดงาน แกชื่อว่า “คุณมิลค์” คนกรุงเทพชื่อแปลกแท้เนาะแปลว่า “นม” สมตัวหลาย ในบ้านใหญ่หลังโตสมฐานะคนอันจะกินหลังนี้ยังมีสมาชิกในบ้านอย่างอีพ่อ อีแม่ และ “คุณส้มโอ” พี่สาวที่หุ่นสบึม หน้าตาสวยไม่แพ้คุณมิลค์ แต่แกชอบออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ ไปไหนมาไหนห่วงสวย ต้องดูกระจกตลอด นอกจากนี้หนูหิ่นยังได้พบหนุ่มคนสวนที่บ้านข้างๆและตกหลุมรักในความหล่อเข้าเต็มเปา แต่ในเวลาต่อมาก็ต้อง อกหัก เมื่อพบความจริงว่า ที่แท้หนุ่มคนนั้นคือ คุณทอง ลูกชายคนเล็กของบ้านข้าง ๆ ตะหาก ยังดีที่ว่าทั้งคุณทอง และคุณมิลค์ แกดูสนใจกันอยู่ ถ้าเป็นคนอื่นหนูหิ่น บ่ยอมเดะคะ

เผลอแพล่บเดียวหนูหิ่นก็มาทำงานที่บ้านคุณมิลค์ได้ร่วมปีแล้ว หนูหิ่นยุทั้งมิลค์และส้มโอให้สมัครประกวดซุปเปอร์โมเดลค้นหานางแบบหน้าใหม่ที่จัดโดย โซเนีย ยอดนางแบบของไทย แต่ทั้งคู่กลับไม่สนใจ หนูหิ่นเลยวางแผนสมัครให้ทั้งคู่แทน ที่นี่ถ้าคุณมิลค์ชนะประกวด จนโด่งดังเป็นดารา ตัวเองจะได้พลอยฟ้าพลอยฝนไปกับเค้าด้วย

ไม่มีใครรู้ว่า การเข้าประกวดนางแบบครั้งนี้จะนำมาซึ่งเหตุการณ์ตื่นเต้น หวาดเสียว เสี่ยงชีวิต จนเป็นเรื่องราวใหญ่โตอย่างที่ที่คุณมิลค์ คุณส้มโอ รวมทั้งคุณทองเองก็บ่เคยนึกมาก่อน นี่หนูหิ่นนึกถึงยังใจหายอยู่เลยเด้อคะ แต่ถึงยังไงผู้จัดการบ้านอย่างหนูหิ่นก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดปกป้องดูแลเจ้านายน้อยบ่ให้มีแมลงวันสักตัวเข้ามาโฉบไปโฉบมาถูกตัวคุณมิลค์กับคุณส้มโอได้เลยถึงแม้ว่าจะต้องเอาชีวิตของหนูหิ่นไปแลกก็ยอม นอกจากนี้เผลอ ๆ หนูหิ่นอาจจะได้มีโอกาสติดสอยห้อยตามคุณมิลค์ คุณส้มโอไปเดินแบบหรืออาจจะถูกฝรั่งแมวมองทาบทามไปขึ้นแคทวงแคทวอล์คกะเขาด้วยเดะคะ งานนี้มีคนออกแบบเสื้อผ้าที่เรียกว่าดีไซเนอร์จากเมืองนอกชื่อจิวานนี่มาร่วมงานด้วย ยังไงก็ฝากบอกพี่ป้าน้าอาทั้งหลายมาช่วยให้กำลังใจหนูหิ่นด้วยเด้อคะเด้อ

13 เกมสยอง (2006)

13 เกมสยอง

เรื่องย่อ

13 Beloved คือ โอกาส หรือ ทางเลือก ที่ถูกเปิดให้กับใครบางคนที่ได้รับการคัดเลือกว่า เหมาะสม หรือ คู่ควรเท่านั้น ว่ากันว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเดินเข้าสู่ 13 Beloved ได้ วิธีการนะเหรอ ไม่ต้องหาให้เสียเวลา เพราะเมื่อถึงเวลามันจะเลือกคุณเอง

ดูเหมือนว่าสถานการณ์รอบตัวในชีวิตของ ภูชิต (น้อย วงพรู) เซลล์แมนขายเครื่องดนตรีกำลังเดินทางมาถึงทางตันของชีวิตแล้วจริง ๆ เมื่อจุดจบในหน้าที่การงานกำลังจะถูกหยิบยื่นโดยเจ้านายของเขาโทษฐานที่ไม่สามารถทำยอดขายทะลุเป้าได้ หนำซ้ำคนรักก็ทิ้งไปมีคนใหม่ หนี้สินล้นตัวจากเงินกู้ในฐานะลูกที่ดีที่เข้ามาทำงานในเมืองใหญ่ต้องรับผิดชอบส่งเสียน้องสาววัยเรียนและแม่ที่ต้องเลี้ยงดูเขาและน้องเพียงลำพังตั้งแต่เล็ก เริ่มออกดอกออกผลกลืนกินชีวิตเขาเข้าเต็มที แม้แต่รถยนต์ที่ขาดส่งไป 3 เดือนก็ยังถูกยึดไปต่อหน้าต่อตา

แต่แล้วโอกาสสุดท้ายในชีวิตก็ถูกหยิบยื่นให้ตรงหน้าโดยที่เขาเองก็ไม่คาดคิด ในฐานะ ผู้ถูกเลือก เมื่อโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เสียงลึกลับจากปลายสายดึงเขาเข้าสู่ 13 Beloved เกมท้าทายชีวิตที่มีโจทย์ 13 ข้อให้เขาค้นหาคำตอบ และเล่น โดยมีผลตอบแทนที่ดึงดูดใจ คือเมื่อใดก็ตามที่เขาสามารถผ่านโจทย์แต่ละข้อมูลค่าของเงินสะสมก็พร้อมที่จะทวีคูณขึ้นไปเรื่อย ๆ จะถูกส่งเข้าบัญชีธนาคารที่เขาสามารถตรวจสอบได้ทันที และถ้าเขาสามารถทำได้ครบทั้ง 13 ข้อยอดเงินสะสมที่มีตัวเลขสูงถึง 100 ล้านบาท จะเป็นของเขาทันที นี่คือผลตอบแทนในฐานะผู้พิชิตที่อุตสาห์ร่วมบากบั่นในฐานะผู้ร่วมสนุกในเกม โดยมีเงื่อนไขที่ว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาหยุดเล่นเงินสะสมทั้งหมดจะถูกยกเลิก หากบอกต่อให้คนอื่นรู้เกมถือว่าเป็นโมฆะ และหากพยายามติดต่อกลับหมายเลขดังกล่าวถือว่าเกมสิ้นสุด เพียงทว่าการเล่นเกมดังกล่าวของเขากลับปลุกอดีตที่หลับใหลให้มาบรรจบปัจจุบันขึ้นอีกครั้ง แน่นอนว่าพร้อมที่จะส่งผลต่ออนาคตที่เกิดจากการ เลือก และ ตัดสินใจ เดินบนเส้นทางนี้ของเขาเอง ถึงแม้ว่ามันจะเดิมพันด้วยชีวิตของเขาและคนรอบข้างก็ตาม

สี่แพร่ง (2008)

สี่แพร่ง

เรื่องย่อ

ความกลัวมีหลายรูปแบบ.. กลัวเมื่อได้รับข้อความจาก คนตาย.. กลัวเมื่อต้องโดน คนตาย เอาคืน.. กลัวเมื่อต้องนอนติดกับ คนตาย และกลัวเมื่อต้องร่วมเดินทางไปกับ ศพ คุณจะทำอย่างไร?! เมื่อความกลัว จู่โจมจากทุกทาง!!!

