ต่างประเทศ

ผลการเลือกตั้งมาเลเซีย 2018 มหาเธร์ ฝ่ายค้านคว้าชัย

ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการระบุ แนวร่วมฝ่ายค้านซึ่งนำโดยนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีวัย 92 ปี ชนะการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ ยุติการปกครองประเทศมานาน 6 ทศวรรษของแนวร่วมรัฐบาล “บีเอ็น”

Advertisement
malaysiakini

ผลการนับคะแนนเลือกตั้งเสร็จสิ้นลงแล้วทั้ง 222 ที่นั่ง เว็บไซต์มาเลเซียกินี รายงานว่า แนวร่วมฝ่ายค้านนำแนวร่วมรัฐบาลอยู่ 122:79 ที่นั่ง ขณะที่พรรคอิสลามแห่งมาเลเซีย หรือพาส (Parti Islam SeMalaysia หรือ PAS) ได้ไป 18 ที่นั่ง ส่วนที่เหลือเป็นที่นั่งของพรรคขนาดเล็กอื่น ๆ

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาเลเซีย ประกาศผลการเลือกตั้งทั่วไปว่า แนวร่วมฝ่ายค้าน “ปากาตัน ฮาราปัน (Pakatan Harapan-PH)” หรือ แนวร่วมแห่งความหวัง นำโดย นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรี วัย 92 ปี (ศาตราจารย์ นายแพทย์ มหาเธร์ บินโมฮัมหมัด) สามารถคว้าที่นั่ง ส.ส. รวมกันไปได้ 121 ที่นั่ง เกินกว่าที่จำเป็นต้องได้ 112 ที่นั่งในรัฐสภาเพื่อจัดตั้งรัฐบาล

ขณะที่ พรรคอัมโน หรือ แนวร่วม Barisan Nasional –BN ของ นายนาจิบ ราซัค วัย 64 ปี ที่กำลังกลายเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไปทั้งหมด 79 ที่นั่ง พรรคอิสลามมาเลเซีย (PMS) ได้ 18 ที่นั่ง

มหาเธร์

มหาเธร์ จะกลายเป็น นายกรัฐมนตรีที่อายุมากที่สุดในโลก หลังจากที่เขากลับมาชิงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กับ นาจิบ ราซัค จากพรรคอัมโน ผู้เป็นเสมือนลูกศิษย์ ที่เขาปลุกปั้นให้มาสานต่ออุดมการณ์ทางการเมือง ในจังหวะที่เขาวางมือเพื่อเกษียณตัวเอง แต่ นาจิบ กลับมีข้อครหาที่เกินกว่าจะรับได้ คือ การพัวพันกับการทุจริตขนาดใหญ่ ในกองทุน 1 MDB (1 Malaysian Development Berhad)

Advertisement

หลังทราบผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ มหาเธร์ ได้ออกแถลงการณ์ ผ่านสื่อออนไลน์ โดยมีคำกล่าวหนึ่งที่ระบุว่า

[tds_council]

เราไม่ได้จะหาทางแก้แค้น เราต้องการฟื้นฟูหลักนิติธรรม

[/tds_council]

ผลการเลือกตั้งที่ออกมาเช่นนี้ ย่อมส่งผลต่อ นาจิบ โดยตรง เนื่องจากตั้งแต่การหาเสียง มหาเธร์ ระบุว่า เมื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว จะเดินหน้าสอบสวนการทุจริตมหาศาลในกองทุน 1 MDB ที่ นาจิบ เข้าไปพัวพัน เพราะมีเงินจากกองทุนนี้ 700 ดอลลาร์สหรัฐ (22,400 ล้านบาท) โอนไปอยู่ในบัญชีของ นาจิบ

malaysia election 2018

กลุ่มคนรุ่นใหม่

ทั้งนี้ กลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 21-39 ปี ถือเป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ โดยคิดเป็น 41% แต่พวกเขาไม่กระตือรือร้นในการไปใช้สิทธิมากนั้น ส่วนหนึ่งมองว่าเป็นการเลือกตั้งที่ “ไม่มีทางเลือก” ขณะที่บางส่วนรณรงค์ให้ประชาชนไป “เลือกตั้งโดยยุทธศาสตร์” กล่าวคือ เทคะแนนให้นายมหาเธร์เพื่อปฏิเสธการหวนคืนเก้าอี้นายกฯ สมัยที่สามของนายนาจิบ ผู้เผชิญเรื่องอื้อฉาว

มาเลเซีย จะพลิกโฉมไปอย่างไร หลังจากได้ผู้นำประเทศใหม่ ที่เป็นคนหน้าเดิม มหาเธร์ ผู้ซึ่งเคยนำพามาเลเซียให้เป็นประเทศที่มีความเจริญตลอด 22 ปี จะกลับมาฟื้นฟูมาเลเซีย ให้กลับมาผงาดได้มากน้อยเพียงใดเป็นสิ่งที่น่าจับตามองต่อไป

Advertisement

อ่านเพิ่มเติม
Advertisement

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button