[รีวิวเพลง] Mantra ซิงเกิลล่าสุดจาก Jennie (BLACKPINK)

เพลง Mantra ซิงเกิลใหม่ล่าสุดจาก เจนนี่ BLACKPINK ได้ดึงดูดความสนใจของแฟนเพลงจากท่วงทำนองและเสียงร้องที่น่าติดตาม แต่ความพิเศษของเพลงนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ในเรื่องของดนตรีเท่านั้น เพลงนี้ยังเชื่อมโยงกับฉากสำคัญในภาพยนตร์ชื่อดัง Rush Hour (1998) ที่หลายคนจดจำได้ดี ซึ่งในมิวสิกวิดีโอของ Mantra ฉากเปิดด้วยภาพเด็กสาวร้องเพลงในเบาะหลังรถ เป็นการอ้างอิงโดยตรงถึงฉากที่จูเลีย ชู (Julia Hsu) ผู้รับบทซูยอง ร้องเพลง Fantasy ของมารายห์ แครี่ ขณะนั่งอยู่ในรถก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ใหญ่ขึ้น ความไร้เดียงสาของเด็กในมิวสิกวิดีโอของเจนนี่ได้สร้างความขัดแย้งที่น่าสนใจระหว่างความสดใสของเด็กและความมั่นใจของเจนนี่ ซึ่งเป็นการเปิดเรื่องที่น่าดึงดูดใจและสร้างบรรยากาศที่เข้ากับพลังที่กล้าหาญและยิ่งใหญ่ในสไตล์เดียวกับ Rush Hour

แม้เจนนี่จะมีผลงานเพลงเดี่ยวไม่มากนัก แต่การปรากฏตัวของเธอในวงการเพลงและการร่วมงานกับศิลปินคนอื่น ๆ เช่นการที่เธอได้มีส่วนร่วมในเพลง Spot! ของซิโค่ในปีนี้ ก็เป็นการเปิดทางให้เธอมีโอกาสในการสร้างผลงานเดี่ยวมากขึ้น Mantra ถือเป็นซิงเกิลที่สามของเจนนี่ ซึ่งยังคงเน้นไปที่ธีมที่มีเสน่ห์ในแบบที่เธอและ BLACKPINK เป็นที่รู้จัก

เมื่อพูดถึงความเป็นศิลปินเดี่ยว เจนนี่ได้สร้างชื่อเสียงจากความมั่นใจและบุคลิกที่โดดเด่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้ในเพลง Mantra ซิงเกิลนี้เต็มไปด้วยพลังแห่งการยืนยันตัวเองและความมั่นใจที่ท้าทาย แต่เมื่อพิจารณาลึกลงไป เราอาจเห็นว่าธีมหลักของเพลงคือการเน้นไปที่ภาพลักษณ์และความมั่นใจในตัวเองที่เจนนี่มักจะนำเสนอในทุก ๆ เพลงของเธอ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการนำเสนอแบรนด์ของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ฟังที่คาดหวังเพลงที่ลึกซึ้งและมีความหมายมากขึ้นอาจรู้สึกว่าเพลงนี้ขาดความหลากหลายในเนื้อหา เมื่อพูดถึงวงการ K-pop ความสำเร็จของ BLACKPINK เป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ แต่สิ่งที่หลายคนอาจตั้งคำถามคือความหลากหลายในการนำเสนอเนื้อหาในเพลงของพวกเธอ โดยเฉพาะการที่ BLACKPINK เน้นไปที่การยกย่องตัวเองในเรื่องความสวย ความมั่นใจ และความร่ำรวย ซึ่งเมื่อเพลงเหล่านี้ออกมาซ้ำ ๆ อาจทำให้เกิดความรู้สึกว่าไม่มีอะไรใหม่หรือสร้างสรรค์มากนัก

ในเพลง Mantra เนื้อเพลงเต็มไปด้วยการร้องซ้ำ ๆ ที่เน้นย้ำถึงความเป็นตัวเองและความมั่นใจ ซึ่งเมื่อฟังหลายครั้งอาจทำให้รู้สึกเบื่อ แม้ว่าเพลงป๊อปหลายเพลงจะประสบความสำเร็จด้วยจังหวะที่น่าติดตามและการสร้างสรรค์ดนตรีที่น่าจดจำ แต่ Mantra กลับขาดความโดดเด่นในด้านดนตรีและจังหวะที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ การร้องแบบซิงทอล์คที่ใช้ในเพลงยังเพิ่มความรู้สึกซ้ำซากและไม่ท้าทายสำหรับเจนนี่ ซึ่งจริง ๆ แล้วเธอมีศักยภาพมากกว่านี้ที่จะสร้างเพลงที่น่าประทับใจมากขึ้น

Mantra อาจจะไม่ได้เป็นเพลงที่มีความลึกซึ้งหรือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ในเส้นทางดนตรีของเจนนี่ แต่เพลงนี้ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งผลงานที่สะท้อนถึงบุคลิกที่มั่นใจและความแข็งแกร่งของเธอในฐานะศิลปิน การเน้นย้ำถึงตัวตนและความมั่นใจอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับแฟน ๆ แต่ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ทำให้เจนนี่โดดเด่นในวงการเพลง ถึงแม้ว่าเพลงนี้อาจจะไม่ได้รับความนิยมในด้านการสร้างสรรค์ดนตรีหรือเนื้อเพลงที่ลึกซึ้ง แต่มันก็เป็นการย้ำเตือนถึงแบรนด์และสไตล์ที่เจนนี่นำเสนออย่างชัดเจน