เหงา เป็นความเหมือนจริง เป็นความน่ากลัวของคนเมือง ที่ถึงแม้จะมีแสงสีมีความวุ่นวายอย่างไร แต่ก็ยังเกิดความน่ากลัวขึ้นจนคุณสัมผัสได้ ไม่มีใครปฏิเสธว่าการมีมือถือ หรือการส่ง SMS เป็นปัจจัยที่ 5 ของเราไปแล้ว และอะไรจะเกิดขึ้นถ้ามีหญิงสาวคนหนึ่ง มีความจำเป็นต้องอาศัยอยู่คนเดียวในห้องแคบ ๆ แล้วได้รับการติดต่อผ่าน SMS จากคนแปลกหน้า โดยที่เธอไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเค้าเป็นใคร มาจากไหน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดในห้องของเธอ

ยันต์สั่งตาย เรื่องราวของการแก้แค้น การเอาคืนของคนที่มีวิชาอาคม เป็นการเอาคืนโดยการเล่นของอย่างหนึ่งในรูปแบบของยันต์ ที่เรียกว่า ยันต์สั่งตาย เพื่อมาไล่ล่าแก้แค้นแทน แต่สุดท้ายหนังต้องการจะบอกว่าการแก้แค้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะมันจะไม่มีวันสิ้นสุด ไม่มีวันสงบสุข!

คนกลาง ว่าด้วยเรื่องของกลุ่มเพื่อน 4 คนที่ไปเที่ยวป่าด้วยกันและทำในสิ่งที่ถ้าใครได้ดูหนังผีจะไม่ทำกัน คือเด็กกลุ่มนี้ไปเล่าเรื่องผีกันในป่าว่าเวลามาเที่ยวป่าต้องไม่นอนริมสุด เพราะจะโดนผีเล่นงาน แล้วพอตอนนอนจริง ๆ ทุกคนก็ต่างแย่งกันนอนตรงกลางกันหมด แต่แล้วจะทำอย่างไรเมื่อคนที่นอนตรงกลางกลับเป็นคนที่โดนผีหลอกคนแรก!

Last Fright เรื่องราวของแอร์โฮสเตสคนหนึ่งที่ต้องเดินทางไปกับผู้โดยสารวีไอพีที่เป็นเจ้าหญิงจากต่างประเทศ ที่เมื่อได้ขึ้นไปรับใช้บนเครื่องแล้วรู้สึกว่าเจ้าหญิงเอาแต่ใจและค่อนข้างโหดร้ายกับเธอตลอดทั้งไฟลท์ แต่เรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหญิงเกิดสิ้นพระชนม์ เลยต้องขนศพเจ้าหญิงกับประเทศ แอร์โฮสเตสคนนี้เลยต้องเดินทางไปกับศพด้วย แล้วเรื่องสยองและน่ากลัวต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นบนเครื่องตลอดการเดินทาง

ขุนแผน (2002)

ขุนแผน

เรื่องย่อ

เรื่องราวโศกนาฎกรรมความรัก ก่อกำเนิดจากนักรบผู้อหังการนาม ขุนแผน ผู้เป็นทั้งนักรบ นักรัก และจอมขมังเวทย์ เดิมขุนแผนนั้นมีนามว่า พลายแก้ว (รับบทโดย ด.ช.ณภัทร เสี้ยนสลาย) เป็นบุตรชายคนเดียวของ ขุนไกรพลพ่าย (รับบทโดย ณัฐ เกษานนท์) ทหารเอกหน่วยหน้า ประจำกองทะลวงฟัน ผู้มากด้วยคาถาและฝีมือรบ ชีวิตนี้มอบให้เป็นข้าแผ่นดิน ต่อองค์กษัตริย์นาม พระพันวสา (รับบทโดย ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง)

จนอาเพศก่อเกิดชะตากรรมของชายผู้นี้ในวัยเยาว์ เมื่อพระพันวสากริ้ว ประกาศลงอาญาให้ตัดหัวขุนไกร เนื่องจากฝูงควายป่าที่ขุนไกรต้อน เกิดเตลิดเข้าหาพระพันวสา… พลายแก้วกับขุนช้าง (รับบทโดย ด.ช.วัฒนา รอดเลี้ยง) และนางพิมพิลาไลย (รับบทโดย ด.ญ.ชนกานต์ พิพัฒน์วุฒิธร) กลับเล่นพิเรน ผิดวิสัยเด็กเมื่อไอ้ช้าง เล่นเป็นผัวพิมพิลาไลย แต่พิมกลับนัดแนะ ให้เจ้าพลายแก้วมาชิงตัว เหตุนี้ไอ้ช้างและพลายแก้ววิวาทกันโกลาหล แต่นางพิมกลับถูกลงหวายเฆี่ยนตี ด้วยว่าเป็นหญิง กลับมาเล่นเรื่องน่าอับอาย

เด็กน้อยพลายแก้ว แอบตามพ่อไปดูเขาต้อนควาย กลับต้องเห็นภาพผู้เป็นบิดา ถูกลงทัณฑ์ให้บั่นหัว ข้างนางทองประศรี (รับบทโดย ศศิพิณ ศาสตร์สมบูรณ์) เมียขุนไกรรู้ความ ก็พาลูกระเห็จหนีตาย ไปหาญาติที่เมืองกาญจนบุรี ให้เจ้าพลายแก้วบวชเรียนเป็นเณรเสียกับท่านสมภารบุญ วัดสัมใหญ่

เติบใหญ่ท่านสมภารบุญหมดภูมิจะสอนพลายแก้ว (รับบทโดย เอกพงษ์ ตันติพงษ์) ก็ส่งตัวมาเรียนกับขรัวมี (รับบทโดย พนม ศิริสุวรรณ) ที่วัดป่าเลไลย เมืองสุพรรณ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของขุนแผน และรักแรกก็ถือกำเนิดขึ้น เมื่อเณรแก้ว (รับบทโดย วัชระ ตังคะประเสริฐ) ได้พบหน้า นางพิมพิลาไลย (รับบทโดย บงกช คงมาลัย) อีกครั้ง ไม่นานเจ้าพลายแก้วก็ละผ้าเหลือง ได้เสียเป็นเมียผัวกับแม่พิม พลายแก้วชิงให้แม่สื่อมาขอ โดยอ้างว่าสองคนนั้นได้เสียกันแล้ว คืนวันส่งตัว พลายแก้วก็ได้เมียใหม่ชื่อ สายทอง (รับบทโดย พิมพรรณ ชลายนคุปต์) ผู้เป็นพี่เลี้ยงนางพิม โดยไม่รู้ว่านางพิมนั้นแอบเห็น

ขุนช้าง (รับบทโดย อภิชัย นิปัทธหัตถพงศ์) โกรธแค้นนัก ประจวบกับคราวนั้น มีเหตุเมืองเชียงใหม่กลับคิดก่อกบฎ ขุนช้างได้ทีหวังแย่งนางพิมกลับคืน จึงทูลพระพันวสา ให้พลายแก้วทำศึกในครั้งนี้ พลายแก้วจากไป ทิ้งไว้กับบาดแผลในใจนางพิม กับภาพที่เห็นผัวตัวนั้นสังวาสกับสายทอง ระหว่างพลายแก้วไปออกรบ นางพิมอันเป็นที่รัก จึงถูกขุนช้างพรากจาก เพราะใช้เล่ห์เหลี่ยม หลังจากถูกขุนช้างข่มเหง เมื่อพลายแก้วกลับมาจากรบที่เชียงทอง ได้ประทานนามเป็น ขุนแผน พร้อมพา ลาวทอง (รับบทโดย จิรภัทร์ วงศ์ไพศาลลักษณ์) ลูกสาวเจ้าเมืองจอมทองกลับมาด้วย ขุนแผนทราบเรื่องว่า นางพิมตกเป็นเมียขุนช้างก็โกรธแค้น ตราหน้าว่าเป็นวันทองสองผัว ก็คิดเกลียดชังเป็นการใหญ่ ทิ้งให้นางวันทองยิ่งตรอมใจจะผูกคอตาย แต่ขุนช้างช่วยมาได้ ในคืนนั้นขุนช้างเมา จึงใช้กำลังขืนใจนาง ขุนแผนคิดจะชิงวันทองคืนแต่ไม่สำเร็จ พระพันวสาทราบเรื่อง จึงสั่งให้เรียกทั้งคู่เข้าเฝ้า ให้รับราชการในวัง ให้ทั้งคู่ปรองดองกัน ขุนแผนคิดถึงนางลาวทองจนทนไม่ไหว หนีเวรกลับไปหา ขุนช้างจึงเข้าเท็จทูลว่า ขุนแผนคิดกบฎ จึงโดนเนรเทศ พร้อมยึดทรัพย์สินและนางลาวทองเข้าวัง

