ภาพยนตร์

9 หนังเด็ด บงจุนโฮ (Bong Joon-ho) ผู้กำกับอัจฉริยะเกาหลีใต้ที่ต้องดู

บงจุนโฮ (Bong Joon-ho) ถือเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากเกาหลีใต้ ที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานหนังที่ผสมผสานความเป็นเอเชียเข้ากับการเล่าเรื่องแบบสากลได้อย่างลงตัว เขาเป็นที่รู้จักจากการสร้างหนังที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง มีความหมาย และสะท้อนปัญหาสังคมผ่านมุมมองที่แปลกใหม่และน่าติดตามเสมอ

ผลงานของ บงจุนโฮ มักจะได้รับการยอมรับจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วโลก โดยเฉพาะหนังเรื่อง Parasite ที่กลายเป็นหนังเกาหลีเรื่องแรกที่คว้ารางวัลออสการ์สาขาหนังยอดเยี่ยม การทำงานของเขาโดดเด่นด้วยการใช้ภาพและเสียงที่สร้างบรรยากาศได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงการเล่าเรื่องที่มีความซับซ้อนแต่เข้าใจง่าย

หนังของ บงจุนโฮ ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังชวนให้ผู้ชมได้คิดและไตร่ตรองเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำทางสังคม สิ่งแวดล้อม หรือธรรมชาติของมนุษย์ ในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับผลงานสุดยอดของเขาที่ไม่ควรพลาด

1. Parasite (2019)

Parasite (ชนชั้นปรสิต) 2019

Parasite เป็นหนังที่ทำให้ บงจุนโฮ กลายเป็นที่รู้จักระดับโลกอย่างแท้จริง ด้วยเรื่องราวของครอบครับยากจนที่แฝงตัวเข้าไปทำงานให้กับครอบครัวรวยผ่านการหลอกลวงอย่างชาญฉลาด หนังเรื่องนี้นำเสนอความเหลื่อมล้ำทางสังคมในเกาหลีใต้ผ่านการเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ตลก และน่าติดตามจนถึงจุดจบที่ไม่คาดคิด

หนังเรื่องนี้ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ทั่วโลกและคว้ารางวัลออสการ์ถึง 4 สาขา รวมถึง รางวัลหนังยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นหนังที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษเรื่องแรกที่ได้รับเกียรตินี้ Parasite ไม่เพียงแต่เป็นหนังที่ให้ความบันเทิง แต่ยังสะท้อนปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นจริงในหลายประเทศทั่วโลก

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ชนชั้นปรสิต
  • ประเภท: ดราม่า, ทริลเลอร์, ตลกดำ
  • วันที่เข้าฉาย: 30 พฤษภาคม 2019
  • นักแสดงนำ: ซงคังโฮ, ลีซอนกยุน, โชยอจอง, ชเวอูชิก
  • ผู้กำกับ: บงจุนโฮ
  • ระยะเวลา: 132 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 8.5/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

2. Okja (2017)

Okja โอคจา (2022)

Okja เป็นหนังแฟนตาซีดราม่าที่เล่าเรื่องราวของเด็กหญิงชาวเกาหลีใต้ที่มีสัตว์เลี้ยงยักษ์ชื่อ โอคจา ซึ่งถูกบริษัทข้ามชาติต้องการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร หนังเรื่องนี้นำเสนอปัญหาการทำร้ายสัตว์และความโลภของมนุษย์ผ่านเรื่องราวที่เศร้าและสะเทือนใจ ผสมผสานเข้ากับความสวยงามของภาพที่สร้างสรรค์อย่างพิถีพิถัน

การแสดงของ ทิลด้า สวินตัน และ ซีโอฮยอนจิน ช่วยให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นผลงานที่น่าจดจำ Okja ไม่เพียงแต่เป็นหนังที่สวยงาม แต่ยังสื่อสารข้อความเกี่ยวกับจริยธรรมและความรับผิดชอบของมนุษย์ที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้อย่างลึกซึ้ง