ขุนแผนเข้าป่า ตัดสินใจเปิดตำราของขุนไกร เข้าปลุกผีพรายในป่าช้า ตามหาดาบฟ้าฟื้น ม้าสีหมอก และกุมารทองเพื่อใช้เสริมบารมี ในระหว่างตามหาของวิเศษทั้งสามสิ่ง ขุนแผนได้พบรักกับนางบัวคลี่ (รับบทโดย พิลาสลักษณ์ เขียวโต) ในป่า กลับถูกหมื่นหาญ (รับบทโดย ภรัณ ปักษานนท์) หัวหน้าโจรซึ่งเป็นพ่อบัวคลี่หักหลัง เพื่อจะเอาตำราวิเศษและม้า ขุนแผนรู้ทันจึงหลอกให้บัวคลี่ยกลูกให้ และลงมือทำกุมารทองทันที

ขุนแผนนำของสามสิ่ง บุกคุ้มขุนช้างเพื่อชิงตัวนางวันทอง แค่เข้าห้องผิดไปพบ แก้วกิริยา (รับบทโดย ศุภักษร ไชยมงคล) ขุนแผนจึงให้เงินนางไว้ไถ่ตัว และไปชิงนางวันทองจนสำเร็จ พาหนีเข้าไปอยู่ในป่าจนนางตั้งท้อง ขุนช้างทราบว่าขุนแผนมีของดี จึงใช้เล่ห์ขอพระพันวสาไปจับนางทองประศรี แม่ของขุนแผนเป็นตัวประกัน ขุนแผนจึงจำต้องออกจากป่า เพราะกลัวแม่ลำบาก จนต้องติดคุกอยู่ 17 ปี จนพลายงามโตเป็นหนุ่ม ทั้งรูปงามทั้งเก่งไม่แพ้พ่อ เกิดศึกที่เชียงทองอีกครั้ง พลายงาม (รับบทโดย วุฒินันท์ ไหมกัน) จึงทูลขอออกรบ เนื่องด้วยพลายงามยังอ่อนประสบการณ์ จึงให้จมื่นศรี (รับบทโดย นิมิตร พิพิธกุล) ปล่อยขุนแผนออกมารบช่วยลูก พลายงามกือบพ่ายแพ้ให้แก่เจ้าเมืองเชียงใหม่ (รับบทโดย ทักษิณ บุญพงษา) แต่ขุนแผนมาช่วยไว้ทันจนชนะ เมื่อกลับมาจึงได้ความดีความชอบ พลายงามให้ขุนแผนไปรอที่ไร่ฝ้าย พลายงามไปลักตัวนางพิมจากขุนช้าง และเปิดเผยเรื่องที่ขุนช้าง เคยหลอกตนไปฆ่าที่กลางป่า ขุนช้างเลือดขึ้นหน้า รีบนำความขึ้นทูลพระพันวสา พระองค์จึงรับสั่งให้นำตัวนางพิมมาตัดสิน เพื่อถามว่านางต้องการอยู่กับใคร นางพิมเลือกไม่ได้ พระพันวสาจึงรับสั่งให้ประหาร

ขุนช้างเสียใจมาก ให้คนไปตามขุนแผนและพลายงามมาขอชีวิตแม่พิม ขุนแผนควบม้าสีหมอก มาจนถึงเข้าขวางดาบแรกไว้ทัน ขุนแผนขอให้นางหนีไปด้วยกัน แต่นางพิมไม่ยอม ขุนแผนจึงถามว่าไม่รักตนหรืออย่างไร แม่พิมจึงว่า คำพูดเพียงลมปาก จะว่าอย่างไรก็ได้ พูดไปแล้วขุนแผนจะเชื่อนางหรือ ที่ขุนแผนว่ารักนางจริง ยังไปมีผู้หญิงอื่นอีกมากมาย นางขอเลือกเองเป็นครั้งสุดท้าย และขออโหสิกรรมต่อกัน

พลายงามกลับมาทูลขอชีวิตแม่ กับพระพันวสาได้สำเร็จ แต่ก็ไม่ทันการณ์ ขุนช้างถึงกับเป็นบ้า สุดท้ายขุนแผนได้นางลาวทอง และแก้วกิริยาคืน ได้ครองเมืองกาญจนบุรี แม้ว่าขุนแผนจะมีลาภยศ และอำนาจบารมีมากมาย แต่หาได้มีความสุขไม่ ด้วยขาดคนที่ตนรักอย่างแท้จริง..

ไอ้ฟัก (2004)

ไอ้ฟัก

เรื่องย่อ

เมื่อ 30 ปี ก่อนที่หมู่บ้านธรรมะสว่าง หมู่บ้านเล็ก ๆ ในภาคกลางอันอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทย ที่ซึ่งศาสนา ประเพณี และวิถีชีวิตชาวบ้านผูกพันกันอย่างเหนียวแน่น ฟัก (ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) บวชเรียนตั้งแต่เด็ก และตั้งใจปวารณาตัวทั้งชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนา ชาวบ้านต่างหวังว่า เขาจะเป็นพระสงฆ์ที่น่าเคารพ เป็นที่เชิดหน้าชูตาของวัด แต่เมื่อย่างเข้าวัยหนุ่ม ฟัก กลับตัดสินใจขอลาสึกออกมา เพราะพ่อของเขาเริ่มไม่แข็งแรง จากนั้นเขาก็ถูกเกณฑ์ทหาร เมื่อเขากลับบ้านมา หลังปลดประจำการจากการเป็นทหาร เขาได้พบ สมทรง (บงกช คงมาลัย) หญิงสาวแปลกหน้าโดยบังเอิญ และรู้สึกเหมือนรักแรกพบ แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกกับ ฟัก เมื่อเขากลับบ้านเขาพบว่า สมทรง เป็นสาวที่ไม่เต็มเต็ง และยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเป็นเมียของพ่อเขาอีก และจู่ ๆ พ่อของเขาก็ตายจากไป ทิ้ง สมทรง ให้เป็นภาระของ ฟัก ที่ต้องดูแล

การใช้ชีวิตตามลำพังกับ สมทรง ฟัก ต้องต่อสู้อย่างหนัก กับความต้องการทั้งทางร่างกาย และทางหัวใจที่เขามีต่อเธอ แม้จะยากแต่เขาก็รับเลี้ยงดู และอยู่ร่วมกันกับเธอต่อไป เพราะเขาคิดว่าเป็นหน้าที่ที่พึงมีต่อมนุษย์ผู้อ่อนแอกว่า และที่สำคัญ เขาเองก็มีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตกับเธอ ชาวบ้านเริ่มจับตาพฤติกรรมของหนุ่มสาวคู่นี้มากขึ้น ในที่สุดชาวบ้านก็เชื่อแน่ว่า ฟัก กระทำผิดอย่างร้ายกาจ คือเอาเมียพ่อเป็นเมีย ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยล่วงเกินใด ๆ ทางกายต่อ สมทรง และเขาก็สาบานกับตัวเองว่า เขาไม่มีวันร่วมหลับนอนกับเธอเด็ดขาด

พฤติกรรมแปลก ๆ ของ สมทรง เช่น แก้ผ้าอาบน้ำไม่เป็นที่เป็นทาง ร้อนก็ถอดเสื้อผ้ากลางสวน โกรธก็เปิดผ้านุ่งโชว์ ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ จนถึงขั้นจะขับไล่เธอออกจากหมู่บ้าน ฟัก ต่อสู้กับชาวบ้านอย่างหนักเพื่อรักษา สมทรง ไว้ จนชาวบ้านหันมาเกลียด ฟัก และคิดว่าเขามัวเมาในกาม จนไม่รู้ผิดชอบชั่วดี นำความเสื่อมเสียมาสู่หมู่บ้าน ท่ามกลางกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของสังคม เส้นที่ขีดกั้นระหว่าง ดี – ชั่ว หรือ ถูก – ผิด ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกที่ ฟัก มีต่อ สมทรง การอยากปกป้องดูแลผู้หญิงไม่เต็มเต็งคนหนึ่ง กลายเป็นความผิดด้วยหรือ? คำพิพากษาเรื่องราวความรักอันบริสุทธิ์ ที่ถูกผลักดันให้กลับกลายเป็นเรื่องเศร้าสะเทือนใจของ ไอ้ฟัก

ความสุขของกะทิ (2009)

ความสุขของกะทิ

เรื่องย่อ

ไม่เคยมีใครพูดถึงแม่ กะทิ (ภัสสร คงมีสุข) เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ที่ต้องผ่านประสบการณ์การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด เมื่อ แม่ (รัชนก แสงชูโต) ต้องจากไปก่อนวัยอันควรด้วยโรคร้ายที่มิอาจรักษา กะทิต้องผ่านขั้นตอนความสุขและทุกข์ ความผูกพันและการพลัดพราก ความสมหวังและความสูญเสีย ที่มากเกินกว่าที่เด็กวัยเดียวกันนี้จะรับไหว

ถึงกระนั้น กะทิก็ได้เรียนรู้ผ่านสิ่งต่าง ๆ ใน ลิ้นชักแห่งความทรงจำ ที่แม่เตรียมไว้ให้ก่อนสิ้นลมหายใจว่า ความทุกข์จากการสูญเสียนั้นมิอาจพรากความสุขจากความรักและความผูกพันของแม่ที่มีต่อเธอได้

อดีตเหมือนเงา บางครั้งทอดนำทางอนาคต

เด็กน้อยเติบโตขึ้นจากประสบการณ์นี้ด้วยความเชื่อมั่นและกำลังใจในการดำรงชีวิตจากบุคคลใกล้ชิด…ผู้ที่เธอรักและรักเธอ

ไม่ว่าจะเป็น ตา (สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์) และ ยาย (จารุวรรณ ปัญโญภาส) ผู้ที่รักหลานกะทิดุจชีวิต, น้าฎา (เข็มอัปสร สิริสุขะ), น้ากันต์ (กฤษฎา สุโกศล แคลปป์), ลุงตอง (ไมเคิล เชาวนาศัย) และ พี่ทอง (นิธิศ โค้วสกุล) ที่ต่างเข้ามาสร้างสีสัน แบ่งปันความสุข และเติมเต็มชีวิตให้หนูน้อยกะทิรู้สึกว่า เธอไม่ได้ขาดอะไร และสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้เฉกเช่นเด็ก ๆ ในวัยเดียวกัน

ใครจะรู้ว่า แท้จริงแล้วในความโศกเศร้านี้ ก็มีความสุขจริงแท้อันยิ่งใหญ่ ที่ได้เบ่งบานในหัวใจของ เด็กหญิงกะทิ อยู่เช่นกัน ความสุขของคนรอบข้าง คือความสุขของเราด้วยความสุขแบ่งปันได้

มหา’ลัยเหมืองแร่ (2005)

มหาลัยเหมืองแร่

เรื่องย่อ

ปี พ.ศ. 2492 โชคชะตาของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ได้นำพาให้เขาต้องเดินทางข้ามฟาก จากโลกศิวิไลซ์ในเมืองหลวง ไปสู่อีกโลกหนึ่งอันไกลแสนไกล อาจินต์ ปัญจพรรค์ ในวัย 22 ปี คือเด็กหนุ่มคนนั้น เขาถูกรีไทร์จากคณะวิศวะฯ ปี 2 …นั่นเองเป็นจุดสิ้นสุด ของความเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย แต่ในขณะเดียวกัน มันคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปสู่การเรียนรู้ชีวิตจริง ที่ไม่สามารถเรียนรู้จากตำราเล่มไหน มันไม่ได้มีวางขายทั่วไปและหาซื้อได้ด้วยเงิน มันต้องแลกด้วยเวลาและหัวใจ …สู้ – ท้อแท้, สนุก – เศร้า, พบ – จาก…

อาจินต์ในเวลานั้น ขณะที่เขานั่งอยู่บนรถขนหมูที่วิ่งจากภูเก็ตไปพังงา ยังไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร ไม่รู้จักกระทั่งสถานที่ที่เขากำลังจะไป สำหรับเขา จ.พังงา อ.ตะกั่วทุ่ง ต.กระโสม เคยเป็นเพียงสถานที่อันไม่มีความสำคัญใดใด แม้เพียงจะจุดลงบนแผนที่ แต่ในวันนี้ มันกำลังจะกลายเป็นสถานดัดสันดาน ที่ถูกพ่อส่งให้ไปอยู่

อาจินต์มาถึงเหมืองกระโสม ที่นี่เขาได้พบและสัมภาษณ์งานกับ นายฝรั่ง (Anthony Howard Gould) และนายฝรั่งก็รับเขาเข้าทำงานในตำแหน่งที่นายฝรั่งเรียกว่าเป็น ให้กับแก นั่นหมายถึงการฝึกงาน การติดตามนายฝรั่ง และทำงานแทนคนงานที่ขาดงาน อาจินต์ภูมิใจกับงานที่ได้รับ และที่นี่ – วันนี้ – ชีวิตปี 1 ใน มหาลัย เหมืองแร่ ได้เริ่มขึ้นแล้ว…

เขาจะทำอย่างไรจึงจะเป็นน้องใหม่ที่ดีของที่นี่ได้ เขาจะทำอย่างไรจึงผ่านชีวิตในสถาบันแห่งนี้ได้ เหมืองกระโสม ทิน เดรดยิง อาจจะเป็นเพียงมหาลัยที่เขาได้ความภูมิใจแทนปริญญา หาได้มีไว้เพื่อความโก้หรือโอ้อวดกับใครไม่ ผิดไหมที่เขาจะภูมิใจกับเกียรติยศที่เขาขุดมันขึ้นมาด้วยตนเอง

ทวิภพ (2004)

ทวิภพ

เรื่องย่อ

บันทึกโบราณฉบับหนึ่งถูกค้นพบในคืนฟ้าคะนองที่ชานกรุงปารีสบันทึกภาษาฝรั่งเศสนี้ ถูกนำมาตรวจสอบยังซอร์บอนแห่งมหาวิทยาลัยปารีส มันคือ วัวอิยา บันทึกต้องห้ามที่เขียนขึ้นโดย ฟรองซัว ซาเวีย นักเดินทางและนักธรรมชาติวิทยาชาวฝรั่งเศส บันทึกนี้ถูกเขียนขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19

แม่เบี้ย (2015)

แม่เบี้ย

เรื่องย่อ

สรพิษและอิสตรี.. คือสองสิ่งที่ไว้ใจไม่ได้ และอันตรายมากที่สุด แต่เมื่อสองสิ่งนี้มาด้วยกัน กลับกลายเป็นความสวยงามชนิดหนึ่ง ที่เปี่ยมเสน่ห์ ยั่วยวน จนทำให้ผู้ชายบางคน ..ต้องลุ่มหลงจนลืมตัว

บนรถโดยสารที่กำลังมุ่งหน้า สู่เรือนไทยริมน้ำ จังหวัดสุพรรณบุรี ชนะชล (กอล์ฟ-พุฒิชัย อมาตยกุล) ลูกทัวร์หนุ่มกำลังตกอยู่ในภวังค์อันแปลกประหลาด เขาจบการศึกษาจากต่างประเทศ เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว มีภรรยาแสนดี และลูกน้อยวัยน่ารัก เป็นครอบครัวที่อบอุ่น ด้วยชีวิตที่สมบูรณ์พร้อม แต่เขากลับรู้สึกว่า บางสิ่งที่สำคัญหายไปจากชีวิตเขา ซึ่งเขาเอง ก็ไม่รู้ว่า สิ่งที่หายไปนี้คืออะไร แต่มันก็นำเขาให้มากับทัวร์เรือนไทยคณะนี้ เพราะทุกครั้งที่เขาได้ใกล้ชิด กับเรือนไทย หรือข้าวของเก่า ๆ ของคนไทย เขาจะรู้สึกว่า ได้สิ่งที่หายไปนั้นกลับคืนมา แม้จะเป็นเพียงแค่ชั่วคราวก็ตาม แต่ก็ทำให้เขามีความสุขมาก

ความคิดของเขาถูกขัดจังหวะ โดยเสียงสดใสของ เมขลา (มะหมี่ – นภคปภา นาคประสิทธิ์) ไกด์สาวที่ทำหน้าที่ มอบความบันเทิงและความรู้แก่ลูกทัวร์ รวมทั้ง เป็นเจ้าของเรือนไทย ที่พวกเขากำลังจะไปชมนี้ด้วย ปกติแล้ว ชนะชลไม่ชอบผู้หญิงอย่างเมขลานัก ผู้หญิงที่ปราดเปรียว คล่องแคล่ว และ เปี่ยมเสน่ห์.. เกินไป แต่จนกระทั่ง เมื่อคณะทัวร์มาถึงเรือนไทย และเมขลาออกมาต้อนรับลูกทัวร์ในชุดไทย ตอนแรกเห็นชนะชลเกือบจำเมขลาไม่ได้ และจากนี้ไป ชีวิตของชนะชล ก็เปลี่ยนไป อย่างที่ไม่มีวันไปเป็นเหมือนเดิม..