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: โอคจา
  • ประเภท: แฟนตาซี, ดราม่า, ผจญภัย
  • วันที่เข้าฉาย: 28 มิถุนายน 2017
  • นักแสดงนำ: ทิลด้า สวินตัน, ซีโอฮยอนจิน, เจค จิลเลนฮาล
  • ผู้กำกับ: บงจุนโฮ
  • ระยะเวลา: 120 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 7.3/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

3. Snowpiercer (2013)

Snowpiercer (2013)

Snowpiercer เป็นหนัง sci-fi ที่เกิดขึ้นในโลกอนาคตที่เข้าสู่ยุคน้ำแข็ง มนุษย์ที่เหลือรอดต้องใช้ชีวิตในรถไฟขบวนยาวที่วิ่งไม่หยุดรอบโลก หนังเรื่องนี้นำเสนอระบบชนชั้นที่ชัดเจนผ่านการแบ่งห้องโดยสารตามฐานะทางสังคม โดยคนยากจนอยู่ตู้หางและคนรวยอยู่หัวรถ เมื่อกลุมคนยากจนตัดสินใจลุกขึ้นต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม

คริส อีแวนส์ และ ทิลด้า สวินตัน นำทีมนักแสดงสร้างสรรค์ผลงานแอคชั่นที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและข้อคิด Snowpiercer เป็นหนังที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ บงจุนโฮ ในการสร้างหนังแนว sci-fi ที่มีความหมายและสะท้อนปัญหาสังคมในปัจจุบันได้อย่างชาญฉลาด

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ยึดด่วน วันสิ้นโลก
  • ประเภท: วิทยาศาสตร์นิยม, แอคชั่น, ดราม่า
  • วันที่เข้าฉาย: 1 สิงหาคม 2013
  • นักแสดงนำ: คริส อีแวนส์, ทิลด้า สวินตัน, เอ็ด แฮร์ริส
  • ผู้กำกับ: บงจุนโฮ
  • ระยะเวลา: 126 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 7.1/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: MONOMAX

4. Mother (2009)

Mother (หัวใจเธอทวงแค้นสะกดโลก) (2009)

Mother เป็นหนังระทึกขวัญดราม่าที่เล่าเรื่องของแม่ที่ต้องออกตามหาความจริงเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลูกชายที่ถูกกล่าวหาว่าฆ่าเด็กสาววัยรุ่น ด้วยการแสดงที่โดดเด่นของ คิมฮเยจา หนังเรื่องนี้นำเสนอความรักของแม่ที่ไม่มีขอบเขต และความมุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องลูก แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความจริงที่เจ็บปวด

การเล่าเรื่องของ บงจุนโฮ ในเรื่องนี้เต็มไปด้วยความซับซ้อนและความลึกลับที่ค่อยๆ เปิดเผย Mother เป็นหนังที่สำรวจธีมเกี่ยวกับความรัก การเสียสละ และขอบเขตของความถูกผิดได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้ผู้ชมต้องคิดตามและสงสัยไปจนถึงจุดจบ

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: หัวใจเธอทวงแค้นสะกดโลก
  • ประเภท: ดราม่า, ทริลเลอร์, ลึกลับ
  • วันที่เข้าฉาย: 28 พฤษภาคม 2009
  • นักแสดงนำ: คิมฮเยจา, วอนบิน, จินกู
  • ผู้กำกับ: บงจุนโฮ
  • ระยะเวลา: 129 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 7.8/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย:

5. The Host (2006)

The Host อสูรนรกกลายพันธุ์ (2006)

The Host เป็นหนังมอนสเตอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของเกาหลีใต้ เล่าเรื่องราวของสัตว์ประหลาดยักษ์ที่เกิดจากการปนเปื้อนในแม่น้ำฮัน และครอบครัวธรรมดาที่ต้องต่อสู้เพื่อช่วยเหลือลูกสาวที่ถูกมอนสเตอร์จับตัวไป หนังเรื่องนี้ผสมผสานความตื่นเต้น ความตลก และความเศร้าเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมทั้งสื่อสารข้อความเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและการทุจริตของรัฐบาล

ซงคังโฮ และครอบครัวในหนังสร้างสรรค์ตัวละครที่น่ารักและน่าเชียร์ The Host ไม่เพียงแต่เป็นหนังบันเทิงที่ตื่นเต้น แต่ยังเป็นการวิจารณ์สังคมที่แฝงเร้นไว้อย่างชาญฉลาด ทำให้กลายเป็นหนึ่งในหนังเกาหลีที่มีชื่อเสียงที่สุดเรื่องหนึ่ง

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: อสูรนรกกลายพันธุ์
  • ประเภท: สยองขวัญ, แอคชั่น, ดราม่า
  • วันที่เข้าฉาย: 27 กรกฎาคม 2006
  • นักแสดงนำ: ซงคังโฮ, บยอนฮีบง, พัคฮเซจุน
  • ผู้กำกับ: บงจุนโฮ
  • ระยะเวลา: 120 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 7.1/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Prime Video

6. Memories of Murder (2003)

โปสเตอร์หนัง Memories of Murder (ฆาตกรรม ความตาย และสายฝน), หนังฆาตกรรมเกาหลี, Bong Joon-ho

Memories of Murder เป็นหนังทริลเลอร์อาชญากรรมที่สร้างจากเหตุการณ์จริงของคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในฮวาซอง ในช่วงปี 1986-1991 หนังเรื่องนี้นำเสนอความไร้ความสามารถและการทุจริตของตำรวจในยุคเผด็จการผ่านการสืบสวนคดีที่เต็มไปด้วยความผิดพลาดและการใช้ความรุนแรง ความตลกดำและการวิจารณ์ระบบยุติธรรมทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นผลงานที่ทรงพลัง

การแสดงของ ซงคังโฮ และ คิมซังคยุง ช่วยให้ Memories of Murder กลายเป็นหนังที่น่าจดจำและได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหนังเกาหลีที่ดีที่สุด หนังเรื่องนี้เปิดทางให้ บงจุนโฮ ก้าวสู่การเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงระดับโลก

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ฆาตกรรม ความตาย และสายฝน
  • ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, ทริลเลอร์
  • วันที่เข้าฉาย: 2 พฤษภาคม 2003
  • นักแสดงนำ: ซงคังโฮ, คิมซังคยุง, คิมรเวฮา
  • ผู้กำกับ: บงจุนโฮ
  • ระยะเวลา: 132 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 8.1/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย:

7. Barking Dogs Never Bite (2000)

Barking Dogs Never Bite (2000)

Barking Dogs Never Bite เป็นหนังเรื่องแรกของ บงจุนโฮ ที่เล่าเรื่องราวของอาจารย์มหาวิทยาลัยที่หงุดหงิดกับเสียงเห่าของสุนัขในคอนโดจนตัดสินใจลงมือกำจัด และแม่บ้านที่พยายามตามหาสุนัขที่หายไป หนังเรื่องนี้นำเสนอความเครียดและความหงุดหงิดของชีวิتในเมืองผ่านเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความตลกดำและการสะท้อนสังคม

แม้จะเป็นผลงานชิ้นแรก แต่หนังเรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นถึงสไตล์การกำกับที่เป็นเอกลักษณ์ของ บงจุนโฮ ที่จะพัฒนาไปในผลงานต่อๆ มา Barking Dogs Never Bite เป็นหนังที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นจุดเริ่มต้นของผู้กำกับระดับโลกคนนี้

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เห่าไม่ว่าอย่าให้ข้ารำคาญ
  • ประเภท: ตลกดำ, ดราม่า
  • วันที่เข้าฉาย: 24 กุมภาพันธ์ 2000
  • นักแสดงนำ: ลีซองแจ, บแยซอนวู, คิมฮสอน
  • ผู้กำกับ: บงจุนโฮ
  • ระยะเวลา: 106 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 7.0/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย:

8. Tokyo! – Shaking Tokyo (2008)

Tokyo! Shaking Tokyo (2008)