เมขลาใช้ชีวิตสลับ ระหว่างกรุงเทพฯ กับเรือนไทยแห่งนี้ ที่นี่เธอจะอยู่กับ ลุงทิม (สุรชัย แก้วชูศิลป์), ป้าทับ (จินดา นาคจีน), นวล (สุรางค์ แซ่อั้ง) และ “งู” อีกตัวหนึ่ง งูที่เป็นทั้งเจ้าบ้าน และแขกอันไม่พึงประสงค์ เป็นงูเห่าสีดำตัวใหญ่ มันอยู่ที่เรือนไทยนี้มานาน อย่างน้อยก็ตั้งแต่สมัยเมขลายังเป็นเด็ก และย้ายมาที่นี่พร้อมกับ โกสุม (ณัฐสวาสดิ์ หมั้นทรัพย์) แม่ของเธอ

โกสุม แม่ของเมขลา เป็นเมียน้อยคนที่สี่ เมขลาจำได้ดีว่า เมื่อมาถึงที่นี่ใหม่ ๆ เธอและแม่ต้องทนรับการโขกสับ จากบรรดาเมียหลวงทั้งสาม แม่เชื้อ (ลักษมี เพ็ญแสงเดือน), แม่นิ่ง (ปาริชาติ บริสุทธิ์), แม่สาย (หัทยา คูรัตน์ชัชวาล) จนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่แล้ว ด้วยฝีมือการบำเรอความสุขทางเพศของโกสุม ก็ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป พ่อของเมขลา (ภิญโญ ทองเจือ) มอบทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านให้โกสุมดูแล แล้วความสุขและชัยชนะ ก็กลับมาสู่ชีวิตของเมขลาอีกครั้ง

เมขลาได้เจอกับชนะชลที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง แม้จะพยายามรักษาท่าทีต่อกัน แต่ทั้งคู่ก็รู้ดีว่า ปรารถนาซึ่งกันและกันเพียงใด แต่กรอบแห่งศีลธรรม และความรับผิดชอบ ก็ยังกั้นคนทั้งคู่ให้ห่างจากกันได้ แต่เมื่อทั้งสองยิ่งได้เจอกันบ่อยมากขึ้น ก็ไม่มีอะไรในโลกจะสามารถหยุดทั้งคู่ให้จากกันได้ และเมื่อคืนหนึ่งมาถึง ที่เรือนไทยที่ชนะชลรู้สึกผูกพันนี้เอง

เขากับเมขลาก็ผูกสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นขึ้น แต่เขาก็เกือบต้องแลกความสุขนี้ด้วยชีวิต เมื่องูเห่าสีดำไล่ล่าเขาอย่างกราดเกรี้ยวและอาฆาต ผิดธรรมชาติของงูยิ่งนัก เมขลารู้ดีว่าเป็น เพราะเรื่องของเธอกับเขา จึงทำให้งูเห่าพยายามฆ่าชนะชล เหมือนที่เคยทำกับ พจน์ (อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล) หนุ่มผู้กว้างขวางในย่านนั้น ผู้ชายอีกคนที่ตกหลุมเสน่ห์ของเมขลา จนถอนตัวไม่ขึ้น และต้องชดใช้ความต้องการของเขาด้วยชีวิต เมื่อเขาตัดสินใจเผชิญหน้ากับงูเห่าตัวนี้ เมขลาพยายามจะไล่งูออกไปจากเรือนไทย และจากชีวิตของเธอ แต่งูก็คอยหลบหน้าเธอ และยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ตัวเธอ และบ้านไทยต่อไป

ความสัมพันธ์ของชนะชลและเมขลารู้ถึง ไหมแก้ว (โซบี – โชติรส แก้วพินิจ) ภรรยาของชนะชล ไหมแก้วเสียใจและโกรธแค้นมาก เมขลารู้ดีว่า ความรักที่ผิดศีลธรรมของเธอ มาถึงจุดจบแล้ว เธอตัดใจจากชนะชล และเดินทางไปต่างประเทศ เธอเลือกที่จะอยู่ไกล แม้จะทำให้เธอร้าวราน และเจ็บปวดมากเพียงใดก็ตาม

แต่ชนะชลกลับไม่สามารถห้ามความปรารถนาของเขาเองได้ เขาเดินทางกลับไปที่เรือนไทย เพื่อค้นหาสิ่งที่จะมาเติมเต็มชีวิตของเขา แม้รู้ดีว่า งูเห่าตัวนั้นกำลังรอเขาอยู่

…ที่สุดแล้ว บทสรุปของเมขลา ขนะชล และงูเห่า จะลงเอยเช่นใด สายใยอะไรที่ร้อยเรียงพวกเขาไว้ด้วยกัน.. บางทีคำตอบทั้งหมด อาจรอพวกเขาอยู่ที่เรือนไทยริมน้ำหลังนั้น…

สนิมสร้อย (2003)

สนิมสร้อย

เรื่องย่อ

จากวรรณกรรมลือเลื่องของ ‘รงค์ วงษ์สวรรค์ มาเป็นภาพยนตร์โดย จรูญ วรรธนะสิน สนิมสร้อย เป็นเรื่องราวของสำนักโสเภณีชั้นสูงแห่งหนึ่งเมื่อเกือบ 50 ปีที่ผ่านมา.. “บ้านพี่สมร” ภายใต้ พ.ร.บ. ว่าด้วยการค้าหญิงและเด็กหญิง พ.ศ.2471 ขณะที่กรุงเทพฯ ยังไม่มีศูนย์การค้า คอกเทลเลานจ์ สถานบริการอาบอบนวด ฯลฯ สตรีโดยทั่วไปในสังคมไทย การศึกษายังค่อนข้างถูกจำกัด และถูกอบรมให้ต้องอยู่กับบ้านเฝ้ากับเรือน เสรีภาพที่ผู้ชายจะพบปะกับผู้หญิง ยังไม่ง่ายเหมือนทุกวันนี้ ความเป็นอยู่ในสังคมขณะนั้นกำลังฟื้นตัว แต่ผู้หญิงส่วนหนึ่ง ก็ยังต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อหนีความยากจน มาเป็นโสเภณีด้วยความสมัครใจ ระบบซ่องแบบบ้านตอนนั้น กำลังแพร่กระจายไปตามย่านต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ เป็นรอยต่อเริ่มที่จะมีการนำเด็กมาขายสู่อาชีพนี้

‘รงค์ วงษ์สวรรค์ (หนุ่ม) ในขณะนั้น ได้ใช้เวลากินนอนอยู่ใน “บ้านพี่สมร” เกือบปี เขียนเรื่องนี้ขึ้นจากชีวิตที่มีตัวตนจริง อย่างไม่ดูถูกเหยียดหยาม หากแต่เต็มไปด้วยลมหายใจของความเป็นมนุษย์มนา จนได้รับการยกย่อง จากวงการวรรณกรรมในเวลาต่อมาว่า เป็นเสมือนมหากาพย์แห่งกะหรี่ ที่ไม่หยาบสกปรกเฉาะแฉะลามกอนาจาร หากเปี่ยมด้วยเรื่องของชีวิต ความรัก และตัณหา ระคนเสียงหัวเราะ ร้องไห้ โศกสลด สะเทือนอารมณ์ และเจ็บ ๆ คัน ๆ จนยากที่จะรับรู้ไว้ด้วยอารมณ์วางเฉย

เป็นเรื่องของเจ้าสำนัก พี่สมร ซึ่งมีการศึกษาดีพอใช้ แต่บาดแผลจากความหลัง ความเก็บกดจากอาชีพที่ทำ กลายมาเป็นอาการทางจิต “มาโซคิสม์” เสมือนเป็นการลงโทษตนเอง ก่อนจะสมอารมณ์หมาย เรื่องของ ก้าน ม.ด. ที่มีศรัทธาเทอดทูลพี่สมร จนรู้สึกเหมือนหมามีเจ้าของ ทุกครั้งที่สบตากับเจ้าสำนัก เรื่องของผู้หญิงส่วนหนึ่ง ที่ไม่เพียงเพราะการศึกษาต่ำหรือความยากจน หากยังถูกรังแกเอาเปรียบทางเพศจากผู้ชาย ผลักดันมาสู่อาชีพนี้ เช่น สิรี สมทรง วงเดือน มาลี บังอร ฯลฯ และแน่นอน เรื่องของผู้ชายหลายอาชีพ ที่เข้ามาเที่ยวมาหลงไหลร่ำรัก ดุจเช่น ป๋าพร คุณเชลา คุณทนิน ฯลฯ รวมทั้งอีกหลาย ๆ ชีวิตที่เป็น ตำรวจ ซึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องกับคนในบ้านนี้ ทั้งเป็นการส่วนตัว และหน้าที่ตามกฎหมาย

สนิมสร้อย พิมพ์เป็นหนังสือสู่สายตาผู้อ่านก่อน จัน ดารา ราว 5 ปี กอปรด้วยลีลาการเขียน ของภาษาทางอารมณ์ที่คมคาย เจ็บคัน ขำขัน ฯลฯ โด่งดังจนมีผู้ติดตามอ่านกันอย่างงอมแงม ในหนังสือสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ ของท่านอาจารย์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และพิมพ์รวมเล่มสำหรับผู้อ่าน ที่หมุนเวียนเปลี่ยนรุ่นมาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ แพรวสำนักพิมพ์ กำลังจะพิมพ์เป็นครั้งที่ 8 ชีวิตเหล่านั้น ได้ถูกปลุกขึ้นมาให้โลดแล่นอยู่บนจอยักษ์ ในรูปแบบของภาพยนตร์ที่ไม่หยาบโลน จากฝีมือของผู้กำกับฯ เรื่อง เชอรี่ แอน – จรูญ วรรธนะสิน ซึ่งสร้างในแนวจั๊กจี้ ขำขัน สะเทือนอารมณ์ ทั้งร้องไห้และหัวเราะ ในความเป็น ผู้หญิง-ผู้ชาย ซึ่งเฉี่ยวไปเฉี่ยวมากับเรื่องพรรค์นี้ ในแนวที่ยังไม่เคยมีใครสร้างเป็นหนังมาก่อน ไม่ว่าหนังไทยหรือหนังเทศ… สนิมสร้อย จึงมีเอกลักษณ์ที่คอหนังพลาดไม่ได้เด็ดขาดใน พ.ศ.นี้

มนต์รักทรานซิสเตอร์ (2001)

มนต์รักทรานซิสเตอร์

เรื่องย่อ

แผน (รับบทโดย ต๊อก ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) หนุ่มบ้านนอกชอบร้องเพลง เวลามีงานวัดงานวาที่หมู่บ้านเมื่อไหร่ มันต้องไปวาดลวดลาย เอ็นเตอร์เทนพ่อแม่พี่น้องร้องเพลงกับวง “กระเดือกทองคำ” อยู่เสมอ ๆ มันพบ สะเดา (รับบทโดย อุ้ม สิริยากร พุกกะเวส) ครั้งแรกก็ที่งานวัด แต่กว่าจะได้มาเป็นเมีย อุปสรรคขวากหนามก็มาขวางทางอยู่หลายอย่าง ทั้งเสี่ยหนุ่ม (บวรฤทธิ์ ฉันทศักดา) ที่มาจีบสะเดาอยู่เหมือนกัน ไอ้แผนและเสี่ยกับบอดี้การ์ดของเสี่ย ทำงานวัดกลายเป็นสนามมวย แล้วก็ยังมี ตาเฉย (ประสิทธิ์ วงษ์รักไทย) พ่อของสะเดา หวงลูกสาวไม่เบาอยู่เหมือนกัน งัดเครื่องทุ่นแรง ปืน .45 ไล่ยิงไอ้แผนหวุดหวิดเสียชีวิตก็หลายครั้ง แม้ตาเฉยกับไอ้แผนจะเป็นอริกัน ไอ้แผนกันสะเดาก็ได้ตกร่องปล่องชิ้นกันจนได้

วิทยุทรานซิสเตอร์เครื่องเล็ก คือของขวัญแต่งงานที่ไอ้แผนให้เมียรัก วิทยุทรานซิสเตอร์เครื่องน้อยเป็นตัวละครเอกประจำบ้าน ให้ความสุข ทำความรักของมันให้มันหวานชื่นสุด ๆ ทำให้มันนึกภาพตัวเองเป็น “สุรแผน เพชรน้ำไหล” นักร้องชื่อดังที่มีคนดูเป็นร้อย ๆ ได้ชัดเจน สะเดาตั้งท้องได้ 5 เดือน ไอ้แผนก็ได้รับหมายเกณฑ์… ระหว่างเป็นทหาร มันไปประกวดร้องเพลง ผลปรากฏว่าได้รองอันดับหนึ่ง มันตัดสินใจหนีทหารเข้ากรุง ไปฝึกเป็นนักร้องอย่างที่มันฝันใฝ่ สะเดาไม่เข้าใจว่าทำไมแผนเงียบหายไป วิทยุทรานซิสเตอร์ก็ริ่มรวน เสียงครืดคราด แล้วเธอก็คลอดลูกชาย

ฝ่ายไอ้แผน ฝันหวานของมันก็ยังเป็นฝัน มันได้เป็น “เบ๊” ประจำวง คอยวิ่งซื้อบุหรี่ เสิร์ฟน้ำ กวาดโรงซ้อม คุณสุวัฒน์ (สมเล็ก ศักดิกุล) ผู้จัดการวงบอกมันว่า ต้องเริ่มต้นที่อดทนก่อน มันก็เชื่อเขา จน 2 ปีผ่านไป ชีวิตมันก็ยังเหมือนเดิม แต่ ดาว (พรทิพย์ ปาปะนัย) นักร้องสาวที่เข้ากรุงมาพร้อมกันกับมัน กำลังจะมีอัลบั้มและคอนเสิร์ตของตัวเอง มันตัดสินใจจะเจรจาขั้นเด็ดขาด เรื่องอนาคตของมัน กับผู้จัดการวง ผู้จัดการวงพามันไปบ้านเขา ให้มันดูวีดีโอ เป็นหนังโป๊ ไอ้แผนช็อคอ้าปากค้าง เพราะนางเอกของเรื่องไม่ใช่ใครอื่น… ดาวนั่นเอง! และขณะเดียวกันนั่นเอง ผู้จัดการก็เริ่มคุกคามมัน ถึงขนาดโถมตัวเข้าทับมัน มันถีบเขากระเด็น หัวฟาดมุมโต๊ะรับแขก เลือดนอง มันรีบเก็บข้าวของแล้วหนีไป แล้วมันก็ไปได้งานในไร่อ้อยแถว ๆ ภาคตะวันตก มีหัวหน้าสุดโหดบ้าอำนาจชื่อ หยอด (เสมอ แก้วชน)

สะเดาทนไม่ไหวที่จะรอต่อไป เลยชวนพ่อเข้ากรุงไปตามหาแผน สะเดาเอาน้ำฝนใส่แกลลอน กระติกพลาสติกมาฝากสองพ่อลูก ตามหาทั่วกรุง แกลลอนพลาสติกหลุดจากมือ โดนรถทับแตกบี้ น้ำฝนจากใจสะเดาไหลนองถนน ไอ้แผนอยู่ที่ไร่อ้อยมีเพื่อนชื่อ ไอ้เสี่ยว (อำพล รัตน์วงศ์) ว่าง ๆ คนงานก็เล่นป๊อกเด้งกัน ไอ้หยอดหัวหน้าบ้าอำนาจ ก็มาร่วมวงเล่นด้วย แล้วไอ้เสี่ยวก็ดันดวงดี เล่นได้เอาได้เอา แต่ไอ้หยอดหาว่ามันโกง เลยเบี้ยวจะไม่จ่าย เกิดเรื่องราวชกต่อย ไอ้แผนเข้าไปช่วยไอ้เสี่ยว ไอ้หยอดคว้าปืนได้เลยไล่ยิงทั้ง 2 คน ไอ้แผนตกงานอีกครั้ง แผนกับเสี่ยวมุ่งหน้าเข้ากรุงนอนข้างถนน คุ้ยของกินในขยะ อย่างหมาขี้เรื้อนเราดี ๆ นี่เอง