Tokyo! – Shaking Tokyo เป็นส่วนหนึ่งของหนัง anthology Tokyo! ที่ บงจุนโฮ ร่วมกำกับกับ มิเชล กอนดรี และ เลออส คาแรกซ์ ในส่วนของเขาเรื่อง “Shaking Tokyo” เล่าเรื่องของชายหนุ่มที่เป็น hikikomori (คนที่แยกตัวจากสังคม) มานาน 10 ปี จนกระทั่งได้พบกับสาวส่งพิซซ่าที่ทำให้เขาต้องการออกจากบ้านเป็นครั้งแรก

หนังสั้นเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ บงจุนโฮ ในการเล่าเรื่องที่มีอารมณ์และความหมายในเวลาสั้นๆ Shaking Tokyo เป็นการสำรวจธีมเกี่ยวกับความเหงา การแยกตัว และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ในสังคมเมืองใหญ่ได้อย่างละเอียดอ่อน

  • ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก
  • วันที่เข้าฉาย: 15 มิถุนายน 2008
  • นักแสดงนำ: คาแกว่า เทอรุยูกิ, อาโออิ ยู
  • ผู้กำกับ: บงจุนโฮ (ส่วน Shaking Tokyo)
  • ระยะเวลา: 30 นาที (segment)
  • เรตติ้ง IMDb: 7.1/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย:

9. Mickey 17 (2025)

Mickey 17 (2025)

Mickey 17 เป็นหนังไซไฟ เรื่องล่าสุดของ บงจุนโฮ ที่สร้างจากนิยายของ Edward Ashton เล่าเรื่องราวของ Mickey Barnes นักสำรวจอวกาศที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานในภารกิจอันตรายบนดาวเคราะห์น้ำแข็ง เมื่อเขาเสียชีวิต เขาจะถูกฟื้นคืนชีวิตในร่างใหม่พร้อมความทรงจำเดิม กลายเป็น “Expendable” หรือคนที่สามารถใช้ทิ้งได้ แต่เมื่อ Mickey รุ่นที่ 17 กลับมาพร้อมกับ Mickey รุ่นก่อนหน้า ความโกลาหลก็เริ่มต้นขึ้น

โรเบิร์ต แพตทินสัน นำทีมแสดงในบทบาทที่ท้าทายในการสวมบทเป็นตัวละครหลายเวอร์ชั่น Mickey 17 เป็นการกลับมาของ บงจุนโฮ ในแนว Sci-Fi หลังจากความสำเร็จของ Snowpiercer โดยสำรวจธีมเกี่ยวกับตัวตนของมนุษย์ ความตาย และจริยธรรมของการโคลนนิ่งในอนาคตอันใกล้นี้

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: มิกกี้ 17
  • ประเภท: วิทยาศาสตร์นิยม, ทริลเลอร์, ตลกดำ
  • วันที่เข้าฉาย: 7 มีนาคม 2025
  • นักแสดงนำ: โรเบิร์ต แพตทินสัน, นาโอมิ แอเคี, สตีเวน ยุน
  • ผู้กำกับ: บงจุนโฮ
  • ระยะเวลา: 2 ชม. 17 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 6.8/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย:

บงจุนโฮ เป็นผู้กำกับที่พิสูจน์ให้เห็นว่าหนังเอเชียสามารถสร้างผลงานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลได้ ผลงานของเขาแต่ละเรื่องล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภาพที่สวยงาม การเล่าเรื่องที่ซับซ้อนแต่เข้าใจง่าย หรือการสอดแทรกข้อคิดเกี่ยวกับสังคมและความเป็นมนุษย์ ทุกเรื่องของเขาล้วนมีคุณค่าทางศิลปะและสามารถสื่อสารกับผู้ชมได้หลากหลายระดับ

สำหรับใครที่ยังไม่เคยดูหนังของ บงจุนโฮ เราแนะนำให้เริ่มจาก Parasite หรือ The Host ที่เป็นหนังที่เข้าถึงง่ายและแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่หลากหลายของเขา หลังจากนั้นค่อยไปสำรวจผลงานอื่นๆ ที่จะทำให้เราได้เห็นมิติที่แตกต่างกันของผู้กำกับระดับโลกคนนี้

กดเพื่ออ่านต่อ

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button