ข้างหลังภาพ (2001)

ข้างหลังภาพ

เรื่องย่อ

ม.ร.ว. กีรติ (คารา พลสิทธิ์) เป็นลูกเจ้า “เจ้า” ในสมัยก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 เป็นอยู่อย่างเป็นเจ้าเป็นนายจริง ๆ เหมือนแยกโลกกันอยู่กับสามัญชน กีรติถูกท่านพ่อ (ปรีดา จุลละมณฑล) เลี้ยงแบบเลี้ยงนกน้อยแสนสวยไว้ในกรงทอง เพราะท่านพ่อเลี้ยงเธออย่างหวงแหน โดยต้องการให้เป็นเจ้าหญิงสูงศักดิ์ จนไม่มีชายใดมีโอกาสเข้าถึง กีรติจึงไม่เคยมีชายใดรักและขอแต่งงาน ในขณะที่น้องสาวอีก 2 คน ที่ไม่ได้สวยสง่าเท่าเธอ ได้แต่งงานกับคนรักไปทีละคน กีรติเฝ้าคอย

ความรักเป็นพรอันประเสริฐ เป็นยอดปรารถนาของชีวิต

กีรติเชื่อมั่นเช่นนี้ จึงหวังและรอที่จะได้รับ “พร-ความรัก” ตั้งแต่เริ่มรุ่นสาว รอจนกระทั่งอายุ 34 ปี – ผ่านวัยครึ่งคนแล้ว ก็ยังไม่เคยได้รับพรนี้เลย เมื่อรู้สึกว่าสิ้นหวัง จึงยอมแต่งงานกับพระยาอธิการบดี (ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา) พ่อม่ายเมียตาย ซึ่งเป็นคนดี สูงอายุวัยพ่อ มาสู่ขอกับท่านพ่อ

เจ้าคุณอธิการฯ พากีรติไป “ฮันนิมูน” ที่ญี่ปุ่น โดยขอร้องให้ นพพร (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) ลูกชายของเพื่อนที่เรียนอยู่ที่นั่น มาช่วยเป็นมัคคุเทศก์นำเที่ยวญี่ปุ่น เขากับเธอ พบกันครั้งแรกที่สถานีรถไฟโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อฤดูใบไม้ผลิ พ.ศ.2480 ในขณะที่นพพรอายุ 22 ปี เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยริคเคียว และเธออายุ 35 ปี

เจ้าคุณอยากให้คุณหญิงได้รับความสุขจากการมาเที่ยวญี่ปุ่น แต่ท่านก็แก่เกินกว่าจะไปไหนต่อไหนได้หลายแห่ง จึงขอร้องให้นพพร รับภาระพาคุณหญิงกีรติเที่ยวตามลำพัง นั่นเป็นโอกาสให้นพพร เด็กหนุ่มที่ไม่เคยรู้จักความรักมาก่อน ได้อยู่ใกล้ชิดกับหญิง – แม้จะสูงวัยกว่า แต่เธอก็สวย สง่า กิริยาวาจาแช่มช้อย สมกับที่เป็นผู้ดีแท้ ยิ่งใกล้ชิด ยิ่งนานวัน นพพรก็ยิ่งหลงรัก – เทอดทูนกีรติ เป็นรักครั้งแรกของหนุ่มวัย 22 ปี รักทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเธอมีชายอื่นเป็นเจ้าของ

นพพรไม่เข้าใจว่า ทำไมกีรติ ซึ่งสวยมาก สง่างามมาก ฉลาดล้ำลึก ฐานะเดิมก็ดีอยู่ก่อนแล้ว อีกทั้งไม่ได้ถูกใครบังคับ และไม่ได้รักเจ้าคุณด้วย จึงยอมแต่งงานกับชายชราวัยพ่อ นพพรเฝ้าถามครั้งแล้วครั้งเล่า กีรติเลี่ยงที่จะตอบ จนกระทั่งถึงวันที่เขาพาเธอไปเที่ยว มิตาเกะ กีรติผู้วางตัวสง่างามอยู่เนืองนิจ กลับกลายเป็นสาวน้อย ผู้ร่าเริงอยู่ท่ามกลางแมกไม้และสายน้ำ ในที่สุด เขาก็สารภาพรักกีรติที่ริมลำธาร บนภูเขามิตาเกะ ในวันที่พาเธอไปเที่ยวนั่นเอง

นพพรเฝ้าถามกีรติว่า “คุณหญิงรักผมไหม ?” แต่กีรติไม่เคยตอบตรงคำถามเลย นพพรยืนยันว่า เขาจะรักกีรติไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย

พ.ศ.2484 เจ้าคุณอธิการบดี เป็นวัณโรคเสียชีวิต กีรติจึงกลับเป็นโสดอีกครั้งหนึ่ง กีรติวาดภาพ “ริมลำธาร” และรอคอยนพพร ที่จะกลับในอีก 3 ปีข้างหน้า ..อีก 3 ปี กีรติอายุ 42 ปี… รอรับ “พร-ความรัก” อีกครั้ง

ณ บัดนี้ กีรติเปิดหัวใจของเธอ ให้นพพรรับทราบโดยแน่ชัดแล้ว โอกาสที่นพพรจะแต่งงานกับกีรติก็มีแล้ว แต่.. “ความรัก” จะบันดาลให้ ม.ร.ว.กีรติวัย 42 ปี กับ นพพร วัย 29 ปี ได้แต่งงานกัน – สมค่าแห่งความเป็น “พรอันประเสริฐ เป็นยอดปรารถนาของชีวิต” หรือไม่ ?

จัน ดารา (2001)

จัน ดารา

เรื่องย่อ

“จัน ดารา” ได้ถือกำเนิดขึ้นจากความผิดพลาดและความเกลียดชัง…

ดารา (วัลภา พรหมนวล) แม่ของจัน เศรษฐีนีสาวสวยถูกจอม (ดนัย ชนะชานันต์) แฟนของน้าวาด (วิภาวี เจริญปุระ) พร้อมกับสมุนสองคน ฉุดไปกระทำชำเรา เมื่อครั้งเดินทางไปเมืองพิจิตรกับบิดาของเธอ บิดาของเธอจึงว่าจ้างให้คุณหลวง (สันติสุข พรหมสิริ) แต่งงานกับดารา โดยยกบ้านและทรัพย์สินให้เป็นการแลกเปลี่ยน

ดาราเสียชีวิตทันทีที่คลอดจันออกมา คุณหลวงโกรธเกลียดชังเด็กชายตัวน้อยทันที แม้ยังไม่ได้เห็นหน้า คุณหลวงตั้งชื่อให้ว่า “จัน-จัญไร วิสนันท์” น้าวาดลงมาจากพิจิตรเพื่อร่วมพิธีศพ พบว่าไม่มีใครต้องการจัน น้าวาดจึงรับอาสารับเลี้ยงจัน และเพื่อเป็นการไถ่บาปให้กับจอมคนรักของตน ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเหตุแห่งเคราะห์กรรมนี้ และแม้ว่าน้าวาดต้องสละตัว ยอมเป็นเมียคุณหลวง เพื่อเธอจะได้มีโอกาสเลี้ยงดูจันได้ตลอดรอดฝั่ง

เมื่อจันอายุ 4 ปี (รับบทวัยเด็กโดย ด.ช. วุฒิชัย สภาพัตร์) ในกลางดึกคืนวันหนึ่ง คุณหลวงเข้ามานอนในห้องที่จันและน้าวาดนอน คุณหลวงนอนกับน้าวาดไม่เกรงต่อสายตาของจัน จันเริ่มสงสัย ในความสัมพันธ์ของตนและคุณหลวง อย่างจริงจังตั้งแต่นั้นมา

ต่อมาไม่นาน น้าวาดให้กำเนิด คุณแก้ว-วิไลเรข วิสนันท์ ซึ่งระหว่างที่น้าวาดตั้งครรภ์ คุณหลวงเริ่มใช้ชีวิตสำส่อน หาความสุขสำราญทางเพศรส จากบรรดาสาวใช้น้อยใหญ่ไม่เลือกหน้าในบ้าน

คุณหลวงทำร้ายจันอย่างรุนแรง เมื่อครั้งจันอายุได้ 12 ปี (รับบทโดย ด.ช.วิสันต์ ทิพย์สุวรรณ) โดยขังจันไว้คนเดียวในเรือนเขียว ซึ่งเคยใช้เป็นที่เก็บศพของ ดารา แม่ของจัน สัญชาตญาณบอกจันว่า คุณหลวงไม่ใช่พ่อที่แท้ของตน แต่ที่จำทนอยู่ในบ้านต่อไป เพราะอย่างน้อยก็เหมือนได้อยู่ใกล้แม่ และอาจจะได้รู้ว่า พ่อที่แท้จริงของตนคือใครในสักวัน

ในชีวิตจันมีคุณบุญเลื่อง (คริสตี้ ชุง) ภรรยาคนหนึ่งของคุณหลวง ครอบครองจิตใจจันในเรื่องกามารมณ์ และไฮซินธ์ (ศศิธร พานิชนก) สาวน้อยวัย 14 ปี ที่จันเจอที่โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษภาคค่ำ ไฮซินธ์ เป็นเหมือนดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ดอกเล็กดอกเดียวในหัวใจของจัน

สองปีต่อมา จันได้นอนกับคุณบุญเลื่อง และในปีเดียวกันนั้นเอง จันก็ถูกคุณแก้วใส่ร้าย ให้รับผิดแทนเคน (ครรชิต ถ้ำทอง) จันจึงต้องรับผิดในคดีกระทำชำเราคุณแก้ว จันมองทะลุปรุโปร่งไปในใจคุณแก้ว เห็นความผิดปกติและความเกลียดชังในจิตใจของเธอ

จันถูกคุณหลวงเนรเทศออกจากบ้าน จึงไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองพิจิตร และได้รู้ความจริงว่า พ่อของตนตายด้วยน้ำมือของสมุนตัวเอง ไม่นานหลังจากที่ฉุดดารามา ความจริงนี้ทำให้ชีวิตของจันมืดดำ และอ้างว้างกว่าที่เคยเป็น เหลือเพียงไฮซินธ์เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจ มีคุณบุญเลื่องเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางกาย และกามารมณ์เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ตนรู้สึกมีคุณค่า

จัน (เอกรัตน์ สารสุข) อยู่ที่เมืองพิจิตรได้สามปี น้าวาดก็มาตามตัว และขอให้จันกลับบ้านที่พระนคร จันได้โอกาสแก้แค้นคุณหลวง จึงยอมแต่งงานกับคุณแก้ว (ภัทรวริทร์ ทิมกุล) เพื่อแลกเปลี่ยนกับกรรมสิทธิ์ในบ้าน และคุณหลวงต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านต่อไป จันกลับไปหาไฮซินธ์ที่บ้าน แต่ไฮซินธ์เสียชีวิตไปแล้ว ด้วยโรคไทฟอยด์เมื่อสองปีก่อน …จุดสีขาวเล็ก ๆ ในหัวใจของจันเลือนหายไป เหลือไว้แต่ความมืดมิด

ต่อมา คุณแก้วให้กำเนิดลูก เด็กชายปรีย์-อัปรีย์ วิสนันท์ เป็นเด็กชายปัญญาอ่อน น้าวาดออกบวชชีที่เมืองนครสวรรค์ ไม่มีกำหนดสึก ความสัมพันธ์ของคุณแก้ว เพิ่มพูนความเกลียดชัง และจันแก้แค้นคุณหลวงต่อไป โดยพยายามมีลูกกับคุณแก้ว แต่คุณแก้วไม่ยอม จันจึงใช้วิธีขืนใจเธอทุกครั้ง จนคุณแก้วตั้งท้อง และคุณแก้วก็ทำให้เด็กตายตั้งแต่ในท้องของเธอ ต่อมาวันหนึ่ง คุณหลวงมาพบจันกับคุณบุญเลื่องนอนด้วยกัน ด้วยความรู้สึกที่ประเดประดังเข้ามา คุณหลวงถึงกับล้ม และเป็นอัมพาตตั้งแต่นั้นมา การแก้แค้นของจันเป็นอันสิ้นสุดลง…

ชั่วฟ้าดินสลาย (2010)

ชั่วฟ้าดินสลาย

เรื่องย่อ

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของกระแสการเมืองใหม่ซึ่งชาวสยามยังไม่คุ้นชินนัก เพียงหนึ่งปีหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 นั้น ยุพดี (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ม่ายสาวพราวเสน่ห์หัวสมัยใหม่จากพระนครได้สมรสกับ พะโป้ (ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) คหบดีม่ายชาวพม่าอายุคราวพ่อ เจ้าของกิจการป่าไม้อันมั่งคั่งแห่งกำแพงเพชร ทั้งคู่ได้เดินทางไปใช้ชีวิตฉันท์สามีภรรยาที่ปางไม้เขาท่ากระดาน ซึ่ง ยุพดี คิดว่าชีวิตของเธอได้ถูกเติมเต็มแล้วในทุก ๆ ด้านจาก พะโป้ สามีที่เธอรัก

แต่ ณ ที่นั้นเอง ท่ามกลางพลังอำนาจแห่งไพรพฤกษ์และขุนเขา เมื่อยุพดีได้มาพบเจอกับ ส่างหม่อง (อนันดา เอเวอริงแฮม) หนุ่มพม่าผู้หล่อเหลาปานเทพบุตรแต่แสนบริสุทธิ์ในกามโลกีย์ผู้เป็นหลานชายของ พะโป้ ต่างก็เกิดความสเน่หาต่อกัน ยิ่งทั้งคู่ได้ชิดใกล้กันมากเท่าไร ก็ยิ่งเกิดอาการหวั่นไหวและอยากอยู่ด้วยกันมากขึ้นเท่านั้นตามสัญชาตญาณหนุ่มสาวที่ถูกกิเลสตัณหาครอบงำ โดยหารู้ไม่ว่า นี่คือ “จุดเริ่มต้นแห่งโศกนาฏกรรมรัก”

ในที่สุดทั้ง ส่างหม่อง และ ยุพดี ก็มิอาจต้านทานความปรารถนาของตน และยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจของกิเลสตัณหาอย่างถึงที่สุด ทั้งคู่ก้าวล้ำเส้นของการเป็นหลานและอาสะใภ้โดยลอบเป็น “ชู้” กัน และแล้วเมื่อ พะโป้ ได้ล่วงรู้ความจริงอันน่าอัปยศเช่นนี้ เขาดูเหมือนจะสงบนิ่งอย่างผู้ผ่านประสบการณ์และเข้าใจโลกยิ่งนัก แต่จริง ๆ แล้วในใจเขากลับร้อนรุ่มด้วยโทสะจริต ติดกับดักแห่งเสน่หาอาฆาตแบบถอนตัวไม่ขึ้น อย่างไม่คาดฝัน พะโป้ ตัดสินให้ ยุพดี เมียสุดที่รักได้อยู่กินกับ ส่างหม่อง หลานรักอย่างเปิดเผย ภายใต้เงื่อนไขอันแสนเย็นยะเยือกด้วยการล่าม “โซ่ตรวน” คล้องแขนติดกัน เพื่อพันธนาการว่าทั้งคู่จะได้ครองรักกัน…ชั่วนิจนิรันดร์

ถึงเวลาแล้วที่ พะโป้ จะได้ทำในสิ่งที่เขาวางแผนไว้อย่างแยบคาย เพื่อสอนบทเรียนให้กับทั้งหลานและภรรยาอันเป็นที่รักให้รู้จักความหมายของ “ความรักชั่วนิรันดร์ การลงทัณฑ์ชั่วชีวิต” ใครเลยจะหยั่งรู้ว่า วิถีชีวิตของ 3 ชายหญิงที่ต้องโคจรมาทาบทับกันในวังวนแห่งกิเลสตัณหานี้ จะนำพามาซึ่งโศกนาฏกรรมรักอันยิ่งใหญ่ที่ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดเนื้อ จิตวิญญาณ และกาลเวลาตราบ “ชั่วฟ้าดินสลาย”

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

ข้อมูลอ้างอิง:

อ่านต่อ

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button